ย่างเข้าหน้าร้อนแบบนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงมีแพลนที่จะเดินทางไปเที่ยวทะเล ใส่บิกินี่ชิกๆเดินถ่ายรูปสวยๆอยู่ ริมหาดกันอย่างแน่นอน
แต่ ! รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่จะลงไปเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด ในตัวเมืองตราดยังมีร้านอาหารอร่อยๆอีกมากมาย ที่นักท่องเที่ยวไม่รู้จัก
วันนี้สาวตราดอย่างพัชขออาสาฝ่าอากาศร้อนออกไปทดสอบประสิทธิภาพของ นีเวีย ไวท์ พาวเดอร์ สเปรย์ ที่ แห้งนานและระงับกลิ่นกายได้นานถึง 48 ชั่วโมง กับ 8 ร้านเด็ดเมืองตราดกัน ดูสิว่าจะเอาอยู่หรือไม่ เมื่อเจอ ความร้อนแบบนี้
ร้านที่ 1 หมูสะเต๊ะ ครัวริมน้ำ
ร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 20 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อน
แต่ตอนนี้เปิดขายหมูสะเต๊ะอยู่ที่หน้าโรงเรียนดนตรี (ตรง4 แยกโรงเรียนหญิง) (Google Location :
https://goo.gl/maps/UPvdpXA5PYJ2)
หมูสะเต๊ะของทางร้านจะถูกหมักไว้จนเนื้อนุ่ม
และที่สำคัญคือหั่นชิ้นหนากำลังพอดี
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:30-17:00 และหยุดทุกวันอาทิตย์
แต่ถ้าวันไหนหมักหมูไม่ทันก็ไม่ขายนะจ๊ะ (แม่ค้าคนสวยกล่าวไว้)
หมูสะเต๊ะของที่ร้านจะต้องหมักไว้อย่างน้อย 2 คืน
เบอร์ติดต่อ 080 742 3929, 062 645 1662
ราคาไม้ละ 5 บาทแต่ได้หมูชิ้นหนามากกกก จะเสิร์ฟพร้อมกับผักและน้ำจิ้มค่ะ ที่พัชชอบมากๆเลยก็คือน้ำจิ้มไม่หวานจนเกินไปและมีรสชาติของถั่วที่ชัดเจน
ร้านที่ 2 กล้วยปิ้ง ป้านา
หนึ่งในร้านตำนานของจังหวัดตราด ที่ไม่ใช่ว่าคุณไปถึงจะซื้อ จ่ายเงิน และกินได้เลย ขึ้นชื่อว่าร้านเด็ด ย่อมมีการรอคิวเป็นธรรมดา คิวของป้านาจะมีตั้งแต่ 15 นาทีขึ้นไปจนถึงเป็นชั่วโมง
ถือว่าเป็นการวัดดวงไปในตัวว่าจะไปเจอคิวแบบไหน 55
(Google Location :
https://goo.gl/maps/PqrqqB4ot5B2)
สเน่ห์ของร้านนี้คือเราสามารถเลือกได้ว่าชอบทานกล้วยแบบไหน นิ่มๆ หรือ แข็งๆ ป้านาก็จัดให้
ป้านาจะใช้ความร้อนจากถ่านซึ่งเป็นไฟอ่อนๆในการปิ้ง ทำให้รักษารสชาติและความหอมของกล้วยไว้ได้เป็น อย่างดี
อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้คนตราดแวะเวียนมาอุดหนุนป้านามาเป็นเวลานานเกือบ 40 ปี คือน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำตาลอ้อย น้ำตาลทราย และน้ำตาลปี๊บเคี่ยวให้เข้ากันและมีความหวานกำลังพอดี เผลอจิ้มไปทีนึงระวังจะหยุดกินไม่ได้นะคะ
หากใครอยากลองแนะนำว่าควรโทรเช็คกับป้านาก่อนว่า ‘วันนี้ป้าขายมั้ย’
