เมื่อโทรศัพท์ฉันหายที่ "โตเกียว"

ญี่ปุ่น...ประเทศที่ได้ชื่อว่า เรื่องความมีระเบียบวินัย ความสะอาด และความซื่อสัตย์ ไม่เป็นรองใคร

ช่วงนี้ซากุระกำลังเบ่งบาน วันหยุดยาวกำลังจะมาถึง หลายๆ คน คงแพลนที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น จึงอยากแบ่งปันประสบการณ์ ของหายที่ญี่ปุ่นให้ได้ทราบกัน

ซึ่งกระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาจะตำหนิใคร หากจะมีใครผิด ก็เป็นความผิดพลาดของเจ้าของกระทู้ ที่ดูแลรักษาสินทรัพย์ของตัวเองไว้ไม่ดีเอง

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เดินทางไปญี่ปุ่น แต่เป็นครั้งแรกที่ไปโตเกียว สองวันแรกที่ Kawaguchiko วันที่สาม Sensoji และ Sakura @Ueno จบด้วยที่ตึกม่วง
และเดินทางกลับตอนค่ำของวันที่สี่

เราพักที่ Dormy Inn Ueno Okachimachi ด้วยทำเลดีเยี่ยม ห่างจากตึกม่วงแค่ 230เมตร แค่ข้ามถนนแล้วเดินตรงไป

ครั้งสุดท้ายที่หยิบโทรศัพท์มาใช้คือวันที่ 3 ในตึกม่วงที่ตึกสุภาพสตรี ชั้น 1ที่จำหน่ายยา เพื่อเอาขึ้นมาให้พนักงานดูรูปยาที่ต้องการ ตอนประมาณ 20.00น. แล้วรีบจ่ายตังค์ เพราะร้านกำลังจะปิด 20.30น. ในร้านแทบไม่มีลูกค้าแระ เสร็จแล้วก้อเดินกลับที่พัก มีจังหวะที่ข้ามถนนไฟคนข้ามใกล้จะแดงเหลืออีก 1ขีด เลยวิ่งข้ามตามเพื่อน พอถึงห้องพักที่โรงแรมก้อจะหยิบโทรศัพท์มาชาร์ท ปรากฏว่าหาไม่เจอแล้ว รีบเดินกลับไปที่ตึกที่ม่วงระหว่างทางว่างป่าว สอบถามพนักงานที่กำลังเก็บของปิดร้าน พนักงานหันไปถามคนอื่นๆ ไม่มีใครเห็น จึงกลับมาที่โรงแรม แจ้งให้พนักงานรีเซฟชั่นทราบว่าโทรศัพท์เราหาย และขอให้ลองโทรเข้าเครื่อง แต่ไม่มีคนรับ ไปหาเพื่อนที่ห้องลองใช้โทรศัพท์เพื่อนโทรไลน์เข้าเครื่องตัวเอง ติดแต่ไม่มีคนรับ ใจคิดว่าคงหล่นยังไม่มีใครเห็นเก็บไป เลยไม่มีคนรับ พยามใช้โทรศัพท์เพื่อนส่งข้อความผ่านไลน์ เพราะข้อความไลน์จะค้างที่หน้าจอว่า "Please sent my phone to Dormy Inn Ueno." เผื่อว่ามีคนเก็บได้จะเอามาคืน สรุปคืนนั้นไม่ได้รับการติดต่อมา ก็ตั้งใจว่าเช้าอีกวันจะลองไปสอบถามที่ตึกม่วงอีกครั้งตั้งแต่ห้างเปิด

ืทั้งนี้ขอออกตัวก่อนว่าภาษาอังกฤษเราไม่ได้เป๊ะ แค่พอสื่อสารได้ และเราก้อชอบเที่ยวแบบไปกันเอง ไม่ได้ไปทัวร์นะคะ

8โมงเช้าวันรุ่งลงไปทานอาหารเช้าแล้วกะว่าจะไปตึกม่วงเลย แต่ก่อนไปลองโทรเข้าเครื่องอีกทีปรากฏว่ามีคนรับสายค่ะ เสียงปลายสายบอกว่า
Someone :  Where are U? I will return telephone to you.
Me : Yes, Now, I live in Ueno at Dorrmy Inn Ueno Hotel.
Someone : Can you speak English or Japanese?
Me : English, where aer you? Please retrun telephone to me. Dormy Inn Ueno.
Someone : Hello,  Hello ...
Me : Ok, Please talk with to my hotle, Just moment , please.

