สวัสดีค่ะ วันนี้ตื่น 7 โมงกว่า ฝนตกพร่ำๆ ทำไงดี เช็คอากาศแล้วคือไม่รอดแน่ ยังไงก็ตก ร่มก็ไม่มีเพราะเป็นคนไม่ชอบกลางร่มเอาซะเลยจริงๆ งั้นก็เลยตามเลย ยังดีที่มีแจ็คเก็ตกันฝนมา ก็ลุยตามที่มีละกัน
หลังจากที่หม่ำอาหารเช้าจากที่พีกเสร็จก็ได้ฤกษ์ออกไปตามล่ากังหันลมกันแล้ว เราก็เดินเลาะและตากฝนจากที่พักไปยัง Grand Central Station เพื่อจะไปขึ้นบัส #391 ไป Zaanse Schans กันค่ะ สะดวกมากมาย สายเดียวยิงยาวถึงเลย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คร่าวๆ ก็มาถึงข้างหน้าเลยค่ะ
เจ้าถิ่นกำลังมาเยือน ครึ้มมาเชียว
มีความเขียว เห็นแล้วอยากย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ
ว่าแต่ ยังไม่ได้ไปไหนเลย ฝนก็เริ่มลงเม็ด
หาที่หลบกันก่อนดีกว่า
ข้างในนี้ก็เป็นคล้ายๆ มิวเซี่ยมแต่ก้ไม่เชิงเพราะมีการสาธิตการทำรองเท้าไม้ของชาวดัตช์และมีของขายน่ารักๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลย
นี่ก็เป็นรองเท้าที่ผ่านจากเพ้นท์แล้ว
นอกจากรองเท้าไม้จะขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว เครื่องจานชามนี้ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน
มาหมู่บ้านกังหันลมก้ต้องมีของที่ระลึกกันบ้าง
เย้ๆ ฝนหยุดแล้ว ออกไปชมวิวกันต่อดีกว่า
แต่ฟ้าก็ยังไม่เปิด
ใครใคร่ปั่นจักรยานก้มาปั่นได้นะค่ะ เจ้าของร้านใจดี
ดูจิมีภาษาไทยด้วย
และฝนก็ตกอีกรอบ เศร้า TT
หลบมากินชีทดีกว่า ชีทที่นี่อร่อยมากเว่อร์ ปกติเราเป็นคนไม่ปลื้มชีทเลย แต่ที่นี่เราชิมไปตั้งหลายอันแน่ะ 55+
ชีทที่เราชิมไปนั้น ได้มาจากเจ้าตัวนี้นี่เอง
ที่นี่นอกจากจะเป็นมิวเซี่ยมแล้วนั้น ก็จะมีชาวดัตช์อาศัยอยู่ด้วยจริงๆ ตามบ้านเหล่านี้
เดินชมไปเรื่อย เพลินๆ ไปค่ะ
บางหลัง ก็สามารถเข้าไปชมข้างในได้นะ
บางหลังก็ฟรี บางหลังก็เสียตัง
อยู่ที่นี่มาเกือบครึ่งค่อนวันละ พอจะกลับ ฟ้าก็เปิด แดดจ้าเลยละทีนี้
ดูสิดู ไม่แกล้งก็เหมือนแกล้ง งอแงสักพักก่อนไป Volendam
ขากลับก็ง่ายๆ เดินออกมาทางเดิมที่ลงรถ เราก็สามารถนั่งรถกลับไปอัมสเตอร์ดัมหรือจะขึ้นบัสไปที่อื่นต่อได้ค่ะ แต่แพลนเราคือไป Volendam เราก็จะนั่งบัสจากที่นี่แหละยาวไปเลย ด้วยบัสคันนี้ ที่รอรถก็จะมีป้ายบอกเวลารถบัสเรียบร้อย
ภายในรถสะอาดมากเว่อร์ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เหมือนเหมาบัสไปเลย 555
Volendam ก็จะเป็นเมืองชายทะเลของฮอลแลนด์ค่ะ
คนก็จะเยอะๆ หน่อย และภาพก็เบลอๆ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกัน 55
เอาอีกภาพ
อันนี้เป็นของที่ต้องชิมมีคนรีเควสมาว่าฝากชิมหน่อย
เอารวมๆ เลยนะ เหมือนกินขนมครกอ่ะ แต่ใช้แป้งทำ แล้วกินกับผลไม้ใส่วิปครีม งงม่ะ??