เพราะนี่คือบทสนทนาระหว่างพัชกับป้าที่เกิดขึ้น
พัช : ป้าขายมากี่ปีแล้วจ๊ะ
ป้านา : 34 35 ไม่ก็ 36 ปีแหน่ะ
พัช : แล้วป้าขายตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงจ๊ะ
ป้านา : ก็แล้วแต่ว่าจะตื่นเช้า ตื่นสาย บางวันขี้เกียจก็ไม่ขาย
พัช : อ้อ...แล้วป้าหยุดวันไหนบ้างจ๊ะ
ป้านา : มันก็แล้วแต่ วันไหนไม่มีกล้วยก็ไม่ขาย วัตถุดิบไม่มีจะขายได้ยังไงจริงมั้ย
พัช : อ่อ...จริงจ๊ะ
เบอร์โทรป้านาคือ 039 520 990 เชื่อพัชเถอะ โทรเช็คก่อน 55555
คือป้าไม่ได้กวนนะคะ ถามไป ป้าก็ตอบมาหน้ายิ้มๆ เสียงอ่อนๆ เอ๊ะ หรือนี่คือการเชือดนิ่มๆ
กล้วยปิ้งป้าอันละ 5 บาท กล้วยทุกหวีป้าจะเป็นคนเลือกเองกับมือ ใครมาตราดต้องห้ามพลาดร้านในตำนานแห่งนี้จริงๆ
ร้านที่ 3 หมึกย่าง ยายแสง
ร้านระดับตำนานอีก 1 ร้าน ที่ขายมานานกว่า 40 ปี
คุณยายแสงคือผู้เริ่มต้นยุคบุกเบิก ซึ่งตอนนี้คุณป้าลูกสะใภ้มารับช่วงต่อให้แล้ว
(Google location :
https://goo.gl/maps/1jq94KEr37G2)
ปกติร้านจะขายเป็นรถเข็นแผงลอย บริเวณหลังตลาดเทศบาลไม่ไกลจากกล้วยปิ้งป้านามากนัก
ทีเด็ดของร้านนี้คือหมึกและน้ำจิ้ม
หมึกที่ใช้จะเป็นหมึกของจังหวัดตราดเท่านั้น ทำให้เมื่อย่างด้วยไฟสุกกำลังพอดีจะไม่เหนียว เนื้อกรุบๆเด้งๆไม่ยุ่ย ส่วนน้ำจิ้มจะหอมพริกและติดหวาน ตามสไตล์คนตราด (คนตราดกินหวานนะจ๊ะ)
โดยเฉพาะเทคนิคเรียกลูกค้าทำให้ปฏิเสธที่จะไม่กินได้ยากก็คือ การเอาหมึกไปชุบน้ำจิ้มแล้วย่างบนเตาถ่าน น้ำจิ้มที่หยดลงไปกระทบบนผิวของถ่านจะส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว ทำให้หมึกร้านนี้มักจะขายหมดภายใน 2-3 ชั่วโมง (วันไหนพัชทันได้กินจะฟินมาก)
ราคาไม้ละ 15 บาท ส่วนขายกี่โมงก็....
พัช : ป้าคะ เริ่มขายประมาณกี่โมงถึงกี่โมง
ป้า : แล้วแต่ วันไหนทำเสร็จเร็วก็ขายเร็วหน่อย
พัช : แล้วป้าหยุดวันไหนบ้างคะ
ป้า : วันไหนไม่มีหมึกก็ไม่ขาย ก็หมึกไม่มีจะขายได้ไง
พัช : อ๋อ ก็จริงจ๊ะ
บทสนทนาจบลงอย่างเงียบๆ คุณป้าหมึกย่างเองก็ตอบยิ้มๆ เช่นกัน ทำหวนให้นึกถึงป้านาตะหงิดๆแฮะ เบอร์โทรของคุณป้าขายหมึกคือ 084 784 7646 แนะนำว่าสักเที่ยงๆลองโทรไปเช็คดูค่ะ บางที 11 โมงก็ขาย แล้ว บางทีก็บ่ายโมง บ่าย3 แต่ที่แน่ๆคือรู้ว่าขายปุ๊บห้ามอิดออด รีบออกไปซื้อเลย เพราะถ้าเกิน 2-3 ชั่วโมง หมดอดกินแน่นอน (ร้านนี้คนตราดชอบกินมากกก บางคนซื้อที 40-50 ไม้ เรียกได้ว่ากินกันทั้งครอบครัว)
ร้านที่ 4 ข้าวมันไก่กรุง
เมื่อก่อนร้านนี้ขายอยู่ที่ถนนหลักเมือง แต่ได้ย้ายออกมาขายในหมู่บ้านประมวลดีแทน
ขายมาเกือบ 40 ปีแล้วเช่นกัน ร้านนี้สมัยประถมพัชกินก่อนไปโรงเรียนทุกวันค่ะ (Google location :
