คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เราเคยเช่าห้องอยู่กับเมท เราเป็นคนใจดี เงียบๆ มีรถยนต์ขับคันหนึ่ง
รูมเมทเราจ้องแต่จะอาศัยรถเราไปโน่นไปนี่ เราก็ใจดีให้ติดรถไปด้วย ต่อมาเพื่อนของรูมเมทป่วยเป็นโรคร้าย สมมติชื่ออ้อย พี่สาวอ้อยมาขอยืมรถเราเพื่อพาอ้อยไปโรงพยาบาล เราเห็นใจ ก็เลยให้ยืม พี่สาวอ้อย อ้อย และรูมเมทเรา ก็เลยขึ้นรถเราขับพาอ้อยไปโรงพยาบาล โดยเราบอกรูมเมทว่าใช้รถเราเสร็จแล้ว ก็ให้รูมเมทเราขับรถกลับมาที่หอพักเหมือนเดิม
ปรากฎว่ารูมเมทเราเดินกลับมา แล้วตะคอกเราว่า "เราให้พี่สาวอ้อยยืมรถเธอไปแล้ว เธอจะให้ยืมมั้ย ถ้าเธอไม่ให้ เราจะให้พี่สาวอ้อยขับมาคืนเดี๋ยวนี้" แล้วเราก็ทะเลาะกับรูมเมทเราเรื่องรถ คือ เรามีน้ำใจให้พี่สาวอ้อยยืมรถ แต่พี่สาวอ้อยไม่คืนรถเรา มาขอยืมรถเรากับรูมเมทเราทั้งที่ก็ไม่ใช่รถของรูมเมทเรา เนรคุณขนาดนี้ เขาคงไม่เห็นว่าเราดีแต่เห็นว่าเราโง่มากกว่า
ี่ที่ไม่น่าเชื่อคือ หลังจากนั้น รูมเมทเราและเพื่อนของรูมเมท ยังพยายามเข้ามาขอยืมรถเราอยู่ตลอด แล้วก็ทำท่าใหญ่โต ทำท่าไม่ชอบหน้าเรา แต่จะเอารถของเราให้ได้
พอใกล้เรียนจบ เราขายรถ รูมเมทเราทำท่าไม่พอใจจนตัวสั่น แล้วก็เดินเข้ามาต่อว่าเราในห้องนอนว่า "เรายังหารถไปรับอ้อยที่สนามบินไม่ได้เลยนะ" พูดจบ ก็เดินออกจากห้องนอนของเราแบบไม่พอใจ
สุดท้าย เราอีเมล์ไปด่าอ้อยและรูมเมทเรา อ้อยด่ากลับมา ส่วนรูมเมทเราหายเงียบไปพร้อมบล็อกเราไว้ เรียนจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้เจอกันอีก
เราจะบอกคุณว่า ถ้าคุณไม่ปกป้องตัวเอง คุณจะโดนระรานไปเรื่อยๆ เคยได้อ่านเรื่อง "ชาวนากับงูเห่า" มั้ย คุณช่วยเขาแต่เขาจะทำร้ายคุณกลับมา
แต่เราก็เคยช่วยคนดีๆ แล้วเขาทำดีกลับมานะ คนดีๆ ที่น่าช่วยก็มี ยิ่งช่วยเขา เขายิ่งช่วยกลับมา
คุณต้องแยกแยะว่าคุณควรช่วยใคร ไม่ควรช่วยใคร แล้วถ้าใครล้ำเส้นคุณ คุณจะตอบโต้ยังไง คุณจะพูดตรงๆ หรือไม่พูด แต่ซื้อตู้มาเก็บของแล้วล็อคกุญแจ ส่วนรถเครื่อง ถ้าเป็นเราในปัจจุบัน เราจะพูดตรงๆ ว่า "พอดีเดี๋ยวจะใช้รถ ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ" หรือ "เสื้อตัวนี้ เดี๋ยวว่าจะใส่อยู่ค่ะ ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ" ถ้าปฎิเสธแล้ว ยังเข้ามาขอยืมอีก คุณก็พูดเสียงเรียบๆ แต่หนักแน่นว่า "ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ ว่าจะใช้อยู่ค่ะ" แล้วก็ทำท่าว่าเธอจะโกรธ ฉันก็ไม่แคร์นะเพราะฉันมีสิทธิ์ปฎิเสธ แล้วทำใจให้ไม่แคร์จริงๆ เขาจะดูออก และขยาดคุณไปเองค่ะ
