สวัสดีชาวพันทิปครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อจากกระทู้ที่แล้ว(จ๊ะ) ซึ่งเป็นกระทู้รีวิวที่พักที่เที่ยว คราวนี้มาดูที่กินบ้างครับ ใครอยากดูที่พักที่เที่ยว ดูกระทู้นู้นได้ ใครอยากดูที่กินดูกระทู้นี้ได้ ใครอยากพักเที่ยวและกินด้วย ก็ดูทั้งกระทู้นู้นและกระทู้นี้…พอเถอะ



          เริ่มที่แรก ร้าน”บ้านตาเกลือ” อยู่บนเกาะช้างเป็นร้านอาหารที่เป็นส่วนหนึ่งของ AANA Resort แต่เวลามาทานไม่ต้องเดินผ่านส่วนของรีสอร์ทเพราะมีทางเข้าแยกต่างหาก แต่จอดรถในที่จอดรถของรีสอร์ทได้เลย



          ร้านอยู่ติดคลองพร้าว เห็นวิวปากอ่าวที่อยู่ไม่ไกลนักบรรยากาศโดยรวมค่อนข้างเงียบสงบ ร้านมาพร้อมกับแนวคิด “กินแบบชาวบ้าน สำราญแบบชาวประมง” รายการอาหารก็มีให้เลือกเยอะพอสมควร แถมมีแบบเป็นชุดให้เลือกด้วย



          สั่งอาหารมาหลายจาน ได้ยินว่าจังหวัดแถบภาคตะวันออกมีชื่อเสียงเรื่องกั้งก็เลยสั่งกั้งทอดกระเทียมมาลอง แล้วก็สั่งอาหารแนะนำของที่นี่อย่างใบโกงกางทอดและหลนปูใบไม้ ตบท้ายด้วยต้มส้มระกำปลาดี



          เริ่มที่กั้งทอดกระเทียมก่อนครับ กั้งที่ใช้เป็นกั้งแก้วซึ่งปกติไม่ค่อยจะได้ทานเนื้อเท่าไหร่ จานนี้กั้งตัวไม่ใหญ่มากครับพอดีคำ เนื้อกรอบนอกนุ่มในหนึบหนับเนื้อสัมผัสผมว่าอยู่ตรงกลางระหว่างกุ้งกับปู รสชาติออกเค็มเล็กน้อยส่วนกระเทียมทอดมากรอบมาก



          จานต่อมาใบโกงกางทอด อันนี้ไม่เคยเห็นและแน่นอนว่าไม่เคยทานมาก่อนจินตนาการรสชาติไม่ถูกเลยครับ ใบโกงกางทอดมากรอบมากแต่ผมรู้สึกว่าไม่มรสไม่มีกลิ่น ความรู้สึกคล้ายๆใบมะกรูดทอดกรอบที่ไม่มีกลิ่น ไส้ข้างในเป็นหมูหนึบหนับดีส่วนน้ำจิ้มจะคล้ายๆน้ำจิ้มไก่ออกเปรี้ยวหวาน



          มาลองหลนปูใบไม้บ้างครับ ปูใบไม้หรือปูแป้นพบได้หลายจังหวัดในประเทศไทยแต่ที่พบมากที่สุดคือจันทบุรีจังหวัดข้างๆจังหวัดตราดนี่เอง หลนถ้วยนี้รสชาติออกเค็มนำไม่นวลมากนัก ปูใบไม้ให้ความรู้สึกเหมือนกับปูเค็ม ถ้วยนี้จะบอกว่าเป็นหลนปูเค็มผมก็แยกไม่ออก



          ต่อมาต้มส้มระกำปลาดี ถ้วยนี้มาแบบไร้สีสันเป็นสีเดียวเลยดูโล่งๆแปลกๆ ปลาดีนี่ไม่รู้ว่าปลาอะไรแต่ถ้าภาษาอังกฤษในรายการอาหารจะเป็นปลาที่จับได้ในวันนั้นๆหรือ “catch of the day” เนื้อปลาสดดีครับหนึบไม่คาวเลย น้ำต้มส้มไม่เผ็ดมากออกเปรี้ยวนำและเผ็ดนิดเดียวเท่านั้นให้ความรู้สึกเหมือนต้มยำแต่ไม่จัดจ้านเท่า



          กุ้งแช่น้ำปลา กุ้งสดดีเลยครับส่วนน้ำจิ้มจะราดมาเลยซึ่งบางร้านจะราดแค่น้ำปลามาแล้วต้องมาจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ดต่างหากแต่จานนี้ราดมาให้เลย รสชาติจัดจ้านเปรี้ยวเผ็ดมาเต็มๆใครอยากปากแดงออกเจ่อนิดๆจานนี้เลยครับ



          ของหวานสั่งเป็นขนมจ้างลูกลำรองเชื่อม  ลูกสำรองคือลูกที่รอทำหน้าที่เผื่อลูกตัวจริงเจ็บ…เง้อ ใช่ที่ไหน ลูกสำรองพบมากที่จันทบุรี(อีกแล้ว)...มีประโยชน์หลายอย่างเลยครับลูกสำรองถ้วยนี้เนื้อคล้ายๆสาหร่าย รสชาติหวานชื่นใจมากทานตอนอากาศร้อนๆนี่เหมาะนัก



          โดยรวมจ่ายไปประมาณ 1500 กว่าบาทก็ถือว่าใช้ได้ครับเป็นมื้อที่อาหารถูกปากพอสมควร มีอาหารแปลกๆที่ไม่เคยทานมาก่อน คุณภาพวัตถุดิบรวมๆดีครับ บรรยากาศและวิวของร้านใช้ได้ครับ



         ร้านต่อมาผมเห็นตอนขับรถไปมาบนเกาะ ร้านอยู่ริมถนนเลยครับชื่อร้าน “2488” ชื่อแปลกดีเห็นป้ายบอกว่าเป็นร้านอาหารพื้นบ้านแห่งเดียวบนเกาะช้าง จริงหรือเปล่าไม่รู้ต้องลองดูหน่อย



          ร้านตกแต่งง่ายๆครับออกแนวกึ่งๆจะมินิมอลก็ไม่ขนาดนั้นจะคลาสสิกก็ไม่ขนาดนั้นมันครึ่งๆเรียกคลาสมอลแล้วกัน



          กระดาษรองจานบอกเล่าประวัติศาสตร์ของยุทธนาวีเกาะช้าง รายการอาหารก็มีแต่อาหารชื่อแปลกๆ ออกแนวอาหารไทยโบราณ อาหารที่สั่งมาวันนี้เช่น ข้าวผัดแดง2488 ยอก แกงหอยสับปะรด ส่วนไข่เจียวหอมแดงนี่ความชอบส่วนตัวล้วนๆ



          เริ่มที่ข้าวผัดแดง2488 ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ครับ จานนี้เสริฟมาพร้อมกับแกงเขียวหวาน ถ้าทานข้าวแดงเปล่าๆจะรู้สึกเหมือนข้าวผัดกระเทียมแต่กลิ่นไม่ชัดขนาดนั้น แกงเขียวหวานเผ็ดนวลๆแต่ไม่มันมากเหมือนกับไม่ได้ตีให้แตกมันมากนัก จานนี้ผมว่าต้องเอาน้ำอาจาดและแกงเขียวหวานราดลงบนข้าวแล้วทานพร้อมกันจะกลมกล่อมมากขึ้น



          มาต่อที่ ยอก ซึ่งจริงๆก็คือส้มตำแต่เครื่องเคียงค่อนข้างแปลก ถ้าทานเฉพาะส้มตำรสชาติจะออกหวาน รสชาติไม่จัดถ้าทานคู่กับใบมะยมอ่อนหรือใบมันสำปะหลังจะเพิ่มเนื้อสัมผัสและรสชาติระดับหนึ่ง ส่วนเครื่องเคียงมีทอดมัน หมูทอด และปลาทอด ทานคู่กันก็แปลกๆดีครับ



          แกงหอยสับปะรด รสชาติหวานนำเลยครับและกลิ่นสับปะรดชัดเจนมากเป็นความหวานที่ไม่หวานบาดคอแต่หวานจากสับปะรด หอยสดใช้ได้ไม่คาวเนื้อหนึบไม่เปื่อยเข้ากับแกงได้ดี



