คำเตือนบทความต่อไปนี้ไม่สามรถหาเเหล่งอ้างอิงที่ถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นได้โปรดใช้วิจารณญาณ
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://en.wikipedia.org/wiki/MP_34
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันถูกสั่งห้ามผลิตอาวุธปืนอัตโนมัติตามข้อบังคับของสนธิสัญญาแวร์ซายแต่บริษัท Rheinmetall ทำการเลี่ยงข้อบังคับนั้นด้วยการไปซื้อบริษัทผลิตอาวุธปืน Waffenfabrik Solothurn ที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี 1929 แทนแต่ต่อมาพวกเขาพบว่าบริษัท Solothurn นั้นไม่มีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะผลิตปืน MP34 ในจำนวนมากได้พวกเขาจึงขยายฐานการผลิตไปที่บริษัท Waffenfabrik Steyr ในออสเตรียด้วยทำให้ปืนชนิดนี้รู้จักกันในชื่อ Steyr-Solothurn S1-100. โดยชื่อนี้ได้มาจากบริษัท Steyr-Solothurn Waffen AG ซึ่งเป็นตัวเเทนจำหน่ายปืนกลมือชนิดนี้ได้รับการผลิตด้วยขั้นตอนที่ปราณีตมากนั่นคือแบบ elaborately milled receiver ทำให้มีต้นทุนในการผลิตสูงและราคาเเพงมากต่อกระบอกถือเป็นปืนกลมือที่มีความยอดเยี่ยมมากสำหรับ Generation แรกของปืนกลมือในยุคนั้นคือหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงช่วงกลาง WW2 ปืนชนิดนี้แพร่หลายไปทั่วยุโรปเอเชียและอเมริกาใต้โดยมีรุ่นที่ใช้กระสุนที่ต่างกันถึง 6 ชนิดคือ 9×19mm 9×23 Steyr 9×25 Mauser Export 7.63x25 Mauser 7.65x21mm Luger เเละ .45ACP MP34 มีฉายาว่า "Rolls Royce of submachine guns" จากความปราณีเเละราคาเเพงของมัน
ปืนกลมือชนิดนี้มีบทบาทค่อนข้างจะน้อยในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ใช่ว่าจะนำมาเล่าสู่กันฟังไม่ได้เลยปืนกลมือชนิดนี้เป็นอาวุธประจำกายของทหารเยอรมันบางหน่วยในทั้งของ wehrmacht เเละ ss ในเอเชียกองพลบางกองพลของกองทัพคณะชาติจีนที่นำโดยเจียงไคเช็คก็ซื้อปืนกลมือชนิดนี้มาประจำการเช่นกันโดยส่วนมากจะเป็นกองพลพิเศษที่ ครูฝึกของเยอรมันมาฝึกให้ ส่วนในกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นก็ประจำการปืนกลมือชนิดนี้ในหน่วยยกพลขึ้นบกพิเศษของกองทัพเรือโดยหน่วยนี้ถือว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ได้รับการฝึกมากกว่าทหารทั่วไปและมีความภักดีอย่างมากจัดว่าเป็น Elite Force ของกองทัพลูกพระอาทิตย์เลยก็ว่าได้
ข้อมูลทางเทคนิค
ผู้ผลิต Waffenfabrik Solothurn, Waffenfabrik Steyr
ระบบปฏิบัติการ Blowback (ถอดเเบบมาจากระบบของ MP18)
ออกเเบบปี 1929
ผลิตปี 1929–1940
บรรจุกระสุน 20,32 นัด
น้ำหนักปืนเปล่า 4.25 กิโลกรัม
น้ำหนักพร้อมรบ 4.48 กิโลกรัม
