Russia in Winter ไปเที่ยวรัสเซียหน้าหนาว แบบหิมะสีขาวๆกัน Part1 Moscow
https://ppantip.com/topic/37503071
Russia in Winter ไปเที่ยวรัสเซียหน้าหนาว แบบหิมะสีขาวๆกัน Part3. Saint Petersburg
https://ppantip.com/topic/38195338
หลังจากผ่านความหนาวที่มอสโกวไปแล้วเราจะเริ่มเข้าสู่ความเย็นสเตปถัดไป
เราต่อเครื่อง Domestic Flight จากมอสโกวมาเมืองมรูมรังสค์ ด้วยสายการบิน Aeroflot
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง บินไฟล์ทดึกมาถึงมรูมรังสค์ตอนตีหนึ่ง หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง
คอยแต่จะถ่างตามองแสงเหนือบนท้องฟ้าจากหน้าต่างเครื่องบิน และแล้วเราก็โชคดี มองเห็นแสงสีขาวจางๆเต้นไปมา
ไหนๆเอามือถือออกมาถ่ายดูสิ โป๊ะเชะ ใช่จริงด้วย แม้จะเป็นแสงบางๆไม่แรง แต่ก็ทำให้คนที่เดินทางมาไกลแบบเรา
ตื่นเต้นดีใจได้มากพอดู ดูสิแสงจ้างจาง เราก็ตื่นเต้นละ
มรูมรังสค์ เป็นเมืองพอร์ต อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ตั้งอยู่บนเนินเขาสองแห่งและริมฝั่งของอ่าวฟยอร์ด
ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของอ่าว Kola ห่างจากทะเลเปิด (Barents Sea) ราวๆ 50 กม. เมืองนี้ห่างจากชายแดนนอร์เวย์
ไปทางตะวันออกประมาณ 67 ไมล์ (108 กม.) และห่างจากชายแดนฟินแลนด์ 113 ไมล์ (182 กม.)
ตั้งอยู่ประมาณ 1,850 กม. ทางทิศเหนือของมอสโกและ 1,330 กม. ทางทิศเหนือของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
วันที่มาถึงมรูมรังสค์ เมืองนี้ต้อนรับเราสองคนด้วยอากาศเย็นๆแบบติดลบ 20 องศาเซลเซียส 555
ตอนลากกระเป๋าเดินทางใบโตๆไปบนลานจอดรถที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนี่มันหนาววววว และลื่นสุดๆ
เรามีเวลาที่มรูมรังสค์ สามวันครึ่งกับอีกสามคืน การวางแผนเที่ยวที่นี่และการเดินทางไปล่าแสงเหนือ
เราติดต่อ local ไกด์ไว้ล่วงหน้า ด้วยการหาข้อมูลจากรีวิวของเพื่อนๆทั้งในพันทิปและในเพจตามล่าแสงเหนือ
จากนั้นก็ inbox facebook ไปถามราคา รายละเอียดโปรแกรมเที่ยวในแต่ละวันมาเทียบกัน
เราเลือกแพคเกจเที่ยวแบบเดย์ทัวร์ 2 วัน + ออกล่าแสงเหนือ 2 คืน และ add-on ล่าแสงเหนือเพิ่มอีก 1 คืน
มาถึงสนามบินเราก็ยังงงๆมึนๆว่าไกด์จะมารอรับเราป่าวว้า ชั้นคงไม่โดนเทใช่มั้ย ลากกระเป๋าทุลักทุเลออกมา