แล้วกจะมาวอแวกับ Cheese Museum อีกแระ
ที่นี่จะใหญ่กว่าที่ Zaanse Schans นะ
ก้อนนึงนี่หนักประมาณ 20 กิโล
อันนี้เป็นภาพจำลองตลาดชีทให้ดู ซึ่งเขาจะมีทุกวันเสาร์ โดยให้คนไปประมูล แต่ไม่ใช่ที่นี่นะ
แล้วเราก็มาอีกด้าน
จริงๆ แล้วการเดินทางมาเมืองนี้สามารถนั่งเรือมาได้ด้วยนะค่ะ หรือจะนั่งเรือไปอีกเมืองก็ได้ แต่เราจำไม่ได้แล้วจริงๆ หาสมุดไม่เจอ ไว้เจอแล้วจะมาใส่รายละเอียดเพิ่มเน้อ แต่ตอนนี้อยากจะวอแวอีกรอบ เพราะง่วงนอนอีกแล้ว หุหุ
กลับมาแล้ว รอบนี้จะเซฟไว้ก่อน หลังจากที่มะกี้อัพแล้วไม่ขึ้น ฮือๆ เศร้า TT
หลังจากที่อยู่ Volendam สักพักใหญ่ๆ เราก็จะกลับไปอัมสเตอร์ดัมละ เพื่อที่เราจะไปล่องเรือกัน ขากลับก็ง่ายๆ เลยค่ะ ขึ้นรถตรงจุดเดิม นั่งบัส #312 หรือ #316 ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง Grand Central Station เพื่อนๆ สามารถสอบถามข้อมูลทุกอย่างได้จากบูทที่มีป้าย Iamsterdam สีแดงๆ ได้เลยนะ
ค่า สนน.ราคาในการล่องเรืออยู่ที่ 10 ยูโรค่ะ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เราไม่ได้ถ่ายรูปบนเรือมาเลย เพราะกระจกค่อนข้างมั่ว เลยนั่งฟังเขาบรรยายอย่างเดียวก็พอ ฟินไปอีกแบบ
หลังจากล่องเรือเสร็จ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราไปตามล่าของขึ้นชื่อที่นี่ดีกว่า นั่นคือ เฟรนด์ฟราย นั่นเอง จริงๆ แล้ว ถ้าอยากกินแบบ signature นี่ต้องราดมายองเนสนะ แต่เราไม่ชอบมายองเนสเป็นอย่างมาก ก็เลยขอบาย เอาเป็น Basic ดีกว่า ร้านนี้จะมีอยู่ทั่วในอัมสเตอร์ดัม แล้วก็คิวยาวทุกร้าน
เรามาหาวิวดีๆ หม่ำกันดีกว่า ได้ที่แล้ว
มาคนนเดียวก็เพลินดี แต่คนที่นี่น่ารัก นิสัยดี๊ดี เฟรนด์ลี่จัง แถมหน้าตาดีด้วย(หุหุ อันนี้ไม่ใช่ประเด็นละ)
จักรยานจอดกันแบบไม่ต้องกันหาย แต่ละคันนี่ผ่านศึกมาพอสมควรเลย
มาถึงตรงนี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์การไป Red Light District ให้ฟัง ต้องแบบก่อนว่าตอนแรกที่อยากไปอัมสเตอร์ดัมก็อยากไปเห็นย่านนี้ แต่ระหว่างช่วงที่หาข้อมูลก็มีหลายคนบอกว่าไม่ต้องไปหรอก เราก็เลยลืมๆ ไปละ จนเผอิ๊ญ เผอิญหลงทางเข้าไปจนได้ เรื่องของเรื่องก็คือจะไปแถวมาดามทุสโซ่ แต่ว่าเลี้ยวผิด ดันเลี้ยงก่อน 1 ซอย ตอนแรกก็งงๆ ทำไมผู้หญิงพวกนี้มองเราแปลกๆ คือเข้าใจมั้ยว่าเป็นเอเชี่ยนหัวตัว ตัวเล็ก เดินมึนๆ อยู่ท่ากลางแสง สี เสียงและชายชาตรี เราก็เดินไปสัก 2-3 ตรอก ก็จะเห้นเป็นตุ้สีแดงบ้าง สีอื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะสีแดง แล้วเป็นตู้เล็กๆ มีผ้าม่านไว้เปิด/ปิดได้ และเราก็หันไปเจอผู้หญิงในตู้คนนึงกำลังเย้ายวนเพื่ือเรียกลูกค้าอยู่ เราก็เลยถึงบางอ้อ คิดในใจ อืม! นี่แหละ ใช่แหล่งละ เราก็จำได้ว่าเขาไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยเดินแบบเจี๋ยมเจ็ยม มองนกชมต้นไม้ไป ทำเป็นแบบไม่ได้ใส่ใจอ่ะ แต่ก็นะกล้องห้อยอยู่ที่คอ เดินไปสักพักก็จะเจอชายฉกรรณ์ยืนอยู่เป็นจุดๆ เหมือนคอยดูแลความปลอดภัยแหละ ประมาณนั้น แล้วก็คอยส่องว่ามีใครจะถ่ายรูปรึป่าว เพราะจะมีป้ายว่าห้ามถ่ายรูปติดไว้ แต่ก็ไม่วายก็มีคนแอบถ่ายจนได้ ชายพวกนี้ก็จะเข้ามาเตือนว่าไม่ให้ถ่ายรูปนะ ด้วยมารยาทดีๆ เราก็เดินไป ใจก็แอบเต้นไป เพราะมันก็น่าตื่นเต้น ที่ได้หลงเข้ามา และสุดท้ายก็ได้มาเห็นจนได้นะ อย่างมึนๆ
สุดท้ายเราก็จะจากกันกับวันที่สองด้วยรูปจากห้องนอนของเรานะ มองหน้าต่างออกไปก็จะเจอโบสถ์นี้พอดี ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ของที่นี่เลย ณ เวลาที่กดชัดเตอร์รูปนี้ก็ประมาณสามทุ่มค่ะ ยังไม่ค่อยมืดเลยเน้อะ เที่ยวหน้าร้อนก็ดีแบบนี้แหละ ได้เวลาเยอะดี
พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายของที่อัมสเตอร์ดัม เราก็จะเก็บตกกันในเมืองก่อนที่จะนั่งรถไฟไปเบลเยี่ยมกันค่ะ
สำหรับที่เที่ยวของวันอื่นๆ ตลอดทั้งทริป ติดตามได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะค่ะ
https://ppantip.com/topic/37500575 วันแรกเที่ยว Amsterdam
https://ppantip.com/topic/37510980 วันที่ 3 เก็บตก Amsterdam + นั่งรถไฟไปบรัสเซลส์
https://ppantip.com/topic/37533741 วันที่ 4 เที่ยว Bruges + Gent เมืองมรดกโลก
https://ppantip.com/topic/37573568 วันที่ 5 นั่งรถไฟตะลุย Luxembourg
https://ppantip.com/topic/37718956 เก็บตก วันที่ 5 Flower Carpet ที่ Brussels
https://ppantip.com/topic/37715596 วันที่ 6 เที่ยวโคโลจน์ ประเทศเยอรมนี เจออะไรบ้าง ต้องขยาย!!
https://ppantip.com/topic/37719102 วันสุดท้ายที่โคโลจน์ อะไรกันเนี๊ยะ!!