อัตราการยิง 600 นัดต่อนาที
ศูนย์เล็ง ศูนย์เปิด
ระยะหวังผล 150-200 เมตร
สวัสดีครับ
สารานุกรมปืนตอนที่ 115 MP34 ปืนเยอรมันที่มาในคราบสินค้าของสวิสเเละออสเตรีย
(การระบุจำเเนกจะอ้างอิงตามโมเดลหลัก)
ประวัติเต็ม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันถูกสั่งห้ามผลิตอาวุธปืนอัตโนมัติตามข้อบังคับของสนธิสัญญาแวร์ซายแต่บริษัท Rheinmetall ทำการเลี่ยงข้อบังคับนั้นด้วยการไปซื้อบริษัทผลิตอาวุธปืน Waffenfabrik Solothurn ที่สวิตเซอร์แลนด์ในปี 1929 แทนแต่ต่อมาพวกเขาพบว่าบริษัท Solothurn นั้นไม่มีกำลังการผลิตเพียงพอที่จะผลิตปืน MP34 ในจำนวนมากได้พวกเขาจึงขยายฐานการผลิตไปที่บริษัท Waffenfabrik Steyr ในออสเตรียด้วยทำให้ปืนชนิดนี้รู้จักกันในชื่อ Steyr-Solothurn S1-100. โดยชื่อนี้ได้มาจากบริษัท Steyr-Solothurn Waffen AG ซึ่งเป็นตัวเเทนจำหน่ายปืนกลมือชนิดนี้ได้รับการผลิตด้วยขั้นตอนที่ปราณีตมากนั่นคือแบบ elaborately milled receiver ทำให้มีต้นทุนในการผลิตสูงและราคาเเพงมากต่อกระบอกถือเป็นปืนกลมือที่มีความยอดเยี่ยมมากสำหรับ Generation แรกของปืนกลมือในยุคนั้นคือหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จนถึงช่วงกลาง WW2 ปืนชนิดนี้แพร่หลายไปทั่วยุโรปเอเชียและอเมริกาใต้โดยมีรุ่นที่ใช้กระสุนที่ต่างกันถึง 6 ชนิดคือ 9×19mm 9×23 Steyr 9×25 Mauser Export 7.63x25 Mauser 7.65x21mm Luger เเละ .45ACP MP34 มีฉายาว่า "Rolls Royce of submachine guns" จากความปราณีเเละราคาเเพงของมัน
ปืนกลมือชนิดนี้มีบทบาทค่อนข้างจะน้อยในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ใช่ว่าจะนำมาเล่าสู่กันฟังไม่ได้เลยปืนกลมือชนิดนี้เป็นอาวุธประจำกายของทหารเยอรมันบางหน่วยในทั้งของ wehrmacht เเละ ss ในเอเชียกองพลบางกองพลของกองทัพคณะชาติจีนที่นำโดยเจียงไคเช็คก็ซื้อปืนกลมือชนิดนี้มาประจำการเช่นกันโดยส่วนมากจะเป็นกองพลพิเศษที่ ครูฝึกของเยอรมันมาฝึกให้ ส่วนในกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นก็ประจำการปืนกลมือชนิดนี้ในหน่วยยกพลขึ้นบกพิเศษของกองทัพเรือโดยหน่วยนี้ถือว่าเป็นหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ได้รับการฝึกมากกว่าทหารทั่วไปและมีความภักดีอย่างมากจัดว่าเป็น Elite Force ของกองทัพลูกพระอาทิตย์เลยก็ว่าได้
ข้อมูลทางเทคนิค
ผู้ผลิต Waffenfabrik Solothurn, Waffenfabrik Steyr
ระบบปฏิบัติการ Blowback (ถอดเเบบมาจากระบบของ MP18)
ออกเเบบปี 1929
ผลิตปี 1929–1940
บรรจุกระสุน 20,32 นัด
น้ำหนักปืนเปล่า 4.25 กิโลกรัม
น้ำหนักพร้อมรบ 4.48 กิโลกรัม
อัตราการยิง 600 นัดต่อนาที
ศูนย์เล็ง ศูนย์เปิด
ระยะหวังผล 150-200 เมตร