วันนี้จะมาลงรายละเอียดในสถานที่เที่ยวต่างๆที่ได้ไปมานะครับ เนื่องจากเนื้อหาค่อนข้างยาวจะแบ่งเป็นตอนๆไปเรื่อยๆ วันนี้จะพาไปเที่ยวที่พระราชวังฟงแตนโบล ผมมีโอกาสมาเยือนที่นี่เป็นครั้งที่สองแล้วครับ เกิดความสนใจมากเป็นพิเศษหลังจากกลับมาเนื่องจาก ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส ที่มีการถวายเครื่องราชบรรณาการไปที่ฝรั่งเศส เลยมาตามอ่านเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวังแห่งนี้ แต่คนละยุคกับในละครนะครับ ที่พระราชวังฟงแตนโบลนี้จะเป็นช่วงรัชกาลที่ 4 ไปครับตามไปเที่ยวด้วยกันเลย
พระราชวังฟงแตนโบลเป็นพระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดพระราชวังหนึ่งของฝรั่งเศส สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นงานที่สร้างขึ้นและต่อเติมเปลี่ยนแปลงโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสหลายพระองค์ ส่วนที่ก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นส่วนที่สร้างโดยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1
พระราชวังฟงแตนโบลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1981
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1814 ไม่นานก่อนที่จักรพรรดินโปเลียนจะทรงสละราชสมบัติ พระองค์ก็ทรงร่ำลากองทหารรักษาพระองค์เดิมที่รับราชการกับพระองค์มาตั้งแต่การรณรงค์ทางทหารครั้งแรกที่ “ลานม้าขาว” (la cour du Cheval Blanc) ที่หน้าวังฟงแตนโบล ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับการเรียกว่า “ลานแห่งการอำลา” สนธิสัญญาฟงแตนโบล แห่ง ค.ศ. 1814 ปลดจักรพรรดินโปเลียนจากอำนาจ (แต่มิได้ถอดพระองค์ออกจากการเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส) และเนรเทศพระองค์ไปยังเกาะเอลบา (Elba)
รูปวาดที่ถ่ายมาจากครั้งแรก ไปครั้งที่สองไม่มีภาพนี้แล้ว ไม่ทราบว่านำไปแสดงที่อื่นหรือเก็บไว้
หลังจากนั้นเราก็เข้ามาในตัวพระราชวังกันครับ ต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าชมกันก่อนครับ ราคาอยู่ที่ 12 Euro สามารถใช้ Paris Museum Pass ได้ครับ
ห้องแรกที่เข้าไปชมด้านใน เป็นห้องที่มีความสำคัญต่อชาติไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือ พิพิธภัณฑ์ห้องจีน เป็นที่เก็บเครื่องราชบรรณาการ ของไทยที่ส่งไปถวายให้ จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
เข้ามาปุ้ปก็เจอ เครื่องราช ของไทยทันที ภาพวาดบนผืนผ้ารูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องสามฤดู
พระราชยานกง, พระที่นั่งกงและพระกลด
เดินเข้ามาก่อนเข้าห้องโถงจะเจอภาพนี้ก่อนครับ เป็นภาพวาดของจริง ขนาดภาพใหญ่มากเลยครับ หลังจากผมกลับมาไทยแล้วลองเทียบเครื่องราช รวมถึงห้องที่ถวาย กับรูปภาพที่วาดไม่น่าเชื่อว่าศิลปินจะสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน สุดยอดมากๆเลยครับ อ่านตามไปเรื่อยๆแล้วผมอยากให้เอาสถานที่กับเครื่องราชที่ถวายแล้วมาเทียบกับภาพวาดนะครับวาดได้เหมือนมากๆเลยครับ
