ตัดสินใจย้ายหอพัก(ไกล)ตามroomateต่างคณะ

สวัสดีคะ คือตอนนี้รู้สึกแย่มากเลยคะ กลัวว่าจะกลายเป็นโรคซึมเศร้า ปัญหาคือ...รู้สึกผิดหวังในตัวเองมากที่ตัดสินใจย้ายหอก่อนกำหนดสามเดือน(เคยจ่ายล่วงหน้า12เดือนไปนานแล้ว)+จ่ายค่าเช่าหอใหม่แล้ว(จ่ายแบบ6เดื่อนรวดถูกกว่า)กับค่ามัดจำหอใหม่ไปแล้ว เพราะเหตุผลคือเห็นใจบวกแคร์รูมเมทคนไทยต่างคณะมากเกินไปและเราทั้งคู่ก็ใจร้อนเกินไป คือเรามาเรียนแพทย์อินเตอร์เมืองนอกแถบยุโรปคะ และตอนนี้เราอยู่ปี1 เทอมสอง ส่วนรูมเมทเราเรียนทันตแพทย์

ในสัญญาเช่าโดนหลอกให้เซ้นสัญญาapartmentสองปีค่ะ แทนที่จะเป็น1ปีโดยปกติโดนเพราะการอ่อนประสบการบวกหัวอ่อนตามเพื่อนมากเกินไปของเราเอง ผลกรรมเลยมาตกอยู่ที่เราเพราะนอกจากจะเสียงเงินเสียเวลาเสียโอกาศเจอคนที่เป็นนักเรียนด้วยกันเจอหอแถบอื่น ได้ไกล้เพื่อนคณะเดียวกันหรือได้เจอroomateต่างชาติที่อยากมาอยู่กับเราที่เพิ่งมาเจอหลังเซ้นสัญญาแล้ว แล้วยังต้องมานั้งเสียความรู้สึกระยะยาวแล้วเรายังต้องรู้สึกแบบว่าเพื่อนคนนั้นทิ่งเราอีก เพราะเราเรียนต่างคณะเลยเลิกเรียนหรือทำอะไรไม่ค่อยตรงกันด้วยแหละ+ช่วงหลังๆนางเห็นแฟน(หลายคน)ดีกกว่าเพื่อน ชอบกลับหอดึก ส่วนเราโดยที่หอเราอยู่ไกลกับหอเพื่อนคณะเดียวกับคนอื่นๆเลยไม่ค่อยได้เจอหน้ากันเลย เหงามากๆ เหงาสุดๆ แบบจะบ้าตาย โดยส่วนตัวคิดว่าตำแหน่งที่ตั้งของหอไม่ค่อยสะดวกต่อการเดินทางเรียนคะ เพราะไม่ว่าจะไปตึกเรียนไหนก็ต้องขึ้นรถเมล์หมด ยกเว้นสองตึกbioกับsociologyที่เรียนไม่บ่อยที่อยู่ใกล้มากๆคะ ที่แล้วยิ่งช่วงหน้าหนาวตอนหิมะตกนี้ก็ยิ่งแล้วใหญ่เลยคะ รถมาเลทบ้างมาไม่ตรงเวลาบ้าง ทำเราเกือบสายก็หลายครั่ง555 รู้สึกปลงกับชีวิต555
ป.ล. ใช่เวลาประมาณครึ่งชัวโมงในการเดินทางโดยรถเม(แล้วแต่ตึกเรียน) ส่วนหอแทบอื่นที่อยากอยู่สามารถเดินไปเรียนบางตึกที่เรียนบ่อยๆได้คะ

