เรามีประสบการณ์มาแชร์ มันไม่ใช่ประสบการณ์รักเล่นๆ หรือจริงจังแบบวัยรุ่นใสๆ หรอกนะ แต่มันเป็นเรื่องราวของการเริ่มคบใครสักคนเพื่ออนาคต เป็นครอบครัว เราเคยมีแฟนที่เราทุ่มเททุกอย่างให้ เเต่สุดท้ายก็เลิก เรารู้สึกท้อ สิ้นหวัง ตลอดเวลาที่ผ่านมา เหมือนว่าเรารักเขามาตลอด แต่อีกฝ่ายกลับไม่รู้สึกเช่นนั้นเลย เราพยายามหาคำตอบ จากความรู้สึกของตัวเอง จากประสบการณ์ของคนอื่น จากคำสั่งสอน จากคำคม สุภาษิตต่างๆ สุดท้าย ก็มาสะดุดกับคำว่า " รักคนที่เขารักเราดีกว่า" เขาจะใส่ใจเรามากกว่า เราไม่ต้องคอยวิ่งตามใคร มีคนคอยอยู่ข้างๆ เรา ยอมรับในตัวตนของเรา รักที่เราเป็นเรา
เราเคยถามแม่ ถึงความรู้สึกก่อนแต่งงานกับพ่อ แม่บอกว่า ตอนแต่งงานกับพ่อ แม่ก็ไม่ได้รักพ่อหรอก แม่แค่มองอนาคต พ่อเป็นคนขยัน ซื่อ และ จริงใจ จริงๆ แม่มีคนที่รักมากคบหากันมา 10 ปี แต่เขาเป็นคนใช้เงินเก่ง เล็กๆ น้อยๆ ก็ให้แม่ซื้อให้ แม่มองแล้วอนาคตว่า อยู่ด้วยกันไปชีวิตลำบากแน่ๆ
แม่เลยตัดสินใจแต่งงานกับพ่อ เลือก "อนาคต" มากกว่า "ความรู้สึก" แม่บอกว่า ตอนนั้นคิดว่า เดี๋ยวมีลูกก็คงผูกพันกันเองแหละ เเล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนนี้ชีวิตก็แฮปปี้นะ เราจึงคิดว่า "หรือเราจะลองทำแบบแม่ดูดีนะ"
ก่อนจะเริ่มเรื่องราวต่างๆ เรามาทำความรู้จักกันก่อนเน๊าะ ปีนี้เราอายุ 23 ปี เรียนจบ ป.ตรี ตอนอายุ 21 ปี เคยมีแฟนสมัยมัธยม 2 คน เริ่มคบจริงจังตอนแรก ป.ตรี 2 คน ( ส่วนมาก 2 ปี เลิก แต่ไม่เคยคบซ้อน) เราเป็นคนที่ไม่ได้สวยอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป เราก็เคยฝันนะว่าถ้าได้แต่งงานกับผู้ชายหน้าตาดี ฐานะดี ขยัน (สเปคตามทัศนคติของสาวนอกขี้มโนอ่ะนะ) สักคนก็คงจะดี แต่นึกไปนึกมา ผู้ชายหล่อๆ ดีๆ ที่ไหนเขาจะมาชอบแบบเรากันวะ 555+ เออช่างมันเถอะ เราเป็นคนนิสัยดีประมาณนึง (คิดว่านะ) เราไม่เคยนอกใจแฟนเลย ดูแล ใส่ใจ เป็นห่วง ไม่ค่อยงี่เง่า ไม่ค่อยงอแง แฟนจะไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ไม่เคยจุกจิก จู้จี้ ให้อิสระ เราเป็นคนอารมณ์ดี ใจกว้าง มีน้ำใจ อัธยาศัยดี แต่เป็นคนพูดตรง โผงผาง ออกห้าวๆ ไม่ค่อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนเท่าไหร่ หมายถึงทำกับข้าวไม่ค่อยเก่ง ทำงานบ้านได้หมด ประจบใครไม่เป็น เรียนเก่งประมาณนึง ชอบทำกิจกรรม ชอบเที่ยว และมีความคิดว่าการได้ไปเที่ยวคือการให้รางวัลชีวิตตัวเอง หลังจากตั้งใจทำงาน เรียน มาทั้งปี (โดยปกติคนอื่นก็จะมองว่า ฟุ่มเฟือย ใช้เงินเก่ง ระวังจะไม่มีกิน ซึ่งเราก็แอบคิดนิดนึงเหมือนกัน)