ภาพเขียนสีน้ำมัน ฌอง เลออง เจอโรม (Jean Leon Gérôme) ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงได้วาดภาพสีน้ำมันบันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ โดยบันทึกเหตุการณ์ราชทูตสยาม นำโดย พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค) เข้าเฝ้าจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ณ พระราชวังฟงแตนโบล พร้อมอัญเชิญพระราชสาส์นทองคำและเครื่องราชบรรณาการของรัชกาลที่ 4 ถวายเป็นเครื่องมงคลราชบรรณาการแด่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส
ทางฝรั่งเศสได้ทำภาพสีน้ำมันบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ 2 ภาพ ๆ หนึ่งปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์สถาน พระราชวังฟงแตนโบล ส่วนอีกภาพจัดแสดงอยู่ที่ผนังด้านตะวันออกของพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ที่ท้องพระโรงกลาง ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพระบรมมหาราชวัง
ต่อจากห้องนี้ เดินเข้ามาด้านใน ก็จะเจอห้องแบบนี้ครับ
สังเกตว่าในตู้จะมี พระมหาสังข์ เครื่องราชูปโภคทองคำ ทองคำลงยา และเบญจรงค์ อยู่ด้านใน
เดินเข้ามาด้านในอีกห้องทางด้านขวา ในตู้จะมีเครื่องราชบรรณาการที่น่าสนใจอีกหลายชิ้นเลยครับ
กรรไกรตัดผม ในพระราชพิธีโสกันต์, พระสาง(หวี),
ดารานพรัตน์, ชุดกำไลข้อมือ ถักด้วยลวดทองเป็นรูปมังกรคาบแก้ว อ้าออกได้ แหวนเพชรแบบแถว และแบบล้อมรังแตน ตลับทองคำลงยาราชาวดี กล่องทองคำสลักดุนนูน
เครื่องราชอิสริยาภรร์มหาปถมาภรณ์ช้างเผือก (ด้านที่แสดงเป็นพระรูปรัชกาลที่ ๔ อีกด้านหนึ่งเป็นรูปช้างเผือก)
ตรงกลางจะเป็นห้องโถงแบบนี้ครับ ครั้งแรกที่ผมมา เจ้าม้าตัวเล็กตรงกลางยังอยู่ มารอบนี้โดนขโมยไปเรียบร้อย ยังไม่ได้กลับมา
รูปแรก ตอนยังไม่โดนขโมย
รูปสองหายไปเรียบร้อยแล้ว
[CR] รีวิว ปารีส วันที่1 ช่วงเช้า (Paris Review) : พระราชวังฟงแตนโบล (Palace of Fontainebleau) by Quantitative Traveler
พระราชวังฟงแตนโบลเป็นพระราชวังหลวงที่ใหญ่ที่สุดพระราชวังหนึ่งของฝรั่งเศส สิ่งก่อสร้างที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นงานที่สร้างขึ้นและต่อเติมเปลี่ยนแปลงโดยพระมหากษัตริย์ฝรั่งเศสหลายพระองค์ ส่วนที่ก่อสร้างในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เป็นส่วนที่สร้างโดยพระเจ้าฟรองซัวส์ที่ 1
พระราชวังฟงแตนโบลได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกในปี ค.ศ. 1981
เมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1814 ไม่นานก่อนที่จักรพรรดินโปเลียนจะทรงสละราชสมบัติ พระองค์ก็ทรงร่ำลากองทหารรักษาพระองค์เดิมที่รับราชการกับพระองค์มาตั้งแต่การรณรงค์ทางทหารครั้งแรกที่ “ลานม้าขาว” (la cour du Cheval Blanc) ที่หน้าวังฟงแตนโบล ซึ่งตั้งแต่นั้นมาก็ได้รับการเรียกว่า “ลานแห่งการอำลา” สนธิสัญญาฟงแตนโบล แห่ง ค.ศ. 1814 ปลดจักรพรรดินโปเลียนจากอำนาจ (แต่มิได้ถอดพระองค์ออกจากการเป็นจักรพรรดิแห่งฝรั่งเศส) และเนรเทศพระองค์ไปยังเกาะเอลบา (Elba)