เดินผ่านส่วนที่มีคนมานั่งรอรับเราก็ไม่ได้มองหน้าใครหรอก จนเกือบจะพ้นออกไปละ อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงลุกพรึ่บ
เข้ามาทักเรา คุณไกด์ของเรานี่เอง จำเราได้ด้วยเก่งจริง รอดละชั้นไม่โดนเท 555 เค้ามาช่วยเราลากกระเป๋าไปขึ้นรถด้านนอก
แค่เปิดประตูอาคารสนามบินออกไป ลมหนาวที่เข้ามาปะทะบวกกับเป็นเวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ มันเย็นม้ากกกก
หน้าชามือชา พื้นก็ลื่น มอสโกวที่ว่าหนาวนี่เด็กๆไปเลย ตลอดทางจากสนามบินเข้าเมืองไกด์ก็ชวนคุยชี้ให้ดูนั่นดูนี่
มีแสงเหนือมาทักทายเราอยู่เป็นระยะๆ มองเห็นจากในรถ แต่ตอนนั้นไม่ได้จอดถ่ายรูปหรอก ง่วงอยากกลับโรงแรมเต็มที
ถ้ารู้ว่ามันไม่ได้มีให้เห็นง่ายๆ คงขอไกด์จอดถ่ายรูปไว้ก่อนละ 555 ไกด์พาเราไปส่งที่โรงแรม จ่ายเงินค่าทัวร์ทั้งหมดแล้วนัดเวลากัน
*วันเที่ยวเราขอนับต่อจากกระทู้ Part.1 นะคะ
https://ppantip.com/topic/37503071
Day4 เป็นวันแรกที่มรูมรังสค์ วันนี้เราอิสระไม่มีโปรแกรมกับไกด์ ก็เลยไปเดินเล่นชมเมืองมรูมรังสค์
แล้วก็ช้อปปิ้งอุปกรณ์กันหนาวเพิ่ม เพราะถุงมือกับหมวกเราเอาไม่อยู่ เรามีนัดกับไกด์ตอนสามทุ่ม เพื่อไปล่าแสงเหนือคืนแรก
หลังจากหลับไปเกือบค่อนวัน ลงมากินข้าวเช้าที่โรงแรมแล้วออกไปตะลุยเมือง หน้าโรงแรมมีลานกิจกรรมกว้างๆ
มีทั้งสไลเดอร์ รถบังคับ พ่อแม่พาเด็กๆมาเล่น น่าสนุกดี เด็กน้อยๆนี่แก้มแดงหน้าใสกันทุกคน น่ารักมาก
ข้ามถนนไปดูของที่ห้างเล็กๆตรงข้ามโรงแรม Azimut ที่มีร้าน MacDonald ที่นี่มีอุปกรณ์กันหนาวราคาเป็นมิตร คุณภาพดีเยอะอยู่
แล้วก็เดินต่อดูบรรยากาศบ้านเมืองไปจนถึงห้างใหญ่ของมรูมรังสค์ Murmansk Mall เราได้ทั้งหมวกและถุงมือสกีลดราคาจากที่นี่
เดินกลับมาแวะกินข้าวเย็น มาที่นี่ทั้งที จะพลาดขาปูได้ยังได้เนอะ โชคดีของเราอีก
เพราะขาปูเหลือครึ่งกิโลสุดท้าย เกือบพลาดแล้วมั้ยล่ะ จัดตั้งแต่วันแรกเลยจ้า กันเหนียว
ตอนกลางคืนตรงลานกิจกรรมเปิดไฟสวยดี
สามทุ่มก็ออกล่าแสงเหนือ คืนแรกนี้ไกด์ไม่ได้เอารถ mini van ของเค้ามารับแต่เป็นรถตู้คันใหญ่กว่าเดิม
ด้านในมีลูกทัวร์ชาวไทยน่าจะสิบกว่าคนไปด้วยกัน มีคนขับรถ 1 คน ขับออกนอกเมืองไปถนนมืดๆคล้ายๆถนนเลี่ยงเมือง
แล้วจอดแวะตรงที่โล่งๆ ลงไปด้อมๆมองๆว่ามีแสงเหนือมั้ย คว้ากล้องลงไปเช็คบ้าง ถ้าไม่เจอก็จะไปต่อ ทำแบบนี้ตลอดคืน
จอดรอบ้างสลับกัน เราก็หลับๆตื่นๆไปตลอดทาง จนเกือบๆเที่ยงคืน ก็พากลับโรงแรม ไกด์บอกคืนนี้เมฆเยอะ ท้องฟ้าไม่เป็นใจ