เอาล่ะ..เข้าเรื่องกันเลยเถอะ
เราเริ่มคบกับผู้ชายคนหนึ่งก่อนเรียนจบ เป็นคนที่มีทัศนคติเเตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง มาเรียนสายตลอด เรียน 3 ชม. เข้า ชม.สุดท้าย เทอมนึงมาเรียน 3-4 ครั้ง ดูไม่ตั้งใจเรียน เกรดเฉลี่ย 1 กว่าๆ ปัจจุบันยังเรียนไม่จบเลย เหลืออีกไม่กี่วิชา เรียนมาจะ 6 ปี แล้วมั้ง แทบทุกคนมองเขาว่าเป็นคนไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง ไม่ใส่ใจชีวิต ห่วยแตก มองไม่เห็นอนาคต ชีวิตคงไปไหนไม่ได้ไกลหรอก แต่ความจริง คือ เขาเคยลองดรอปเรียนไปทำงานประจำมาแล้ว และค้นพบความจริงว่าชีวิตเขาไม่ชอบทำงานแบบนี้ เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานคลุกอยู่ในออฟฟิตทั้งวัน มันเป็นเรื่องที่เขาคงไม่มีความสุขไปตลอดแน่ เขาเลยลองหางานต่างๆ ทำ เเล้วก็ไปถูกใจกับการเป้นช่างภาพ เขาสามารถเก็บเงินจากงานนี้ได้ และซื้ออุปกรณ์กล้องราคารวมก็ประมาณสองแสน อีกทั้งเขาเป็นคนรักท่องเที่ยว และมันคือความฝันของเขา เขาทำงานและท่องเที่ยวในไทยเกือนจะครบ 77 จังหวัดแล้ว ทั้งได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ลาว หรือแม้ประเทศที่เข้ายากๆ อย่างภูฏาน ด้วยอาชีพที่เขาทำ และมีไม่กี่คนที่รู้ ในขณะที่คนส่วนมากดูถูกเขาและใช้ระบบมาตรฐานดำรงชีวิตสากลเป็นตัววัด
เรามองดูไลฟ์สไตล์ของเขาแล้วปลื้มมากเลย แต่เขาไม่คนหน้าตาขี้เหร่มาก สูง 2 เมตร ตัวใหญ่เบ้อเร่อเลย อ้วน น้ำหนักคงประมาณ 150 หรือมากกว่า บางคนบอกว่าหน้าตาหน้าเกลียด เเบะปากมองบนกันเป็นแถว ไปที่ไหนบางคนก็มองว่าเป็นตัวประหลาด นั่นคือสิ่งที่เขาบอกมานะ เราไม่ได้แต่งเอง นึกถึงคนดำฮิปฮอปอ้วนๆ แต่หน้าลาวๆ อ่ะ แต่เขาเป็นคนบุคลิกดีนะ อ้วนแต่ดูมีพละกำลังดี ไม่ได้ดูอ้วนตุ๊ตะ อืดอาด เหมือนคนขี้เกียจ อาจเป็นเพราะเขาเป็นช่างภาพ เเละชอบเดินทาง เลยได้ออกกำลังกายไปในตัว เขามีเพื่อนมากมาย แถมดีด้วย มีครอบครัวที่ดี อยู่กับแม่สองคน ผู้ใหญ่รอบข้างอุปถัมภ์ จากความแตกต่าง เเละทัศนคติ รวมถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้เขาเป็นไอดอลของคนมากมาย เขาเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้ เป็นไอ้อ้วนตัวโจ๊ก มีเขาที่ไหน มีเฮที่นั่น เพื่อนๆ ที่สนิทกันก็รักเขามาก เขาเปลี่ยนความคิดและวิถีชีวิตของเพื่อนไปมากมายเลยทีเดียว หลายๆ คนมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก และชื่นชอบสิ่งที่เขาเป็น เราก็เช่นกัน
