ได้รับแรงบันดาลใจมากจาก กระทู้ธุรกิจ... อมยิ้ม ของคุณ สมาชิกหมายเลข 4171962
https://ppantip.com/topic/37488320
จึงขออนุญาต นำมาต่อยอด ด้วยความคารวะชื่นชม



ยิ้ม


             ยิ้มเล็กน้อย ค่อยยิ้ม  แต่อิ่มจิต
             ยามพินิจ  คิดรัก  ปักใจหมาย
             ยิ้มหน้าบาน  จานข้าว  เท่าหัวใจ
             คนยิ้มใส่  ให้โลก ไม่โศกตรม

             ยิ้มกว้างกว้าง   ช่างเท่ กิ๊กเก๋นัก
             ใจประจักษ์  เปิดใจ  ให้สุขสม
             ยิ้มเหยียดเหยียด  เกลียดใจ ใส่อารมณ์
             ยิ้มขมขม  เพราะขมขื่น ไม่ชื่นใจ

             ยิ้มหวานหวาน พาลให้ ใจจะขาด
             รอยยิ้มบาด วาดฟากฟ้า พาสดใส
             อยากชิมยิ้ม อิ่มหวาน ทุกวันไป
             พาหัวใจ ยิ้มเพ้อเพ้อ ละเมอครวญ

             ยิ้มเศร้าเศร้า  ใจเศร้า  มองแล้วเศร้า
             ยิ้มเหงาเหงา ฤาใจเหงา เศร้ากำสรวล
             ยิ้มหม่นหม่น ใจหม่นไป  เสียดายนวล
             ยิ้มกวนกวน ชวนถูกเตะ เละคาทีน

             ยิ้มมุมปาก  ลากนักเลง เกรงถูกอัด
             สารพัด หมัดเท้า ของเจ้าถิ่น
             ยิ้มโหยโหย โรยแรงใจ ไม่มีกิน
             ยิ้มหมิ่นหมิ่น  อย่ายิ้มบ่อย คอยเตือนกัน

             ยิ้มปุ้มปุ้ย   อุ้ยยิ้ม ปลากะป๋อง
             ยิ้มบ้องบ้อง  ยิ้มไป กับใจฝัน
             ยิ้มคนเดียว ยิ้มยาวยาว ข้ามคืนวัน
             ยิ้มแบบนั้น  ยิ้มผีบ้า   น่ารักจัง

             ยิ้มค้างค้าง   ช่างทำกัน สะบั้นยิ้ม
             ยิ้มกริ่มกริ่ม ลวดลาย ใจแอบหวัง
             ยิ้มดุดุ   ยิ้มโหดโหด โกรธเกลียดชัง
             บางคนนั่ง น้ำตาปริ่ม   ยิ้มทั้งน้ำตา

             มายิ้มกัน วันนี้  มีรอยยิ้ม
             เพียงรอยยิ้ม โลกยิ้มให้ ใจเริงร่า
             เธอยิ้มที  ฉันยิ้มที  มีเวลา
              ขอเพียงมา มีรอยยิ้ม ก็อิ่มใจ

            ....................

ภาคร้อยแก้ว

             ผมค่อนข้างแน่ใจว่า ทุกท่านที่ได้อ่านกระทู้นี้ ไม่ว่าจะเป็นตอนไหน (ถ้าเป็นตอนนี้ท่านก็คงตอนอยู่หน้าจอนั่นล่ะ) จะต้อง เคย "ยิ้ม" มาก่อนไม่มากก็น้อย ไม่ว่าจะยิ้มแบบไหน ให้ใคร ก็ตาม ผมไม่คิดว่าจะมีใครที่เกิดมาไม่เคยยิ้ม เหมือนที่ไม่เคยคิดว่าทารกแรกเกิดจะยิ้มตั้งแต่ออกมาจากท้องแม่ได้ เพราะหลักสากลทารกเกิดตอนแรกต้องร้องไห้เอาฤกษ์เอาชัย ไม่มีใครหัวเราะออกมา

             ยิ้มคือ กิริยาอาการอย่างหนึ่งของมนุษย์ เป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของมนุษย์ พบมากในมนุษย์เท่านั้น เป็นขั้นตอนที่สามารถนำไปสู่การ “หัวเราะ”แต่การยิ้มกับการหัวเราะไม่เหมือนกัน  ถ้าติดให้ดีจะพบว่า เวลายิ้ม จะไม่มีเสียง มาลองนึกดูว่า เคยเห็นใครยิ้มมีเสียงบ้าง ก็นึกไม่ออก ดังนั้นเราจะไม่เคยได้ยินคำว่า ยิ้มจนแสบแก้วหู อะไรทำนองนั้น   เมื่อเป็นลักษณะพิเศษเฉพาะตัวของมนุษย์ เราจึงจะไม่เคยเห็นควายยิ้ม หรือแมวยิ้ม หมูหมากาไก่ก็ไม่เคยยิ้มให้เห็น บ้านใครมี แมวยิ้มได้ หรือ หมาที่บ้านยิ้มได้ รับรองถูกพาไปหาหวย การยิ้มส่วนมาก แสดงออกถึงอารมณ์ซึ่งโน้มเอียงไปในทางมีความสุขกายใจ

             แต่ก็มีบางคนยิ้มแบบไม่มีอารมณ์ใดๆ เหมือนกัน ได้แก่ การยิ้มกับลมฟ้าอากาศหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัว เรียกว่า ยิ้มแบบไร้จุดหมายปลายทาง ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร เป็นอาการยิ้มแบบคนใกล้บ้า หรือคนที่บ้ากำลังดี หรือไม่ก็เป็นคนปกติแต่อยากจะยิ้มแบบไม่มีเหตุผลก็ได้   เวลายิ้มปากจะโค้งขึ้น (เหมือนปากเป็ด) ใครนึกไม่ออก ลองไปดูปากเปิด  

             ดังนั้น เป็ดจะมีปากยิ้มเสมอ (แต่ความจริงเป็ดไม่ได้ยิ้มหรอกครับ ธรรมชาติมันเป็นแบบนั้น) ขนาดถูกจับมาทอดเป็น "ปากเป็ดทอดกรอบ" หรือเหลือแต่หัวเป็ด ปากเป็ดยังอุตส่าห์นอนยิ้มให้เราดูอยู่ในจาน เห็นแล้วแทบกินไม่ลง เพราะสงสารรอยยิ้มไร้วิญญาณนั้น   ไก่ จะมีปากตรงกันข้ามกับปากเป็ด คือปากไก่จะโค้งคว่ำลงเป็นเดือนคว่ำ  เหมือนอารมณ์เสียตลอดเวลา ดังนั้น เมื่อเรามองหน้าเป็ดและหน้าไก่ เปรียบเทียบกัน เราจะรู้สึกว่า ปากเป็ดเจริญหูเจริญตามากกว่า เพราะเป็ดดูเหมือนจะยิ้มตลอดเวลา ส่วนไก่จะปากคว่ำตลอดเวลา

             การทำหน้ายิ้ม ทำไม่ยาก เช่น เวลาการถ่ายรูป ให้ออกเสียงว่า "ฉี่...."ก็จะยิ้มเองแบบอัตโนมัติ แต่เวลาเข้าห้องน้ำไปฉี่ ก็ไม่จำเป็นต้องยิ้มให้ใครเห็น     ยิ้มมีหลายประเภทถ้าจะนับกันจริงๆคงนับไหวไหว แต่อาจยกตัวอย่าง พอสังเขปดังนี้


ยิ้มมุมปาก
เป็นการยิ้มที่ค่อนข้างกวนอารมณ์ เหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในใจ ไม่ควรใช้บ่อย เพราะดูแล้วไม่น่าคบเท่าไร

ยิ้มกว้าง
เป็นยิ้มที่เปิดเผย ใครเห็นใครก็ชอบ เพราะดูจริงใจ เต็มใจยิ้ม ส่วนจะกว้างไกลสุดสายตาขนาดไหนขึ้นอยู่กับปากของคนยิ้ม คนปากใหญ่จะได้เปรียบ

ยิ้มยาวๆ
เป็นยิ้มที่ไม่น่าจะพบในมนุษย์ธรรมดา แต่อาจพบในบางคนที่ปากยื่นปากยาวสามารถยิ้มปากแทบฉีกถึงใบหู ผีญี่ปุ่นบางตัวสามารถยิ้มได้แบบนี้ แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานมายันยัน

ยิ้มไม่คิดชีวิต
เป็นยิ้มที่หายใจหายคอไม่ทัน เหมือนมีอะไรบางอย่างกะทันหันจวนตัว จะเรียกว่ายิ้มหนีตาย ก็ได้

ยิ้มตามบุญตามกรรม
เป็นการยิ้มแบบไร้อนาคตและจุดหมายปลายทาง เป็นการยิ้มเรื่อยเปื่อยไร้จุดหมายปลายทางของรอยยิ้ม ปลงแล้วชาตินี้พี่ขอลา

ยิ้มเผล่
เป็นการยิ้มที่ค่อนข้างยาก ต้องฝึก แต่ก็มีความหมายไปในทางดี แม้ว่ารัศมีของรอยยิ้มอาจสู้ยิ้มกว้างไม่ได้

ยิ้มหมิ่นๆ
เป็นการยิ้มเชิงลบ ออกไปในทางดูถูกคนอื่น ไม่ควรฝึก หน้าและริมฝีปากจะเสียหายได้ง่ายถ้าอยู่ในที่ไม่ถูกไม่ควร

แค่นยิ้ม
เป็นการยิ้มเชิงลบอีกอย่างหนึ่ง ด้วยมีความไม่พอใจ หรือขุ่นเคืองอยู่ภายใน
ยิ้มเยาะเย้ย  เป็นการยิ้มแบบจงใจ เพื่อเย้ยหยันเมื่อเห็นคนที่ไม่ชอบตกอยู่ในภาวะลำบากกว่า เป็นรอยยิ้มซึ่งโน้มเอียงไปในทางลบ

ยิ้มเก๋
เป็นการยิ้มเชิงบวกที่เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องฝึกก็สามารถเป็นเอง บางคนจะมีเขี้ยวเสน่ห์ประกอบการยิ้ม เป็นยิ้มที่ใครๆ ก็อยากเห็น เพราะดูแล้วดี คนบางคนหน้าตาก็ธรรมดา แต่พอยิ้มจะดูดีขึ้นมาทันทีเพราะยิ้มเก๋

ยิ้มแสยะ
เป็นการยิ้มออกไปในทางน่าเกลียด ดูแล้วเสียความรู้สึก ไม่ควรฝึก ถือว่าเป็นการยิ้มแบบฝ่ายมาร

ยิ้มลามก   ยิ้มหื่น
เป็นรอยยิ้มที่อุบาทว์ที่สุด น่าเกลียดน่ากลัวน่าชัง ส่วนมากมักเกิดกับเพศชาย ไม่ควรฝึกยิ้มแบบนี้เด็ดขาด แต่หลายคนเป็นเองโดยธรรมชาติ

ยิ้มหงอยๆ
เป็นการยิ้มในอารมณ์ซึมเศร้า หดหู่ ซึมทื่อ ไม่มีเพื่อนใจกาย  อ้างว้างเดียวดาย เหมือนไก่เหงา

ยิ้มเศร้าๆ
เป็นยิ้มในเชิงหม่นมืด  ใครเห็นแล้วก็รู้สึกไม่ดีไปด้วย แต่บางทีก็จำเป็นต้องยิ้มแบบนี้ เพราะโลกมันเศร้า จะให้มาทำหน้าระรื่นเกินเหตุก็ไม่ไหว

ฝืนยิ้ม
เป็นอาการที่ต้องบังคับให้ตัวเองยิ้ม เช่น โดนมีดจ่อคอให้ยิ้มถึงจะออกไปในทางลบ แต่เราก็ควรฝึกเอาไว้ ไม่เสียหาย เพราะอย่างน้อยก็ทำให้คนรอบข้างรู้ว่า เรายังยิ้มได้ คนรอบข้างก็จะสบายใจขึ้น ไม่มากก็น้อย

ยิ้มหวาน
เป็นยิ้มที่น่าดู มักจะเป็นการยิ้มของหนุ่มสาวกำลังอินเลิฟ  เห็นแล้วเจริญหูเจริญตา ดูอย่างไรก็ไม่เบื่อและส่วนมากผู้หญิงจะยิ้มหวานแล้วดูดีกว่าผู้ชาย  ผู้ชายยิ้มหวานเกินไปจะดุสยองจิต