https://goo.gl/maps/jQejz9QqoCN2)
ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 06:00-18:00 (แต่ถ้าวันไหนขายหมดก่อนช่วง 4-5 โมงก็ปิดแล้ว)
ข้าวมันของที่ร้านจะหอมและนุ่มฟู มีน้ำจิ้มให้เลือกถึง 3 แบบ คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มซีฟู๊ด (จังหวัดตราดเรียก ว่าพริกเกลือ) น้ำจิ้มน้ำปลาพริก
ส่วน option ที่ 4 ที่พัชมีเพิ่มมาก็คือซีอิ๊วหวาน สาเหตุที่กินซีอิ๊วหวานก็เพราะตอนเด็กๆกินเป็นแค่นั้น พอโตมา เลยติดไปแล้วว่าถ้ามาร้านนี้ต้องกินแต่ซีอิ๊วหวาน
เนื้อไก่เราสามารถบอกกับทางร้านได้ค่ะว่าต้องการส่วนไหน
ถ้าหากใครชอบกินตับแนะนำว่าขอตับเพิ่มด้วย เพราะร้านนี้ทำตับออกมาไม่แข็งเลย นุ่มนิ่มกำลังดี
คำนี้คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว
และคำนี้คือน้ำจิ้มเด็กน้อย ซีอิ๊วหวานของข้าพเจ้าเองงง
น้ำซุปของทางร้านจะมีฟักใส่มาถ้วยละ 1 ชิ้น เสิร์ฟมาร้อนๆ ซดง่าย ทำให้กินข้าวแล้วไม่ติดคอ
ร้านที่ 5 เต้าทึงกิ่งเพชร & ปังย่ำใจ
ร้านนี้เมื่อก่อนขายอยู่ในตลาดโต้รุ่งช่วงเย็นค่ะ แต่ช่วงปีหลังๆมานี่ย้ายมาขายในบ้านตัวเองเรียบร้อย ขายตั้งแต่ 15:00-22:00 หยุดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ซอยจะค่อนข้างแคบ แนะนำว่าค่ำๆควรจอดริมถนนใหญ่แล้ว
เดินเข้ามาจะง่ายกว่า
(Google location :
https://goo.gl/maps/WPFKYUGT8H82)
ขอแอบกระซิบว่าดีไซน์การแต่งหน้าขนมปังร้านนี้ ‘ย่ำใจ’ อย่างชื่อร้านจริงๆ !
ชาวตราดจะรู้กันเป็นอย่างดี แต่งานนี้เรามาเพื่อทดสอบประสิทธิภาพสเปรย์ท้าความร้อน เราจะไม่กินเย็นๆ
เลยจัดเต้าทึงร้อนมา โดยที่นั่งมองเจ้าน้องนั่งกินซาหริ่มเย็นๆสบายใจ (อิจฉา)
น้ำเชื่อมของทางร้านจะหอมลำไยและให้เครื่องเยอะมาก มีความหวานแบบกลมกล่อม
จึงเป็นที่นิยมของชาว ตราดทุกช่วงวัย การันตีด้วยชื่อเสียงที่ครองใจคนท้องถิ่นมายาวนานกว่า 40 ปี
ร้านที่ 6 บัวลอย ไข่หวาน
ร้านบัวลอยเป็นอีกหนึ่งร้าน ต้องห้ามพลาด เพราะถึงแม้ว่าจะขายมานานกว่า 30 ปีแต่คนก็ยังรอคิวซื้อกันยาว
เป็นหางว่าวทุกเย็น (ที่ขาย)
ฮั่นแหน่ะ หวั่นใจอีกแล้วใช่มั้ย ถูกต้องแล้วค่าาาาา ร้านนี้เองก็ไม่ได้เปิดทุกวัน ปิดวันอาทิตย์
แต่บางวันไม่ว่างก็ไม่เปิดจ้า (สังเกตุง่ายๆจากป้ายไฟตรงทางเข้า ถ้าวันไหนไม่เปิดไฟแสดงว่าปิด)
หรือให้ชัวร์เลย โทรถามได้ที่เบอร์ 081 492 3204
(Google location :
https://goo.gl/maps/N1gxYWE4FMP2)
ร้านเปิดตั้งแต่ 15:00-21:30 ค่ะ มีโต๊ะให้นั่งทานที่ร้าน แต่บางทีไปอาจต้องรอคิวสักหน่อย