เราได้คุยกัน เราชอบในไลฟ์สไตล์ของเขา เเละเรามีไลฟ์สไตล์ ทัศนคติที่คล้ายกัน เพียงแต่เรายังคงอยู่ในนกรอบ ไม่เคยฉายเดี่ยว เรากล้าทำอะไรมากกว่าเพื่อนเราหลายๆ คน แต่เเทบกับสิ่งที่เขาทำแล้ว เขามักชอบพูดว่า เราแม่งกระจอกสุดๆ 555+ หลังจากที่เราคบกัน เราก็เริ่มทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน เราไม่ได้เเค่คบกัน เราสนิทกันเป็นกลุ่ม เราอยู่ในสังคมของเขา เพื่อนเขาก็คือเพื่อนเรา เรารู้จักกับเพื่อนเขาอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ดูสนิทกันมาก มีเรื่องราวด้วยกันมากมาย สังสรรค์ บุฟเฟ่ต์ ตะลุยร้านเจ๋งๆ ปาร์ตี้ที่บ้าน พวกเราไปเที่ยวด้วยกัน ระยอง น่าน เชียงราย ภูชี้ฟ้า แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง เชียงใหม่ พังงา อ่าวโต๊ะหลี สุราษฎร์ โคราช เขื่อนรัชประภา หัวหิน สวนน้ำวานานาวา เรามีความสุขที่ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง
เขาทำเพื่อเราหลายอย่าง เขาดีกับเราทุกอย่าง เขาอยากให้เรามีความสุข อยากพาเราไปเจอสิ่งใหม่ พาไปเปิดหูเปิดตา อยากทำให้เราเป็นผู้หญิงที่ใครๆ ก็อิจฉา ความฝันของเขาคือการไปเที่ยวรอบโลก และแน่นอนว่ามีเราอยู่ตรงนั้นด้วย อยากแต่งงานกับใครสักคนและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คือความฝันของเขา
แต่แล้วปัญหาเริ่มมา เราจะมีเรื่องที่ไม่โอเค ในหลายๆ เรื่อง เช่น ครอบครัว ที่บ้านเราโคตรไม่โอเค และ ยังไม่สามารถที่จะยอมรับได้ที่จะมีลูกเขย หน้าตาแบบนี้ อีกทั้งเขามองว่า การชอบเที่ยวแบบนี้ มันสิ้นเปลือง แล้วเมื่อไหร่จะสร้างตัวได้ ชีวิตมันควรวางแผนยังไง ฟุ่มเฟือย มันมีความสุขแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ไม่มีกินสิสำคัญ อนาคตจะลำบาก ดูแล้วไม่น่ารอดอ่ะ ส่วนปัญหาที่เราพบเจอ คือ ด้วยความที่เขาหน้าตาไม่ดี เพื่อนคนอื่นคบเขาที่นิสัยมองข้ามหน้าตาได้มันไม่มีปัญหา แต่มันไม่ใช่กับคนใกล้ตัวอย่างเราอ่ะ นานวันเข้าก็เริ่มเบื่อ เริ่มรำคาญ รู้สึกขัดใจไปหมด นอนก็กรนเสียงดังอย่างกับเรือเครื่อง เพื่อนเขายังทักเลย ว่ากรนดังกว่าเมื่อก่อนมาก บางอารมณ์ก็ไม่น่าอภิรมณ์เลย (พูดภาษาชาวบ้านคือมองหน้าแล้วไม่มีอารมณ์อ่ะ) เราก็เริ่มเฉยๆ กับเขา ตามความรู้สึก โทรมาก็ไม่อยากคุยด้วย ชอบโทรมาอ้อน มางอแง ตามนิสัยอยากอ้อนแฟนอ่ะแหละ จนวันนึงเขาก็ระเบิด เริ่มบ่นเราว่า เป็นแฟนกันทำไมไม่ใส่ใจกันเลย ใส่ใจกันสักนิดสิ มันไม่ได้ยากหรอก แค่ใส่ใจ ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เราไม่ได้เถียงอะไรนะ แล้วเราก็เริ่มเก็บมาคิด
ทำไมเราไม่ใส่ใจเขาวะ หรือว่า "เราไม่ได้รักเขาวะ" นั่นแหละคือปัญหาของการคิดว่าคบกับคนที่เขา "รักเราดีกว่า" แต่ทุกสิ่งที่เขาทำให้ ทำไมเขา
เป็นคนดีจังวะ แต่ทำไมเรารู้สึกไม่รักเขา มันแฟร์กับเขาหรอ สิ่งที่เขาทำให้มันเยอะมาก ไม่รู้จะหาใครรักและทำเพื่อเราขนาดนี้ได้อีกไหม แต่เราจะอยู่กับเขาได้จริงๆ หรอวะ สภาพแบบนั้น ตัดเรื่องเที่ยว ตัดเรื่องเพื่อน มองที่การใช้ชีวิต อยู่ด้วยกัน ทำงาน นอนด้วยกัน มันจะโอเคไหมนะ มันไม่มีอะไรถูกใจไปหมดทุกอย่างหรอก
ทำไมเรารู้สึกว่าตัวเองแย่ขนาดนี้ สรุปเรารักเขาไหม "รักคนที่เขารักเราดีกว่า" มันจะดีจริงหรอ พยายามรักในสิ่งที่เขาทำให้ แต่ถ้าสุดท้ายไม่ได้รักเขา มันจะแฟร์กับเขาหรอวะ คิดแล้วมันก็รู่สึกแย่ รู้สึกเห็นแก่ตัว รู้สึกเป็นคนไม่ดี เคยนึกอยากจะเลิกหลายครั้ง แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เเต่ถ้าเลิกกัน ก็คิดว่าต้องเป็นการกระทำที่โง่มากแน่ๆ
ถ้าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ ช่วยแชร์ให้กันหน่อยนะคะ อยากฟังเหตุผลจากหลายๆ คน บางปัญหา คนที่อยู่นอกปัญหา น่าจะมีมุมมองที่กว้างมากกว่า คนที่ประสบอยู่ ตอนนี้สมองตื้อไปหมดเเล้วค่ะ เราเองก็คิดว่าเรายังเด็กสำหรับเรื่องพวกนี้มาก หากเทียบกับหลายๆ คนที่ผ่านทุกอย่างด้วยกันมา ช่วยแนะนำทีนะคะ
รักคนที่เขารักเราดีกว่า ดีกว่าจริงหรอ?
เราเคยถามแม่ ถึงความรู้สึกก่อนแต่งงานกับพ่อ แม่บอกว่า ตอนแต่งงานกับพ่อ แม่ก็ไม่ได้รักพ่อหรอก แม่แค่มองอนาคต พ่อเป็นคนขยัน ซื่อ และ จริงใจ จริงๆ แม่มีคนที่รักมากคบหากันมา 10 ปี แต่เขาเป็นคนใช้เงินเก่ง เล็กๆ น้อยๆ ก็ให้แม่ซื้อให้ แม่มองแล้วอนาคตว่า อยู่ด้วยกันไปชีวิตลำบากแน่ๆ
แม่เลยตัดสินใจแต่งงานกับพ่อ เลือก "อนาคต" มากกว่า "ความรู้สึก" แม่บอกว่า ตอนนั้นคิดว่า เดี๋ยวมีลูกก็คงผูกพันกันเองแหละ เเล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ ตอนนี้ชีวิตก็แฮปปี้นะ เราจึงคิดว่า "หรือเราจะลองทำแบบแม่ดูดีนะ"
