ก่อนอื่นผมขอเล่าประวัติที่บ้านผมคร่าวๆก่อนนะครับ
พ่อผมเป็นคนกาญฯ ส่วนแม่เป็นคนภาคอีสานครับ แม่ผมหน้าตาดีส่วนพ่อก็ออกจะเป็นนักเลงหัวไม้เพื่อนฝูงเยอะ(อันนี้คือภาพที่ผมรู้มาตั้งแต่จำความได้) แม่เล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่เจอกันที่ กทม. ครับ สมัยก่อนคนตจว. มาทำงานในเมืองกันมาก ตอนพ่อมาจีบแม่ พ่อเนี๊ยบมากครับทั้งการแต่งตัว ทั้งการกระทำทุกอย่างดีไปหมดคู่ควรกับการเป็นพ่อของลูกในอนาคต แต่แม่ของพ่อผมคือย่าไม่ชอบผู้หญิงอีสานครับ ต่อต้านทุกอย่างพี่น้องของพ่อก็เช่นกัน จนกระทั่งพ่อกับแม่แต่งงานกันครับ ย่าผมใส่ชุดดำมางานแต่ง หลังจากนั้นแม่ผมโดนกลั่นแกล้งสารพัด พ่อเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมาเหล้าเล่นการพนัน ภาระการเลี้ยงดูครอบครัวจึงตกอยู่ที่แม่ครับ แม่กลายเป็นเสาหลักของบ้าน เป็นอย่างนั้นมาตลอด อีกสิ่งนึงที่แม่ชอบทำคือทำบุญครับ เข้าวัดเข้าวาเก่งมากๆ ทุกเทศกาลต้องไปวัด จนผมอยู่ประมาณ ม.ปลาย เริ่มที่จะฟังและรับรู้อะไรได้ แม่เล่าให้ฟังว่ามีพระทักว่าโดนของโดยพระท่านเห็นว่าบริเวณหน้าผากมีสีดำ แม่บอกว่าตั้งแต่แต่งงานมีลูก ชีวิตคู่ไม่เคยมีความสุขเลย โดนพ่อตบตีและด่าทอ เวลาเมาทำลายข้าวของในบ้าน ซึ่งในตอนแรกแม่ยอมตลอดพ่อจะเอาเงินเท่าไหร่ให้หมด เอาไปทำอะไรก็ให้ แม่ไม่มีที่ยึดเหนียวจิตใจจึงเข้าวัดทำบุญครับ หลังจาหเข้าวัดบ่อยขึ้น แม่เริ่มแข็งข้อกับพ่อ พ่อทำอะไรแม่ไม่ค่อยได้เหมือนว่าของที่โดนเสื่อมไปแล้วครับ คนที่บ้านพ่อรักแม่มากขึ้นเพราะแม่ช่วยเหลือทุกอย่าง
ปัจจุบันสิ่งที่เหมือนเดิมคือพ่อเมาเหล้าทุกวัน ไม่รับผิดชอบอะไรในบ้าน และแม่กับผมช่วยกันทำงานส่งเสียค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่างครับ ไม่ค่อยสนใจพ่อ เค้าจะทำอะไรก็ปล่อยเค้าไป กลับดึกกินเหล้าเมาแค่ไหนก็ปล่อย(ปัจจุบันพ่อแม่ผมแยกห้องนอนกันและแม่พูดหลายครั้งว่าจะเลิก ยังไงก็จะเลิกถ้ายังทำตัวแบบนี้ก็อยู่ไปคนเดียว) แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือเวลาพ่อเมาพ่อไม่ตบตีไม่ทำลายข้าวของ แต่ชอบพูดว่า gu จะฆ่าพวกมิง ซึ่งอันนี้ผมกลัว ถึงแม้ว่าผมจะอายุ 24 แล้ว ยังไงก็กลัวคนเมาครับ