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ชาวต่างจังหวัดจะกลับบ้าน สาวๆหนุ่มๆที่ห่างบ้านไปนานก็จะแวะมาเติมพลังกันที่ร้านนี้กันอย่างไม่ขาดสาย
บัวลอยทุกเม็ดจะใช้สีจากธรรมชาติ เช่น แครอท ฟักทอง ดอกอัญชัญ โดยมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม เนื่องจาก ทางร้านใช้วิธีตัดเอา เพราะปั้นไม่ทันออเดอร์
ทีเด็ดเลยก็คือไข่ไก่ที่สดมาก ซึ่งเจ้าของร้านจะเป็นคนไปเลือกซื้อไข่ไก่เองจากฟาร์ม เพื่อให้มั่นใจว่าได้ไข่ที่สด มาทำเป็นไข่หวานจริงๆ และมะพร้าวที่นำมาทำกะทิและมะพร้าวอ่อนที่ใส่เป็นเครื่องเคียงก็จะเป็นสวนที่ทางร้าน เหมาไว้แล้ว และมีการจดบันทึกไว้เลยว่ามะพร้าวลูกไหนจะเก็บวันที่เท่าไร เพื่อให้ได้มะพร้าวที่ไม่อ่อนและไม่แก่ จนเกินไป เรียกได้ว่าใส่ใจรายละเอียดกันทุกขั้นทุกตอนจริงๆจ้า
เครื่องเคียงที่เราสามารถเลือกใส่ได้จะมี ข้าวโพด เผือก วุ้นอัญชัญ สำหรับบัวลอยไม่ใส่ไข่จะ 25 บาท ถ้าใส่ไข่ด้วยจะ 30 บาทค่ะ
[CR][SR] 8 ร้านเด็ดเมืองตราด ที่ร้อนนี้ต้องห้ามพลาด !
ย่างเข้าหน้าร้อนแบบนี้เชื่อว่าหลายๆคนคงมีแพลนที่จะเดินทางไปเที่ยวทะเล ใส่บิกินี่ชิกๆเดินถ่ายรูปสวยๆอยู่ ริมหาดกันอย่างแน่นอน
แต่ ! รู้หรือไม่ว่า ก่อนที่จะลงไปเกาะช้าง เกาะหมาก เกาะกูด ในตัวเมืองตราดยังมีร้านอาหารอร่อยๆอีกมากมาย ที่นักท่องเที่ยวไม่รู้จัก
วันนี้สาวตราดอย่างพัชขออาสาฝ่าอากาศร้อนออกไปทดสอบประสิทธิภาพของ นีเวีย ไวท์ พาวเดอร์ สเปรย์ ที่ แห้งนานและระงับกลิ่นกายได้นานถึง 48 ชั่วโมง กับ 8 ร้านเด็ดเมืองตราดกัน ดูสิว่าจะเอาอยู่หรือไม่ เมื่อเจอ ความร้อนแบบนี้
ร้านที่ 1 หมูสะเต๊ะ ครัวริมน้ำ
ร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 20 กว่าปีแล้วค่ะ ตั้งอยู่บริเวณริมเขื่อน
แต่ตอนนี้เปิดขายหมูสะเต๊ะอยู่ที่หน้าโรงเรียนดนตรี (ตรง4 แยกโรงเรียนหญิง) (Google Location : https://goo.gl/maps/UPvdpXA5PYJ2)
หมูสะเต๊ะของทางร้านจะถูกหมักไว้จนเนื้อนุ่ม และที่สำคัญคือหั่นชิ้นหนากำลังพอดี
เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10:30-17:00 และหยุดทุกวันอาทิตย์ แต่ถ้าวันไหนหมักหมูไม่ทันก็ไม่ขายนะจ๊ะ (แม่ค้าคนสวยกล่าวไว้)
หมูสะเต๊ะของที่ร้านจะต้องหมักไว้อย่างน้อย 2 คืน
เบอร์ติดต่อ 080 742 3929, 062 645 1662
ราคาไม้ละ 5 บาทแต่ได้หมูชิ้นหนามากกกก จะเสิร์ฟพร้อมกับผักและน้ำจิ้มค่ะ ที่พัชชอบมากๆเลยก็คือน้ำจิ้มไม่หวานจนเกินไปและมีรสชาติของถั่วที่ชัดเจน
ร้านที่ 2 กล้วยปิ้ง ป้านา