ก่อนจะเริ่มเรื่องราวต่างๆ เรามาทำความรู้จักกันก่อนเน๊าะ ปีนี้เราอายุ 23 ปี เรียนจบ ป.ตรี ตอนอายุ 21 ปี เคยมีแฟนสมัยมัธยม 2 คน เริ่มคบจริงจังตอนแรก ป.ตรี 2 คน ( ส่วนมาก 2 ปี เลิก แต่ไม่เคยคบซ้อน) เราเป็นคนที่ไม่ได้สวยอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่จนเกินไป เราก็เคยฝันนะว่าถ้าได้แต่งงานกับผู้ชายหน้าตาดี ฐานะดี ขยัน (สเปคตามทัศนคติของสาวนอกขี้มโนอ่ะนะ) สักคนก็คงจะดี แต่นึกไปนึกมา ผู้ชายหล่อๆ ดีๆ ที่ไหนเขาจะมาชอบแบบเรากันวะ 555+ เออช่างมันเถอะ เราเป็นคนนิสัยดีประมาณนึง (คิดว่านะ) เราไม่เคยนอกใจแฟนเลย ดูแล ใส่ใจ เป็นห่วง ไม่ค่อยงี่เง่า ไม่ค่อยงอแง แฟนจะไปเที่ยวไหนกับเพื่อน ไม่เคยจุกจิก จู้จี้ ให้อิสระ เราเป็นคนอารมณ์ดี ใจกว้าง มีน้ำใจ อัธยาศัยดี แต่เป็นคนพูดตรง โผงผาง ออกห้าวๆ ไม่ค่อยเป็นแม่บ้านแม่เรือนเท่าไหร่ หมายถึงทำกับข้าวไม่ค่อยเก่ง ทำงานบ้านได้หมด ประจบใครไม่เป็น เรียนเก่งประมาณนึง ชอบทำกิจกรรม ชอบเที่ยว และมีความคิดว่าการได้ไปเที่ยวคือการให้รางวัลชีวิตตัวเอง หลังจากตั้งใจทำงาน เรียน มาทั้งปี (โดยปกติคนอื่นก็จะมองว่า ฟุ่มเฟือย ใช้เงินเก่ง ระวังจะไม่มีกิน ซึ่งเราก็แอบคิดนิดนึงเหมือนกัน)
เอาล่ะ..เข้าเรื่องกันเลยเถอะ
เราเริ่มคบกับผู้ชายคนหนึ่งก่อนเรียนจบ เป็นคนที่มีทัศนคติเเตกต่างจากคนอื่นโดยสิ้นเชิง มาเรียนสายตลอด เรียน 3 ชม. เข้า ชม.สุดท้าย เทอมนึงมาเรียน 3-4 ครั้ง ดูไม่ตั้งใจเรียน เกรดเฉลี่ย 1 กว่าๆ ปัจจุบันยังเรียนไม่จบเลย เหลืออีกไม่กี่วิชา เรียนมาจะ 6 ปี แล้วมั้ง แทบทุกคนมองเขาว่าเป็นคนไม่เอาไหน ไม่ได้เรื่อง ไม่ใส่ใจชีวิต ห่วยแตก มองไม่เห็นอนาคต ชีวิตคงไปไหนไม่ได้ไกลหรอก แต่ความจริง คือ เขาเคยลองดรอปเรียนไปทำงานประจำมาแล้ว และค้นพบความจริงว่าชีวิตเขาไม่ชอบทำงานแบบนี้ เป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานคลุกอยู่ในออฟฟิตทั้งวัน มันเป็นเรื่องที่เขาคงไม่มีความสุขไปตลอดแน่ เขาเลยลองหางานต่างๆ ทำ เเล้วก็ไปถูกใจกับการเป้นช่างภาพ เขาสามารถเก็บเงินจากงานนี้ได้ และซื้ออุปกรณ์กล้องราคารวมก็ประมาณสองแสน อีกทั้งเขาเป็นคนรักท่องเที่ยว และมันคือความฝันของเขา เขาทำงานและท่องเที่ยวในไทยเกือนจะครบ 77 จังหวัดแล้ว ทั้งได้ไปท่องเที่ยวต่างประเทศญี่ปุ่น สิงคโปร์ ลาว หรือแม้ประเทศที่เข้ายากๆ อย่างภูฏาน ด้วยอาชีพที่เขาทำ และมีไม่กี่คนที่รู้ ในขณะที่คนส่วนมากดูถูกเขาและใช้ระบบมาตรฐานดำรงชีวิตสากลเป็นตัววัด