[CR] ลุยเดี่ยว เที่ยว Benelux + Germany ดินแดนในฝัน
หลังจากที่หม่ำอาหารเช้าจากที่พีกเสร็จก็ได้ฤกษ์ออกไปตามล่ากังหันลมกันแล้ว เราก็เดินเลาะและตากฝนจากที่พักไปยัง Grand Central Station เพื่อจะไปขึ้นบัส #391 ไป Zaanse Schans กันค่ะ สะดวกมากมาย สายเดียวยิงยาวถึงเลย ใช้เวลาประมาณ 45 นาที คร่าวๆ ก็มาถึงข้างหน้าเลยค่ะ
เจ้าถิ่นกำลังมาเยือน ครึ้มมาเชียว
มีความเขียว เห็นแล้วอยากย้ายมาอยู่ที่นี่จริงๆ
ว่าแต่ ยังไม่ได้ไปไหนเลย ฝนก็เริ่มลงเม็ด
หาที่หลบกันก่อนดีกว่า
ข้างในนี้ก็เป็นคล้ายๆ มิวเซี่ยมแต่ก้ไม่เชิงเพราะมีการสาธิตการทำรองเท้าไม้ของชาวดัตช์และมีของขายน่ารักๆ เยอะแยะเต็มไปหมดเลยนี่ก็เป็นรองเท้าที่ผ่านจากเพ้นท์แล้ว
นอกจากรองเท้าไม้จะขึ้นชื่อของที่นี่แล้ว เครื่องจานชามนี้ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน
มาหมู่บ้านกังหันลมก้ต้องมีของที่ระลึกกันบ้าง
เย้ๆ ฝนหยุดแล้ว ออกไปชมวิวกันต่อดีกว่า
แต่ฟ้าก็ยังไม่เปิด
ใครใคร่ปั่นจักรยานก้มาปั่นได้นะค่ะ เจ้าของร้านใจดี
ดูจิมีภาษาไทยด้วย
และฝนก็ตกอีกรอบ เศร้า TT
หลบมากินชีทดีกว่า ชีทที่นี่อร่อยมากเว่อร์ ปกติเราเป็นคนไม่ปลื้มชีทเลย แต่ที่นี่เราชิมไปตั้งหลายอันแน่ะ 55+
ชีทที่เราชิมไปนั้น ได้มาจากเจ้าตัวนี้นี่เอง
ที่นี่นอกจากจะเป็นมิวเซี่ยมแล้วนั้น ก็จะมีชาวดัตช์อาศัยอยู่ด้วยจริงๆ ตามบ้านเหล่านี้
เดินชมไปเรื่อย เพลินๆ ไปค่ะ
บางหลัง ก็สามารถเข้าไปชมข้างในได้นะ
บางหลังก็ฟรี บางหลังก็เสียตัง
อยู่ที่นี่มาเกือบครึ่งค่อนวันละ พอจะกลับ ฟ้าก็เปิด แดดจ้าเลยละทีนี้
ดูสิดู ไม่แกล้งก็เหมือนแกล้ง งอแงสักพักก่อนไป Volendam
ขากลับก็ง่ายๆ เดินออกมาทางเดิมที่ลงรถ เราก็สามารถนั่งรถกลับไปอัมสเตอร์ดัมหรือจะขึ้นบัสไปที่อื่นต่อได้ค่ะ แต่แพลนเราคือไป Volendam เราก็จะนั่งบัสจากที่นี่แหละยาวไปเลย ด้วยบัสคันนี้ ที่รอรถก็จะมีป้ายบอกเวลารถบัสเรียบร้อย
ภายในรถสะอาดมากเว่อร์ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เหมือนเหมาบัสไปเลย 555
Volendam ก็จะเป็นเมืองชายทะเลของฮอลแลนด์ค่ะ
คนก็จะเยอะๆ หน่อย และภาพก็เบลอๆ ซึ่งก็ไม่เกี่ยวกัน 55
เอาอีกภาพ
อันนี้เป็นของที่ต้องชิมมีคนรีเควสมาว่าฝากชิมหน่อย
เอารวมๆ เลยนะ เหมือนกินขนมครกอ่ะ แต่ใช้แป้งทำ แล้วกินกับผลไม้ใส่วิปครีม งงม่ะ??