หนึ่งในร้านตำนานของจังหวัดตราด ที่ไม่ใช่ว่าคุณไปถึงจะซื้อ จ่ายเงิน และกินได้เลย ขึ้นชื่อว่าร้านเด็ด ย่อมมีการรอคิวเป็นธรรมดา คิวของป้านาจะมีตั้งแต่ 15 นาทีขึ้นไปจนถึงเป็นชั่วโมง ถือว่าเป็นการวัดดวงไปในตัวว่าจะไปเจอคิวแบบไหน 55
(Google Location : https://goo.gl/maps/PqrqqB4ot5B2)
สเน่ห์ของร้านนี้คือเราสามารถเลือกได้ว่าชอบทานกล้วยแบบไหน นิ่มๆ หรือ แข็งๆ ป้านาก็จัดให้ ป้านาจะใช้ความร้อนจากถ่านซึ่งเป็นไฟอ่อนๆในการปิ้ง ทำให้รักษารสชาติและความหอมของกล้วยไว้ได้เป็น อย่างดี
อีกหนึ่งสิ่งที่ดึงดูดให้คนตราดแวะเวียนมาอุดหนุนป้านามาเป็นเวลานานเกือบ 40 ปี คือน้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่เป็นการผสมผสานระหว่างน้ำตาลอ้อย น้ำตาลทราย และน้ำตาลปี๊บเคี่ยวให้เข้ากันและมีความหวานกำลังพอดี เผลอจิ้มไปทีนึงระวังจะหยุดกินไม่ได้นะคะ
หากใครอยากลองแนะนำว่าควรโทรเช็คกับป้านาก่อนว่า ‘วันนี้ป้าขายมั้ย’ เพราะนี่คือบทสนทนาระหว่างพัชกับป้าที่เกิดขึ้น
พัช : ป้าขายมากี่ปีแล้วจ๊ะ
ป้านา : 34 35 ไม่ก็ 36 ปีแหน่ะ
พัช : แล้วป้าขายตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงจ๊ะ
ป้านา : ก็แล้วแต่ว่าจะตื่นเช้า ตื่นสาย บางวันขี้เกียจก็ไม่ขาย
พัช : อ้อ...แล้วป้าหยุดวันไหนบ้างจ๊ะ
ป้านา : มันก็แล้วแต่ วันไหนไม่มีกล้วยก็ไม่ขาย วัตถุดิบไม่มีจะขายได้ยังไงจริงมั้ย
พัช : อ่อ...จริงจ๊ะ
เบอร์โทรป้านาคือ 039 520 990 เชื่อพัชเถอะ โทรเช็คก่อน 55555
คือป้าไม่ได้กวนนะคะ ถามไป ป้าก็ตอบมาหน้ายิ้มๆ เสียงอ่อนๆ เอ๊ะ หรือนี่คือการเชือดนิ่มๆ
กล้วยปิ้งป้าอันละ 5 บาท กล้วยทุกหวีป้าจะเป็นคนเลือกเองกับมือ ใครมาตราดต้องห้ามพลาดร้านในตำนานแห่งนี้จริงๆ
ร้านที่ 3 หมึกย่าง ยายแสง
ร้านระดับตำนานอีก 1 ร้าน ที่ขายมานานกว่า 40 ปี
คุณยายแสงคือผู้เริ่มต้นยุคบุกเบิก ซึ่งตอนนี้คุณป้าลูกสะใภ้มารับช่วงต่อให้แล้ว
(Google location : https://goo.gl/maps/1jq94KEr37G2)
ปกติร้านจะขายเป็นรถเข็นแผงลอย บริเวณหลังตลาดเทศบาลไม่ไกลจากกล้วยปิ้งป้านามากนัก
ทีเด็ดของร้านนี้คือหมึกและน้ำจิ้ม
หมึกที่ใช้จะเป็นหมึกของจังหวัดตราดเท่านั้น ทำให้เมื่อย่างด้วยไฟสุกกำลังพอดีจะไม่เหนียว เนื้อกรุบๆเด้งๆไม่ยุ่ย ส่วนน้ำจิ้มจะหอมพริกและติดหวาน ตามสไตล์คนตราด (คนตราดกินหวานนะจ๊ะ)
โดยเฉพาะเทคนิคเรียกลูกค้าทำให้ปฏิเสธที่จะไม่กินได้ยากก็คือ การเอาหมึกไปชุบน้ำจิ้มแล้วย่างบนเตาถ่าน น้ำจิ้มที่หยดลงไปกระทบบนผิวของถ่านจะส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่ว ทำให้หมึกร้านนี้มักจะขายหมดภายใน 2-3 ชั่วโมง (วันไหนพัชทันได้กินจะฟินมาก)
ราคาไม้ละ 15 บาท ส่วนขายกี่โมงก็....