เรามองดูไลฟ์สไตล์ของเขาแล้วปลื้มมากเลย แต่เขาไม่คนหน้าตาขี้เหร่มาก สูง 2 เมตร ตัวใหญ่เบ้อเร่อเลย อ้วน น้ำหนักคงประมาณ 150 หรือมากกว่า บางคนบอกว่าหน้าตาหน้าเกลียด เเบะปากมองบนกันเป็นแถว ไปที่ไหนบางคนก็มองว่าเป็นตัวประหลาด นั่นคือสิ่งที่เขาบอกมานะ เราไม่ได้แต่งเอง นึกถึงคนดำฮิปฮอปอ้วนๆ แต่หน้าลาวๆ อ่ะ แต่เขาเป็นคนบุคลิกดีนะ อ้วนแต่ดูมีพละกำลังดี ไม่ได้ดูอ้วนตุ๊ตะ อืดอาด เหมือนคนขี้เกียจ อาจเป็นเพราะเขาเป็นช่างภาพ เเละชอบเดินทาง เลยได้ออกกำลังกายไปในตัว เขามีเพื่อนมากมาย แถมดีด้วย มีครอบครัวที่ดี อยู่กับแม่สองคน ผู้ใหญ่รอบข้างอุปถัมภ์ จากความแตกต่าง เเละทัศนคติ รวมถึงความเชื่อมั่นในตัวเอง ทำให้เขาเป็นไอดอลของคนมากมาย เขาเป็นคนเฮฮาปาร์ตี้ เป็นไอ้อ้วนตัวโจ๊ก มีเขาที่ไหน มีเฮที่นั่น เพื่อนๆ ที่สนิทกันก็รักเขามาก เขาเปลี่ยนความคิดและวิถีชีวิตของเพื่อนไปมากมายเลยทีเดียว หลายๆ คนมองข้ามรูปลักษณ์ภายนอก และชื่นชอบสิ่งที่เขาเป็น เราก็เช่นกัน
เราได้คุยกัน เราชอบในไลฟ์สไตล์ของเขา เเละเรามีไลฟ์สไตล์ ทัศนคติที่คล้ายกัน เพียงแต่เรายังคงอยู่ในนกรอบ ไม่เคยฉายเดี่ยว เรากล้าทำอะไรมากกว่าเพื่อนเราหลายๆ คน แต่เเทบกับสิ่งที่เขาทำแล้ว เขามักชอบพูดว่า เราแม่งกระจอกสุดๆ 555+ หลังจากที่เราคบกัน เราก็เริ่มทำอะไรหลายๆ อย่างด้วยกัน เราไม่ได้เเค่คบกัน เราสนิทกันเป็นกลุ่ม เราอยู่ในสังคมของเขา เพื่อนเขาก็คือเพื่อนเรา เรารู้จักกับเพื่อนเขาอยู่แล้ว ตอนนี้พวกเราก็ดูสนิทกันมาก มีเรื่องราวด้วยกันมากมาย สังสรรค์ บุฟเฟ่ต์ ตะลุยร้านเจ๋งๆ ปาร์ตี้ที่บ้าน พวกเราไปเที่ยวด้วยกัน ระยอง น่าน เชียงราย ภูชี้ฟ้า แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง เชียงใหม่ พังงา อ่าวโต๊ะหลี สุราษฎร์ โคราช เขื่อนรัชประภา หัวหิน สวนน้ำวานานาวา เรามีความสุขที่ได้ลองทำอะไรหลายๆ อย่าง
เขาทำเพื่อเราหลายอย่าง เขาดีกับเราทุกอย่าง เขาอยากให้เรามีความสุข อยากพาเราไปเจอสิ่งใหม่ พาไปเปิดหูเปิดตา อยากทำให้เราเป็นผู้หญิงที่ใครๆ ก็อิจฉา ความฝันของเขาคือการไปเที่ยวรอบโลก และแน่นอนว่ามีเราอยู่ตรงนั้นด้วย อยากแต่งงานกับใครสักคนและใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน คือความฝันของเขา
