ไซโควิปลาส .......1
https://ppantip.com/topic/37429163
ไซโควิปลาส.....2
https://ppantip.com/topic/37435562
........
ได้โปรด....เหนี่ยวนำ ให้ผมเป็นบ้าได้ไหม...
คุณคงไม่เชื่อว่า ว่า.. มีหมอโรคจิตมาอ้อนวอน ให้ผม ‘ทำบ้า’ . ให้เขา...ใช่ไหมล่ะ...ผมว่าคุณเองก็ไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ จะเป็นจริง และเป็นไปได้ โดยเฉพาะ ...ในสภาบันอันทรงเกียรติ ที่เรียกว่า สถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตประสาทแห่งนี้ แต่อะไรก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ..
เรื่องมีอยู่ว่า ผมกำลังเตรียมอาหารเช้า กับ “ที่รัก” ของผม ความรักความฝันของผมเท่านี่ก็เกินพอ...จะมีอะไรวิเศษมากไปกว่าการได้อยู่กับคนรัก คุณไม่ต้องสงสัยอะไร เพราะเธอตายไปนานแล้ว แต่....เธอยังอยู่กับผมจนทุกวันนี้ ขอเพียงผม “บ้าพอ” หมายความว่า ถ้าบ้าพออะไรก็เป็นไปได้ แต่ผมว่าอย่าดีกว่า... พวกคุณก็อยู่ดีๆ ไปตามประสาพวกคุณดีกว่า ไม่ต้องมาบ้าให้เสียเวลา ไม่ต้องมีพยายามเข้าใจจักรวาลของความบ้าหรอก..ไม่...ไม่ได้หมายถึงอะไรดีกว่าหรือแย่กว่า...เอาล่ะ...ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะบ้า ผมก็จะเล่าให้คุณฟังก็แล้วกัน
อาหารเช้า...
ไม่...ใช่...มันมีความหมายมากกว่าอาหารมื้อหนึ่ง รู้ไหมว่าผมยอมบ้าแค่ไหน กว่าจะมีวันนี้
อาหารเช้าของผมเตรียมไว้ที่ลานกว้าง ที่เรียกว่าดงสนแสนสวย ผมมีเพื่อนมากมายหลายคน แต่คนที่ผมประทับใจมากที่สุด เป็นคนไข้หนุ่มคนหนึ่ง ที่เขาสามารถสื่อสารกับ ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆได้ เขามีเพื่อนต่างเพศชื่อ โรส และโรซี่ ทั้งสองต้นเป็นกุหลาบน่ารักอัธยาศัยดีมาก ผมเรียกเขาง่ายๆว่า “มิสเตอร์บี” ก็แล้วกันนะครับ
เขาเคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผมฟัง และมันเป็นเรื่อง “น่าเศร้าที่เปี่ยมพลัง” มากที่สุดเรื่องหนึ่ง กับเรื่องของสาว “ปอย” หญิงสาวคนไข้ทางจิต ที่ต้องมารักษาตัวในสถาบันแห่งนี้ เขาและเธอตกลงร่วมใจกันสร้างวงล้อสวนกุหลาบและความรักแห่งอ้อมแขนงามแห่งกุหลาบสวย ล้อมรอบอาณาเขตแห่งฝันรัก คนไข้หนุ่มคนนั้นบอกกับผม ด้วยคำคมความหมายของคนบ้า แต่ผมเข้าใจมากกว่าคุยเรื่องนี้กับคนดีๆเสียอีก และเอาใจช่วยเขา ให้บ้าพอจะได้เธอกลับมา.....แต่มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเธอยังไม่ตาย
แต่เสียดายว่า เธอหายจากอาการ “บ้า” เสียก่อน ทำให้เธอกลับสู่โลกภายนอก(ที่ปกติ) โดยลืมมิตรภาพแห่งความบ้าไปจนหมดสิ้น........มันน่าเศร้ากับการลบเลือนความบ้าโดยโลกแห่งความเป็นจริง น่าเศร้ากับการจากกันเพราะความไม่บ้า
“ผมจะรอเธอ....เสมอ ต่อให้เธอไม่มีวันกลับมาก็ตาม”
คำพูดแสนเศร้า..รู้จักรักเข้าใจเมื่อบ้า แต่พอหายบ้า กลับลืมเลือน....มันน่าบ้าไหมล่ะ...
