▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
จังหวัดชุมพร
เที่ยวไทย
" ไปชุมพรต้องนอนท้องตม "
ท้องตมใหญ่ อยู่ที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ทริปนี้เราเลือกการเดินทางมาโดยรถไฟแบบตู้นอน เราออกเดินทางจากกรุงเทพประมาณ 6 โมงเย็นและถึงสวีประมาณตี 3 ต้องบอกว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุดในการมายังท้องตมใหญ่ เพราะท้องตมใหญ่อยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟสวีมากหนัก เราขึ้นรถไฟกันที่สถานีบางซื่อออกตรงมาสู่อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
พอขึ้นมาในรถไฟต้องบอกว่านี่ครั้งแรกเลยที่ได้ขึ้นรถไฟนอน ต้องบอกเลยว่าใครมาแล้วยังไม่ได้กินข้าวหรือหิว คุณไม่ต้องกลัวไปเลย เพราะจะมีดิลิเวอร์รี่มายังที่นอนของคุณแทบจะตลอดเวลา ทั้งอาหารคาวหวาน มีครบจบที่เดียว 5555555555555 ไม่จำเป็นต้องเดินไปที่ตู้ร้านอาหารของรถไฟเลย แต่ก็ต้องซื้อตั้งแต่ตอนที่มีขายนะ ถ้าดึกมากๆก็จะไม่มีขายแล้ว ถ้าจะกินก็ต้องเดินไปตู้อาหารเอง บางทีตู้อาหารอาจปิดด้วย อาจต้องนอนทนหิวไปจนเช้า ฮ่าๆ
พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ก็ได้เวลาของการนอน พนักงานรถไฟก็จะเริ่มจัดเตียง เราจองเตียงบนมา เพราะฉะนั้นก็ต้องปืนป่ายขึ้นที่สูงกันขึ้นไปนอน ขอแนะนำว่าคนที่แก่แล้วหรือกระดูกไม่ดี ไม่ควรอย่างยิ่งที่จะนอนข้างบนนะจ๊ะ โดยรวมแล้วผ้าปูก็สะอาดสะอ้านดี แต่ที่นอนอาจจะเล็กไปสักหน่อยใครนอนดิ้นก็อย่าเลือกเตียงบนเชียวละ ไม่งั้นจะตกไปจะหาว่าไม่เตือน แต่จริงๆก็ตกไม่ง่ายหรอกเพราะเขามีเชือกกั้นไว้
ตามตารางเวลารถไฟแล้วเราจะถึงสวีประมาณ ตี3.30 รถไฟจะจอดแค่ หนึ่งนาทีเท่านั้น เพราะงั้นเราต้องเตรียมตัวก่อนที่รถไฟจะถึงสถานี ตั้งนาฬึกาไว้สักตี3.15 ถ้าใช้เวลาทำธุระไม่นาน แต่ไม่ต้องกังวลไปหากกลัวลืมจะมีพนักงานมาบอก(ถ้าพนักงานไม่หลับฮ่าๆ)
เมื่อนาฬิกาดังก็ถึงเวลาที่ต้องตื่นละลงจากรถไฟแล้ว สังเกตง่ายๆ สถานีที่จอดก่อนสวีคือสถานีชุมพรซึ่งจะจอดนานกว่าสถานีอื่นๆเพราะเป็นสถานีใหญ่ รถจะนิ่งนาน ทำให้เราอาจจะรู้สึกตัวได้ว่าใกล้ถึงแล้ว หรือไม่ก็สอบถามได้จากพนักงานรถไฟประจำตู้ได้เลย
พอลงจากสถานีเราก็จะพบกับความเคว้งคว้าง 5555555555555555 เพราะยังเงียบอยู่เลย แต่ดีที่เราโทรนัดลุงไข่ ลุงที่รับจ้างขับรถระหว่างบ่อคา-สวี ลุงเขาจะไปส่งให้ที่โฮมสเตย์ โดยคิดค่าใช้จ่ายคนละ 50 บาทเพียงเท่านั้น ต้องบอกว่าไม่มีใครไม่รู้จักลุงไข่ ลุงเป็นคนชั่งจ้อ พูดคุย อย่างสนุกสนานตั้งแต่เช้าเลยละ อ๋ออ ก่อนมาอย่าลืมแจ้งโฮมสเตย์ไว้ก่อนนะว่าจะมีกี่โมง เพราะถ้าคุณมาเช้าขนาดนี้ คนที่บ้านเขาอาจจะยังไม่ตื่นกัน
พอมาถึงโฮมสเตย์ก็ถึงเวลาที่เราจะล้มตัวลงนอนก่อนเลย เพราะว่าพระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเราก็ยังไม่สามารถมองเห็นวิวได้เลย เมื่อฟ้าสว่าง ไก่เริ่มขัน ภารกิจแรกที่เราจะทำกันก็คือ ทานอาหารเช้า 55555 อาหารเช้าของที่นี่ก็คือ ข้าวต้มปลานั่นเอง ที่สูตรเด็ดอยู่ที่น้ำจิ้ม ที่มีความคล้ายซีฟู้ดแต่ก็ไม่ใช่ และที่สำคัญที่นี่เค้าใช้ส้มจี๊ดแทนการใช้มะนาว ทำให้น้ำจิ้มมีกลิ่นอ่อนๆของส้มด้วยละ
พอท้องอิ่มหนังตาก็เริ่มหย่อน ฮ่าๆๆๆๆ ไม่สิๆ อากาศแบบนี้ต้องหากิจกรรมกันสิ เราเริ่มจากการเดินสำรวจที่นี่ว่ามีอะไรบ้าง แต่จริงๆก็ดูได้จากแผนที่ของที่นี่ได้เลย