ล่าสุดวันที่ 11 เมษายน 2561 พ่อกลับไปที่บ้านย่าประมาณ 3 วันครับ หลังจากพ่อกลับมาจากบ้านย่าพ่อมาจอดรถด้วยอาการที่เมามากกก เดินแทบจะไม่ถูกทางพร้อมกับผูกอะไรบางอย่างมาที่เอวครับ เป็นเชือกสีแดงแล้วก็เหมือนของขลังอะไรบางอย่างห้อยอยู่ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรครับเพราะพ่อชอบสะสมของพวกนี้ ตอนพ่อเจอผมพอถอดเชือกสีแดงที่มีบางสิ่งห้อยอยู่ออกมายื่นให้ผม แล้วพูดว่า "เอาไปเก็บให้พ่อหน่อย" เสียงแบบเมาจนพูดจะไม่เป็นภาษา ผมตอบกลับไปว่า "พ่อเอาไปเก็บเองเถอะเดี๋ยวเวลาลูกไม่อยู่แล้วหาไม่เจอก็มาโวยวายอีก นู๊น เอาไปเก็บไว้บนหิ้งในบ้านอ่ะ" ผมตอบกลับไปเพราะคิดว่าเป็นพวกตะกรุดเพราะเห็นมัดอยู่ที่เอว พ่อตอบกลับมาว่า "เอาไว้หิ้งพระไม่ได้ นี่มันของต่ำเค้าเรียกว่าอีเป๋อ ใช้จิ้มเข้าไปที่เมนส์ผู้หญิงทีเดียว รู้เรื่องงง" พ่อพูดภาษาเมาๆของเค้า พร้อมกับผูกกับไปที่เอวแล้วขี่มอไซต์ออกไปจากบ้าน ผมจึงนั่งหาข้อมูล ว่าอีเป๋อคืออะไร เท่าที่สรุปได้มันคือของเขมร ใช้เกี่ยวกับเรื่องอย่างว่า... ตอนนั้นผมไม่เข้าใจครับว่าพ่อเอาของพวกนี้เข้ามาที่บ้านทำไม ซึ่งแน่นอนผมกับแม่ไม่พอใจครับ จนช่วงประมาณเย็นๆ มีคนแถวบ้านเก็บอีเป๋อมาให้บอกว่าพ่อทำตกไว้ แม่ผมเลยเอาไปไว้ใต้อ่างบัวหน้าบ้านครับ พอพ่อกลับมาบ้านด้วยความที่เมาก็หลับไป คืนวันนั้นประมาณเกือบเที่ยงคืนผมกับแม่แยกย้ายกันเข้าห้อง แต่ผมได้ยินเสียงทุบกำแพงดังมากจากห้องแม่ เลยโทรไปหาแม่เพราะกลัวแม่จะล้มหรือเป็นอะไรไป กะว่าถ้าแม่ไม่รับโทรศัพท์จะเคาะที่ห้องแม่ แต่พอแม่รับสายผมจึงถามว่าแม่ทำอะไรทุบกำแพงทำไมตั้งหลายที แรงและดังมาก แม่บอกว่าไม่ได้ทำอะไรกำลังจะสวดมนต์ ผมใจไม่ค่อยดีครับ ตกดึกไปกว่านั้นผมออกไปที่หน้าบ้านเพราะครัวอยู่หน้าบ้าน(แม่ผมขายอาหารตามสั่ง) ออกไปต้มน้ำร้อนให้แม่ดื่มก่อนนอน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรครับแต่ได้ยินเสียงเหมือนคนรื้อกอไผ่ซึ่งปลูกไว้อยู่ใกล้ๆกับอ่างบัวหน้าบ้าน บอกตรงๆตอนนั้นกลัวมากครับน้ำก็ไม้เดือดซักทีได้แต่เดินไปเดินมารอให้น้ำใช้ได้ก็รีบเข้าบ้าน