ยิ้มกริ่ม
เป็นการยิ้มออกไปในทางเจ้าเล่ห์นิดๆสาสมใจหน่อยๆ เป็นยิ้มไม่มีพิษภัยมากมา ฝึกได้

ยิ้มจืดๆ
เป็นการยิ้มที่ออกไปในทางน่าสงสาร เพราะบ่งบอกถึงความผิดหวัง ซึมทื่อ หงอยเหงา

ยิ้มทั้งน้ำตา
เป็นการยิ้มเชิงบวก เพราะขณะร้องไห้ ยังสามารถยิ้มได้ เป็นการยิ้มที่แม้จะมีบรรยากาศหดหู่ แต่ก็รู้สึกมีกำลังใจกับการยิ้มทั้งน้ำตา แต่ไม่ควร ยิ้มทั้งน้ำลาย เพราะดูแล้ว อุบาทว์เกินจะรับได้

ยิ้มในใจ
จัดเป็นการยิ้มขั้นสูงสุดยอดคืนสู่สามัญ ไร้รูปไร้ลักษณ์ ไม่มีใครเห็น บรรลุขั้น "ยิ้มไร้เงา" สามารถยิ้มในใจ ใส่ใครก็ได้ ทุกเมื่อ ทุกเวลาแม้แค่ยามนอน รับรองว่าคนถูกยิ้มใส่ ไม่มีทางรู้ตัวตลอดกาลจนวันสิ้นโลก

ยิ้มกวนๆ
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เป็นการยิ้มที่เรียกร้องความสนใจของ บาทาไร้เงา ไม่ควรยิ้ม

ยิ้มซื่อบื้อ
เป็นยิ้มที่น่าสงสารเห็นใจ  ไม่เป็นพิษเป็นภัยกับใคร

ยิ้มสิ้นหวัง
เป็นการยิ้มที่ไร้อนาคต ไม่มีแรงจูงใจ ไม่มีไฟในหัวใจ ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาวะที่ต้องยิ้มแบบนี้

ยิ้มโหด หรือยิ้มอำมหิต
เป็นรอยยิ้มของพวกฆาตกร พวกนิสัยไม่ดี คนดีๆ ไม่ควรยิ้มโหด ในสังคมครอบครัวภรรยามักเป็นฝ่ายยิ้มแบบนี้มากกว่า

ยิ้มแห้งๆ
เป็นการยิ้มที่ไม่สดใส คล้ายๆฝืนยิ้ม เป็นการยิ้มเชิงลบ

ยิ้มเล็กน้อย
เป็นเรื่องของการประหยัดรอยยิ้ม ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ก็ดูดี ถ้ายิ้มถูกจังหวะอันเหมาะสม

ยิ้มบ้าๆ
เป็นการยิ้มที่ไม่เข้ากับอารมณ์หรือสถานการณ์ขณะนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นคนบ้า ก็สามารถยิ้มแบบนี้ได้ แต่จะไม่ดีเท่าคนบ้ายิ้ม คนจะฝึกต้องหัดบ้าเข้าไว้ก่อน

กระตุกยิ้ม
เป็นการยิ้มมุมปากแบบกะทันหัน ดูแล้วน่ากลัวมากกว่านารัก ไม่ควรฝึก เพราะอาจทำให้เกิดอาการชักกะตุก

ยิ้มปากฉีก..
.เป็นการยิ้มกว้างเกินไป มากเกินไปจนเกินความจำเป็น ดูแล้วน่ากลัวสยดสยอง

ยิ้มไม่มีเหตุผล
ชื่อก็บอกอยู่แล้ว เป็นการยิ้มเรื่อยเปื่อย อาจหมายถึงสภาวะทางจิตเริ่มผิดปกติ  

ยิ้มเรี่ยราด
เป็นการยิ้มสิ้นเปลือง ไม่ประหยัด ไม่เป็นที่เป็นทาง ดูแล้วไม่ค่อยดี ไม่ควรยิ้ม  เสียดาย

ยิ้มค้าง
เป็นการยิ้มที่ถูกขัดคอกะทันหัน อารมณ์เปลี่ยนแปลงแบบตั้งตัวไม่ทัน

ยิ้มดุ
  เป็นรอยยิ้มของคนที่อารมณ์ไม่ดี ไม่ควรเข้าไปใกล้

ยิ้มเหนื่อยๆ
เพราะใจมันเพลีย...

ยิ้มเอ๋อ
เป็นการยิ้มแบบปัญญาอ่อน ไม่ควรยิ้มเล่นจนเป็นนิสัยหรือความเคยชิน เพราะจะขักชวนให้องคาพยพบนใบหน้าเอ๋อตามไปด้วย ไม่ดีเท่าที่ควร

ยิ้มพยาบาท
เป็นการยิ้มแบบอาฆาตของเวรจองกรรม เห็นแล้วขนลุกน่ากลัว ไม่ควรยิ้มแบบนี้


ยิ้มกวนTeen
อันนี้เป็นยิ้มอันตราย เรียกร้องความสนใจจากฝ่ายตรงกันข้ามให้สติแตก แล้วชวนกันแบกปืนผาหน้าไม้เข้ามาหา  ไม่ควรยิ้มเป็นอันขาด เพราะอายุอาจสั้น ไม่ควรยิ้มให้กับใคร ไม่ว่าจะเป็นเจ้านาย(ไม่รุ่งแน่) เพื่อน แฟน ภรรยา หรือคนไม่รู้จัก

ยิ้มชั่วร้าย
คงไม่ต้องบรรยาย  อิอิ

ยิ้มไม่ออก
.....!!!!!.เพราะถูกน้ำท่วม ไฟไหม้ ของหาย เมียด่า  กระทู้หาย  หวยกิน หรือไม่ก็อยู่ในสถานการณ์บีบคั้นถึงขีดสุด แม้แต่ฝืนยิ้มก็ยังไม่สามารถทำได้

ยิ้มครั้งสุดท้าย
เป็นการยิ้มก่อนตาย (ก็ยซ์.....ยังมีหน้าเอามาบอกอีก..^__^...)

ยิ้มสั่งเสีย
เป็นการยิ้มตอนร่ำลาอาลัย เมื่องานเลิ้ยงเลิกลาจากไกล หรือตอนดูใจกัน

ยิ้มเย็นๆ หรือยิ้มเย็นยะเยิอก
เป็นรอยยิ้มที่ทำให้นึกถึงผีสางนางไม้  ชวนขนลุก หัดฝึกยิ้มบ้างก็ดีครับ  เอาไว้หลอกแฟน

              เห็นไหมครับ ว่า การยิ้มมีมากมายหลายแบบ ยังมีอีกมากมาย สาธยายไม่หมดสิ้น    การยิ้มทำให้โลกยิ้มไปด้วย ยิ้มเป็นเครื่องประดับเครื่องสำอางบนใบหน้าที่ดีที่สุด  ไม่ต้องซื้อหาราคาแพง ทำให้รอบข้างสว่างสดใสไปด้วย ได้มิตรภาพ ลดความตึงเครียด สุขภาพจิตดี

             ความจริงแล้ว โทษของการยิ้ม มักจะเกิดมาจากการยิ้มอันผิดที่ผิดทาง ผิดสถานการณ์ เช่น การไปนั่งยิ้มหวานปานจะหยดในงานศพ  หรือไปเที่ยวยิ้มลามกให้แฟนชาวบ้านหรือน้องเมีย โดยไม่มีสาเหตุ หรือไปยิ้มกวนให้ขาโจ๋โดยไม่มีสาเหตุ และการยิ้มคนเดียวนานเกินไป อาจถูกหาว่าบ้า ทั้งที่ยังไม่บ้า   เห็นไหมครับว้า แม้แต่การยิ้ม ก็ต้องศึกษาเคล็ดลับ วิธีการ ผลกระทบข้างเคียง ข้อดีข้อเสีย จะต้องวิเคราะห์สภาพแวดล้อมให้ดี


              แต่เอาเถอะ....ว่าแต่วันนี้ท่านยิ้มหรือยัง...
             ยิ้มเท่านี้ หรือจะยิ้มแบบไหนก็ยิ้มเถอะ เนอะๆ