จะเห็นว่ามีชายหาดที่สามารถเดินไปได้อยู่ใกล้ๆหมู่บ้านเลย ว่าแล้วก็อย่ารอช้า เปลี่ยนชุดเตรียมไปเล่นน้ำทะเลกันเลย
ที่หาดท้องทรายของที่นี่สวยมากๆ น้ำใสสุดๆไปเลย
อ่าๆๆ ลืมบอกไปว่าที่โฮมสเตย์เราสามารถมองเห็นน้ำได้จากพื้นบ้านเลยนะ มองลงไปคุณจะเห็นปลาเล็กปลาน้อยกันเลยละ เพราะน้ำที่นี่ใสมากกกกก
หลังจากเล่นน้ำเสร็จก็ได้เวลา ทานข้าวเที่ยง มื้อกลางวันของที่นี่จัดเต็มอย่าบอกใครเลย แต๊นๆๆๆๆๆ
ต้องบอกว่าฝีมือคุณป้าอร่อยทุกอย่างจริงๆ กับข้าวมีเยอะจนกินไม่หมดเลยล่ะ บอกเลยมาครั้งนี้คุ้มมาก
กิจกรรมภาคบ่ายของวันนี้ก็คือการพายเรือคายัคที่หลังบ้าน แม้อากาศจะร้อนแต่เราก็อยากออกไปชมวิวทิวทัศน์กัน ที่นี่คุณจะสามารถภายเรือคายัคได้ตามใจฉันเลย เพียงแค่หยิบชูชีพ ไม้พาย ละเรือก็พร้อมแล้วละ ลุยๆๆๆ
เมื่อแสงพระอาทิตย์เริ่มเปลี่ยน ก็แปลว่าใกล้เวลาที่พระอาทิตย์จะตกแล้วววว ไฮไลท์ของที่นี่กำลังจะมาถึง ทุกคนพร้อมใจกันจับจองที่นั่งตรงหลังบ้านพร้อมกับมือถือเตรียมเก็บภาพสวยๆที่หาชมไม่ได้ง่ายๆ นั่นคือการชมวิวพระอาทิตย์ตกนั่นเอง
ผ่านพ้นวันแรกไปกับการรับประทานอาหารเย็นแสนอร่อยพร้อมกับชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยจนคุณต้องร้องขอชีวิตกันเลยทีเดียว
วันที่2ในท้องตมใหญ่
เสียงเรือออกหาปลาของชาวบ้านในตอนเช้าจะปลุกคุณให้ตื่นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว กิจกรรมในวันนี้เริ่มต้นด้วยการออกเรือไปดำน้ำ 9 โมงเช้าเรือก็เริ่มออกตัวจากหลังบ้านตรงไปยังเกาะน้อยใหญ่ พร้อมอุปกรณ์เสื้อชูชีพ สนอคเกิ้ล ฯลฯ วันนี้เราจะไปกันทั้งหมดสองเกาะ คือเกาะมัดหวายใหญ่และเกาะกุลา นั่งเรือไปสักพักเราก็มาถึงกันที่เกาะมัดหวายใหญ่ พอที่จุดดำน้ำ ก็กระโดดตู้ม ลงไปชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลกันได้เลย
ต่อมาเราก็จะมาลงเกาะกันที่เกาะกุลา ที่นี่จะมีทั้งหาดและดำน้ำตื้น ที่ใสไม่แพ้เกาะดังๆที่อื่นเลยละ
ตกบ่ายเรามาทำกิจกรรมอนุรักษ์ท้องทะเลกันดีกว่า นั่นคือการทำบ้านม้าน้ำ ที่จะมีการอนุรักษ์ม้าน้ำโดยการสร้างบ้านให้ม้าน้ำอาศัยและการเพาะม้าน้ำ เพราะม้าน้ำคือเอกลักษณ์และจุดเด่นของที่นี่เลยละ มาที่นี่ถ้าคุณโชคดีคุณอาจจะได้เห็นม้าน้ำจากใต้ถุนบ้านเลยก็ได้นะ
ตกดึกคืนนี้เราจะออกไปทำกิจกรรมที่เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่สำคัญของที่นี่นั่นก็คือการตกหมึก เพราะที่นี่มีแสงเหนือยังไงเหล่า ฮ่าๆๆๆๆ ก่อนจะตามล่าปลาหมึกเราก็ต้องตามล่าแสงเหนือกันก่อน ทั้งบนสะพานปลาและบนเรือที่จะออกไปตกหมึกก็มี มันมีไว้เพื่อคอยล่อเหยื่อของเรายังไงละ ถ้าบนสะพานปลาก็จะได้ทั้งปลาทั้งหมึก และได้ความสนุกตื่นเต้น แต่ถ้าออกเรือไปก็จะได้หมึกตัวใหญ่ๆและความสนุกตื่นเต้นไม่แพ้กันเลย
จบไปแล้วกับกิจกรรมเน้นๆของที่นี่ที่ต้องบอกว่าเป็นสองวันที่สุดจริงๆ เต็มไปทั้งความสนุก ทั้งการเรียนรู้วิถีชาวบ้าน ทำให้ค้นพบสเน่ห์ที่น่าค้นหาของที่นี่อย่างเต็มๆเลยละ บอกเลยว่าประทับใจเป็นที่สุด และจะต้องกลับมาอีกแน่ๆ
ก่อนกลับมีตลาดนัดส่งท้ายกันที่สถานีสวีด้วยละ อิอิ
มาเก็บตกภาพสถานที่เที่ยวใกล้เคียงกันซะหน่อย
หาดลกแพะ
หาดลกกำ
ข้อมูลติดต่อ : https://www.facebook.com/tongtomyaihomestay/