คือตอนนี้รู้สึกอยากย้ายออกมากเลยคะ แต่ก็รู้ตัวว่าทำไม่ได้ เพราะเงินที่เสียไปกับค่าหอกับค่ามัดจำก็ไม่ใช่น้อยๆคะ เกือบแสน จะให้หารูปเมทคนอื่นคณะเดียวกับนางมาอยู่แทนเราก็เคยลองปรึกษานางแล้วแต่นางไม่ยอมให้เราย้ายออก บอกว่าในเมื่อตัดสินใจ(แบบจำยอม)ไปแล้ว ก็ต้องอยู่ให้ได้ คือแบบคนไทยในเมืองเราก็มีกันไม่กี่คนคะ แล้วตอนนี้นางก็ยังไม่เจอคนที่คิดว่าจะย้ายมาอยู่ด้วยได้ จะมีที่รู้จักก็มีแต่เป็นผู้ชายคณะเดียวกับนาง ซึ่งก็คิดว่าไม่เหมาะสม บวกนางห้ามเราไม่ให้คุยกันเรื่องจะขอย้ายหอออกนี้อีก ไม่งั้นเราจะไม่คุยกันอีกแถมไม่สนใจ เพราะฉันก็ได้บอกเธอหลายครั่งแล้วว่าตัวเองอยากย้ายหลายรอบแล้วเหมือนกันคะ คืออยากบอกว่าถ้าเจอคนที่คิดว่าอยู่ด้วยกันได้แบบไม่ลำบากทั้งสองฝ่ายก็คงดีคะ ตอนนี้ย้ายมาอยู่หอใหม่ได้เดือนกว่าแล้วคะ แต่ยังไม่รู้สึกว่าที่นี้เป็นบ้านเลย รู้สึกแบบว่าที่นี้คือที่ไหนแล้วฉันมาทำอะไรที่นี้ ฉันไม่น่าตัดสินใจแบบนั้นเลย ปลงกับชีวิต คือแบบเลิกเรียนแล้วโคดไม่อยากกลับบ้านทั้นที่ปกติเป็นคนติดห้องมากๆ เหงาและเหวงหวางมากคะ เพราะพอพักเทียงหรือรอเรียนระหว่างคาป(ที่หอเก่า)ก็สามารถกลับมาพักที่ห้องได้ ทำกับข้าวกินเองประยัดดีได้ แต่ที่ไหม่ไม่ใช่เพราะเราต้องเว้นเวลาระเผือการเดินทางเพิ่มอีก ถ้ารถมาถึงตอนเรากำลังจะขึ้นก็ดีไป แต่ถ้าไม่ก็ต้องรออีกประมาณ15-20นาที ซึ่งจากบ้างตึกเราเดินได้คะ นานสุดแบบเดินปกติถ้าไม่ติดไฟแดงก็ประมานคึ่งชัวโมงคะ แต่มันก็รู้สึกเหงาอยู่ดีเพราะทางนั้นหอเพื่อนไม่ได้อยู่ เราไม่ได้เดินกลับทางเดียวกันหรือได้เจอหน้ากันให้อย่างน้อยอุ่นใจก็ดีแบบเมื่อก่อนแล้วคะ  

สุดท้ายนี้สุดแล้วก็ต้องปลับตัวคะ ไม่อยากรบกวนพ่อแม่ไปมากกว่านี้ บ้านเราก็ไม่ใช่เศรษฐี เป็นครอบครัวปานกลาง แถมมีน้องอีก3คนที่พ่อแม่ต้องส่งให้เรียนอีก เราเลยแบบว่าไม่สามารถทิ้งเงินี่เสียไปแล้วได้คะ ก็ต้องสู้ต่อไปแล้วเอาเหตุการนี้มาเป็นบทเรียนคะ ตั้งแต่นี้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรโดยเฉพาะเรื่องที่อยู่ที่ต่องอยู่ด้วยกันเป็นปีคะ จะไม่ยอมตักสินใจโดยไม่เต็มใจเด็จขาดคะ เพราะมันจะส่งผลเสียหลายด้านให้เราในระยะยาว โดยเพราะเรื่องความรู้สึกคะ***ปวดใจมาก นี้คือแอบร้องไห้บ่อยมาก แต่ก็ต้องสู้คะ สู้จนสัญญหาเช่าหอหมดแล้วค่อยย้ายออก ส่วนทางลูมเมทนี้เราไม่รู้ว่านางจะย้ายออกมาอยู่ด้วยกันรึป่าวเพราะห้องใหม่นี้สะดวกนางกว่าชั้นมากกกกก T-T (ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองตักสินใจแบบนั้นลงไปได้ไง สงสัยความรักเพื่อนบังตา เพราะนางมาอ้อนวอน มาขอร้อง เลยย่อมๆใจอ่อน บวกนางบอกว่าไม่ไกล...ไม่ไกลสำหลับนางสิ!!!ก็เธอเรียนแถวนั้นทุกวันนิ!!แต่ฉันไม่ใช่)

ข้อดี: ห้องสวย ห้องใหม่ ห้องใหญ่ เดี่ยงใหญ่ มีระเบี่ยง (เงียบมากถึงมากที่สุด:เพราะเป็นห้องเพิ่งสร้างใหม่ คนยังมาอยู่ไม่มาก ส่วนใหญ่เป็นฝรังเป็นครอบครัว หรือคนวัยทำงาน: จริงๆก็อยากทำความรู้จักเพื่อนบ้านนะ อย่างน้อยก็จะได้มีคนรู้จัดอยู่แถวนี้บ้างจะได้ไม่เหงาเกินไป, แต่ส่วนใหญ่จะค่อยได้เจอกันเลย เป็นส่วนตัวกันมากๆ) ได้ห้องในราคาถือว่าดีรวมค่าน้ำค่าInternetแล้ว+ค่าไฟแยก, ยังดีที่หอใหม่อยู่ติดBus station (เดิน3)ถ้าไม่ติดไฟแดง