เช้ามาพ่อตื่นมาด้วยอาการที่ส่างเมาแล้วครับ ถามหาอีเป๋อกับผมว่าเห็นอีเป๋อรึเปล่า ผมเลยถามกลับไปว่า "ลูกถามจริงๆเหอะ มันคืออะไร" พ่อก็ตอบกลับมาทันทีว่า "มันเป็นเครื่องราง อยู่ยงคงกระพัน พ่อใช้เวลาขับรถให้แคล่วคลาดปลอดภัย" ซึ่งแน่นอนครับผมกับแม่ที่นั่งฟังอยู่ไม่เชื่ออย่างสุดหัวใจ เรามองหน้ากันแล้วก็เปะปากเหมือนพี่กิ๊ก สุวัจนี เพราะว่าสิ่งที่พ่อพูดมาตอนนี้ กับตอนที่เมา มันย้อนแย้งกันอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับผมได้หาข้อมูลไว้แล้ว หลังจากพ่อถามเสร็จพ่อก็เดินหาอีเป๋ออยู่ซักพักครับ แล้วมาพูดกับผมว่า "จริงๆ มันไม่ใช่อีเป๋อแต่มันคือไองั่ง" ยิ่งไปกันใหญ่เพราะข้อมูลที่ผมหามาคืออีเป๋อ คือเครื่องรางให้ผู้หญิงพกไว้ใช้กับผู้ชาย ส่วนไองั่งให้ผู้ชายใช้กับผู้หญิง ตอนแรกที่พ่อบอกว่าเป็นอีเป๋อผมก็งงครับว่าพ่อเอามาทำไม เพราะพ่อเป็นคนพกถ้ามีเจตนาเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าจริงๆ ทำไมไม่พกไองั่ง สุดท้ายพ่อเฉลยด้วยตัวเอง ถึงบางอ้อครับ หลังจากพ่อออกจากบ้านไปผมหาข้อมูลเพิ่ม บางข้อมูลก็บอกว่าใช้ในเรื่องค้าขายได้ มีทั้งดีและไม่ดี และจะต้องเซ่นไหว้เค้าอารมณ์เหมือนเลี้ยงผี ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็เข้าตัว แต่มีอย่างนึงที่ทุกกระทู้แนะนำคือไม่ให้เอาเข้าบ้าน ผมจึงเอาออกไปซุกไว้ที่ต้นไผ่ เพราะแม่บอกว่าต้นไผ่จกะกันภูติผีได้อีกอย่างถ้าไว้ที่ใต้อ่างบัวกลัวพ่อไปเจอครับ หลังจากเอาไปซ่อนก็มานั่งคุยกับแม่ เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเจออะไร แม่บอกว่าตอนแม่สวดมนต์ ก็มีเสียงกวนตลอดเวลา ไม่รู้เสียงอะไร เลยคุยกับแม่ว่าจะเอาไปไว้วัด แต่บางข้อมูลบอกว่าไองั่งอาจจะช่วยเรื่องค้าขายได้ ตอนนี้ผมกับแม่สองจิตสองใจครับไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ตรงต้นไผ่ต่อหรือเอาไปไว้ไหนดี อีกอย่างไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของพ่อที่เอามาครับ
วอนผู้รู้ครับ จากเรื่องที่ผมเล่าไปผมควรเก็บมันไว้หรือว่าเอาไปทิ้งที่ไหนดีครับ ตอนนี้ลำบากใจมาก เนื่องจากรู้มาว่าเป็นของต่ำ ของเขมร และอาจมีชิ้นส่วนผีตายโหงผสมอยู่ หรือมีสิ่งไม่ดีอยู่ในนั้น แต่บางข้อมูลก็บอกว่าถ้าเลี้ยงดีก็ให้คุณ แต่สุดท้ายคนที่เอามาคือพ่อผม ผมไม่รู้เจตนาเค้าจริงๆว่าเอามาทำไม ถ้าเอาไปทิ้งควรเอาไปทิ้งที่ไหน หรือควรคืนพ่อไปดีครับ