แล้วกจะมาวอแวกับ Cheese Museum อีกแระ
ที่นี่จะใหญ่กว่าที่ Zaanse Schans นะ
ก้อนนึงนี่หนักประมาณ 20 กิโล
อันนี้เป็นภาพจำลองตลาดชีทให้ดู ซึ่งเขาจะมีทุกวันเสาร์ โดยให้คนไปประมูล แต่ไม่ใช่ที่นี่นะ
แล้วเราก็มาอีกด้าน
จริงๆ แล้วการเดินทางมาเมืองนี้สามารถนั่งเรือมาได้ด้วยนะค่ะ หรือจะนั่งเรือไปอีกเมืองก็ได้ แต่เราจำไม่ได้แล้วจริงๆ หาสมุดไม่เจอ ไว้เจอแล้วจะมาใส่รายละเอียดเพิ่มเน้อ แต่ตอนนี้อยากจะวอแวอีกรอบ เพราะง่วงนอนอีกแล้ว หุหุ
กลับมาแล้ว รอบนี้จะเซฟไว้ก่อน หลังจากที่มะกี้อัพแล้วไม่ขึ้น ฮือๆ เศร้า TT
หลังจากที่อยู่ Volendam สักพักใหญ่ๆ เราก็จะกลับไปอัมสเตอร์ดัมละ เพื่อที่เราจะไปล่องเรือกัน ขากลับก็ง่ายๆ เลยค่ะ ขึ้นรถตรงจุดเดิม นั่งบัส #312 หรือ #316 ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง Grand Central Station เพื่อนๆ สามารถสอบถามข้อมูลทุกอย่างได้จากบูทที่มีป้าย Iamsterdam สีแดงๆ ได้เลยนะ
ค่า สนน.ราคาในการล่องเรืออยู่ที่ 10 ยูโรค่ะ ใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง เราไม่ได้ถ่ายรูปบนเรือมาเลย เพราะกระจกค่อนข้างมั่ว เลยนั่งฟังเขาบรรยายอย่างเดียวก็พอ ฟินไปอีกแบบ
หลังจากล่องเรือเสร็จ กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราไปตามล่าของขึ้นชื่อที่นี่ดีกว่า นั่นคือ เฟรนด์ฟราย นั่นเอง จริงๆ แล้ว ถ้าอยากกินแบบ signature นี่ต้องราดมายองเนสนะ แต่เราไม่ชอบมายองเนสเป็นอย่างมาก ก็เลยขอบาย เอาเป็น Basic ดีกว่า ร้านนี้จะมีอยู่ทั่วในอัมสเตอร์ดัม แล้วก็คิวยาวทุกร้าน
เรามาหาวิวดีๆ หม่ำกันดีกว่า ได้ที่แล้ว
มาคนนเดียวก็เพลินดี แต่คนที่นี่น่ารัก นิสัยดี๊ดี เฟรนด์ลี่จัง แถมหน้าตาดีด้วย(หุหุ อันนี้ไม่ใช่ประเด็นละ)
จักรยานจอดกันแบบไม่ต้องกันหาย แต่ละคันนี่ผ่านศึกมาพอสมควรเลย
มาถึงตรงนี้ เราจะมาเล่าประสบการณ์การไป Red Light District ให้ฟัง ต้องแบบก่อนว่าตอนแรกที่อยากไปอัมสเตอร์ดัมก็อยากไปเห็นย่านนี้ แต่ระหว่างช่วงที่หาข้อมูลก็มีหลายคนบอกว่าไม่ต้องไปหรอก เราก็เลยลืมๆ ไปละ จนเผอิ๊ญ เผอิญหลงทางเข้าไปจนได้ เรื่องของเรื่องก็คือจะไปแถวมาดามทุสโซ่ แต่ว่าเลี้ยวผิด ดันเลี้ยงก่อน 1 ซอย ตอนแรกก็งงๆ ทำไมผู้หญิงพวกนี้มองเราแปลกๆ คือเข้าใจมั้ยว่าเป็นเอเชี่ยนหัวตัว ตัวเล็ก เดินมึนๆ อยู่ท่ากลางแสง สี เสียงและชายชาตรี เราก็เดินไปสัก 2-3 ตรอก ก็จะเห้นเป็นตุ้สีแดงบ้าง สีอื่นบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะสีแดง แล้วเป็นตู้เล็กๆ มีผ้าม่านไว้เปิด/ปิดได้ และเราก็หันไปเจอผู้หญิงในตู้คนนึงกำลังเย้ายวนเพื่ือเรียกลูกค้าอยู่ เราก็เลยถึงบางอ้อ คิดในใจ อืม! นี่แหละ ใช่แหล่งละ เราก็จำได้ว่าเขาไม่ให้ถ่ายรูป ก็เลยเดินแบบเจี๋ยมเจ็ยม มองนกชมต้นไม้ไป ทำเป็นแบบไม่ได้ใส่ใจอ่ะ แต่ก็นะกล้องห้อยอยู่ที่คอ เดินไปสักพักก็จะเจอชายฉกรรณ์ยืนอยู่เป็นจุดๆ เหมือนคอยดูแลความปลอดภัยแหละ ประมาณนั้น แล้วก็คอยส่องว่ามีใครจะถ่ายรูปรึป่าว เพราะจะมีป้ายว่าห้ามถ่ายรูปติดไว้ แต่ก็ไม่วายก็มีคนแอบถ่ายจนได้ ชายพวกนี้ก็จะเข้ามาเตือนว่าไม่ให้ถ่ายรูปนะ ด้วยมารยาทดีๆ เราก็เดินไป ใจก็แอบเต้นไป เพราะมันก็น่าตื่นเต้น ที่ได้หลงเข้ามา และสุดท้ายก็ได้มาเห็นจนได้นะ อย่างมึนๆ
สุดท้ายเราก็จะจากกันกับวันที่สองด้วยรูปจากห้องนอนของเรานะ มองหน้าต่างออกไปก็จะเจอโบสถ์นี้พอดี ซึ่งเป็นโบสถ์ที่เก่าแก่ของที่นี่เลย ณ เวลาที่กดชัดเตอร์รูปนี้ก็ประมาณสามทุ่มค่ะ ยังไม่ค่อยมืดเลยเน้อะ เที่ยวหน้าร้อนก็ดีแบบนี้แหละ ได้เวลาเยอะดี
พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันสุดท้ายของที่อัมสเตอร์ดัม เราก็จะเก็บตกกันในเมืองก่อนที่จะนั่งรถไฟไปเบลเยี่ยมกันค่ะ
สำหรับที่เที่ยวของวันอื่นๆ ตลอดทั้งทริป ติดตามได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้นะค่ะ
https://ppantip.com/topic/37500575 วันแรกเที่ยว Amsterdam
https://ppantip.com/topic/37510980 วันที่ 3 เก็บตก Amsterdam + นั่งรถไฟไปบรัสเซลส์
https://ppantip.com/topic/37533741 วันที่ 4 เที่ยว Bruges + Gent เมืองมรดกโลก
https://ppantip.com/topic/37573568 วันที่ 5 นั่งรถไฟตะลุย Luxembourg
https://ppantip.com/topic/37718956 เก็บตก วันที่ 5 Flower Carpet ที่ Brussels
https://ppantip.com/topic/37715596 วันที่ 6 เที่ยวโคโลจน์ ประเทศเยอรมนี เจออะไรบ้าง ต้องขยาย!!
https://ppantip.com/topic/37719102 วันสุดท้ายที่โคโลจน์ อะไรกันเนี๊ยะ!!