สวัสดีครับ นี่เป็นรีวิวการเดินทางไปต่างประเทศครั้งที่สองของผมที่เดินทางด้วยตัวเอง จึงอยากนำเสนอเรื่องราวและภาพการเดินทางของผมซึ่งเป็นการเดินทางที่ค่อนข้างเน้นเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายและไปให้ค้นพบในสิ่งที่หลายๆคนอยากพบอยากเจอนั่นก็คือ "แสงเหนือ" ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาสัมผัสด้วยตาตัวเองให้ได้ แต่ต้องมีตังก่อนนะ ทีนี้มาดูรายละเอียดที่ต้องเตรียมตัวก่อนการเดินทางบ้างครับ
ที่มาของการเดินทาง
โดยผมมีความสนใจที่จะเดินทางไปล่าแสงเหนือ ตอนแรกคิดว่าจะไปประเทศที่มีแสงเหนือที่ค่าใช้จ่ายทั้งทริปประหยัดที่สุดนั่นก็คือ รัสเซีย แต่มีเพจถ่ายภาพท่องเที่ยวได้โฆษณาทริปล่าแสงเหนือที่เกาะ Lofoten โดยที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทำให้เราเกิดความสนใจ (โดยส่วนตัวคิดว่าโอกาสที่จะเจอแสงเหนือที่นอร์เวย์มีโอกาสมากกว่ารัสเซีย) โดยมัดจำค่าทัวร์ไว้แล้ว สุดท้ายช่วงหลังปีใหม่จำนวนคนเดินทางไม่พอทริปไม่สามารถเดินทางได้ เสียจุยยยย :
แต่ทางเพจก็ได้คืนเงินให้เรานะ แต่มีผู้เดินทางที่ได้มัดจำท่านหนึ่งได้คุยกับเราว่าสนใจเดินทางไปกันเองมั๊ย เนื่องจากเขาได้จองตั๋วเครื่องบินและขอวีซ่าไว้แล้ว
โดยให้เขาประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาททั้งทริป อีกทั้งเคยได้ยินข่าวคราวที่ว่าแสงเหนือจะมีช่วงพีคทุกๆ 11 ปี (ช่วงพีคประมาณ 2013-2015) หลังจากปี 2020 แสงเหนือจะมีโอกาสให้เห็นได้ยาก ด้วยความที่เราบ้าจี้มากๆ จึงรีบตัดสินใจไปให้ได้ในปี 2018 ผมนี่ไม่รีรอตัดสินใจเดินทางไปล่าอีกหนึ่งความฝันพร้อมกับผู้เดินทางแปลกหน้าที่ตามมาภายหลัง
ทำความรู้จักกับเกาะ Lofoten
เกาะ Lofoten อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ Norway อยู่ทางตอนใต้ของ Tromso สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี ผู้คนที่อาศัยในเกาะแห่งนี้ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก สิ่งที่ได้จากการประมงคือปลาคอด ซึ่งมีให้เห็นทุกหนทุกแห่งบนเกาะแห่งนี้ โดยช่วงที่เดินทางเป็นกลางเดือนมีนาคม 61 อุณหภูมิอยู่ที่ -5 ถึง 5 องศาเซลเซียส มีสภาพอากาศแปรปรวนบ้างบางวันมีฝนตก บางวันมีหิมะ หรือแม้บางวันก็ท้องฟ้าปลอดโปร่ง จึงทำให้มีโอกาสดีๆในการล่าแสงเหนือ ซึ่งภูมิประเทศของเกาะแแห่งนี้เหมาะแก่ถ่ายภาพ Landscape และการล่าแสงเหนือ (ถ้าสภาพอากาศและท้องฟ้าเป็นใจ) การสัญจรเดินทางรถประจำทางในเกาะนี้มีค่อนข้างน้อย นักท่องเที่ยวจะใช้รถเช่าเป็นหลัก เพื่อเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะโดยใช้ถนน E10 เป็นถนนสายหลักของเกาะแห่งนี้ โดยที่เกาะ Lofoten เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยในการมาท่องเที่ยวซึ่งสังเกตได้จากการเดินทางที่ผ่านมาระหว่างทางได้พบนักเที่ยว,ช่างภาพชาวไทยมาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆและแสงเหนือกับจุดถ่ายภาพสวยๆในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังมี Facebook Fanpage ถ่ายภาพท่องเที่ยวก็เริ่มบรรจุหมู่เกาะแห่งนี้อยู่ในทริปการเดินทางของพวกเขาไว้แล้ว
การทำ Stock ปลาคอด
[CR] ครั้งหนึ่งในความทรงจำ Lofoten Islands กับแสงเหนือ ไม่ไปไม่ได้แล้ว
ที่มาของการเดินทาง
โดยผมมีความสนใจที่จะเดินทางไปล่าแสงเหนือ ตอนแรกคิดว่าจะไปประเทศที่มีแสงเหนือที่ค่าใช้จ่ายทั้งทริปประหยัดที่สุดนั่นก็คือ รัสเซีย แต่มีเพจถ่ายภาพท่องเที่ยวได้โฆษณาทริปล่าแสงเหนือที่เกาะ Lofoten โดยที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมไม่เกินหนึ่งแสนบาท ทำให้เราเกิดความสนใจ (โดยส่วนตัวคิดว่าโอกาสที่จะเจอแสงเหนือที่นอร์เวย์มีโอกาสมากกว่ารัสเซีย) โดยมัดจำค่าทัวร์ไว้แล้ว สุดท้ายช่วงหลังปีใหม่จำนวนคนเดินทางไม่พอทริปไม่สามารถเดินทางได้ เสียจุยยยย : แต่ทางเพจก็ได้คืนเงินให้เรานะ แต่มีผู้เดินทางที่ได้มัดจำท่านหนึ่งได้คุยกับเราว่าสนใจเดินทางไปกันเองมั๊ย เนื่องจากเขาได้จองตั๋วเครื่องบินและขอวีซ่าไว้แล้ว โดยให้เขาประมาณค่าใช้จ่ายในการเดินทางอยู่ที่ 7-8 หมื่นบาททั้งทริป อีกทั้งเคยได้ยินข่าวคราวที่ว่าแสงเหนือจะมีช่วงพีคทุกๆ 11 ปี (ช่วงพีคประมาณ 2013-2015) หลังจากปี 2020 แสงเหนือจะมีโอกาสให้เห็นได้ยาก ด้วยความที่เราบ้าจี้มากๆ จึงรีบตัดสินใจไปให้ได้ในปี 2018 ผมนี่ไม่รีรอตัดสินใจเดินทางไปล่าอีกหนึ่งความฝันพร้อมกับผู้เดินทางแปลกหน้าที่ตามมาภายหลัง
ทำความรู้จักกับเกาะ Lofoten
เกาะ Lofoten อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ Norway อยู่ทางตอนใต้ของ Tromso สภาพอากาศหนาวเย็นตลอดปี ผู้คนที่อาศัยในเกาะแห่งนี้ประกอบอาชีพประมงเป็นหลัก สิ่งที่ได้จากการประมงคือปลาคอด ซึ่งมีให้เห็นทุกหนทุกแห่งบนเกาะแห่งนี้ โดยช่วงที่เดินทางเป็นกลางเดือนมีนาคม 61 อุณหภูมิอยู่ที่ -5 ถึง 5 องศาเซลเซียส มีสภาพอากาศแปรปรวนบ้างบางวันมีฝนตก บางวันมีหิมะ หรือแม้บางวันก็ท้องฟ้าปลอดโปร่ง จึงทำให้มีโอกาสดีๆในการล่าแสงเหนือ ซึ่งภูมิประเทศของเกาะแแห่งนี้เหมาะแก่ถ่ายภาพ Landscape และการล่าแสงเหนือ (ถ้าสภาพอากาศและท้องฟ้าเป็นใจ) การสัญจรเดินทางรถประจำทางในเกาะนี้มีค่อนข้างน้อย นักท่องเที่ยวจะใช้รถเช่าเป็นหลัก เพื่อเดินทางท่องเที่ยวรอบเกาะโดยใช้ถนน E10 เป็นถนนสายหลักของเกาะแห่งนี้ โดยที่เกาะ Lofoten เริ่มเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยในการมาท่องเที่ยวซึ่งสังเกตได้จากการเดินทางที่ผ่านมาระหว่างทางได้พบนักเที่ยว,ช่างภาพชาวไทยมาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆและแสงเหนือกับจุดถ่ายภาพสวยๆในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังมี Facebook Fanpage ถ่ายภาพท่องเที่ยวก็เริ่มบรรจุหมู่เกาะแห่งนี้อยู่ในทริปการเดินทางของพวกเขาไว้แล้ว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น