พัช : ป้าคะ เริ่มขายประมาณกี่โมงถึงกี่โมง
ป้า : แล้วแต่ วันไหนทำเสร็จเร็วก็ขายเร็วหน่อย
พัช : แล้วป้าหยุดวันไหนบ้างคะ
ป้า : วันไหนไม่มีหมึกก็ไม่ขาย ก็หมึกไม่มีจะขายได้ไง
พัช : อ๋อ ก็จริงจ๊ะ
บทสนทนาจบลงอย่างเงียบๆ คุณป้าหมึกย่างเองก็ตอบยิ้มๆ เช่นกัน ทำหวนให้นึกถึงป้านาตะหงิดๆแฮะ เบอร์โทรของคุณป้าขายหมึกคือ 084 784 7646 แนะนำว่าสักเที่ยงๆลองโทรไปเช็คดูค่ะ บางที 11 โมงก็ขาย แล้ว บางทีก็บ่ายโมง บ่าย3 แต่ที่แน่ๆคือรู้ว่าขายปุ๊บห้ามอิดออด รีบออกไปซื้อเลย เพราะถ้าเกิน 2-3 ชั่วโมง หมดอดกินแน่นอน (ร้านนี้คนตราดชอบกินมากกก บางคนซื้อที 40-50 ไม้ เรียกได้ว่ากินกันทั้งครอบครัว)
ร้านที่ 4 ข้าวมันไก่กรุง
เมื่อก่อนร้านนี้ขายอยู่ที่ถนนหลักเมือง แต่ได้ย้ายออกมาขายในหมู่บ้านประมวลดีแทน
ขายมาเกือบ 40 ปีแล้วเช่นกัน ร้านนี้สมัยประถมพัชกินก่อนไปโรงเรียนทุกวันค่ะ (Google location : https://goo.gl/maps/jQejz9QqoCN2)
ร้านนี้เปิดตั้งแต่ 06:00-18:00 (แต่ถ้าวันไหนขายหมดก่อนช่วง 4-5 โมงก็ปิดแล้ว)
ข้าวมันของที่ร้านจะหอมและนุ่มฟู มีน้ำจิ้มให้เลือกถึง 3 แบบ คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว น้ำจิ้มซีฟู๊ด (จังหวัดตราดเรียก ว่าพริกเกลือ) น้ำจิ้มน้ำปลาพริก
ส่วน option ที่ 4 ที่พัชมีเพิ่มมาก็คือซีอิ๊วหวาน สาเหตุที่กินซีอิ๊วหวานก็เพราะตอนเด็กๆกินเป็นแค่นั้น พอโตมา เลยติดไปแล้วว่าถ้ามาร้านนี้ต้องกินแต่ซีอิ๊วหวาน
เนื้อไก่เราสามารถบอกกับทางร้านได้ค่ะว่าต้องการส่วนไหน ถ้าหากใครชอบกินตับแนะนำว่าขอตับเพิ่มด้วย เพราะร้านนี้ทำตับออกมาไม่แข็งเลย นุ่มนิ่มกำลังดี
คำนี้คือน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว
และคำนี้คือน้ำจิ้มเด็กน้อย ซีอิ๊วหวานของข้าพเจ้าเองงง
น้ำซุปของทางร้านจะมีฟักใส่มาถ้วยละ 1 ชิ้น เสิร์ฟมาร้อนๆ ซดง่าย ทำให้กินข้าวแล้วไม่ติดคอ
ร้านที่ 5 เต้าทึงกิ่งเพชร & ปังย่ำใจ
ร้านนี้เมื่อก่อนขายอยู่ในตลาดโต้รุ่งช่วงเย็นค่ะ แต่ช่วงปีหลังๆมานี่ย้ายมาขายในบ้านตัวเองเรียบร้อย ขายตั้งแต่ 15:00-22:00 หยุดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ซอยจะค่อนข้างแคบ แนะนำว่าค่ำๆควรจอดริมถนนใหญ่แล้ว
เดินเข้ามาจะง่ายกว่า
(Google location : https://goo.gl/maps/WPFKYUGT8H82)
ขอแอบกระซิบว่าดีไซน์การแต่งหน้าขนมปังร้านนี้ ‘ย่ำใจ’ อย่างชื่อร้านจริงๆ !
