คุณเชื่อในรักแรกพบไหม คุณเชื่อในสิ่งที่ทำให้คุณตกหลุมรักได้ภายในแค่วินาทีเดียวไหม คุณเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้สามารถทำให้คุณ ใช้ชีวิต และแก่เฒ่าไปกับเขา คุณเชื่อไหม ผมเชื่อ เพราะผมพึ่งเจอกับตัวเอง เมื่อเร็วๆนี้ มันเป็นความรู้สึกที่ เราต้องการเค้าให้มาอยู่เคียงข้างเราเราต้องการจะแก่เฒ่าไปกับเขา พร้อมที่จะดูแลเขาให้ความรู้สึกกับเขารักเขา ต่อให้เป็นรักข้างเดียวเราก็พร้อมที่จะอยู่ดูแลเขาห่างห่าง
ในวันพฤหัสที่ 9 กุมภาพันธ์ 2017 ผมได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ในยิม แห่งหนึ่งในหมู่บ้านแถวรามคำแหง ... มันเป็นความรู้สึกที่ แอบเห็นรอยยิ้มเขา แล้วเรามือไม้อ่อนไปหมด จนปล่อยโทรศัพท์ลงพื้นโดยไม่รู้ตัว ดีนะที่เป็นพื้นยาง เราบอกกับตัวเองว่าคนนี้แหละ คนนี้เลย และต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ที่เราอยากจะใช้ชีวิตด้วย แต่เราก็ไม่รู้หรอก ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม มันเป็นแค่ความรู้สึกฝ่ายเดียว เพราะเรายังไม่รู้จักเขาเลย เรายังไม่รู้ว่าเขามีความสำคัญอยู่หรือเปล่า เขาแต่งงานหรือยัง หรือเขาคุยกับใครอยู่หรือเปล่า แต่สิ่งที่แน่นอนคือคนนี้ เราอยากจะแก่ไปกับเขา ณเวลานั้น ผมเองก็มีคนที่คบอยู่ด้วย แต่ผม ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรทั้งสิ้น เนื่องจาก เราก็ไม่อยากทำผิด ตัวผมเองก็ไม่ใช่คนที่หน้าตาดีอะไรเลย แถมยังอ้วนอีกต่างหาก ผมได้แอบมองเขาอีก 2 3 ครั้ง ในวันที่ได้เจอ และมาถึงวันนึงผมได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปคุยกับเค้า ในใจตอนนั้นคิดว่า เป็นไงเป็นกัน ถ้าเราไม่คุยกับเขา เราก็ไม่มีทางได้รู้จักเขาหรอกจริงไหม วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ตอนที่เราเดินเข้าไปคุยกับเขา เขายิ้มให้เรา ณจุดนั้น เกิด dead air ประมาณ 5 วินาที เพราะผมเสียงไม่ออกมาเลย แต่ในที่สุดก็ได้คุยกันและก็ได้ ติดต่อกันทาง facebook
ในช่วงแรกแรกผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรเหมือนกัน ก็ทักทายตามภาษา สบายดีไหม ทานข้าวหรือยัง หลับฝันดีนะ แค่นี้จริงๆ เพราะไม่กล้าคุยอะไรมากไปกว่านี้กลัวเค้ารำคาญ และอย่างที่บอกนะตอนนั้นผมก็มีคนที่คบอยู่ ผมเลย คุยแบบภาษาเพื่อนมิตรภาพ แต่หลังจากนั้นอีกไม่นาน ความสัมพันธ์ของผมกับคนที่ผมคบอยู่ ก็จบลง ผมก็ เคว้งไปสักพักนึงนะ เนื่องจากเราคบกันมานานมาก แต่ชีวิตมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ไลฟ์สไตล์ล ความคิด การใช้ชีวิต มันเริ่มไม่เหมือนเดิมมาและ มีปัญหามา นานแล้ว แต่เพราะความผูกพันเลยยังคงทนกันอยู่
หลังจากที่ผมเลิกกับแฟนเก่าผม มาได้ประมาณเกือบเดือนกว่าๆ พอดีมันจะมีงานปาร์ตี้ ที่จะจัดในบ้านของเจ้าของยิม ผมดีใจมาก ที่ได้รู้ว่าเขาก็จะไปด้วย และเขาก็ไปจริงๆ แต่ก่อนปาร์ตี้จะเลิก เขาตัดสินใจไปตรอกข้าวสารกับเพื่อน ซึ่งโดยปกติส่วนตัวของผมผมเป็นคนไม่ค่อยเที่ยว ผมก็เลยคิดว่าเอาวะ ไปก็ไป... (เดี๋ยวมาต่อนะครับ)
รักแรกพบมีจริงใช่มั้ย?