ถ้าคุณเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่กล้าปฎิเสธ ไม่กล้าขัดใจใคร คนจะดูออก แล้วเข้ามาขอยืมสิ่งที่ไม่ควรยืม
เปลี่ยนข้างในของคุณ ให้เป็นคนกล้าปฎิเสธ กล้าพูดตรงๆ (แบบสุภาพ) ไม่แคร์ว่าเขาจะโกรธเพราะคุณมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง คนก็จะดูออกว่าคุณจะตอบโต้นะ เขาจะไม่กล้าขอยืมไปเอง
ถ้าใจดีและเงียบอย่างเดียว ไม่มีใครกลัวหรือเกรงใจหรอกค่ะ มีแต่คนจะเข้ามาเอาเปรียบเหยียบย่ำ เหมือนที่เราเคยเจอมา
ต้องมีภาคดุ ภาคแข็งกร้าวไม่แคร์ใคร ภาคพูดตรงๆ มีเขี้ยวเล็บพิษสงให้คนกลัวเกรงบ้าง คนจะได้ไม่เข้ามาละเมิดสิทธิส่วนตัวเราค่ะ
ถ้ากล้ามาขอยืมสิ่งที่ไม่ควรยืม ก็จงกล้าปฎิเสธค่ะ ถ้าเขากล้าล้ำเส้นเรา เราก็ต้องกล้าปกป้องตัวเองค่ะ ถ้าเรากลัวมีเรื่อง เอาแต่ยอม คนยิ่งเอาเปรียบค่ะ พูดตรงๆแต่สุภาพก็น่าจะเพียงพอค่ะ
แต่ก็อยากให้คุณมองโลกในแง่ดีนะ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน เรากล้าปฎิเสธคน ไม่ต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีตลอด อยากช่วยก็ช่วย ไม่อยากช่วย ก็ปฎิเสธ คนกลับเกรงใจเรามากขึ้นซะงั้น เดี๋ยวนี้เราคิดว่าเราด่าคนมากเกินไป ต้องพยายามลดการด่าคนลง เพราะกลัวบาปน่ะค่ะ กลายเป็นคนแรงเกินไปในปัจจุบันค่ะ
รูมเมทเราจ้องแต่จะอาศัยรถเราไปโน่นไปนี่ เราก็ใจดีให้ติดรถไปด้วย ต่อมาเพื่อนของรูมเมทป่วยเป็นโรคร้าย สมมติชื่ออ้อย พี่สาวอ้อยมาขอยืมรถเราเพื่อพาอ้อยไปโรงพยาบาล เราเห็นใจ ก็เลยให้ยืม พี่สาวอ้อย อ้อย และรูมเมทเรา ก็เลยขึ้นรถเราขับพาอ้อยไปโรงพยาบาล โดยเราบอกรูมเมทว่าใช้รถเราเสร็จแล้ว ก็ให้รูมเมทเราขับรถกลับมาที่หอพักเหมือนเดิม
ปรากฎว่ารูมเมทเราเดินกลับมา แล้วตะคอกเราว่า "เราให้พี่สาวอ้อยยืมรถเธอไปแล้ว เธอจะให้ยืมมั้ย ถ้าเธอไม่ให้ เราจะให้พี่สาวอ้อยขับมาคืนเดี๋ยวนี้" แล้วเราก็ทะเลาะกับรูมเมทเราเรื่องรถ คือ เรามีน้ำใจให้พี่สาวอ้อยยืมรถ แต่พี่สาวอ้อยไม่คืนรถเรา มาขอยืมรถเรากับรูมเมทเราทั้งที่ก็ไม่ใช่รถของรูมเมทเรา เนรคุณขนาดนี้ เขาคงไม่เห็นว่าเราดีแต่เห็นว่าเราโง่มากกว่า
