ผมเชื่อว่า มันจะจบแบบคิมน้อยที่ขู่เรื่องนิวเคลียร์เมื่อปีที่แล้ว
ผลสุดท้าย ก็จับเข่าคุยกันได้

สิ่งที่น่าสนใจกว่า  ตลาดหุ้น คือ โลกการเงิน
ตั้งแต่มี QE พื้นฐานกับตลาดหุ้น ไม่ค่อยจะมีเหตุผลในทางเดียวกัน
QE คือเงินที่ใส่เข้ามาบิดเบือนภาพเศรษฐกิจที่เกิดขึ้น
ตลาดหุ้นขึ้นมาแรงตั้งแต่มี QE แต่ไม่ได้สะท้อนภาพที่แท้จริงของเศรษฐกิจ
เหมือนกับมันวิ่งขึ้นมารอมากกว่า

จะเห็นได้ว่า ตอนนี้เศรษฐกิจเริ่มฟื้น (เค้าว่างั้น) แต่ฟื้นในสภาพที่สหรัฐหนี้มากขึ้นกว่าเดิมและไม่หยุด
เงินเฟ้อโตขึ้น เป็นสาเหตุที่เข้าสู่ยุคยกเลิก QE และตามด้วยการขึ้นดอกเบี้ย

จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไม่ได้ขึ้นมาด้วยตัวเศรษฐกิจเลย
แต่กลายเป็นว่า พอยกเลิก QE ตามด้วยขึ้นดอก จากสาเหตุว่า เศรษฐกิจฟื้น เงินเฟ้อ
กลับทำให้ตลาดลง

10 ปีจาก sub prime ตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นมาเท่าไร ขึ้นมาด้วยอะไร
ที่ผ่านมา มันมาด้วยเงินเข้า แล้วตอนนี้มันลง เพราะเงินออกหรือไม่

แต่การลง มันจะลงระดับนึง ระดับที่เงิน QE ไหลออก จนถึงจุดที่สะท้อนสภาพเศรษฐกิจจริงๆ
อย่างที่ปู่บัฟเฟตบอก เศรษฐกิจไม่มีปัญหา อย่ากังวล

นิสัยและบุคลิกการพูดจาของป๋าทรัมป์อาจจะถูกบอกว่า เป็นสาเหตุที่ทำให้หุ้นลง
แต่อย่างที่บอกข้างต้น สำหรับ มันคือ money game ล้วนๆ
และเชื่อว่า Trade War สุดท้ายก็คุยกันได้นะฮะ
ดังนั้นลงเยอะๆ อย่าตกใจขาย การลงของสหรัฐมาถึงจุดนี้ไม่ใช่จังหวะตกใจขายแล้ว
จะขายต้องขายข้างบน มาขายแถวนี้ ผิดจังหวะแล้วนะฮะ

ปล. ระวังข่าวร้ายจะออกมาล้างสมองเยอะหน่อย แนะนำ เอาข่าวช่วงต้นปีมาอ่านแทน จะสบายใจขึ้นเยอะ
อย่าหาข่าว หาสาเหตุว่า ทำไมหุ้นที่ถือถึงลง เดี๋ยวจะจิตตก ไปขายแทนที่จะซื้อ
(อันนี้พูดถึงหุ้นดีๆนะฮะ ไม่ใช่ปั่นแปะ