รูปวาดที่ถ่ายมาจากครั้งแรก ไปครั้งที่สองไม่มีภาพนี้แล้ว ไม่ทราบว่านำไปแสดงที่อื่นหรือเก็บไว้
หลังจากนั้นเราก็เข้ามาในตัวพระราชวังกันครับ ต้องซื้อบัตรเพื่อเข้าชมกันก่อนครับ ราคาอยู่ที่ 12 Euro สามารถใช้ Paris Museum Pass ได้ครับ
ห้องแรกที่เข้าไปชมด้านใน เป็นห้องที่มีความสำคัญต่อชาติไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือ พิพิธภัณฑ์ห้องจีน เป็นที่เก็บเครื่องราชบรรณาการ ของไทยที่ส่งไปถวายให้ จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
เข้ามาปุ้ปก็เจอ เครื่องราช ของไทยทันที ภาพวาดบนผืนผ้ารูปพระแก้วมรกตทรงเครื่องสามฤดู
พระราชยานกง, พระที่นั่งกงและพระกลด
เดินเข้ามาก่อนเข้าห้องโถงจะเจอภาพนี้ก่อนครับ เป็นภาพวาดของจริง ขนาดภาพใหญ่มากเลยครับ หลังจากผมกลับมาไทยแล้วลองเทียบเครื่องราช รวมถึงห้องที่ถวาย กับรูปภาพที่วาดไม่น่าเชื่อว่าศิลปินจะสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน สุดยอดมากๆเลยครับ อ่านตามไปเรื่อยๆแล้วผมอยากให้เอาสถานที่กับเครื่องราชที่ถวายแล้วมาเทียบกับภาพวาดนะครับวาดได้เหมือนมากๆเลยครับ
ภาพเขียนสีน้ำมัน ฌอง เลออง เจอโรม (Jean Leon Gérôme) ศิลปินชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงได้วาดภาพสีน้ำมันบันทึกเหตุการณ์ครั้งนั้นไว้ โดยบันทึกเหตุการณ์ราชทูตสยาม นำโดย พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษาธิบดี (แพ บุนนาค) เข้าเฝ้าจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ณ พระราชวังฟงแตนโบล พร้อมอัญเชิญพระราชสาส์นทองคำและเครื่องราชบรรณาการของรัชกาลที่ 4 ถวายเป็นเครื่องมงคลราชบรรณาการแด่จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส
ทางฝรั่งเศสได้ทำภาพสีน้ำมันบันทึกเหตุการณ์ครั้งนี้ไว้ 2 ภาพ ๆ หนึ่งปัจจุบันจัดแสดง ณ พิพิธภัณฑ์สถาน พระราชวังฟงแตนโบล ส่วนอีกภาพจัดแสดงอยู่ที่ผนังด้านตะวันออกของพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ที่ท้องพระโรงกลาง ในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทพระบรมมหาราชวัง
ต่อจากห้องนี้ เดินเข้ามาด้านใน ก็จะเจอห้องแบบนี้ครับ
สังเกตว่าในตู้จะมี พระมหาสังข์ เครื่องราชูปโภคทองคำ ทองคำลงยา และเบญจรงค์ อยู่ด้านใน
เดินเข้ามาด้านในอีกห้องทางด้านขวา ในตู้จะมีเครื่องราชบรรณาการที่น่าสนใจอีกหลายชิ้นเลยครับ
กรรไกรตัดผม ในพระราชพิธีโสกันต์, พระสาง(หวี),
ดารานพรัตน์, ชุดกำไลข้อมือ ถักด้วยลวดทองเป็นรูปมังกรคาบแก้ว อ้าออกได้ แหวนเพชรแบบแถว และแบบล้อมรังแตน ตลับทองคำลงยาราชาวดี กล่องทองคำสลักดุนนูน
เครื่องราชอิสริยาภรร์มหาปถมาภรณ์ช้างเผือก (ด้านที่แสดงเป็นพระรูปรัชกาลที่ ๔ อีกด้านหนึ่งเป็นรูปช้างเผือก)
ตรงกลางจะเป็นห้องโถงแบบนี้ครับ ครั้งแรกที่ผมมา เจ้าม้าตัวเล็กตรงกลางยังอยู่ มารอบนี้โดนขโมยไปเรียบร้อย ยังไม่ได้กลับมา
รูปแรก ตอนยังไม่โดนขโมย
รูปสองหายไปเรียบร้อยแล้ว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น