เราเช็คค่า Kp Index ก็ต่ำแค่ 1.6 แต่อีกสองคืนที่เหลือ ค่า Kp ก็ 1 กว่านะยะ จะได้เห็นมั้ยเนี่ย ไกด์อธิบายว่าอย่ากังวลกับค่า Kp
มันเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งไว้คาดการณ์ แต่อีกสิ่งที่สำคัญในการล่าแสงเหนือก็คือ สภาพอากาศ บางทีค่า Kp ต่ำๆ
แต่อากาศปลอดโปร่งฟ้าเคลียร์ เราก็เห็นได้ เอาวุ้ย คืนแรก fail ไปละ ไม่เป็นไรเหลืออีกสองคืนเนอะ ยังใจชื้นสบายๆ
ค่า Kp index เป็นตัววัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก โดยวัดจากลักษณะการสั่นสะเทือน
ของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งดีดกลับในด้านกลางคืนของโลก หลังโดนพายุสุริยะที่วิ่งมาจากการระเบิด
ของพื้นผิวดวงอาทิตย์ พอโดนจะยืดยาวออกและดีดกลับ จังหวะที่ดีดกลับจะเกิดแรงสะเทือน
เราเอาหลักการนี้มาทำนายการเกิดแสงเหนือโดยตีออกมาเป็นสเกลตั้งแต่ 0-9 (0 คือ ไม่มี,9 คือ สั่นสะเทือนสูงสุด)
วิธีการดู
ถ้า 0-1 คือ หมดลุ้น เตรียมนอนเอาแรงได้ โอกาสไม่เห็นสูงมาก
ถ้า 1-2 คือ พอลุ้น 50-50 โอกาสเห็นได้ เท่ากับ โอกาสไม่ได้เห็น
ถ้า >2 คือ เตรียมไม่ได้นอนได้เลยคืนนั้น ระเบิดออโรร่าเต็มท้องฟ้าแน่ๆ
(ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ หมอๆตะลุยโลก ด้วยค่ะ)
Day5 วันเดย์ทริปไป Husky farm, Sami Village และออกล่าแสงเหนือคืนที่ 2
วันนี้ไกด์พาเราเที่ยวด้วยรถ mini van พร้อมกับลูกทัวร์คนไทยอีกสองคน รวมทั้งหมดสี่คน ชอบบบ คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวายดี
ไปเล่นกับน้องหมาฮัสกี้ที่ Husky farm เป็นที่แรก นั่งรถออกจากตัวเมืองไปประมาณครึ่งชั่วโมง ที่ฟาร์มเค้าเล่าเรื่องสตอรี่ของหมาบางตัว
เช่นได้มาเป็นของขวัญ อธิบายการใช้เลื่อน การขับและบังคับเลื่อน พาไปดูน้องหมาและปล่อยให้เราได้เล่นและชมน้องหมา
น้องหมาที่นี่พลังเยอะสุด เห่าร้องเรียกกันลั่นทุ่งตั้งแต่รถจอด alert เบอร์แรง 555 ทั้งปีนป่าย ตะกายตามตัว นี่ถ้าเค้าปล่อยเชือก
พวกนางคงฟัดเราจมกองหิมะแน่แท้ แต่ละตัวจะมีบ้านหลังน้อยๆของตัวเอง อยู่กลางหิมะ มันโอเคนะ ดูปกติสบายๆ
มันไม่ได้หนาวแบบเราเล้ยย 555
เค้าปล่อยให้เราเล่นกับน้องหมาสักพักก็พาเข้าบ้านหลังใหญ่ ด้านในมีน้ำชาร้อนๆ ขนมปัง คุ้กกี้
กินไปดูวิดีโอเกี่ยวกับน้องหมาไป อุ่นสบายยย ราวๆครึ่งชั่วโมง ก็กลับออกมาพาไปนั่งเลื่อนให้น้องหมาลาก