(รีบเดินไปส่งโทรศัพท์ให้รีเซฟชั่นคนเมื่อคืนคุย พร้อมบอกว่า "Someone will return telephone to me")

ทางรีเซฟชั่นรับโทรศัพท์ไปคุยเป็นภาษาญี่ปุ่น เราก้อเล่าให้พนักงานที่ Front อีกสองคนฟังว่าโทรศัพท์เราหายมีคนเก็บได้เค้าจะเอามาคืน ขอให้มาคืนโรงแรมได้มั้ย

ปรากฏว่ารีเซฟชั่นวางสายแล้วถามว่าเราไปโอซาก้ามาเหรอ คนที่คุยด้วยเค้าอยู่โอซาก้า เราทำโทรหายที่ไหน หรือเราโทรผิด โทรเบอร์อะไร  งงสิคะ ก้อเราใช้เบอร์ของเพื่อนเป็นเบอร์เมืองไทย โทรหาเบอร์เราที่เป็นเบอร์ของเมืองไทย แล้วไปติดคนที่โอซาก้าได้งัย แล้วที่เค้าบอกจะคืนโทรศัพท์เราหล่ะ คืออะไร
แต่รีเซฟชั่นสรุปว่าเราโทรผิด !!!

อะไม่เป็นไร เดี๋ยวเดินไปถามที่ตึกม่วง ระหว่างคิดเมื่อกี้โทรเบอร์อาจจะโทรผิดจริง ลองโทรไลน์แระกัน โทรเลยจ้า ยังยืนอยู่หน้าฟร้อนท์  ติดค่ะ เสียงคนเดิม
รับสาย
Someone : Hello
Me : Hello, Is this your phone?
Someone: No
Me : Are you keep it?
Someone : Yes, I will return to you.
Me : Now, I live in Ueno. Where are you?
Someone : ....
Me  : Ok, please talk with my hotel?
( ส่งโทรศัพท์ให้รีเซฟชั้นอีกครั้ง)
Me : Pleaes, talk with him, he told me that he keep my phone and will return to me.
(รีเซฟชั่นคุยหน้าเครียดเป็นภาษาญี่ปุ่น พนักงานอีกคนบอกว่าคนเก็บได้อยู่โอซาก้า แล้วไม่มาโตเกียว จะส่งทางไปรษณีย์ไม่ได้ ให้เราไปเอาโทรศัพท์ที่โอซาก้า เราจะกลับเมื่อไหร่ เราบอกว่าจะกลับเย็นนี้แล้วแต่จะให้เพื่อนไปรับแทนขอเบอร์ติดต่อ ทางโรงแรมบอกให้ แต่ทางคนเก็บได้ไม่ให้เบอร์ติดต่อ)

รีเซฟชั่นวางสาย บอกว่าเค้าโกด เราก้องงว่าโกดอะไร รีเซฟชั่นบอกไม่ทราบ  ตอนนี้เค้าอยู่โอซาก้า ไม่สามารถส่งโทรศัพท์มาให้ได้ แล้วรีเซฟชั่ั่นเขียนจดหมายให้เราไปให้ตำรวจตรงสวนอุเอโนะเพื่อแจ้งความ