ี่ที่ไม่น่าเชื่อคือ หลังจากนั้น รูมเมทเราและเพื่อนของรูมเมท ยังพยายามเข้ามาขอยืมรถเราอยู่ตลอด แล้วก็ทำท่าใหญ่โต ทำท่าไม่ชอบหน้าเรา แต่จะเอารถของเราให้ได้
พอใกล้เรียนจบ เราขายรถ รูมเมทเราทำท่าไม่พอใจจนตัวสั่น แล้วก็เดินเข้ามาต่อว่าเราในห้องนอนว่า "เรายังหารถไปรับอ้อยที่สนามบินไม่ได้เลยนะ" พูดจบ ก็เดินออกจากห้องนอนของเราแบบไม่พอใจ
สุดท้าย เราอีเมล์ไปด่าอ้อยและรูมเมทเรา อ้อยด่ากลับมา ส่วนรูมเมทเราหายเงียบไปพร้อมบล็อกเราไว้ เรียนจบก็แยกย้ายกันไป ไม่ได้เจอกันอีก
เราจะบอกคุณว่า ถ้าคุณไม่ปกป้องตัวเอง คุณจะโดนระรานไปเรื่อยๆ เคยได้อ่านเรื่อง "ชาวนากับงูเห่า" มั้ย คุณช่วยเขาแต่เขาจะทำร้ายคุณกลับมา
แต่เราก็เคยช่วยคนดีๆ แล้วเขาทำดีกลับมานะ คนดีๆ ที่น่าช่วยก็มี ยิ่งช่วยเขา เขายิ่งช่วยกลับมา
คุณต้องแยกแยะว่าคุณควรช่วยใคร ไม่ควรช่วยใคร แล้วถ้าใครล้ำเส้นคุณ คุณจะตอบโต้ยังไง คุณจะพูดตรงๆ หรือไม่พูด แต่ซื้อตู้มาเก็บของแล้วล็อคกุญแจ ส่วนรถเครื่อง ถ้าเป็นเราในปัจจุบัน เราจะพูดตรงๆ ว่า "พอดีเดี๋ยวจะใช้รถ ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ" หรือ "เสื้อตัวนี้ เดี๋ยวว่าจะใส่อยู่ค่ะ ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ" ถ้าปฎิเสธแล้ว ยังเข้ามาขอยืมอีก คุณก็พูดเสียงเรียบๆ แต่หนักแน่นว่า "ไม่สะดวกให้ยืมค่ะ ว่าจะใช้อยู่ค่ะ" แล้วก็ทำท่าว่าเธอจะโกรธ ฉันก็ไม่แคร์นะเพราะฉันมีสิทธิ์ปฎิเสธ แล้วทำใจให้ไม่แคร์จริงๆ เขาจะดูออก และขยาดคุณไปเองค่ะ
ถ้าคุณเป็นคนขี้เกรงใจ ไม่กล้าปฎิเสธ ไม่กล้าขัดใจใคร คนจะดูออก แล้วเข้ามาขอยืมสิ่งที่ไม่ควรยืม
เปลี่ยนข้างในของคุณ ให้เป็นคนกล้าปฎิเสธ กล้าพูดตรงๆ (แบบสุภาพ) ไม่แคร์ว่าเขาจะโกรธเพราะคุณมีสิทธิ์ปกป้องตัวเอง คนก็จะดูออกว่าคุณจะตอบโต้นะ เขาจะไม่กล้าขอยืมไปเอง
ถ้าใจดีและเงียบอย่างเดียว ไม่มีใครกลัวหรือเกรงใจหรอกค่ะ มีแต่คนจะเข้ามาเอาเปรียบเหยียบย่ำ เหมือนที่เราเคยเจอมา
ต้องมีภาคดุ ภาคแข็งกร้าวไม่แคร์ใคร ภาคพูดตรงๆ มีเขี้ยวเล็บพิษสงให้คนกลัวเกรงบ้าง คนจะได้ไม่เข้ามาละเมิดสิทธิส่วนตัวเราค่ะ
ถ้ากล้ามาขอยืมสิ่งที่ไม่ควรยืม ก็จงกล้าปฎิเสธค่ะ ถ้าเขากล้าล้ำเส้นเรา เราก็ต้องกล้าปกป้องตัวเองค่ะ ถ้าเรากลัวมีเรื่อง เอาแต่ยอม คนยิ่งเอาเปรียบค่ะ พูดตรงๆแต่สุภาพก็น่าจะเพียงพอค่ะ