พูดง่ายๆ ก็คือ ผมสามารถ “เหนี่ยวนำ” เป้าหมาย ให้บ้า มองเห็น สัมผัส รับรู้ ถึงคนรักและความรักที่ตายไปแล้วได้ แต่ผลของการเหนี่ยวนำเป็นแบบชั่วคราว คนถูกเหนี่ยวนำพอหลับไป จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปกติ....คนรักจะหายไปเพียงชั่วข้ามคืน.....มันน่าเศร้าใช่ไหม...
แต่ผมว่าไม่ใช่.........
พลังบ้าของผม มีผลชั่วคราว กับ “ความรัก” เท่านั้น และมีผลเพียงข้ามคืน ถ้าเป็นคุณจะยอมรับได้ไหมล่ะ..........?
“ทำไมคุณหมออยากเจอเธอ”
ผมเอ่ยปากถามคุณหมอตรงๆ คุณหมอที่เคยเขียนรายงานว่าผม “บ้าประสาท” จนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้ ซึ่งนำถึงการถูกส่งตัวมาอยู่ในสถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตแห่งนี้”
ผมมองหน้าคุณหมอ..หรือนัยหนึ่งคุณหมอเป็นฝ่ายมองหน้าผม ใครมองใครกันแน่...ช่างเถอะ... ใครจะมองใครไม่สำคัญเท่ากับสายตาของคนหมอจิตแพทย์ ที่กำลังขอร้องความบ้าจากคนไข้
“ผมอยากบ้า..เหนี่ยวนำผมได้ไหม...”
เสียงคุณหมอร้าวรานสุดแสน...บางทีอาจมีเพียงคนบ้าจะเข้าใจ..บางคนอยากจะดี แต่บางคนอยากจะบ้า ผมนึกในใจอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังคงดีพอจะมองหน้าคุณหมอซึ่งเป็นหมอประจำตัวมานานหลายเดือน ก่อนถามว่า
“ทำไมคุณหมอยากบ้าล่ะครับ”
มันเป็นคำถามที่ชวนบ้า เหลือเกิน แต่ผมต้องถามให้รู้แจ้งเห็นจริง เพราะความบ้ามีระบบระเบียบของมันอยู่ อย่างคนทั่วไปไม่รู้ อาจมองความบ้ากับความอัจฉริยะ ห่างกันเพียงเส้นบางๆ หรือบางครั้งเป็นสิ่งเดียวกัน
“ผมเพียงอยากคุยกับเธอ....ว่าก่อนตายเธอคิดยังไงกับผม” เสียงคุณหมอสั่นเครือ ขณะซบหน้าลงกับฝ่ามือ เขาพยายามซ่อนความรู้สึกหรือหลบซ่อนอะไรกันแน่ ท่าทางประสาทรับประทานมากกว่าตนไข้เสียอีก
“เธอตายไปแล้ว” ผมย้ำหัวตะปู
“ผมรู้”
“คุณหมอรับได้นะครับ...ว่าการเหนี่ยวนำจะมีผลชั่วคราว...ว่าแต่ทำไมคุณหมอต้องย้อนรอยไปหาความเจ็บปวดล่ะครับ”
ขณะถาม ผมระมัดระวังน้ำเสียงให้ราบเรียบ อย่างไม่ควรแสดงอารมณ์ส่วนตัวมากเกินไป อย่าทำร้ายคุณหมออมากเกินไป อารมณ์บางอย่างเหนือเหตุผล
แต่ความจริงคืออาหารมื้อกลางวันของผมกำลังถูกรบกวน....ที่รัก...
“ผมเพียงอยากคุยกับเธออีกสักครั้งเท่านั้น ได้โปรด จากรายงานการรักษา ผมรู้ว่าคุณทำได้..เหนี่ยวนำให้ผมบ้าที ผมอยากเจอเธอ...”