ชาวตราดจะรู้กันเป็นอย่างดี แต่งานนี้เรามาเพื่อทดสอบประสิทธิภาพสเปรย์ท้าความร้อน เราจะไม่กินเย็นๆ
เลยจัดเต้าทึงร้อนมา โดยที่นั่งมองเจ้าน้องนั่งกินซาหริ่มเย็นๆสบายใจ (อิจฉา)
น้ำเชื่อมของทางร้านจะหอมลำไยและให้เครื่องเยอะมาก มีความหวานแบบกลมกล่อม
จึงเป็นที่นิยมของชาว ตราดทุกช่วงวัย การันตีด้วยชื่อเสียงที่ครองใจคนท้องถิ่นมายาวนานกว่า 40 ปี
ร้านที่ 6 บัวลอย ไข่หวาน
ร้านบัวลอยเป็นอีกหนึ่งร้าน ต้องห้ามพลาด เพราะถึงแม้ว่าจะขายมานานกว่า 30 ปีแต่คนก็ยังรอคิวซื้อกันยาว
เป็นหางว่าวทุกเย็น (ที่ขาย)
ฮั่นแหน่ะ หวั่นใจอีกแล้วใช่มั้ย ถูกต้องแล้วค่าาาาา ร้านนี้เองก็ไม่ได้เปิดทุกวัน ปิดวันอาทิตย์
แต่บางวันไม่ว่างก็ไม่เปิดจ้า (สังเกตุง่ายๆจากป้ายไฟตรงทางเข้า ถ้าวันไหนไม่เปิดไฟแสดงว่าปิด)
หรือให้ชัวร์เลย โทรถามได้ที่เบอร์ 081 492 3204
(Google location : https://goo.gl/maps/N1gxYWE4FMP2)
ร้านเปิดตั้งแต่ 15:00-21:30 ค่ะ มีโต๊ะให้นั่งทานที่ร้าน แต่บางทีไปอาจต้องรอคิวสักหน่อย
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ชาวต่างจังหวัดจะกลับบ้าน สาวๆหนุ่มๆที่ห่างบ้านไปนานก็จะแวะมาเติมพลังกันที่ร้านนี้กันอย่างไม่ขาดสาย
บัวลอยทุกเม็ดจะใช้สีจากธรรมชาติ เช่น แครอท ฟักทอง ดอกอัญชัญ โดยมีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม เนื่องจาก ทางร้านใช้วิธีตัดเอา เพราะปั้นไม่ทันออเดอร์
ทีเด็ดเลยก็คือไข่ไก่ที่สดมาก ซึ่งเจ้าของร้านจะเป็นคนไปเลือกซื้อไข่ไก่เองจากฟาร์ม เพื่อให้มั่นใจว่าได้ไข่ที่สด มาทำเป็นไข่หวานจริงๆ และมะพร้าวที่นำมาทำกะทิและมะพร้าวอ่อนที่ใส่เป็นเครื่องเคียงก็จะเป็นสวนที่ทางร้าน เหมาไว้แล้ว และมีการจดบันทึกไว้เลยว่ามะพร้าวลูกไหนจะเก็บวันที่เท่าไร เพื่อให้ได้มะพร้าวที่ไม่อ่อนและไม่แก่ จนเกินไป เรียกได้ว่าใส่ใจรายละเอียดกันทุกขั้นทุกตอนจริงๆจ้า
เครื่องเคียงที่เราสามารถเลือกใส่ได้จะมี ข้าวโพด เผือก วุ้นอัญชัญ สำหรับบัวลอยไม่ใส่ไข่จะ 25 บาท ถ้าใส่ไข่ด้วยจะ 30 บาทค่ะ
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว