สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ขอยกจากที่เคยโพสมานะครับ
The Killing of a Sacred Deer
หนัง WTF ของ ผกก Yorgos Lanthimos เจ้าของผลงานสุดแปลกพอกันอย่าง The Lobster
.
.
ต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ถ้าดูแบบไม่มีความรู้เรื่อง Greek Mythology เลยจะรู้สึก WTF มากตลอดทั้งเรื่อง เพราะเป็นหนังที่ขอใช้คำว่า Nerve Wracking ตลอดเวลาตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย แม้ช่วงกลางๆจะรู้สึกยืดไปบ้างก็ตาม (รู้สึกว่าน่าจะรวบรัดได้มากกว่านี้)
ฉากเปิดตัวมาด้วยเพลงคลาสสิคพร้อมซีน หัวใจ กำลังเต้นตุ๊บๆ
คือหัวใจ อวัยวะภายในเลย เผยให้เห็น Steven Murphy หมอศัลยแพทย์ ตัวละครหลักของเรื่อง
หนังดำเนินไปด้วยซีนสุดประหลาด และ บทสนทนาที่โคตรจะไม่ธรรมชาติ อย่างการคุยกันเรื่องสายนาฬิกา ขนในที่ลับ และปมในวัยเด็ก
ฉากแทบจะทุกซีนก็เซ็ตขึ้นมาให้ดูแปลกประหลาดไม่เป็นธรรมชาติอย่างจงใจ เช่น ตัวละครนึงนั่งนิ่งคุยกับอีกคนที่กำลังกิน ฉากที่ Martin ตัวละครสำคัญอีกตัวของเรื่องมาเยี่ยมบ้าน Steven และใส่รองเท้าแบบเดียวกับ Bob ลูกชายคนเล็ก
หลายซีนถ่ายภาพ ดอลลี่กล้องอย่างแปลกประหลาดแบบจงใจ
ฉากธรรมดาอย่าง ตัวละครกลับมาถึงบ้าน กลับใส่เพลงประกอบอันประหลาดหู
.
ทั้งหมดทั้งมวล สร้างบรรยากาศ Suspense หรือความตะหงิดๆให้กับคนดูตลอดทั้งเรื่อง
.
ยังไม่รวมเนื้อเรื่องที่ออกจะแปลกประหลาดโดย Bob และ Kim ลูกของ Steven เกิดเป็นโรคประหลาดครึ่งตัวล่างขยับไม่ได้ และไม่กินอาหาร จนสุดท้ายจะเลือดออกตาและตายในที่สุด โดยทั้งหมดนี้เป็นคำบอกของ Martin กับ Steven และการจะทำให้ทุกอย่างกลับมาปกติได้คือ Steven ต้องฆ่าคนในครอบครัวคนหนึ่ง เพื่อเป็นการ บาล้านซ์ กับสิ่งที่ Steven ซึ่งเป็นหมอผ่าตัดแต่ทำให้พ่อของ Martin ต้องตายไป
.
.
ตามที่บอกไว้ว่า หากใครดูแบบไม่มีความรู้ใดๆเลย หนังเรื่องนี้จะแปลกมาก คำถามมาเต็มไปหมด แถมตอนจบก็แบบ อะไรวะ แค่นี้เองหรอ ประมาณนั้น
.
.
ทีนี้เรามาดูเรื่องราวอันเป็นพื้นฐานของหนังเรื่องนี้กันบ้าง ซึ่งมาจากตำนานกรีก (Greek Mythology)
.