ในวันพฤหัสที่ 9 กุมภาพันธ์ 2017 ผมได้ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง ในยิม แห่งหนึ่งในหมู่บ้านแถวรามคำแหง ... มันเป็นความรู้สึกที่ แอบเห็นรอยยิ้มเขา แล้วเรามือไม้อ่อนไปหมด จนปล่อยโทรศัพท์ลงพื้นโดยไม่รู้ตัว ดีนะที่เป็นพื้นยาง เราบอกกับตัวเองว่าคนนี้แหละ คนนี้เลย และต้องเป็นคนนี้เท่านั้น ที่เราอยากจะใช้ชีวิตด้วย แต่เราก็ไม่รู้หรอก ว่ามันจะเป็นไปได้ไหม มันเป็นแค่ความรู้สึกฝ่ายเดียว เพราะเรายังไม่รู้จักเขาเลย เรายังไม่รู้ว่าเขามีความสำคัญอยู่หรือเปล่า เขาแต่งงานหรือยัง หรือเขาคุยกับใครอยู่หรือเปล่า แต่สิ่งที่แน่นอนคือคนนี้ เราอยากจะแก่ไปกับเขา ณเวลานั้น ผมเองก็มีคนที่คบอยู่ด้วย แต่ผม ก็ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรทั้งสิ้น เนื่องจาก เราก็ไม่อยากทำผิด ตัวผมเองก็ไม่ใช่คนที่หน้าตาดีอะไรเลย แถมยังอ้วนอีกต่างหาก ผมได้แอบมองเขาอีก 2 3 ครั้ง ในวันที่ได้เจอ และมาถึงวันนึงผมได้ตัดสินใจที่จะเข้าไปคุยกับเค้า ในใจตอนนั้นคิดว่า เป็นไงเป็นกัน ถ้าเราไม่คุยกับเขา เราก็ไม่มีทางได้รู้จักเขาหรอกจริงไหม วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ ตอนที่เราเดินเข้าไปคุยกับเขา เขายิ้มให้เรา ณจุดนั้น เกิด dead air ประมาณ 5 วินาที เพราะผมเสียงไม่ออกมาเลย แต่ในที่สุดก็ได้คุยกันและก็ได้ ติดต่อกันทาง facebook
ในช่วงแรกแรกผมก็ไม่รู้จะคุยอะไรเหมือนกัน ก็ทักทายตามภาษา สบายดีไหม ทานข้าวหรือยัง หลับฝันดีนะ แค่นี้จริงๆ เพราะไม่กล้าคุยอะไรมากไปกว่านี้กลัวเค้ารำคาญ และอย่างที่บอกนะตอนนั้นผมก็มีคนที่คบอยู่ ผมเลย คุยแบบภาษาเพื่อนมิตรภาพ แต่หลังจากนั้นอีกไม่นาน ความสัมพันธ์ของผมกับคนที่ผมคบอยู่ ก็จบลง ผมก็ เคว้งไปสักพักนึงนะ เนื่องจากเราคบกันมานานมาก แต่ชีวิตมันไปด้วยกันไม่ได้จริงๆ ไลฟ์สไตล์ล ความคิด การใช้ชีวิต มันเริ่มไม่เหมือนเดิมมาและ มีปัญหามา นานแล้ว แต่เพราะความผูกพันเลยยังคงทนกันอยู่
หลังจากที่ผมเลิกกับแฟนเก่าผม มาได้ประมาณเกือบเดือนกว่าๆ พอดีมันจะมีงานปาร์ตี้ ที่จะจัดในบ้านของเจ้าของยิม ผมดีใจมาก ที่ได้รู้ว่าเขาก็จะไปด้วย และเขาก็ไปจริงๆ แต่ก่อนปาร์ตี้จะเลิก เขาตัดสินใจไปตรอกข้าวสารกับเพื่อน ซึ่งโดยปกติส่วนตัวของผมผมเป็นคนไม่ค่อยเที่ยว ผมก็เลยคิดว่าเอาวะ ไปก็ไป... (เดี๋ยวมาต่อนะครับ)