ข้อเสีย: อยู่นี้แล้วเหงามากถึงมากที่สุด มีroomateก็เหมือนไม่มีเพราะนางก็เอาแต่อ่านหนังสือในห้อง ไม่อ่านหนังสือก็มักออกไปเทียวกับแฟน แบบตั้งแต่ย้ายมาอยู่หอใหม่จากเดิมเคยสนิทกันแบบไปไหนมาไหนด้วยกันตอนอยู่หอใน แต่พอย้ายออกมาพวกเราก็ยิ่งหางเหินอะ เหมือนพอได้เรามาอยู่หอทีนางอยากได้แล้วก็เห็นเราเป็นของตายอ่ะ น้อยใจนะเนี้ย, ไกลที่เรียนกว่าเดิม(ต้องขึ้นbus)ลำบากก็ลำบากขึ้นๆ แต่ยังดีที่ปีนี้มีเรียนเช้าอยู่แถวหอใหม่เราพอดีเลยยังดีไป แต่เรากลัวของปีต่อๆไปมากอ่ะ (T-T)อยากร้องไห้ คือแบบอยากให้สองปีนี้รีบๆผ่านไปไว้ๆจัง, ถ้าอยากเจอเพื่อนนี้เราต้องบังคับตัวเองให้ออกมาอ่ะ แถมอยู่ดึกไม่ค่อยได้เพราะไม่งั้นเดี๋ยวรถหมดกลับหอไม่ได้ถ้าเดินมันอันตรายเลยต้องขอค้างห้องเพื่อนข้อนค้างบ่อยและก็ได้เฉพาะบางคนด้วยเพราะทางเราก็เกรงใจเขาอะ ไม่ก็ต้องโทรเรียกtaxiกลับ ไม่ก็พยายามชวนเพื่อนค้างบ้านเราซึ่งอยู่ตรงแถวOld Townแหลงเที่ยว, คือตอนนี้เราก็พยายามมองวิกิจให้เป็นโอกาศอยู่เนี้ย ส่วนเรื่องบอกที่อยู่ใหม่กับเพือนๆปีนี้ก็กล้าบอกแค่กับคนที่สนิทจริงๆเท่านั้นอ่ะ บางที่ก็อายนะ ไม่น่าเชื่อเพื่อนเลย แต่อย่างน้อยๆในวันที่เราลำบากก็จะได้รู้ว่าใครคือเพื่อนแท้อะนะ เหอ...(ทอนใจแปบ)


อยากทราบว่าถ้าเป็นเพื่อนๆ เพื่อนจะทำอย่างไรในวถานะหารนี้ หรือถ้าใครอยากบอกเล่าประสบการครายกันหรือเกียวข้องกันก็ส่งความเห็นมากันได้นะคะ ตอนนี้เราต้องการกำลังใจมากอ่ะ ทั้งโทดตัวเอง ผิดหวัง และเหงามาก T-T
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ควรยอมรับผลของการตัดสินใจที่ทำไปเเล้วครับ เพราะไม่มีใครเเก้ไขอดีตได้
นำบทเรียนที่ได้เรียนรู้มาเเก้ไขในอนาคต

ปัญหาเรื่องเหงาคนน้อย เป็นเรื่องปกติเวลาคนมาต่างประเทศ ต่อให้มีเพื่อนรายล้อมเยอะก็เหงาได้ ส่วนการปรับตัวเรื่องการเดินทางที่ต้องใช้เวลามากขึ้น ใหม่ๆก็รู้สึกลำบากหน่อย  เวลาผ่านไปก็จะดีขึ้นเอง

น่าจะมีข้อดีอยู่บ้างดีมีสิ่งเเวดล้อมที่เงียบสงบ เหมาะกับการเรียน เเล้วก็มีโอกาสทำความรู้จักกับคนในที่พักอยู่ในหอใหม่ด้วยกัน เขาอาจมีอะไรดีๆให้คุณเรียนรู้ก็ได้

ปัญหาใหญ่ของที่พัก อันดับต้นๆเลยคือความปลอดภัย เเละสิ่งรบกวนการพักอาศัยการเรียน  ปัญหาอื่นสำหรับผม เป็นเรื่องที่ยอมรับได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่