ความรักมันบ้ายิ่งกว่าบ้าขนาดนี้หรืออย่างไร...จิตแพทย์กลับเป็นคนอ้อนวอนขอร้องคนไข้ทางจิตเสียเอง เรื่องแบบนี้เคยมีที่ไหนกัน
ในมุมมองของความรัก คืออะไรกันแน่..แต่คนบ้าอย่างผมเข้าใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ความรักแท้จริงไม่เคยทำร้ายกัน คนที่ทำร้ายคนอื่นหลายคนต่างอ้างความรักในการทำเลวเพื่อให้เหคุผลกับตัวเองเท่านั้น
“เธออยู่ข้างหลังคุณหมอแล้วครับ” ผมบอกอย่างตาเห็น เพราะในนาทีนั้นเอง ผมมองเห็นร่างของผู้หญิงปรากฏต่อหน้าต่อตาอย่างชัดเจน คุณหมอหันไปมอง และยิ้มอย่างดีใจ มีความสุข เขาได้สิ่งสมหวัง และต้องการไปแล้ว ถึงจะได้แบบ บ้าๆ ก็ช่างเถอะ... หลังจากนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีก จิตใจสั่นไหวราวระลอกคลื่น ผมกำลังทำบ้าอะไรกัน...ผมบ้าเพื่อตัวเองหรือใครกันแน่ หรือบ้าแบบไร้ความหวัง
ทุกครั้งที่เหนี่ยวนำคนอื่น พลังบ้าของผมจะเสื่อมถอยลดลง พลังความบ้าอย่างไรก็มขอบเขตจำกัด ไม่สามารถบรรลุขั้น “บ้าไร้เงา”
ผมถึงต้องนั่งกินอาหารเช้าที่น่าสงสารเพียงลำพัง เพราะ”เธอ” มาไม่ได้เสียแล้ว น้ำตาของผมไหลรินจากความเจ็บปวด ที่รัก...ผมเสียใจเหลือเกิน แต่ผมต้องสละความบ้าของผมเพื่อคนอื่น
คนบ้าก็มีหัวใจ..คนบ้าก็รักคนเป็น..ไม่ใช่หรือ แม้จะรักแบบบ้าๆ ก็ตามที ที่รัก....รออีกนิด.. แล้วผมจะบ้าจนกว่าจะได้ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ วันนี้ความบ้าของผมแบ่งปันเพื่อคุณอื่นไปเสียแล้ว ขอโทษนะที่รัก ที่วันนี้ไม่เจอกัน ผมผิดเอง แต่ได้โปรดเชื่อใจ ผมจะบ้าเพื่อให้คุณกลับมาให้ได้
นะที่รัก...ที่รัก..
ผมจะรัก..จะรอ...จะบ้า....เพื่อคุณ ตลอดไป......
จบบทครับผม
ไซโควิปลาส....3
https://ppantip.com/topic/37429163
ไซโควิปลาส.....2
https://ppantip.com/topic/37435562
........
ได้โปรด....เหนี่ยวนำ ให้ผมเป็นบ้าได้ไหม...
คุณคงไม่เชื่อว่า ว่า.. มีหมอโรคจิตมาอ้อนวอน ให้ผม ‘ทำบ้า’ . ให้เขา...ใช่ไหมล่ะ...ผมว่าคุณเองก็ไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ จะเป็นจริง และเป็นไปได้ โดยเฉพาะ ...ในสภาบันอันทรงเกียรติ ที่เรียกว่า สถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตประสาทแห่งนี้ แต่อะไรก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ..
เรื่องมีอยู่ว่า ผมกำลังเตรียมอาหารเช้า กับ “ที่รัก” ของผม ความรักความฝันของผมเท่านี่ก็เกินพอ...จะมีอะไรวิเศษมากไปกว่าการได้อยู่กับคนรัก คุณไม่ต้องสงสัยอะไร เพราะเธอตายไปนานแล้ว แต่....เธอยังอยู่กับผมจนทุกวันนี้ ขอเพียงผม “บ้าพอ” หมายความว่า ถ้าบ้าพออะไรก็เป็นไปได้ แต่ผมว่าอย่าดีกว่า... พวกคุณก็อยู่ดีๆ ไปตามประสาพวกคุณดีกว่า ไม่ต้องมาบ้าให้เสียเวลา ไม่ต้องมีพยายามเข้าใจจักรวาลของความบ้าหรอก..ไม่...ไม่ได้หมายถึงอะไรดีกว่าหรือแย่กว่า...เอาล่ะ...ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะบ้า ผมก็จะเล่าให้คุณฟังก็แล้วกัน
อาหารเช้า...