ตอนแรกนึกว่านั่งไกล ที่ไหนได้นั่งวนรอบสนามเล็กๆ แต่ก็ดีแล้วแหละ เดี๋ยวน้องหมาจะเหนื่อย เอาแค่ได้ลองนั่งก็โอเคละ
[CR] Russia in Winter ไปเที่ยวรัสเซียหน้าหนาว แบบหิมะสีขาวๆกัน Part2. ล่าแสงเหนือ - Murmansk
Russia in Winter ไปเที่ยวรัสเซียหน้าหนาว แบบหิมะสีขาวๆกัน Part1 Moscow
https://ppantip.com/topic/37503071
Russia in Winter ไปเที่ยวรัสเซียหน้าหนาว แบบหิมะสีขาวๆกัน Part3. Saint Petersburg
https://ppantip.com/topic/38195338
หลังจากผ่านความหนาวที่มอสโกวไปแล้วเราจะเริ่มเข้าสู่ความเย็นสเตปถัดไป
เราต่อเครื่อง Domestic Flight จากมอสโกวมาเมืองมรูมรังสค์ ด้วยสายการบิน Aeroflot
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2.5 ชั่วโมง บินไฟล์ทดึกมาถึงมรูมรังสค์ตอนตีหนึ่ง หลับๆตื่นๆมาตลอดทาง
คอยแต่จะถ่างตามองแสงเหนือบนท้องฟ้าจากหน้าต่างเครื่องบิน และแล้วเราก็โชคดี มองเห็นแสงสีขาวจางๆเต้นไปมา
ไหนๆเอามือถือออกมาถ่ายดูสิ โป๊ะเชะ ใช่จริงด้วย แม้จะเป็นแสงบางๆไม่แรง แต่ก็ทำให้คนที่เดินทางมาไกลแบบเรา
ตื่นเต้นดีใจได้มากพอดู ดูสิแสงจ้างจาง เราก็ตื่นเต้นละ
มรูมรังสค์ เป็นเมืองพอร์ต อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัสเซีย ตั้งอยู่บนเนินเขาสองแห่งและริมฝั่งของอ่าวฟยอร์ด
ตามแนวชายฝั่งตะวันออกของอ่าว Kola ห่างจากทะเลเปิด (Barents Sea) ราวๆ 50 กม. เมืองนี้ห่างจากชายแดนนอร์เวย์
ไปทางตะวันออกประมาณ 67 ไมล์ (108 กม.) และห่างจากชายแดนฟินแลนด์ 113 ไมล์ (182 กม.)
ตั้งอยู่ประมาณ 1,850 กม. ทางทิศเหนือของมอสโกและ 1,330 กม. ทางทิศเหนือของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
วันที่มาถึงมรูมรังสค์ เมืองนี้ต้อนรับเราสองคนด้วยอากาศเย็นๆแบบติดลบ 20 องศาเซลเซียส 555
ตอนลากกระเป๋าเดินทางใบโตๆไปบนลานจอดรถที่ปกคลุมไปด้วยหิมะนี่มันหนาววววว และลื่นสุดๆ
เรามีเวลาที่มรูมรังสค์ สามวันครึ่งกับอีกสามคืน การวางแผนเที่ยวที่นี่และการเดินทางไปล่าแสงเหนือ
เราติดต่อ local ไกด์ไว้ล่วงหน้า ด้วยการหาข้อมูลจากรีวิวของเพื่อนๆทั้งในพันทิปและในเพจตามล่าแสงเหนือ
จากนั้นก็ inbox facebook ไปถามราคา รายละเอียดโปรแกรมเที่ยวในแต่ละวันมาเทียบกัน
เราเลือกแพคเกจเที่ยวแบบเดย์ทัวร์ 2 วัน + ออกล่าแสงเหนือ 2 คืน และ add-on ล่าแสงเหนือเพิ่มอีก 1 คืน