          ของคาวไปแล้วมาลองของหวานบ้างครับ บัวลอยไข่หวานเสริฟมาน่ารักดีครับ โดยจะแยกมาระหว่างไข่หวานและน้ำกะทิ ไข่หวานใส่หอมแดงและขิงมาด้วยดับความคาวของไข่ได้ บัวลอยกะทิข้นมัน สามารถนำทั้ง 2 อย่างมาผสมกันตามความพอใจว่าอยากได้มันหรือหวานขนาดไหน เข้าท่าดีครับ



          มื้อนี้จ่ายไปประมาณ 1000 บาท ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์การทานอาหารที่แปลกดีครับ ผมไม่รู้นะครับว่าอาหารที่ทานมันเป็นอาหารพื้นบ้านหรือโบราณจริงมั้ยแต่ก็ถือว่าแปลกใหม่ดีครับ



          ร้านอาหารร้านสุดท้ายที่ทานบนเกาะช้างอยู่อีกฝั่งของที่พักและร้านอื่นๆ ร้านนี้อยู่ฝั่งตะวันออกของเกาะชื่อสลักเพชรซีฟู้ด ซึ่งที่นี่มีห้องพักด้วยนะครับสวยทีเดียวแหละ



          ร้านขนาดใหญ่โตทีเดียวครับ เห็นวิวเกาะพร้าวใน เกาะพร้าวนอก หันไปด้านหลังเห็นประภาคารตรงท่าเรือสลักเพชรด้วย ถือว่าวิวดีใช้ได้เลย



          สั่งอาหารกันครับ กุ้งลายเสือครึ่งโล หอยนางรมทรงเครื่อง ปูม้าผัดผงกะหรี่ แล้วก็ปลาสากทอดราดน้ำปลา



          เริ่มที่ก้งลายเสือก่อนครับ กุ้งตัวใหญ่เลยครับและสดดีเลยเนื้อแน่นหนึบจิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ดเปรี้ยวเผ็ดเข้ากันดีมากๆ มา 2 คนกุ้งครึ่งโลนี่กำลังดีครับ



          ต่อที่หอยนางรมทรงเครื่อง น้ำจิ้มจี๊ดจ๊าดเผ็ดซ่ากระเทียมแต่ไม่เผ็ดจนปากเจ่อ หอยสดใช้ได้ตัวใหญ่ดีประมาณหนึ่ง



          จานต่อมา ปลาสากทอดราดน้ำปลา ผมไม่รู้จักปลาสากเลยไปหารูปใน Google ดู…อื้อหือ หน้าตาน่ากลัวใช้ได้ ปลาหั่นมา 1 ชิ้นไม่เล็กไม่ใหญ่เนื้อปลาแน่นๆคล้ายปลากระพงทอดมากรอกนอกแน่นในไม่แห้งเกินไป น้ำปลาไม่เข้าเนื้อนัก ส่วนน้ำจิ้มเปรี้ยวนำเลยครับ นำหลายช่วงตัวด้วยรสอื่นตามมาไม่ทันกันเลย…



          จานสุดท้ายและเป็นพระเอกของมื้อนี้คือปูม้าผัดผงกะหรี่ เนื้อปูสดมากหวานธรรมชาติ ผงกะหรี่รสชาติออกกลางๆไม่จัดจ้านมากเด็กๆก็ทานได้ ทีเด็ดจานนี้คือปูม้านี่แหละครับ อิ่มแบบจุกๆ



          มื้อนี้ราคาประมาณ 1600 บาท ร้านนี้ผมว่าจุดเด่นคือวัตถุดิบไม่ว่าปูหรือกุ้งรวมถึงปลาด้วย คุณภาพค่อนข้างดีส่วนหนึ่งน่าจะเพราะว่าที่ร้านมีกระชังเลี้ยงปลาอยู่ตรงนี้เลย ผมชอบจานกุ้งกับปูครับ วัตถุดิบดี สด ที่นี่ผมว่าเหมาะจะมาพักอยู่ครับห้องพักเท่าที่เห็นวิวดีทีเดียวแถมร้านอาหารก็อยู่ตรงนี้ มาอยู่นี่นอนดูวิวยาวๆสั่งอาหารทานไม่เลวเลยครับ