เรื่องราวกล่าวถึง คิง Agamemnon ในช่วง Trojan War โดยคิงแห่ง Argos กำลังรบพุ่งกับทาง Troy
เล่าอย่างรวบรัด ในช่วงนั้นเอง คิง Agamemnon ได้ลงมือล่ากวางซึ่งเป็นสัตว์อันศักดิสิทธิของเทพี Artemis (ที่มาของชื่อ Killing of a Sacred Deer) ทำให้ Artemis พิโรธมาก ซึ่งนั่นทำให้เกิดโรคระบาดและลมทะเลทั้งหมดหยุดลง ทำให้กองทัพเรือของ Agamemnon ไม่สามารถบุก Troy ได้
นักปราชก็แนะนำว่า วิธีเดียวที่จะทำให้ Artemis หายพิโรธได้ก็คือ Agamemnon ต้องสังเวยบูชายัญ Iphigenia ลูกสาวของเขา โดย Agamemnon ได้หลอกลูกและเมียของเขาว่าจะให้ Iphigenia แต่งงานกับ Achilles
หลังจากที่ Iphigenia พบว่าตนนั้นถูกพ่อหลอก และยอมรับชะตากรรมของตน เทพี Artemis ซึ่งกลับเห็นใจ Iphigenia ที่ต้องมารับกรรมที่พ่อของตนก่อไว้ เลยสลับร่างของเธอกับ กวาง ซะในท้ายที่สุด ส่วน Iphigenia ก็ถูกพาตัวไปที่ Tauris และใช้ชีวิตเป็นแม่ชีในวิหารของเทพเจ้า
เรื่องราวหลังจากนั้นยังม่ีต่อไป แต่สำหรับ Context ที่เกี่ยวกับหนังขอละไว้เท่านี้
.
.
ทีนี้พอเรามีความรู้พื้นฐานของเบื้องลึกของตัวหนังเรื่องนี้ก็พอจะทำให้เราเข้าใจอะไรขึ้น
Steven ก็เปรียบเสมือน Agamemnon ที่ผิดพลาดทำให้พ่อของ Martin ต้องเสียชีวิต
เขาใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่ง อยู่ในบ้านอันใหญ่โต หน้าที่การงานมั่งคั่ง มีลูกสาวลูกชายและภรรยาอันงดงาม เปรียบเหมือน Agamemnon ไม่มีผิด
ตลอดเรื่องเราจะค่อยๆรู้ถึงความ Sick ของตัว Steven ที่แอบปกปิดความลับกับภรรยา โกหกและบีบบังคับลูก การกำหนดหน้าที่ให้ลูกๆอย่างให้ Kim รับหน้าที่พาหมาไปเดินเล่น ส่วน Bob รดน้ำต้นไม้ และสั่งให้ตัดผม แม้ว่าเผินๆจะดูธรรมดาทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว แต่มันก็สื่อถึงการมีอำนาจเหมือน พระราชา ที่สั่งการให้ลูกและเมียทำโน่นนี่ให้ตน โดยที่ไม่มีใครมีอำนาจเหนือกว่าเขา
.
.
แน่นอนว่า Martin ก็คือตัวแทนของ Artemis หรือเทพเจ้า ซึ่งเขาแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นเด็กป่วยพิการทางจิต แต่กลับมีพลังสามารถกำหนดชะตากรรมให้กับ Bob หรือ Kim ได้
ซึ่งมีฉากที่ Anna ก้มลงจูบท้าวทั้งสองข้างก่อนจะปล่อย Martin ที่ถูกจับมานั้นไป ก็เป็นการสื่อถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน
.
.
อีกจุดนึงซึ่งเป็นจุดเล็กๆแต่ก็สื่อความหมายออกมาได้ดี นั่นก็คือตอนนี้ Steven กล่าวโทษ Matthew หมอวางยาสลบ (Anesthesiologist Doctor) ว่า Matthew เป็นสาเหตุทำให้พ่อของ Martin ต้องตาย ไม่ใช่เขาหรือหมอศัลยแพทย์ ส่วนตอนที่ Anna ไปคุยกับ Matthew, Matthew ก็พูดในทางตรงกันข้ามว่า หมอศัลยกรรมเป็นสาเหตุทำให้คนไข้ตาย ไม่ใช่หมอวางยาสลบ
ตรงนี้ถึงแม้ว่าจะดูเป็นจุดเล็กมากๆ แต่ผมกลับคิดว่านี่แหละคือการตีความของ Trojan War ที่ต่างฝ่ายต่างพุ่งรบใส่กันทางความคิด
และยังแสดงให้เห็นภายในของตัวละคร Steven อีกด้วยว่าเป็นคนที่ขี้ขลาด ไม่ยอมรับความจริง ซึ่งเน้นย้ำอีกครั้งในฉากไคลแมกซ์สุดท้ายที่เขาใช้วิธีปิดหน้าตัวเองแล้วถือปืนหมุนตัวเพราะไม่อยากเลือกเป้าหมาย
.
.
