(Cr: ภาพสวยๆ จาก
https://www.deadgoodbooks.co.uk/first-look-origin-by-dan-brown/)
สวัสดีครับเพื่อนๆ นักอ่าน เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีหนังสือออกใหม่น่าสนใจมากๆ โดยนักเขียนที่ผมชื่นชอบมากๆ นั่นก็คือแดน บราวน์ (Dan Brown) ด้วยความที่ชอบนิยายแนวสืบสวนสอบสวนประวัติศาสตร์แบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งเราเองก็ตามอ่านมาตั้งแต่ ดาวินชี โค้ด (The Da Vinci Code) เทวากับซาตาน (Angles&Demons) รหัสลับที่สาบสูญ (The Lost Symbol) และ สู่นรกภูมิ (Inferno) ล่าสุดมีเรื่อง ออริจิน (Origin) ออกมาวางขายที่ร้านหนังสือเรียบร้อยแล้วครับ

เอาจริงๆ ความเห็นส่วนตัวของผมนะ ผลงานเล่มหลังๆ ตั้งแต่ The Lost Symbol มาจนถึง Inferno ผมว่าดรอปลงมาเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนุกเลยนะ แต่มันคงยังไม่สุดสำหรับผม แต่ด้วยผมเป็นแฟนหนังสือพี่แดนอยู่แล้ว เล่มใหม่ออกมายังไงเราก็ต้องซื้อไว้ล่ะครับ
ภาพหน้าปกหนังสือเรื่อง ออริจิน (Origin) โดย แดน บราวน์ (Dan Brown) 
(Credit ภาพจาก Readery)
ผมอ่านอยู่ประมาณ 2 วันก็จบแล้วล่ะครับ กับจำนวนหน้าประมาณกว่า 560 หน้า แทบไม่ได้หลับได้นอนกับเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าหนังสือเรื่อง ออริจิน (Origin) จะทำให้พี่แดนกลับมาผงาดอีกครั้ง เพราะในความเห็นส่วนตัวของผมนะ สนุกกว่าสู่นรกภูมิ (inferno) มากๆ เลยครับผม
Dan Brown and Origin

(Credit ภาพจาก freemalaysiatoday.com)
‘THE MOST EXCITING BOOK OF THE YEAR’ คำกล่าวนี้ถ้าจะใช้กับหนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ผิดครับ เพราะต้องบอกว่าทั้งเนื้อหา และพล๊อตเรื่องเข้มข้นมากๆ คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างมากครับสำหรับเล่มนี้
ออริจิน (Origin) ธีมและประเด็นของเรื่อง เล่นใหญ่มาก คือปกติเราอ่านหนังสือของ Dan Brown ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และศรัทธาเป็นหลัก แต่เล่มนี้ประเด็นและแก่นของเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ 'ศาสนา และ วิทยาศาสตร์' คำถามโลกแตกที่ว่า 'ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน' 'มนุษย์กำเนิดมาจากพระเจ้าหรือไม่' 'ปลายทางของมนุษย์ เรากำลังเดินทางไปยังที่ใด'