มาถึงสนามบินเราก็ยังงงๆมึนๆว่าไกด์จะมารอรับเราป่าวว้า ชั้นคงไม่โดนเทใช่มั้ย ลากกระเป๋าทุลักทุเลออกมา
เดินผ่านส่วนที่มีคนมานั่งรอรับเราก็ไม่ได้มองหน้าใครหรอก จนเกือบจะพ้นออกไปละ อยู่ๆก็มีผู้ชายคนนึงลุกพรึ่บ
เข้ามาทักเรา คุณไกด์ของเรานี่เอง จำเราได้ด้วยเก่งจริง รอดละชั้นไม่โดนเท 555 เค้ามาช่วยเราลากกระเป๋าไปขึ้นรถด้านนอก
แค่เปิดประตูอาคารสนามบินออกไป ลมหนาวที่เข้ามาปะทะบวกกับเป็นเวลาประมาณตีหนึ่งกว่าๆ มันเย็นม้ากกกก
หน้าชามือชา พื้นก็ลื่น มอสโกวที่ว่าหนาวนี่เด็กๆไปเลย ตลอดทางจากสนามบินเข้าเมืองไกด์ก็ชวนคุยชี้ให้ดูนั่นดูนี่
มีแสงเหนือมาทักทายเราอยู่เป็นระยะๆ มองเห็นจากในรถ แต่ตอนนั้นไม่ได้จอดถ่ายรูปหรอก ง่วงอยากกลับโรงแรมเต็มที
ถ้ารู้ว่ามันไม่ได้มีให้เห็นง่ายๆ คงขอไกด์จอดถ่ายรูปไว้ก่อนละ 555 ไกด์พาเราไปส่งที่โรงแรม จ่ายเงินค่าทัวร์ทั้งหมดแล้วนัดเวลากัน
*วันเที่ยวเราขอนับต่อจากกระทู้ Part.1 นะคะ
https://ppantip.com/topic/37503071
Day4 เป็นวันแรกที่มรูมรังสค์ วันนี้เราอิสระไม่มีโปรแกรมกับไกด์ ก็เลยไปเดินเล่นชมเมืองมรูมรังสค์
แล้วก็ช้อปปิ้งอุปกรณ์กันหนาวเพิ่ม เพราะถุงมือกับหมวกเราเอาไม่อยู่ เรามีนัดกับไกด์ตอนสามทุ่ม เพื่อไปล่าแสงเหนือคืนแรก
หลังจากหลับไปเกือบค่อนวัน ลงมากินข้าวเช้าที่โรงแรมแล้วออกไปตะลุยเมือง หน้าโรงแรมมีลานกิจกรรมกว้างๆ
มีทั้งสไลเดอร์ รถบังคับ พ่อแม่พาเด็กๆมาเล่น น่าสนุกดี เด็กน้อยๆนี่แก้มแดงหน้าใสกันทุกคน น่ารักมาก
ข้ามถนนไปดูของที่ห้างเล็กๆตรงข้ามโรงแรม Azimut ที่มีร้าน MacDonald ที่นี่มีอุปกรณ์กันหนาวราคาเป็นมิตร คุณภาพดีเยอะอยู่
แล้วก็เดินต่อดูบรรยากาศบ้านเมืองไปจนถึงห้างใหญ่ของมรูมรังสค์ Murmansk Mall เราได้ทั้งหมวกและถุงมือสกีลดราคาจากที่นี่
เดินกลับมาแวะกินข้าวเย็น มาที่นี่ทั้งที จะพลาดขาปูได้ยังได้เนอะ โชคดีของเราอีก
เพราะขาปูเหลือครึ่งกิโลสุดท้าย เกือบพลาดแล้วมั้ยล่ะ จัดตั้งแต่วันแรกเลยจ้า กันเหนียว
ตอนกลางคืนตรงลานกิจกรรมเปิดไฟสวยดี
สามทุ่มก็ออกล่าแสงเหนือ คืนแรกนี้ไกด์ไม่ได้เอารถ mini van ของเค้ามารับแต่เป็นรถตู้คันใหญ่กว่าเดิม
ด้านในมีลูกทัวร์ชาวไทยน่าจะสิบกว่าคนไปด้วยกัน มีคนขับรถ 1 คน ขับออกนอกเมืองไปถนนมืดๆคล้ายๆถนนเลี่ยงเมือง
แล้วจอดแวะตรงที่โล่งๆ ลงไปด้อมๆมองๆว่ามีแสงเหนือมั้ย คว้ากล้องลงไปเช็คบ้าง ถ้าไม่เจอก็จะไปต่อ ทำแบบนี้ตลอดคืน