แต่แล้วปัญหาเริ่มมา เราจะมีเรื่องที่ไม่โอเค ในหลายๆ เรื่อง เช่น ครอบครัว ที่บ้านเราโคตรไม่โอเค และ ยังไม่สามารถที่จะยอมรับได้ที่จะมีลูกเขย หน้าตาแบบนี้ อีกทั้งเขามองว่า การชอบเที่ยวแบบนี้ มันสิ้นเปลือง แล้วเมื่อไหร่จะสร้างตัวได้ ชีวิตมันควรวางแผนยังไง ฟุ่มเฟือย มันมีความสุขแป๊บเดียวเท่านั้นแหละ ไม่มีกินสิสำคัญ อนาคตจะลำบาก ดูแล้วไม่น่ารอดอ่ะ ส่วนปัญหาที่เราพบเจอ คือ ด้วยความที่เขาหน้าตาไม่ดี เพื่อนคนอื่นคบเขาที่นิสัยมองข้ามหน้าตาได้มันไม่มีปัญหา แต่มันไม่ใช่กับคนใกล้ตัวอย่างเราอ่ะ นานวันเข้าก็เริ่มเบื่อ เริ่มรำคาญ รู้สึกขัดใจไปหมด นอนก็กรนเสียงดังอย่างกับเรือเครื่อง เพื่อนเขายังทักเลย ว่ากรนดังกว่าเมื่อก่อนมาก บางอารมณ์ก็ไม่น่าอภิรมณ์เลย (พูดภาษาชาวบ้านคือมองหน้าแล้วไม่มีอารมณ์อ่ะ) เราก็เริ่มเฉยๆ กับเขา ตามความรู้สึก โทรมาก็ไม่อยากคุยด้วย ชอบโทรมาอ้อน มางอแง ตามนิสัยอยากอ้อนแฟนอ่ะแหละ จนวันนึงเขาก็ระเบิด เริ่มบ่นเราว่า เป็นแฟนกันทำไมไม่ใส่ใจกันเลย ใส่ใจกันสักนิดสิ มันไม่ได้ยากหรอก แค่ใส่ใจ ไม่ได้ต้องการอะไรมากเลย เราไม่ได้เถียงอะไรนะ แล้วเราก็เริ่มเก็บมาคิด
ทำไมเราไม่ใส่ใจเขาวะ หรือว่า "เราไม่ได้รักเขาวะ" นั่นแหละคือปัญหาของการคิดว่าคบกับคนที่เขา "รักเราดีกว่า" แต่ทุกสิ่งที่เขาทำให้ ทำไมเขาเป็นคนดีจังวะ แต่ทำไมเรารู้สึกไม่รักเขา มันแฟร์กับเขาหรอ สิ่งที่เขาทำให้มันเยอะมาก ไม่รู้จะหาใครรักและทำเพื่อเราขนาดนี้ได้อีกไหม แต่เราจะอยู่กับเขาได้จริงๆ หรอวะ สภาพแบบนั้น ตัดเรื่องเที่ยว ตัดเรื่องเพื่อน มองที่การใช้ชีวิต อยู่ด้วยกัน ทำงาน นอนด้วยกัน มันจะโอเคไหมนะ มันไม่มีอะไรถูกใจไปหมดทุกอย่างหรอก
ทำไมเรารู้สึกว่าตัวเองแย่ขนาดนี้ สรุปเรารักเขาไหม "รักคนที่เขารักเราดีกว่า" มันจะดีจริงหรอ พยายามรักในสิ่งที่เขาทำให้ แต่ถ้าสุดท้ายไม่ได้รักเขา มันจะแฟร์กับเขาหรอวะ คิดแล้วมันก็รู่สึกแย่ รู้สึกเห็นแก่ตัว รู้สึกเป็นคนไม่ดี เคยนึกอยากจะเลิกหลายครั้ง แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ ให้คำตอบตัวเองไม่ได้ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เเต่ถ้าเลิกกัน ก็คิดว่าต้องเป็นการกระทำที่โง่มากแน่ๆ
ถ้าใครเคยมีประสบการณ์แบบนี้ ช่วยแชร์ให้กันหน่อยนะคะ อยากฟังเหตุผลจากหลายๆ คน บางปัญหา คนที่อยู่นอกปัญหา น่าจะมีมุมมองที่กว้างมากกว่า คนที่ประสบอยู่ ตอนนี้สมองตื้อไปหมดเเล้วค่ะ เราเองก็คิดว่าเรายังเด็กสำหรับเรื่องพวกนี้มาก หากเทียบกับหลายๆ คนที่ผ่านทุกอย่างด้วยกันมา ช่วยแนะนำทีนะคะ