(Credit ภาพจาก AboutIslam.net)
แน่นอนว่าเมื่อกล่าวถึง ‘ศาสนา’ และ ‘วิทยาศาสตร์’ ในเรื่องแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ นั่นคือ ‘เทวนิยม’ และ ‘อเทวนิยม’
ในทางศาสนา เรามีคำตอบให้กับคำถามที่ว่า มนุษย์กำเนิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งคำตอบนั้นคือพระเจ้าเป็นผู้สร้างเราขึ้นมา แต่ในทางวิทยาศาสตร์ เรายังไม่สามารถหาข้อสรุปดังกล่าวนี้ได้ครับ และในเรื่องออริจิน (Origin) นี้ เรื่องเปิดตัวที่ลูกศิษย์ของศาสตราจารย์แลงดอนคนหนึ่งชื่อเอ็ดมันด์ เคิร์สช์ เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้มีเป้าหมายในชีวิตว่าจะ "ใช้ความจริงของวิทยาศาสตร์ลบล้างตำนานความเชื่อเกี่ยวกับศาสนา" เอ็ดมันด์ เคิร์สค้นพบคำตอบดังกล่าว และเขาบอกว่าถ้าเผยแพร่คำตอบนี้ออกไปรับรองว่าทุกศาสนาทั่วโลกจะต้องล่มสลาย คนจะเลิกเชื่อในคำสอน แล้วหันมาเชื่อในวิทยาศาสตร์
งานของเอ็ดมันด์ เคิร์สช์จัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะสมัยใหม่ โดยมี อัมบรา บิดัล เซเลบริตี้สาวสวยเป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ งานนี้ไลฟ์สดไปทั่วโลก มีคนชมกว่าสองล้านคน แต่ทว่า ก่อนที่เอ็ดมันด์ เคิร์สช์จะได้บอกว่าเขาค้นพบอะไร
เขาก็ถูกฆ่าตายก่อนที่จะได้บอกความจริงนี้แก่โลก
หลังจากที่อ่านจบ พูดถึงสถานที่ในประวัติศาสตร์ สำหรับเล่มนี้ผมรู้สึกว่าแดน บราวน์ไม่ได้อัดเรื่องประวัติศาสตร์เข้ามาในหัวเรามากนัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปถึงแก่นและปมของเรื่องที่ต้องการการคลี่คลายเสียมากกว่า ทำให้ตอนเราอ่านรู้สึกเหมือนได้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และแน่นอนครับ งานของแดน บราวน์เล่มนี้ จะทำให้ความกระหายใครรู้ ความสงสัยของเราวิ่งขึ้นถึงขีดสุด และเมื่อปมความลับคลีคลาย ตัวผมเองรู้สึกว่า ความจริงที่ถูกค้นพบเกี่ยวกับคำถามที่ว่า 'มนุษย์มาจากไหน และกำลังจะไปที่ไหน' ทฤษฎีที่แดนบราวน์นำเสนอ มันมีความเป็นไปได้อย่างมากๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราในอนาคต เพียงแต่เราอาจจะไม่เคยตระหนักถึงมันมาก่อน ขนลุกเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพสถานที่จริงภายในเรื่อง ออริจิน (Origin)
มาม็อง (Mamam) แมงมุมแม่ม้ายดำ บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ในเมืองบิลเบส ประเทศสเปน

(Credit ภาพจาก TripAdvisor)
ตามธรรมชาตินั้น แม่ม่ายดำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เป็นสัตว์นักล่าที่จับเหยื่อไว้ในในของมันก่อนจะฆ่า ถึงแม้จะอันตรายถึงตาย แต่ในที่นี้ศิลปินเสนอภาพมันพร้อมถุงไข่ห้อยย้อย เตรียมตัวจะให้กำเนิดชีวิต ทำให้มันเป็นทั้งสัตว์นักล่าและผู้ให้กำเนิด ร่างกายอันทรงพลังวางอยู่บนเรียวขายาวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ สื่อถึงความแข็งแกร่งและความเปราะบางในภาพเดียว
Guggenheim Museum (กุกเกนไฮม์ มิวเซียม)
(Credit ภาพจาก bluespider voyage)
มหาวิหาร Sagrada Familia

