สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -18 เม.ย. 61 10:20 น.
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 603,750,000 หุ้น ซึ่งประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 506,750,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Orizon Limited จำนวนไม่เกิน 67,000,000 หุ้น และ (3) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Y Investment Ltd จำนวนไม่เกิน 30,000,000 หุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20.10 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม มี บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้า
วัตถุประสงค์การใช้เงิน เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า และการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
ผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 58-60 บริษัทฯ มีรายได้ทั้งหมด 32,044.2 ล้านบาท 33,003.7 ล้านบาท และ 26,210.7 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสำหรับปีดังกล่าวเท่ากับ 2,336.0 ล้านบาท 2,980.5 ล้านบาท และ 2,939.2 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้จากการขายของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 95.4 ร้อยละ 94.9 และร้อยละ 95.5 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 58.7 ร้อยละ 59.5 และร้อยละ 72.4 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 10.3 ร้อยละ 9.3 และร้อยละ 8.4 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในประเทศไทย สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 84.6 ร้อยละ 80.3 และร้อยละ 80.1 ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ และรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในต่างประเทศ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 15.4 ร้อยละ 19.7 และร้อยละ 19.9 ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 5 เมษายน 2561 ประกอบด้วย นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 624,250,000 หุ้น คิดเป็น 25.00% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 20.78% ,Orizon Limited(1)(7) ถือหุ้น 604,148,600 หุ้น คิดเป็น 24.19% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 17.88% นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 149,735,700 หุ้น คิดเป็น 6.00% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 4.98%
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.0 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ หลังหักทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 2,772,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 231,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 3,003,750,000 บาท โดย (1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็นจำนวน 2,266,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งบริษัทฯ จัดสรรหุ้นดังกล่าวให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นแล้วเสร็จ และได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ทำให้ทุนชำระแล้วของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 2,497,000,000 บาท และ (2) จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 506,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนี้
โอสถสภา ยื่นไฟลิ่ง ขาย IPO 603.75 ล้านหุ้น เข้า SET
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 603,750,000 หุ้น ซึ่งประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 506,750,000 หุ้น (2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Orizon Limited จำนวนไม่เกิน 67,000,000 หุ้น และ (3) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย Y Investment Ltd จำนวนไม่เกิน 30,000,000 หุ้น รวมทั้งหมดคิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 20.10 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนี้ และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดอาหารและเครื่องดื่ม มี บล.ภัทร เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมีกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่ม และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล และธุรกิจให้บริการผลิตสินค้า บรรจุภัณฑ์ และจัดจำหน่ายสินค้า
วัตถุประสงค์การใช้เงิน เป็นเงินทุนสำหรับการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาปรับปรุงการผลิต การจัดจำหน่ายสินค้า การปรับปรุงประสิทธิภาพสินค้า และการดำเนินธุรกิจภายในของบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน เงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ
ผลประกอบการของบริษัทในช่วงปี 58-60 บริษัทฯ มีรายได้ทั้งหมด 32,044.2 ล้านบาท 33,003.7 ล้านบาท และ 26,210.7 ล้านบาท ตามลำดับ และมีกำไรสำหรับปีดังกล่าวเท่ากับ 2,336.0 ล้านบาท 2,980.5 ล้านบาท และ 2,939.2 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้จากการขายของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 95.4 ร้อยละ 94.9 และร้อยละ 95.5 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 58.7 ร้อยละ 59.5 และร้อยละ 72.4 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 10.3 ร้อยละ 9.3 และร้อยละ 8.4 ของรายได้ทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในประเทศไทย สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 84.6 ร้อยละ 80.3 และร้อยละ 80.1 ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ และรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลของบริษัทฯ ในต่างประเทศ สำหรับปี 2558 2559 และ 2560 คิดเป็นร้อยละ 15.4 ร้อยละ 19.7 และร้อยละ 19.9 ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและของใช้ส่วนบุคคลทั้งหมดของบริษัทฯ ตามลำดับ
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ณ วันที่ 5 เมษายน 2561 ประกอบด้วย นายนิติ โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 624,250,000 หุ้น คิดเป็น 25.00% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 20.78% ,Orizon Limited(1)(7) ถือหุ้น 604,148,600 หุ้น คิดเป็น 24.19% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 17.88% นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ถือหุ้น 149,735,700 หุ้น คิดเป็น 6.00% หลังเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 4.98%
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 40.0 ของกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ หลังหักทุนสำรองต่าง ๆ ทุกประเภทที่กฎหมายและข้อบังคับของบริษัทฯ
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ของบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 ได้มีมติอนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จำนวน 2,772,750,000 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิมจำนวน 231,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 3,003,750,000 บาท โดย (1) จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นเป็นจำนวน 2,266,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งบริษัทฯ จัดสรรหุ้นดังกล่าวให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ตามสัดส่วนการถือหุ้นแล้วเสร็จ และได้จดทะเบียนเพิ่มทุนชำระแล้วกับกระทรวงพาณิชย์ เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2561 ทำให้ทุนชำระแล้วของบริษัทฯ เพิ่มเป็น 2,497,000,000 บาท และ (2) จัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่เป็นจำนวนไม่เกิน 506,750,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อการออกและเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนเป็นครั้งแรกนี้