เราก้อไปตามที่รีเซฟชั่นแนะนำ  แต่ปรากฏว่าตำรวจพูดอังกฤษแทบไม่ได้ ส่งจดหมายให้ตำรวจอ่าน เค้าต่อสายให้เราคุยกับล่ามภาษาอังกฤษ ตายละสิ ภาษาฉันก้อไม่ได้ว่าดี ล่ามก้อพูดเบามากแทบไม่ได้ยิน พอบอกให้พูดดังหน่อยนางก้อดังประโยคแรก แล้วก้ีอแผ่วเบาลงไปอีก เลยตัดสินใจขอตัวช่วย บอกขอเวลาเดี๋ยวไปหาคนมาช่วย เดินออกมาเจอคนไทยที่มาชมซากุระหน้าสวน ว่าพูดญี่ปุ่นได้มั้ย โชคดีเจอน้องผู้หญิงคนนึงหน้าห้าง Takeya   ตรงหน้าสวนอุเอโนะ ถามว่ามีอะไรคะ หนูพูดญี่ปุ่นไม่ได้ แต่อังกฤษได้ไปช่วยได้ค่ะ น้องก้อเดินมาช่วยให้ตำรวจต่อสายหาล่าม ตอนแรกตั้งใจว่าจะใ้ห้ตำรวจช่วยขอเบอร์ติดต่อคนเก็บได้เพื่อให้สามารถติดต่อไปรับโทรศัพท์คืนที่โอซาก้าได้  แต่ปรากฏว่า ที่ญี่ปุ่นไม่สามารถส่งโทรศัพท์ทางไปรษณีย์ได้ ซึ่งก็บอกแล้วว่าเราจะไปรับที่โอซาก้า เค้าก้อไม่สนแถมบอกว่าให้เรากลับไปซื้อโทรศัพท์ใหม่ที่เมืองไทย รุ่นใหม่ๆ ไม่แพง (((จบ))) พร้อมยกแขนไคว่เป็นกากบาทพูดแต่ Stop Stop Stop!!!

Me : Yes, I know new telephone is better than. I don't care my telephone but I care information in my phone.

Police : Stop Stop Stop!!!

แห๋มอย่าลืมนะคะสารพัดแอพ ธุระกรรมทางการเงิน ข้อมูลการทำงาน รูปถ่ายอีก ที่อยู่ในโทรศัพท์
ก้อทำใจนะคะ ว่าไม่ได้คืน จบก้อจบ

แต่เรื่องยังไม่จบค่ะ

เนื่องจากเค้าบอกว่าจะคืนโทรศัพท์ให้เรา เราจึงส่งไลน์ข้อความไปที่เครื่องว่าให้เค้าติดต่อกลับมาหรือติดต่อเพื่อนเราที่โอซาก้าจะได้ไปรับเครื่องคืน  (เพราะเราหาคนช่วยรับเครื่องคืนที่โอซาก้าได้แล้ว)

ประมาณบ่ายสามโมงครึ่งซึ่งเป็นเวลาที่เรากำลังจะเดินทางไปสนามบิน จากที่เราพยามติดต่อส่งข้อความไปทั้งวัน โทรไปไม่รับ แต่กลับมีข้อความส่งมาจากทางไลน์ของเราเองนั่นหมายถึงคนเก็บได้เป็นคนตอบมา ตอนแรกก็คิดว่าเค้าเข้าไปตอบได้อย่างไร โทรศัพท์เราก็ล็อคไว้ แต่น่าตกใจที่สุดคือ จู่ๆ  มาบอกว่าตัวเองเป็น Hacker  (ภาพหน้าจอที่เค้าตอบมา)


ตอนนั้นบอกเลยว่าใจมาก รีบโทรหาน้องให้เปลี่ยนพาสเวิร์ดทุกตัวเท่าที่จะทำได้ พี่บอกให้กลับไปแจ้งความเอาข้อความนี้ให้ตำรวจดู แต่เรากลัวจะไปสนามบินเลยตัดสินใจไปแจ้งที่สนามบินแทน