‘โลกที่ปราศจากศาสนา’ ออริจิน (Origin) หนังสือเล่มใหม่จากแดน บราวน์
(Cr: ภาพสวยๆ จาก https://www.deadgoodbooks.co.uk/first-look-origin-by-dan-brown/)
สวัสดีครับเพื่อนๆ นักอ่าน เมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา มีหนังสือออกใหม่น่าสนใจมากๆ โดยนักเขียนที่ผมชื่นชอบมากๆ นั่นก็คือแดน บราวน์ (Dan Brown) ด้วยความที่ชอบนิยายแนวสืบสวนสอบสวนประวัติศาสตร์แบบนี้อยู่แล้ว ซึ่งเราเองก็ตามอ่านมาตั้งแต่ ดาวินชี โค้ด (The Da Vinci Code) เทวากับซาตาน (Angles&Demons) รหัสลับที่สาบสูญ (The Lost Symbol) และ สู่นรกภูมิ (Inferno) ล่าสุดมีเรื่อง ออริจิน (Origin) ออกมาวางขายที่ร้านหนังสือเรียบร้อยแล้วครับ
เอาจริงๆ ความเห็นส่วนตัวของผมนะ ผลงานเล่มหลังๆ ตั้งแต่ The Lost Symbol มาจนถึง Inferno ผมว่าดรอปลงมาเรื่อยๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่สนุกเลยนะ แต่มันคงยังไม่สุดสำหรับผม แต่ด้วยผมเป็นแฟนหนังสือพี่แดนอยู่แล้ว เล่มใหม่ออกมายังไงเราก็ต้องซื้อไว้ล่ะครับ
(Credit ภาพจาก Readery)
ผมอ่านอยู่ประมาณ 2 วันก็จบแล้วล่ะครับ กับจำนวนหน้าประมาณกว่า 560 หน้า แทบไม่ได้หลับได้นอนกับเลยทีเดียว ต้องยอมรับเลยว่าหนังสือเรื่อง ออริจิน (Origin) จะทำให้พี่แดนกลับมาผงาดอีกครั้ง เพราะในความเห็นส่วนตัวของผมนะ สนุกกว่าสู่นรกภูมิ (inferno) มากๆ เลยครับผม
(Credit ภาพจาก freemalaysiatoday.com)
‘THE MOST EXCITING BOOK OF THE YEAR’ คำกล่าวนี้ถ้าจะใช้กับหนังสือเล่มนี้ก็คงไม่ผิดครับ เพราะต้องบอกว่าทั้งเนื้อหา และพล๊อตเรื่องเข้มข้นมากๆ คุ้มค่ากับการรอคอยอย่างมากครับสำหรับเล่มนี้
ออริจิน (Origin) ธีมและประเด็นของเรื่อง เล่นใหญ่มาก คือปกติเราอ่านหนังสือของ Dan Brown ส่วนใหญ่ก็จะเกี่ยวกับศาสนา ความเชื่อ ประวัติศาสตร์ และศรัทธาเป็นหลัก แต่เล่มนี้ประเด็นและแก่นของเรื่องใกล้ตัวเรามากๆ 'ศาสนา และ วิทยาศาสตร์' คำถามโลกแตกที่ว่า 'ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน' 'มนุษย์กำเนิดมาจากพระเจ้าหรือไม่' 'ปลายทางของมนุษย์ เรากำลังเดินทางไปยังที่ใด'