แต่ก็อยากให้คุณมองโลกในแง่ดีนะ ประสบการณ์ที่ผ่านมา ทำให้ปัจจุบัน เรากล้าปฎิเสธคน ไม่ต้องพยายามทำตัวเป็นคนดีตลอด อยากช่วยก็ช่วย ไม่อยากช่วย ก็ปฎิเสธ คนกลับเกรงใจเรามากขึ้นซะงั้น เดี๋ยวนี้เราคิดว่าเราด่าคนมากเกินไป ต้องพยายามลดการด่าคนลง เพราะกลัวบาปน่ะค่ะ กลายเป็นคนแรงเกินไปในปัจจุบันค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ถามเด็กหอที่ชอบถูกเพื่อนยืมของ และฝากถึงเด็กหอที่ชอบยืมของคนอื่น
จริงๆเป็นคนเงียบๆไม่ยุ่งกับใครอยู่แล้วแต่ทำไมคนอื่นถึงต้องมายุ่งกับของของเราด้วย ‘ ไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองเจอจะเรียกว่าปัญหาได้มั้ย’
มาอยู่หอตั้งใจมีทุกอย่างเป็นของตัวเองเพื่อให้ตัวเองได้สะดวกสบายไม่ต้องขอยืมของใครให้ลำบาก แต่คนอื่นกลับมาขอยืมของเราซะงั้นT_T ถามว่าสนิทมั้ยก็ไม่ เพื่อนที่สนิทกันมา 7-8ปียังไม่เคยยุ่งกับของเราแบบนี้เลยค่ะ ยืมได้ตั้งแต่เสื้อผ้าเครื่องสำอางค์ยันรถเครื่อง ยืมแล้วไม่เติมน้ำมันให้ด้วย และหลายครั้งที่เข้ามาในห้องแล้วเห็นลิปสติกเปื้อนฝาเปื้อนแท่งอื่นๆเพราะหักไปครึ่งนึงแต่ถูกเกลี่ยให้ดูเหมือนไม่ได้หักด้วยค่ะ น่าเศร้าอ่ะ(°_°) ซื้อเครื่องสำอางค์จะใช้เองก็ต้องมาเผื่อแผ่คนอื่น มันเหมือนจะเรื่องเล็กแต่น่ารำคาญและทำให้หัวเสียอยู่ตลอดเลยค่ะ T____T พอเห็นเสื้อผ้าที่ชอบก็ขอยืม ส่วนตัวคือคิดว่าคนมันโตแล้วของแบบนี้ไม่สมควรยืมกันนะ มันอาจเป็นเรื่องเล็กแต่สามารถทำให้คนที่อยู่ด้วยอึดอัดใจและเกลียดได้ค่ะ เสียสุขภาพจิต ทำไมต้องยุ่งกับของๆเราด้วย อยากใช้ของตัวเองอย่างสบายใจแต่ก็เป็นอย่างที่ว่าค่ะ ตอนนี้ไม่รู้จะพูดยังไงเพราะไม่ได้สนิทกันมากนัก มีใครเคยเจอแบบนี้มั้ยคะ แล้วแก้ปัญหานี้ยังไงกันบ้างช่วยบอกให้ทีค่ะ อึดอัดไม่ไหวแล้ว ...
ปล**ฝากถึงคนที่มีเพื่อนเมทแล้วตัวเองเป็นคนชอบยืมของคนอื่น หยุดเถอะค่ะ! ถึงเค้าจะใจดีไม่ด่าคนไม่เคยว่าที่คุณเอาของไปใช้ แต่ใช่ว่าในใจเค้าจะรู้สึกดีนะคะ อะไรที่ไม่ใช่ของๆเราก็อย่าไปยุ่งอย่าเอามาใช้เป็นของตัวเอง ถ้าอยากให้คนรักคนเอ็นดูและดีด้วยไปตลอดก็อย่าทำให้ใครต้องอึดอัดใจเพราะเรื่องเล็กๆเลยนะคะ ไม่ชอบให้ใครทำอะไรก็อย่าทำสิ่งนั้นกับคนอื่นค่ะ คนเราต่างกัน คุณอาจมองว่าเป็นเรื่องแค่นี้แต่สำหรับคนโดนกระทำไม่ใช่เรื่องเล็กค่ะ กฎของการอยู่ด้วยกันให้มีความสุขและสบายใจและให้มองหน้ากันติดคืออย่าระรานกัน เผื่อแผ่ให้พอดี เป็นนักเรียนนักศึกษาต่างก็ใช้เงินพ่อเงินแม่เหมือนกันอย่าเอาเปรียบกันเลยค่ะ