เรื่องราวเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติทองคำของกรุงศรีอยุธยาที่ถูกพวกพม่าปล้นชิงเอาไป เมื่อครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง มิได้เพียงจะทำให้เกิดความตื่นตะลึงและห่วงแหนเสียดายเท่านั้น หากก่อให้เกิดจินตนาการและสมมุตติฐานใหม่ๆขึ้นมาไม่สิ้นสุด เช่นเดียวกับสมมุตติฐานของชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งที่กล้าหาญแย้งนักประวัติศาสตร์สยาม ว่า
“ภายหลังกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแกพม่า ครั้งที่สอง เมื่อปีพุทธศักราช 2310 พม่าได้ปล้นชิงเอาทรัพย์สินของชาวเมืองไปได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้นยังมีหลงเหลือซุกซ่อนอยู่อีกเป็นจำนวนมากมายมหาศาลจนมิอาจจะประเมินค่าได้ ซึ่งเป็นผลจาการความโลภของนายทัพพม่าได้ยักยอกเอาทรัพย์สินมีค่าเหล่านั้นไว้ และที่สำคัญทรัพย์สมบัติเหล่านี้ยังคงถูกฝังอยู่ใต้ผืนแผ่นดินไทย”
“นายทัพ” เขียน
นวนิยายจากบทภาพยนตร์ที่ไม่มีโอกาสสร้างเป็นภาพยนตร์บนจอเงิน
“ล่าขุมทรัพย์อสูร” EP1
“ภายหลังกรุงศรีอยุธยาเสียกรุงแกพม่า ครั้งที่สอง เมื่อปีพุทธศักราช 2310 พม่าได้ปล้นชิงเอาทรัพย์สินของชาวเมืองไปได้แค่เพียงบางส่วนเท่านั้นยังมีหลงเหลือซุกซ่อนอยู่อีกเป็นจำนวนมากมายมหาศาลจนมิอาจจะประเมินค่าได้ ซึ่งเป็นผลจาการความโลภของนายทัพพม่าได้ยักยอกเอาทรัพย์สินมีค่าเหล่านั้นไว้ และที่สำคัญทรัพย์สมบัติเหล่านี้ยังคงถูกฝังอยู่ใต้ผืนแผ่นดินไทย”
“นายทัพ” เขียน
นวนิยายจากบทภาพยนตร์ที่ไม่มีโอกาสสร้างเป็นภาพยนตร์บนจอเงิน