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ยังแฝงอะไรอีกมากมายทั้งความหมายของเพลงที่ Kim ร้อง ที่แฝงความหมายของเด็กวัยรุ่นที่ต้องการจะต่อต้านทุกอย่าง การแสดงของตัวละครหลักแทบทุกตัวก็แปลกประหลาด Steven ที่พูดแบบเร็วๆรวบรัดๆ Anna ที่มีออร่าแห่งความประหลาดแฝงอยู่ในแววตา (Nicole Kidman แสดงได้ดีมากนะ) ทุกอย่างคาดว่าเป็นการจงใจของ ผกก ให้ออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้หนังที่แม้จะดูเหมือนเหตุการณ์จริงมันดูมีความ Surreal หรือเหนือจริง หรือในที่นี้คือ แปลกประหลาด เข้าไปนั่นเอง
.
.
The Killing of a Sacred Deer อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน (Lobster ก็เช่นกัน) เพราะมีความแปลกประหลาดในทุก Elements ของหนัง หลายคนเชื่อว่าดูจบแล้วคงบ่น "อาไรว้า" กันยกใหญ่ ความประหลาดของการแสดงที่ทำให้อาจจะดูแปลก รวมไปถึงซีนต่างๆที่ดูอึดอัด
และการตีความกับ Mythology ที่อาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะขนาดชี้ชัดได้ว่าใครเป็นใครขนาดนั้น (ไม่เหมือน Mother ที่สัญลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน)
โดยรวมแล้ว ถ้าเข้าใจถึงที่มาที่ไปก็อาจจะทำให้รู้สึก Appreciate ตัวหนังมากขึ้นกว่าเดิมแม้ว่าจะไม่มากก็ตาม
.
.
.
แล้วคุณล่ะ ชอบหนังเรื่องนี้กันมั้ย?
The Killing of a Sacred Deer
หนัง WTF ของ ผกก Yorgos Lanthimos เจ้าของผลงานสุดแปลกพอกันอย่าง The Lobster
.
.
ต้องบอกเลยว่า หนังเรื่องนี้ถ้าดูแบบไม่มีความรู้เรื่อง Greek Mythology เลยจะรู้สึก WTF มากตลอดทั้งเรื่อง เพราะเป็นหนังที่ขอใช้คำว่า Nerve Wracking ตลอดเวลาตั้งแต่ฉากแรกยันฉากสุดท้าย แม้ช่วงกลางๆจะรู้สึกยืดไปบ้างก็ตาม (รู้สึกว่าน่าจะรวบรัดได้มากกว่านี้)
ฉากเปิดตัวมาด้วยเพลงคลาสสิคพร้อมซีน หัวใจ กำลังเต้นตุ๊บๆ
คือหัวใจ อวัยวะภายในเลย เผยให้เห็น Steven Murphy หมอศัลยแพทย์ ตัวละครหลักของเรื่อง
หนังดำเนินไปด้วยซีนสุดประหลาด และ บทสนทนาที่โคตรจะไม่ธรรมชาติ อย่างการคุยกันเรื่องสายนาฬิกา ขนในที่ลับ และปมในวัยเด็ก
ฉากแทบจะทุกซีนก็เซ็ตขึ้นมาให้ดูแปลกประหลาดไม่เป็นธรรมชาติอย่างจงใจ เช่น ตัวละครนึงนั่งนิ่งคุยกับอีกคนที่กำลังกิน ฉากที่ Martin ตัวละครสำคัญอีกตัวของเรื่องมาเยี่ยมบ้าน Steven และใส่รองเท้าแบบเดียวกับ Bob ลูกชายคนเล็ก
หลายซีนถ่ายภาพ ดอลลี่กล้องอย่างแปลกประหลาดแบบจงใจ
ฉากธรรมดาอย่าง ตัวละครกลับมาถึงบ้าน กลับใส่เพลงประกอบอันประหลาดหู
.
ทั้งหมดทั้งมวล สร้างบรรยากาศ Suspense หรือความตะหงิดๆให้กับคนดูตลอดทั้งเรื่อง
.