ขอลคุณที่อ่านจนจบนะครับ
ทำไงดีพ่อเอา"ไองั่ง"เข้ามาที่บ้าน
พ่อผมเป็นคนกาญฯ ส่วนแม่เป็นคนภาคอีสานครับ แม่ผมหน้าตาดีส่วนพ่อก็ออกจะเป็นนักเลงหัวไม้เพื่อนฝูงเยอะ(อันนี้คือภาพที่ผมรู้มาตั้งแต่จำความได้) แม่เล่าให้ฟังว่าพ่อกับแม่เจอกันที่ กทม. ครับ สมัยก่อนคนตจว. มาทำงานในเมืองกันมาก ตอนพ่อมาจีบแม่ พ่อเนี๊ยบมากครับทั้งการแต่งตัว ทั้งการกระทำทุกอย่างดีไปหมดคู่ควรกับการเป็นพ่อของลูกในอนาคต แต่แม่ของพ่อผมคือย่าไม่ชอบผู้หญิงอีสานครับ ต่อต้านทุกอย่างพี่น้องของพ่อก็เช่นกัน จนกระทั่งพ่อกับแม่แต่งงานกันครับ ย่าผมใส่ชุดดำมางานแต่ง หลังจากนั้นแม่ผมโดนกลั่นแกล้งสารพัด พ่อเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมาเหล้าเล่นการพนัน ภาระการเลี้ยงดูครอบครัวจึงตกอยู่ที่แม่ครับ แม่กลายเป็นเสาหลักของบ้าน เป็นอย่างนั้นมาตลอด อีกสิ่งนึงที่แม่ชอบทำคือทำบุญครับ เข้าวัดเข้าวาเก่งมากๆ ทุกเทศกาลต้องไปวัด จนผมอยู่ประมาณ ม.ปลาย เริ่มที่จะฟังและรับรู้อะไรได้ แม่เล่าให้ฟังว่ามีพระทักว่าโดนของโดยพระท่านเห็นว่าบริเวณหน้าผากมีสีดำ แม่บอกว่าตั้งแต่แต่งงานมีลูก ชีวิตคู่ไม่เคยมีความสุขเลย โดนพ่อตบตีและด่าทอ เวลาเมาทำลายข้าวของในบ้าน ซึ่งในตอนแรกแม่ยอมตลอดพ่อจะเอาเงินเท่าไหร่ให้หมด เอาไปทำอะไรก็ให้ แม่ไม่มีที่ยึดเหนียวจิตใจจึงเข้าวัดทำบุญครับ หลังจาหเข้าวัดบ่อยขึ้น แม่เริ่มแข็งข้อกับพ่อ พ่อทำอะไรแม่ไม่ค่อยได้เหมือนว่าของที่โดนเสื่อมไปแล้วครับ คนที่บ้านพ่อรักแม่มากขึ้นเพราะแม่ช่วยเหลือทุกอย่าง
ปัจจุบันสิ่งที่เหมือนเดิมคือพ่อเมาเหล้าทุกวัน ไม่รับผิดชอบอะไรในบ้าน และแม่กับผมช่วยกันทำงานส่งเสียค่าใช้จ่ายในบ้านทุกอย่างครับ ไม่ค่อยสนใจพ่อ เค้าจะทำอะไรก็ปล่อยเค้าไป กลับดึกกินเหล้าเมาแค่ไหนก็ปล่อย(ปัจจุบันพ่อแม่ผมแยกห้องนอนกันและแม่พูดหลายครั้งว่าจะเลิก ยังไงก็จะเลิกถ้ายังทำตัวแบบนี้ก็อยู่ไปคนเดียว) แต่สิ่งที่ดีขึ้นคือเวลาพ่อเมาพ่อไม่ตบตีไม่ทำลายข้าวของ แต่ชอบพูดว่า gu จะฆ่าพวกมิง ซึ่งอันนี้ผมกลัว ถึงแม้ว่าผมจะอายุ 24 แล้ว ยังไงก็กลัวคนเมาครับ
