ประสบการณ์ป่วยหนัก กับ โรงพยาบาลของประกันสังคม

ผมเป็นคนหนึ่งที่อายุใกล้ 60 หน้าหนาวที่ผ่านมามีอาการไอเป็นระยะเวลากว่า 3 เดือน เริ่มไอก็ไปหาหมอที่โรงพยาบาลของประกันสังคม ตรวจรักษากว่า 2 เดือน อาการไม่ดีขึ้น หาสาเหตุที่แท้จริงไม่เจอ สุดท้ายได้เวลารับเบี้ยคนชรา เลยเลิกส่งประกันสังคม ไปใช้บัตรทองแทน เพราะที่ผ่านมา โรงพยาบาลของประกันสังคมไม่ได้วินิจฉัยโรคอย่างจริงจัง แค่จ่ายยาไปตามหน้าที่เรื่อยๆแต่ไม่หาต้นเหตุ (ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ช่วงต่อไปจะเล่าเหตุการณ์ที่เกิดในครั้งแรก) ย้อนไปเมื่อใช้บัตรทอง ทางคลีนิครีบส่งตัวต่อไปยังโรงพยาบาลเพื่อวินิจฉัยอาการ ปรากฎว่าเป็นปอดติดเชื้อ นอนโรงพยาบางอยู่ 5 วัน อาการก็ดีขึ้น จากที่เคยเบื่ออาหาร น้ำหนักลด กลับมาหิวและกินได้มากขึ้น ตอนนี้ผมก็รักษาอาการไปเรื่อยๆ ทางโรงพยาบาลบัตรทอง ก็นัดดูอาการเป็นระยะ อาการไอก็หาย โชคดีที่ตัดสินใจถูกที่ไม่ทำประกันสังคมต่อ เพราะสาเหตุวินิจฉัยโรคผิดถึง 2 ครั้ง
ประสบการณ์การเข้าโรงพยาบาลรัฐ
จากการที่ปอดติดเชื้อก่อนใช้บัตรทอง ได้ไปโรงพยาบาลของรัฐเพื่อขอนอนพักรักษา เนื่องจากอาการไม่ค่อยดี เหนื่อยง่าย หายใจรับออกซิเจนไม่ได้ตามมาตราฐาน ต้องให้ออกซิเจนผ่านเครื่อง ได้นอนอยู่ 1 คืน แต่อยู่นอกห้องฉุกเฉิน เพราะไม่มีเตียงรักษาเพียงพอ โรงพยาบาลรัฐนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียง แต่ไม่มีเตียงพอสำหรับผู้ป่วย และยังมีผู้ป่วยอีกมาก ที่นอนรอเตียงรักษา (สงสัยว่าถ้ายอมจ่ายเงินคงจะมีเตียง แต่ผมก็ยอมจ่ายแต่ก็ไม่มีเตียง) ระหว่างนอนรอหน้าห้องฉุกเฉิน เห็นผู้ป่วยมากมายๆ ทะยอยมาโรงพยาบาลตลอด ดูแล้วก็น่าหดหู่ เนื่องจากโรงพยาบาลไม่สามารถดูแลคนไข้ได้ดีกว่านี้ ด้วยสาเหตุใดก็ตาม ผู้ที่มีอำนาจน่าจะมาดูแลการรักษาคนไทยที่เจ็บป่วย ให้ได้รับการรักษาที่ทันทีและดีกว่านี้ ดูแลการรับรักษาให้ได้มากที่สุด และทางที่ดีคนไทยควรดูแลตัวเองเพราะสมัยนี้โรคเป็นกันง่าย ถ้าทานอาหารที่ไม่ได้สุขลักษณะ ไม่ออกกำลังกาย แก่ตัวก็จะป่วยง่าย
ประสบการณ์การเข้าโรงพยาบาลเอกชน(บัตรทอง)
การใช้สิทธิบัตรทองก็ได้รับการรักษาดีพอควรเมื่อได้เข้าเป็นผู้ป่วยใน ข้อเสียคือสิทธิในการได้รับเตียงรักษา ห้องค่อนข้างแออัด มีห้องสี่เหลี่ยมปิดทึบไม่มีหน้าต่าง มีพัดลมตัวเดียวแล้วต้องปิดหมดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ ภายในห้องรวมก็แออัด พัดลมไม่มีแรงหมุน ทำให้อากาศไม่ถ่ายเทเท่าไร ระเบียบการเข้าเยี่ยมก็ไม่มี ปล่อยให้คนเฝ้าไข้ คนเยี่ยม เดินกันเสียงดัง เวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่ง ก็ยังไม่หยุดกิจกรรม แล้วคนไข้จะพักผ่อนได้อย่างไร มีใครพอจะมาตรวจสอบสถานที่การรักษาคนไช้ให้มีวิถึความเป็นอยู่ในเวลารับการรักษาให้ดีกว่านี้
ประสบการณ์โรงพยาบาลวินิจฉัยโรคผิด
จากที่กล่าวเมื่อข้างต้น โรงพยาบาลประกันสังคม ให้การรักษาแบบขอไปที ก่อนเกิดเหตุการณ์โรคปอดติดเชื้อ ประมาณ 2 ปี ผมป่วยเป็นโรคปลายประสาทอักเสบ เดินแทบไม่ได้  โรงพยาบาลประกันสังคม ตรวจวินิจฉัยส่งตัวเอ็กเรย์(เข้าอุโมงค์) หมอลงความเห็นว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทบริเวณต้นคอ จะต้องได้รับการผ่าตัด โอกาส 50-50 ฟังแล้วแทบจะเป็นลม  ก็เลยลองไปโรงพยาบาลรามาธิบดี เดินด้วยไม้เท้าคนเดียวไปโรงพยาบาลตั้งแต่ตีห้า เมื่อได้รับการตรวจก็พบว่าเป็น โรคปลายประสาทอักเสบ แค่ทานยาให้ถูกก็รักษาได้แล้ว ทานยางวดแรกก็ดีขึ้น  เลยลองเอาชื่อยาไปขอให้โรงพยาบาลประกันสังคมให้จ่ายยาให้ ทางโรงพยาบาลแจ้งว่ายานี้ไม่อยู่ในลิสที่ประกันสังคมจ่ายได้  ไปปรึกษาที่ประกันสังคมก็ได้รับคำตอบเช่นกัน  ผมจ่ายเงินสมทบกว่า 180 เดือน เพื่ออะไรป่วยแต่ไม่รักษา อะไรคือความยุติธรรมกับประชาชนคนไทยอย่างเรา ที่ต้องทำตามกฏหมาย แต่ไม่ได้การเยียวยาในยามที่เรามีความจำเป็นต้องเจ็บป่วย

ฝากคนไทยทุกคนดูแลรักษาตนเองให้แข็งแรงเพื่อใช้ชีวิตได้อย่างยืนยาวต่อไปครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่