ยังไม่รวมเนื้อเรื่องที่ออกจะแปลกประหลาดโดย Bob และ Kim ลูกของ Steven เกิดเป็นโรคประหลาดครึ่งตัวล่างขยับไม่ได้ และไม่กินอาหาร จนสุดท้ายจะเลือดออกตาและตายในที่สุด โดยทั้งหมดนี้เป็นคำบอกของ Martin กับ Steven และการจะทำให้ทุกอย่างกลับมาปกติได้คือ Steven ต้องฆ่าคนในครอบครัวคนหนึ่ง เพื่อเป็นการ บาล้านซ์ กับสิ่งที่ Steven ซึ่งเป็นหมอผ่าตัดแต่ทำให้พ่อของ Martin ต้องตายไป
.
.
ตามที่บอกไว้ว่า หากใครดูแบบไม่มีความรู้ใดๆเลย หนังเรื่องนี้จะแปลกมาก คำถามมาเต็มไปหมด แถมตอนจบก็แบบ อะไรวะ แค่นี้เองหรอ ประมาณนั้น
.
.
ทีนี้เรามาดูเรื่องราวอันเป็นพื้นฐานของหนังเรื่องนี้กันบ้าง ซึ่งมาจากตำนานกรีก (Greek Mythology)
.
เรื่องราวกล่าวถึง คิง Agamemnon ในช่วง Trojan War โดยคิงแห่ง Argos กำลังรบพุ่งกับทาง Troy
เล่าอย่างรวบรัด ในช่วงนั้นเอง คิง Agamemnon ได้ลงมือล่ากวางซึ่งเป็นสัตว์อันศักดิสิทธิของเทพี Artemis (ที่มาของชื่อ Killing of a Sacred Deer) ทำให้ Artemis พิโรธมาก ซึ่งนั่นทำให้เกิดโรคระบาดและลมทะเลทั้งหมดหยุดลง ทำให้กองทัพเรือของ Agamemnon ไม่สามารถบุก Troy ได้
นักปราชก็แนะนำว่า วิธีเดียวที่จะทำให้ Artemis หายพิโรธได้ก็คือ Agamemnon ต้องสังเวยบูชายัญ Iphigenia ลูกสาวของเขา โดย Agamemnon ได้หลอกลูกและเมียของเขาว่าจะให้ Iphigenia แต่งงานกับ Achilles
หลังจากที่ Iphigenia พบว่าตนนั้นถูกพ่อหลอก และยอมรับชะตากรรมของตน เทพี Artemis ซึ่งกลับเห็นใจ Iphigenia ที่ต้องมารับกรรมที่พ่อของตนก่อไว้ เลยสลับร่างของเธอกับ กวาง ซะในท้ายที่สุด ส่วน Iphigenia ก็ถูกพาตัวไปที่ Tauris และใช้ชีวิตเป็นแม่ชีในวิหารของเทพเจ้า
เรื่องราวหลังจากนั้นยังม่ีต่อไป แต่สำหรับ Context ที่เกี่ยวกับหนังขอละไว้เท่านี้
.
.
ทีนี้พอเรามีความรู้พื้นฐานของเบื้องลึกของตัวหนังเรื่องนี้ก็พอจะทำให้เราเข้าใจอะไรขึ้น
Steven ก็เปรียบเสมือน Agamemnon ที่ผิดพลาดทำให้พ่อของ Martin ต้องเสียชีวิต
เขาใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่ง อยู่ในบ้านอันใหญ่โต หน้าที่การงานมั่งคั่ง มีลูกสาวลูกชายและภรรยาอันงดงาม เปรียบเหมือน Agamemnon ไม่มีผิด
ตลอดเรื่องเราจะค่อยๆรู้ถึงความ Sick ของตัว Steven ที่แอบปกปิดความลับกับภรรยา โกหกและบีบบังคับลูก การกำหนดหน้าที่ให้ลูกๆอย่างให้ Kim รับหน้าที่พาหมาไปเดินเล่น ส่วน Bob รดน้ำต้นไม้ และสั่งให้ตัดผม แม้ว่าเผินๆจะดูธรรมดาทั่วไปที่เกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว แต่มันก็สื่อถึงการมีอำนาจเหมือน พระราชา ที่สั่งการให้ลูกและเมียทำโน่นนี่ให้ตน โดยที่ไม่มีใครมีอำนาจเหนือกว่าเขา
.
.