จอดรอบ้างสลับกัน เราก็หลับๆตื่นๆไปตลอดทาง จนเกือบๆเที่ยงคืน ก็พากลับโรงแรม ไกด์บอกคืนนี้เมฆเยอะ ท้องฟ้าไม่เป็นใจ
เราเช็คค่า Kp Index ก็ต่ำแค่ 1.6 แต่อีกสองคืนที่เหลือ ค่า Kp ก็ 1 กว่านะยะ จะได้เห็นมั้ยเนี่ย ไกด์อธิบายว่าอย่ากังวลกับค่า Kp
มันเป็นแค่ปัจจัยหนึ่งไว้คาดการณ์ แต่อีกสิ่งที่สำคัญในการล่าแสงเหนือก็คือ สภาพอากาศ บางทีค่า Kp ต่ำๆ
แต่อากาศปลอดโปร่งฟ้าเคลียร์ เราก็เห็นได้ เอาวุ้ย คืนแรก fail ไปละ ไม่เป็นไรเหลืออีกสองคืนเนอะ ยังใจชื้นสบายๆ
ค่า Kp index เป็นตัววัดการสั่นสะเทือนของสนามแม่เหล็กโลก โดยวัดจากลักษณะการสั่นสะเทือน
ของสนามแม่เหล็กโลกซึ่งดีดกลับในด้านกลางคืนของโลก หลังโดนพายุสุริยะที่วิ่งมาจากการระเบิด
ของพื้นผิวดวงอาทิตย์ พอโดนจะยืดยาวออกและดีดกลับ จังหวะที่ดีดกลับจะเกิดแรงสะเทือน
เราเอาหลักการนี้มาทำนายการเกิดแสงเหนือโดยตีออกมาเป็นสเกลตั้งแต่ 0-9 (0 คือ ไม่มี,9 คือ สั่นสะเทือนสูงสุด)
วิธีการดู
ถ้า 0-1 คือ หมดลุ้น เตรียมนอนเอาแรงได้ โอกาสไม่เห็นสูงมาก
ถ้า 1-2 คือ พอลุ้น 50-50 โอกาสเห็นได้ เท่ากับ โอกาสไม่ได้เห็น
ถ้า >2 คือ เตรียมไม่ได้นอนได้เลยคืนนั้น ระเบิดออโรร่าเต็มท้องฟ้าแน่ๆ
(ขอบคุณข้อมูลดีๆจากเพจ หมอๆตะลุยโลก ด้วยค่ะ)
Day5 วันเดย์ทริปไป Husky farm, Sami Village และออกล่าแสงเหนือคืนที่ 2
วันนี้ไกด์พาเราเที่ยวด้วยรถ mini van พร้อมกับลูกทัวร์คนไทยอีกสองคน รวมทั้งหมดสี่คน ชอบบบ คนไม่เยอะ ไม่วุ่นวายดี
ไปเล่นกับน้องหมาฮัสกี้ที่ Husky farm เป็นที่แรก นั่งรถออกจากตัวเมืองไปประมาณครึ่งชั่วโมง ที่ฟาร์มเค้าเล่าเรื่องสตอรี่ของหมาบางตัว
เช่นได้มาเป็นของขวัญ อธิบายการใช้เลื่อน การขับและบังคับเลื่อน พาไปดูน้องหมาและปล่อยให้เราได้เล่นและชมน้องหมา
น้องหมาที่นี่พลังเยอะสุด เห่าร้องเรียกกันลั่นทุ่งตั้งแต่รถจอด alert เบอร์แรง 555 ทั้งปีนป่าย ตะกายตามตัว นี่ถ้าเค้าปล่อยเชือก
พวกนางคงฟัดเราจมกองหิมะแน่แท้ แต่ละตัวจะมีบ้านหลังน้อยๆของตัวเอง อยู่กลางหิมะ มันโอเคนะ ดูปกติสบายๆ
มันไม่ได้หนาวแบบเราเล้ยย 555
เค้าปล่อยให้เราเล่นกับน้องหมาสักพักก็พาเข้าบ้านหลังใหญ่ ด้านในมีน้ำชาร้อนๆ ขนมปัง คุ้กกี้
กินไปดูวิดีโอเกี่ยวกับน้องหมาไป อุ่นสบายยย ราวๆครึ่งชั่วโมง ก็กลับออกมาพาไปนั่งเลื่อนให้น้องหมาลาก
ตอนแรกนึกว่านั่งไกล ที่ไหนได้นั่งวนรอบสนามเล็กๆ แต่ก็ดีแล้วแหละ เดี๋ยวน้องหมาจะเหนื่อย เอาแค่ได้ลองนั่งก็โอเคละ