(Credit ภาพจาก AboutIslam.net)
แน่นอนว่าเมื่อกล่าวถึง ‘ศาสนา’ และ ‘วิทยาศาสตร์’ ในเรื่องแบ่งกลุ่มคนออกเป็น 2 กลุ่มหลักๆ นั่นคือ ‘เทวนิยม’ และ ‘อเทวนิยม’
ในทางศาสนา เรามีคำตอบให้กับคำถามที่ว่า มนุษย์กำเนิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งคำตอบนั้นคือพระเจ้าเป็นผู้สร้างเราขึ้นมา แต่ในทางวิทยาศาสตร์ เรายังไม่สามารถหาข้อสรุปดังกล่าวนี้ได้ครับ และในเรื่องออริจิน (Origin) นี้ เรื่องเปิดตัวที่ลูกศิษย์ของศาสตราจารย์แลงดอนคนหนึ่งชื่อเอ็ดมันด์ เคิร์สช์ เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ผู้มีเป้าหมายในชีวิตว่าจะ "ใช้ความจริงของวิทยาศาสตร์ลบล้างตำนานความเชื่อเกี่ยวกับศาสนา" เอ็ดมันด์ เคิร์สค้นพบคำตอบดังกล่าว และเขาบอกว่าถ้าเผยแพร่คำตอบนี้ออกไปรับรองว่าทุกศาสนาทั่วโลกจะต้องล่มสลาย คนจะเลิกเชื่อในคำสอน แล้วหันมาเชื่อในวิทยาศาสตร์
งานของเอ็ดมันด์ เคิร์สช์จัดขึ้นในพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะสมัยใหม่ โดยมี อัมบรา บิดัล เซเลบริตี้สาวสวยเป็นผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ งานนี้ไลฟ์สดไปทั่วโลก มีคนชมกว่าสองล้านคน แต่ทว่า ก่อนที่เอ็ดมันด์ เคิร์สช์จะได้บอกว่าเขาค้นพบอะไร เขาก็ถูกฆ่าตายก่อนที่จะได้บอกความจริงนี้แก่โลก
หลังจากที่อ่านจบ พูดถึงสถานที่ในประวัติศาสตร์ สำหรับเล่มนี้ผมรู้สึกว่าแดน บราวน์ไม่ได้อัดเรื่องประวัติศาสตร์เข้ามาในหัวเรามากนัก ส่วนใหญ่จะเน้นไปถึงแก่นและปมของเรื่องที่ต้องการการคลี่คลายเสียมากกว่า ทำให้ตอนเราอ่านรู้สึกเหมือนได้ดูภาพยนตร์เรื่องหนึ่งเลยทีเดียว และแน่นอนครับ งานของแดน บราวน์เล่มนี้ จะทำให้ความกระหายใครรู้ ความสงสัยของเราวิ่งขึ้นถึงขีดสุด และเมื่อปมความลับคลีคลาย ตัวผมเองรู้สึกว่า ความจริงที่ถูกค้นพบเกี่ยวกับคำถามที่ว่า 'มนุษย์มาจากไหน และกำลังจะไปที่ไหน' ทฤษฎีที่แดนบราวน์นำเสนอ มันมีความเป็นไปได้อย่างมากๆ ที่จะเกิดขึ้นกับตัวเราในอนาคต เพียงแต่เราอาจจะไม่เคยตระหนักถึงมันมาก่อน ขนลุกเลยทีเดียว
มาม็อง (Mamam) แมงมุมแม่ม้ายดำ บริเวณทางเข้าพิพิธภัณฑ์กุกเกนไฮม์ในเมืองบิลเบส ประเทศสเปน

(Credit ภาพจาก TripAdvisor)
ตามธรรมชาตินั้น แม่ม่ายดำ เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว เป็นสัตว์นักล่าที่จับเหยื่อไว้ในในของมันก่อนจะฆ่า ถึงแม้จะอันตรายถึงตาย แต่ในที่นี้ศิลปินเสนอภาพมันพร้อมถุงไข่ห้อยย้อย เตรียมตัวจะให้กำเนิดชีวิต ทำให้มันเป็นทั้งสัตว์นักล่าและผู้ให้กำเนิด ร่างกายอันทรงพลังวางอยู่บนเรียวขายาวอย่างไม่น่าเป็นไปได้ สื่อถึงความแข็งแกร่งและความเปราะบางในภาพเดียว
(Credit ภาพจาก bluespider voyage)
(Credit ภาพจาก pinterest.es)
ท้ายที่สุดหนังสือเล่มนี้ ผมว่าสุดท้ายจะทำให้วงการนิยายแปลครึกครื้นอีกครั้ง (หวังว่านะครับ) เพื่อนๆ ท่านไหนสนใจก็ลองหาซื้อมาอ่านดู ผมว่าคุ้มค่าเลยแหละ อยากแนะนำให้อ่านกัน
ใครสนใจผมขออนุญาตแปะลิ้งให้สำหรับผู้ที่สนใจนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้