แน่นอนว่า Martin ก็คือตัวแทนของ Artemis หรือเทพเจ้า ซึ่งเขาแม้ว่าภายนอกจะดูเป็นเด็กป่วยพิการทางจิต แต่กลับมีพลังสามารถกำหนดชะตากรรมให้กับ Bob หรือ Kim ได้
ซึ่งมีฉากที่ Anna ก้มลงจูบท้าวทั้งสองข้างก่อนจะปล่อย Martin ที่ถูกจับมานั้นไป ก็เป็นการสื่อถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่นี้เช่นกัน
.
.
อีกจุดนึงซึ่งเป็นจุดเล็กๆแต่ก็สื่อความหมายออกมาได้ดี นั่นก็คือตอนนี้ Steven กล่าวโทษ Matthew หมอวางยาสลบ (Anesthesiologist Doctor) ว่า Matthew เป็นสาเหตุทำให้พ่อของ Martin ต้องตาย ไม่ใช่เขาหรือหมอศัลยแพทย์ ส่วนตอนที่ Anna ไปคุยกับ Matthew, Matthew ก็พูดในทางตรงกันข้ามว่า หมอศัลยกรรมเป็นสาเหตุทำให้คนไข้ตาย ไม่ใช่หมอวางยาสลบ
ตรงนี้ถึงแม้ว่าจะดูเป็นจุดเล็กมากๆ แต่ผมกลับคิดว่านี่แหละคือการตีความของ Trojan War ที่ต่างฝ่ายต่างพุ่งรบใส่กันทางความคิด
และยังแสดงให้เห็นภายในของตัวละคร Steven อีกด้วยว่าเป็นคนที่ขี้ขลาด ไม่ยอมรับความจริง ซึ่งเน้นย้ำอีกครั้งในฉากไคลแมกซ์สุดท้ายที่เขาใช้วิธีปิดหน้าตัวเองแล้วถือปืนหมุนตัวเพราะไม่อยากเลือกเป้าหมาย
.
.
แน่นอนว่าหนังเรื่องนี้ยังแฝงอะไรอีกมากมายทั้งความหมายของเพลงที่ Kim ร้อง ที่แฝงความหมายของเด็กวัยรุ่นที่ต้องการจะต่อต้านทุกอย่าง การแสดงของตัวละครหลักแทบทุกตัวก็แปลกประหลาด Steven ที่พูดแบบเร็วๆรวบรัดๆ Anna ที่มีออร่าแห่งความประหลาดแฝงอยู่ในแววตา (Nicole Kidman แสดงได้ดีมากนะ) ทุกอย่างคาดว่าเป็นการจงใจของ ผกก ให้ออกมาเป็นแบบนี้ ทำให้หนังที่แม้จะดูเหมือนเหตุการณ์จริงมันดูมีความ Surreal หรือเหนือจริง หรือในที่นี้คือ แปลกประหลาด เข้าไปนั่นเอง
.
.
The Killing of a Sacred Deer อาจจะไม่ใช่หนังสำหรับทุกคน (Lobster ก็เช่นกัน) เพราะมีความแปลกประหลาดในทุก Elements ของหนัง หลายคนเชื่อว่าดูจบแล้วคงบ่น "อาไรว้า" กันยกใหญ่ ความประหลาดของการแสดงที่ทำให้อาจจะดูแปลก รวมไปถึงซีนต่างๆที่ดูอึดอัด
และการตีความกับ Mythology ที่อาจจะไม่ได้ตรงเป๊ะขนาดชี้ชัดได้ว่าใครเป็นใครขนาดนั้น (ไม่เหมือน Mother ที่สัญลักษณ์ค่อนข้างชัดเจน)
โดยรวมแล้ว ถ้าเข้าใจถึงที่มาที่ไปก็อาจจะทำให้รู้สึก Appreciate ตัวหนังมากขึ้นกว่าเดิมแม้ว่าจะไม่มากก็ตาม
.
.
.
แล้วคุณล่ะ ชอบหนังเรื่องนี้กันมั้ย?
แสดงความคิดเห็น
The Killing of a Sacred Deer เจ็บแทนได้ไหม.....ดูรู้เรื่องไหมครับ ตกลงลูกๆป่วยได้ไงเหรอครับ
แต่ทำไมลูกๆพระเอกถึงป่วยครับ แล้วทำไมตอนจบต้องฆ่าทิ้งหมด งงหลายตอนเลยครับ
ใครดูรู้เรื่องช่วยอธิบายให้ทีได้ไหมครับ