"สำหรับความคิดเห็นส่วนตัวเราคิดว่าการ Set Zero ถือว่ามีเหตุผล" (เเต่ควรทำให้ถูกต้องมากกว่านี้เพื่อไม่ให้เกิดการทรมาน หรือทารุณสัตว์)
เราก็เป็นคนรักสัตว์คนนึง บ้านเราเลี้ยงสุนัข 6 ตัว เเละเเมวอีก 5 ตัว
สุนัขเเละเเมวที่บ้านเราเป็นสัตว์จรจัดที่ถูกเอามาทิ้ง บ้างก็มาจากไหนไม่รู้ บางที่มีคนเอามาทิ้งที่บ้านเราเลยด้วยซ้ำ
เพราะเห็นว่าที่บ้านเราเลี้ยงสัตว์มาเยอะ เพราะที่บ้านเคยมีสุนัขเเละเเมวของตัวเองที่ไม่ใช่สัตว์จรจัดเเละเลี้ยงมานาน
สุนัขเเละเเมวที่บ้านของเรารวม 11 ตัว ตอนนี้ทำหมันหมดเเล้วทุกตัว "เป็นค่าใช้จ่ายของที่บ้านเราเอง"
"ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"
เเต่เพื่อเป็นการลดปริมานของประชากรไม่ให้เกิดการเเพร่กระจ่ายเพิ่มจำนวนไปมากกว่านี้ "การทำหมันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด" ที่ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่เเล้ว เเต่บางคนเอามันมาเลี้ยงก็ปล่อยปละละเลยไม่สนใจ จึงทำให้เกิดการเพิ่มของสุนัขจรจัดขึ้นมามากมายเพราะเลี้ยงดูไม่ไหว
"เเต่สำหรับบางคน" "ที่บอกว่ารักสัตว์เเต่ไม่เคยคิดจะดูเเล"
ซื้อมาเลี้ยง รับมาเลี้ยง
เเต่กับปล่อยปละละเลยไม่จำกัดจำนวนประชากร " ไม่ทำหมัน "
พอสัตว์เกิดการผสมพันธุ์ขึ้นมากับไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูมัน บ้างก็เเจกเพื่อน เเจกคนรู้จัก
พอเขารับไปเลี้ยงต่อ บางคนก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะเลี้ยงมัน เลี้ยงปล่อยปละละเลยบ้างจึงทำให้เกิดเป็นวังวนซ้ำๆ
สุดท้ายสุนัข เเมว เพิ่มปริมาณเยอะขึ้นๆ จึงทำให้เกิดสุนัขเเละเเมวจรจัดมากเหมือนในทุกวันนี้
เราว่าต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากคนเรา จะโทษสุนัข เเมว โทษสัตว์ไม่ได้ ทุกคนควรมีความรับผิดชอบ
"
สำหรับคนที่ประท้วง กระบวนการ Set Zero"
เราเข้าใจว่าคุณเป็นคนรักสัตว์ เราก็รักค่ะ เเต่ในเมื่อมันได้เกิดเหตุเเบบนี้ขึ้นมาเเล้วเราก็ควรที่จะเเก้ไข มันอาจเป็นวิธีที่ไม่ถูก
เเต่สัตว์ก็คือสัตว์มันไม่รู้เรื่องเราเข้าใจ เเต่เราต้องทำยังไงหรอคะถึงจะเเก้ปัญหาของต้นเหตุนี้ได้
พวกคุณออกมาปกป้องมันก็จริงค่ะ เรื่องนี้เราก็เข้าใจเพราะเราก็สงสาร เเต่ทำไมต้องถามหางบประมาณของรัฐบาลอย่างเดียวในเมื่อต้นเหตุไม่ได้เกิดจากรัฐบาลเเต่เพียงผู้เดียว เเต่เกิดจากคนที่เลี้ยงบางคนเองมากกว่าที่ไม่ใส่ใจจึงทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา การ Set Zero เราจึงคิดว่าเหมาะสมถึงจะเป็นวิธีที่โหดร้ายก็ตาม
เเละอีกอย่างเราคิดว่าต่อไปนี้ถ้าใครที่คิดอยากจะเลี้ยงสัตว์ ต้องมีการจดทะเบียนการขออนุญาตเพื่อข้อเลี้ยงสัตว์
เพื่อที่จะได้อยู่ในการควบคุมเเละการตรวจสอบในการเลี้ยงด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเเบบนี้ขึ้นมาอีก เหมือนอย่างหลายๆประเทศที่เขามีมาตรการการควบคุมการเลี้ยงสุนัขที่ดี
"เปิดระเบียบใบขออนุญาตเลี้ยง “หมา-แมว” ของต่างประเทศ" ตัวอย่างค่ะ อาจไม่ถึงขั้นนี้ก็ได้
http://www.springnews.co.th/view/216840
"""
สำหรับเพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะในการ Set Zero ในครั้งนี้ """ ....เราอยากรู้ในมุมมองหลาย ๆ ด้าน....
หรือเพื่อน ๆ คิดว่ามีวิธีไหนที่จะดีกว่านี้นอกจากการ Set Zero ... ???