ล่าสุดวันที่ 11 เมษายน 2561 พ่อกลับไปที่บ้านย่าประมาณ 3 วันครับ หลังจากพ่อกลับมาจากบ้านย่าพ่อมาจอดรถด้วยอาการที่เมามากกก เดินแทบจะไม่ถูกทางพร้อมกับผูกอะไรบางอย่างมาที่เอวครับ เป็นเชือกสีแดงแล้วก็เหมือนของขลังอะไรบางอย่างห้อยอยู่ ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไรครับเพราะพ่อชอบสะสมของพวกนี้ ตอนพ่อเจอผมพอถอดเชือกสีแดงที่มีบางสิ่งห้อยอยู่ออกมายื่นให้ผม แล้วพูดว่า "เอาไปเก็บให้พ่อหน่อย" เสียงแบบเมาจนพูดจะไม่เป็นภาษา ผมตอบกลับไปว่า "พ่อเอาไปเก็บเองเถอะเดี๋ยวเวลาลูกไม่อยู่แล้วหาไม่เจอก็มาโวยวายอีก นู๊น เอาไปเก็บไว้บนหิ้งในบ้านอ่ะ" ผมตอบกลับไปเพราะคิดว่าเป็นพวกตะกรุดเพราะเห็นมัดอยู่ที่เอว พ่อตอบกลับมาว่า "เอาไว้หิ้งพระไม่ได้ นี่มันของต่ำเค้าเรียกว่าอีเป๋อ ใช้จิ้มเข้าไปที่เมนส์ผู้หญิงทีเดียว รู้เรื่องงง" พ่อพูดภาษาเมาๆของเค้า พร้อมกับผูกกับไปที่เอวแล้วขี่มอไซต์ออกไปจากบ้าน ผมจึงนั่งหาข้อมูล ว่าอีเป๋อคืออะไร เท่าที่สรุปได้มันคือของเขมร ใช้เกี่ยวกับเรื่องอย่างว่า... ตอนนั้นผมไม่เข้าใจครับว่าพ่อเอาของพวกนี้เข้ามาที่บ้านทำไม ซึ่งแน่นอนผมกับแม่ไม่พอใจครับ จนช่วงประมาณเย็นๆ มีคนแถวบ้านเก็บอีเป๋อมาให้บอกว่าพ่อทำตกไว้ แม่ผมเลยเอาไปไว้ใต้อ่างบัวหน้าบ้านครับ พอพ่อกลับมาบ้านด้วยความที่เมาก็หลับไป คืนวันนั้นประมาณเกือบเที่ยงคืนผมกับแม่แยกย้ายกันเข้าห้อง แต่ผมได้ยินเสียงทุบกำแพงดังมากจากห้องแม่ เลยโทรไปหาแม่เพราะกลัวแม่จะล้มหรือเป็นอะไรไป กะว่าถ้าแม่ไม่รับโทรศัพท์จะเคาะที่ห้องแม่ แต่พอแม่รับสายผมจึงถามว่าแม่ทำอะไรทุบกำแพงทำไมตั้งหลายที แรงและดังมาก แม่บอกว่าไม่ได้ทำอะไรกำลังจะสวดมนต์ ผมใจไม่ค่อยดีครับ ตกดึกไปกว่านั้นผมออกไปที่หน้าบ้านเพราะครัวอยู่หน้าบ้าน(แม่ผมขายอาหารตามสั่ง) ออกไปต้มน้ำร้อนให้แม่ดื่มก่อนนอน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรครับแต่ได้ยินเสียงเหมือนคนรื้อกอไผ่ซึ่งปลูกไว้อยู่ใกล้ๆกับอ่างบัวหน้าบ้าน บอกตรงๆตอนนั้นกลัวมากครับน้ำก็ไม้เดือดซักทีได้แต่เดินไปเดินมารอให้น้ำใช้ได้ก็รีบเข้าบ้าน