พอถึงสนามบินรีบเช็คอินเรียบร้อยแล้วกลับลงไปแจ้งความ ปรากฏว่าตำรวจที่สนามบินจะเดินไปเดินมาไม่ได้นั่งประจำศูนย์ ต้องโทรตาม หรือโทรแจ้ง พอดีมีตำรวจคนนึงเดินกลับมา เราจึงเอาข้อความให้ดูและเล่าให้ฟัง ตำรวจเดินมาอีก 5-6คน แล้วบอกขอโทษที่ตำรวจญี่ปุ่นพูดอังกฤษได้น้อย เดี๋ยวประชาสัมพันธ์ช่วย พอไปถึงประชาสัมพันธ์ สรุปตำรวจบอกว่าตอนนี้ทำอะไรไม่ได้ เราบอกว่าเราซีเรียสเรื่อง Information ประชาสัมพันธ์บอกว่าให้เราโทรระงับบริการเบอร์ที่หายก่อนคนที่เก็บได้จะได้เข้าไปเอาข้อมูลไม่ได้    จบ...ปิดคดี โทรกลับเมืองไทยปิดเบอร์

*****************************************

หลังจากกลับมาพิจารณาแล้ว

-คนที่เก็บได้อาจจะไม่ใช่คนญี่ปุ่น ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ทีแค่คน เพราะตอนคุยโทรศัพท์ด้วย สำเนียงไม่เหมือนญี่ปุ่น แต่ก้อไม่ทราบได้

-คนเก็บได้ตั้งใจไม่คืนแต่แรก เพราะปกติคนญี่ปุ่น จะไม่หยิบของคนอื่น หรือเจอของต้องนำส่งตำรวจอย่างเดียว หยิบไปถือว่าเป็นขโมยทันที

-ญี่ปุ่นห้ามส่งโทรศัพท์ทางไปรษณีย์

-โทรศัพท์หายต้องปิดและเปลี่ยนทุกย่างที่เกี่ยวข้องทันทึอย่าคอดแค่ว่าโทรศัพท์ล็อกไว้แล้ว

-หลังจากกลับมาตามหาสัญญาณโทรศัพท์เก่าพบว่ามีการใช้ครั้งสุดท้ายในวันและ เวลาที่เราใช้โทรศัพท์เพื่อนโทรไปแล้วครเก็บไดบอกว่าเค้าอยู่โอซาก้า แสดงว่าเค้าโกหก เค้าอยู่ในโตเกียวห่างจากที่พักเราไปประมาณ1กม. แต่เป็นย่านที่เราไม่เคยไปด้วยฉะนั้นเค้าน่าจะอยู่ที่นั่น



- เค้าตอบไลน์เราได้จากหน้าจอที่เราส่งไปได้ โดยไม่ต้องปลดล็อคเครื่อง

-เค้ายังไม่สามารถปลอดล็อดเข้าเครื่องเราได้ เพราะเพราะถ้าเข้าไปได้ เพราะไม่มีการแจ้งเตือนจากแอพใดๆที่โดนพยามเข้าหรือเปลี่ยนพาสเวิร์ด

-เค้าขู่ว่าเป็น Hacker เพราะถ้าเป็นจริง Hack เลยไม่มาบอกเราหรอก

จากการไปญี่ปุ่นครั้งนี้ทำให้เราได้ประสบการณ์ใหม่ ทีาไม่คาดคิดมาก่อน และเตือนให้เราต้องมีความระมัดระวังเรื่องทรัพย์สินให้มากกว่านี้ ยังโชคดีที่ไม่มีอะไรเสียหายไปมากกว่าการเสียงโทรศัทพ์เก่าๆ ไป1เครื่อง กับรูปทริปแรกของโตเกียววันที่ 3ไป

หวังว่าเพื่อนๆ ที่กำลังจะไปเที่ยวจะไม่โชคร้ายเหมือนเรานะคะ จำไว้ว่าญี่ปุ่นไม่ใช่แค่คนญี่ปุ่นนะคะ
หรือคนเลวมีได้ทุกที่ไม่ว่าที่นั่นจะได้ชื่อว่าดีก้อเถอะ
เดินทางปลอดภัย เที่ยวให้สนุกทุกคนค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่