นี่เป็นกระทู้เเรกของเรา อาจจะมีพิมพ์งงๆบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง พิมพ์ไม่ถูก หรือใช้คำไม่ถูกต้องอันใดก็ตาม
"ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"
คุณคิดยังไงกับกระบวนการ Set Zero
เราก็เป็นคนรักสัตว์คนนึง บ้านเราเลี้ยงสุนัข 6 ตัว เเละเเมวอีก 5 ตัว
สุนัขเเละเเมวที่บ้านเราเป็นสัตว์จรจัดที่ถูกเอามาทิ้ง บ้างก็มาจากไหนไม่รู้ บางที่มีคนเอามาทิ้งที่บ้านเราเลยด้วยซ้ำ
เพราะเห็นว่าที่บ้านเราเลี้ยงสัตว์มาเยอะ เพราะที่บ้านเคยมีสุนัขเเละเเมวของตัวเองที่ไม่ใช่สัตว์จรจัดเเละเลี้ยงมานาน
สุนัขเเละเเมวที่บ้านของเรารวม 11 ตัว ตอนนี้ทำหมันหมดเเล้วทุกตัว "เป็นค่าใช้จ่ายของที่บ้านเราเอง"
"ซึ่งบางครั้งมันไม่ใช่หน้าที่ของเราที่จะรับผิดชอบเลยด้วยซ้ำ"
เเต่เพื่อเป็นการลดปริมานของประชากรไม่ให้เกิดการเเพร่กระจ่ายเพิ่มจำนวนไปมากกว่านี้ "การทำหมันจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด" ที่ทุกคนน่าจะรู้กันอยู่เเล้ว เเต่บางคนเอามันมาเลี้ยงก็ปล่อยปละละเลยไม่สนใจ จึงทำให้เกิดการเพิ่มของสุนัขจรจัดขึ้นมามากมายเพราะเลี้ยงดูไม่ไหว
"เเต่สำหรับบางคน" "ที่บอกว่ารักสัตว์เเต่ไม่เคยคิดจะดูเเล" ซื้อมาเลี้ยง รับมาเลี้ยง
เเต่กับปล่อยปละละเลยไม่จำกัดจำนวนประชากร " ไม่ทำหมัน "
พอสัตว์เกิดการผสมพันธุ์ขึ้นมากับไม่มีความสามารถในการเลี้ยงดูมัน บ้างก็เเจกเพื่อน เเจกคนรู้จัก
พอเขารับไปเลี้ยงต่อ บางคนก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะเลี้ยงมัน เลี้ยงปล่อยปละละเลยบ้างจึงทำให้เกิดเป็นวังวนซ้ำๆ
สุดท้ายสุนัข เเมว เพิ่มปริมาณเยอะขึ้นๆ จึงทำให้เกิดสุนัขเเละเเมวจรจัดมากเหมือนในทุกวันนี้
เราว่าต้นเหตุทั้งหมดเกิดจากคนเรา จะโทษสุนัข เเมว โทษสัตว์ไม่ได้ ทุกคนควรมีความรับผิดชอบ
"สำหรับคนที่ประท้วง กระบวนการ Set Zero"
เราเข้าใจว่าคุณเป็นคนรักสัตว์ เราก็รักค่ะ เเต่ในเมื่อมันได้เกิดเหตุเเบบนี้ขึ้นมาเเล้วเราก็ควรที่จะเเก้ไข มันอาจเป็นวิธีที่ไม่ถูก
เเต่สัตว์ก็คือสัตว์มันไม่รู้เรื่องเราเข้าใจ เเต่เราต้องทำยังไงหรอคะถึงจะเเก้ปัญหาของต้นเหตุนี้ได้
พวกคุณออกมาปกป้องมันก็จริงค่ะ เรื่องนี้เราก็เข้าใจเพราะเราก็สงสาร เเต่ทำไมต้องถามหางบประมาณของรัฐบาลอย่างเดียวในเมื่อต้นเหตุไม่ได้เกิดจากรัฐบาลเเต่เพียงผู้เดียว เเต่เกิดจากคนที่เลี้ยงบางคนเองมากกว่าที่ไม่ใส่ใจจึงทำให้เกิดปัญหานี้ขึ้นมา การ Set Zero เราจึงคิดว่าเหมาะสมถึงจะเป็นวิธีที่โหดร้ายก็ตาม
เเละอีกอย่างเราคิดว่าต่อไปนี้ถ้าใครที่คิดอยากจะเลี้ยงสัตว์ ต้องมีการจดทะเบียนการขออนุญาตเพื่อข้อเลี้ยงสัตว์
เพื่อที่จะได้อยู่ในการควบคุมเเละการตรวจสอบในการเลี้ยงด้วย
เพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดเเบบนี้ขึ้นมาอีก เหมือนอย่างหลายๆประเทศที่เขามีมาตรการการควบคุมการเลี้ยงสุนัขที่ดี
"เปิดระเบียบใบขออนุญาตเลี้ยง “หมา-แมว” ของต่างประเทศ" ตัวอย่างค่ะ อาจไม่ถึงขั้นนี้ก็ได้
http://www.springnews.co.th/view/216840
""" สำหรับเพื่อน ๆ มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะในการ Set Zero ในครั้งนี้ """ ....เราอยากรู้ในมุมมองหลาย ๆ ด้าน....
หรือเพื่อน ๆ คิดว่ามีวิธีไหนที่จะดีกว่านี้นอกจากการ Set Zero ... ???
นี่เป็นกระทู้เเรกของเรา อาจจะมีพิมพ์งงๆบ้าง ไม่เข้าใจบ้าง พิมพ์ไม่ถูก หรือใช้คำไม่ถูกต้องอันใดก็ตาม
"ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"