เช้ามาพ่อตื่นมาด้วยอาการที่ส่างเมาแล้วครับ ถามหาอีเป๋อกับผมว่าเห็นอีเป๋อรึเปล่า ผมเลยถามกลับไปว่า "ลูกถามจริงๆเหอะ มันคืออะไร" พ่อก็ตอบกลับมาทันทีว่า "มันเป็นเครื่องราง อยู่ยงคงกระพัน พ่อใช้เวลาขับรถให้แคล่วคลาดปลอดภัย" ซึ่งแน่นอนครับผมกับแม่ที่นั่งฟังอยู่ไม่เชื่ออย่างสุดหัวใจ เรามองหน้ากันแล้วก็เปะปากเหมือนพี่กิ๊ก สุวัจนี เพราะว่าสิ่งที่พ่อพูดมาตอนนี้ กับตอนที่เมา มันย้อนแย้งกันอย่างสิ้นเชิง พร้อมกับผมได้หาข้อมูลไว้แล้ว หลังจากพ่อถามเสร็จพ่อก็เดินหาอีเป๋ออยู่ซักพักครับ แล้วมาพูดกับผมว่า "จริงๆ มันไม่ใช่อีเป๋อแต่มันคือไองั่ง" ยิ่งไปกันใหญ่เพราะข้อมูลที่ผมหามาคืออีเป๋อ คือเครื่องรางให้ผู้หญิงพกไว้ใช้กับผู้ชาย ส่วนไองั่งให้ผู้ชายใช้กับผู้หญิง ตอนแรกที่พ่อบอกว่าเป็นอีเป๋อผมก็งงครับว่าพ่อเอามาทำไม เพราะพ่อเป็นคนพกถ้ามีเจตนาเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่าจริงๆ ทำไมไม่พกไองั่ง สุดท้ายพ่อเฉลยด้วยตัวเอง ถึงบางอ้อครับ หลังจากพ่อออกจากบ้านไปผมหาข้อมูลเพิ่ม บางข้อมูลก็บอกว่าใช้ในเรื่องค้าขายได้ มีทั้งดีและไม่ดี และจะต้องเซ่นไหว้เค้าอารมณ์เหมือนเลี้ยงผี ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็เข้าตัว แต่มีอย่างนึงที่ทุกกระทู้แนะนำคือไม่ให้เอาเข้าบ้าน ผมจึงเอาออกไปซุกไว้ที่ต้นไผ่ เพราะแม่บอกว่าต้นไผ่จกะกันภูติผีได้อีกอย่างถ้าไว้ที่ใต้อ่างบัวกลัวพ่อไปเจอครับ หลังจากเอาไปซ่อนก็มานั่งคุยกับแม่ เล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนเจออะไร แม่บอกว่าตอนแม่สวดมนต์ ก็มีเสียงกวนตลอดเวลา ไม่รู้เสียงอะไร เลยคุยกับแม่ว่าจะเอาไปไว้วัด แต่บางข้อมูลบอกว่าไองั่งอาจจะช่วยเรื่องค้าขายได้ ตอนนี้ผมกับแม่สองจิตสองใจครับไม่รู้ว่าจะเก็บไว้ตรงต้นไผ่ต่อหรือเอาไปไว้ไหนดี อีกอย่างไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของพ่อที่เอามาครับ
วอนผู้รู้ครับ จากเรื่องที่ผมเล่าไปผมควรเก็บมันไว้หรือว่าเอาไปทิ้งที่ไหนดีครับ ตอนนี้ลำบากใจมาก เนื่องจากรู้มาว่าเป็นของต่ำ ของเขมร และอาจมีชิ้นส่วนผีตายโหงผสมอยู่ หรือมีสิ่งไม่ดีอยู่ในนั้น แต่บางข้อมูลก็บอกว่าถ้าเลี้ยงดีก็ให้คุณ แต่สุดท้ายคนที่เอามาคือพ่อผม ผมไม่รู้เจตนาเค้าจริงๆว่าเอามาทำไม ถ้าเอาไปทิ้งควรเอาไปทิ้งที่ไหน หรือควรคืนพ่อไปดีครับ
ขอลคุณที่อ่านจนจบนะครับ