ไม่...ใช่...มันมีความหมายมากกว่าอาหารมื้อหนึ่ง รู้ไหมว่าผมยอมบ้าแค่ไหน กว่าจะมีวันนี้
อาหารเช้าของผมเตรียมไว้ที่ลานกว้าง ที่เรียกว่าดงสนแสนสวย ผมมีเพื่อนมากมายหลายคน แต่คนที่ผมประทับใจมากที่สุด เป็นคนไข้หนุ่มคนหนึ่ง ที่เขาสามารถสื่อสารกับ ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆได้ เขามีเพื่อนต่างเพศชื่อ โรส และโรซี่ ทั้งสองต้นเป็นกุหลาบน่ารักอัธยาศัยดีมาก ผมเรียกเขาง่ายๆว่า “มิสเตอร์บี” ก็แล้วกันนะครับ
เขาเคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผมฟัง และมันเป็นเรื่อง “น่าเศร้าที่เปี่ยมพลัง” มากที่สุดเรื่องหนึ่ง กับเรื่องของสาว “ปอย” หญิงสาวคนไข้ทางจิต ที่ต้องมารักษาตัวในสถาบันแห่งนี้ เขาและเธอตกลงร่วมใจกันสร้างวงล้อสวนกุหลาบและความรักแห่งอ้อมแขนงามแห่งกุหลาบสวย ล้อมรอบอาณาเขตแห่งฝันรัก คนไข้หนุ่มคนนั้นบอกกับผม ด้วยคำคมความหมายของคนบ้า แต่ผมเข้าใจมากกว่าคุยเรื่องนี้กับคนดีๆเสียอีก และเอาใจช่วยเขา ให้บ้าพอจะได้เธอกลับมา.....แต่มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเธอยังไม่ตาย
แต่เสียดายว่า เธอหายจากอาการ “บ้า” เสียก่อน ทำให้เธอกลับสู่โลกภายนอก(ที่ปกติ) โดยลืมมิตรภาพแห่งความบ้าไปจนหมดสิ้น........มันน่าเศร้ากับการลบเลือนความบ้าโดยโลกแห่งความเป็นจริง น่าเศร้ากับการจากกันเพราะความไม่บ้า
“ผมจะรอเธอ....เสมอ ต่อให้เธอไม่มีวันกลับมาก็ตาม”
คำพูดแสนเศร้า..รู้จักรักเข้าใจเมื่อบ้า แต่พอหายบ้า กลับลืมเลือน....มันน่าบ้าไหมล่ะ...
พูดง่ายๆ ก็คือ ผมสามารถ “เหนี่ยวนำ” เป้าหมาย ให้บ้า มองเห็น สัมผัส รับรู้ ถึงคนรักและความรักที่ตายไปแล้วได้ แต่ผลของการเหนี่ยวนำเป็นแบบชั่วคราว คนถูกเหนี่ยวนำพอหลับไป จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปกติ....คนรักจะหายไปเพียงชั่วข้ามคืน.....มันน่าเศร้าใช่ไหม...
แต่ผมว่าไม่ใช่.........
พลังบ้าของผม มีผลชั่วคราว กับ “ความรัก” เท่านั้น และมีผลเพียงข้ามคืน ถ้าเป็นคุณจะยอมรับได้ไหมล่ะ..........?
“ทำไมคุณหมออยากเจอเธอ”
ผมเอ่ยปากถามคุณหมอตรงๆ คุณหมอที่เคยเขียนรายงานว่าผม “บ้าประสาท” จนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้ ซึ่งนำถึงการถูกส่งตัวมาอยู่ในสถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตแห่งนี้”
ผมมองหน้าคุณหมอ..หรือนัยหนึ่งคุณหมอเป็นฝ่ายมองหน้าผม ใครมองใครกันแน่...ช่างเถอะ... ใครจะมองใครไม่สำคัญเท่ากับสายตาของคนหมอจิตแพทย์ ที่กำลังขอร้องความบ้าจากคนไข้
“ผมอยากบ้า..เหนี่ยวนำผมได้ไหม...”
เสียงคุณหมอร้าวรานสุดแสน...บางทีอาจมีเพียงคนบ้าจะเข้าใจ..บางคนอยากจะดี แต่บางคนอยากจะบ้า ผมนึกในใจอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังคงดีพอจะมองหน้าคุณหมอซึ่งเป็นหมอประจำตัวมานานหลายเดือน ก่อนถามว่า
“ทำไมคุณหมอยากบ้าล่ะครับ”
มันเป็นคำถามที่ชวนบ้า เหลือเกิน แต่ผมต้องถามให้รู้แจ้งเห็นจริง เพราะความบ้ามีระบบระเบียบของมันอยู่ อย่างคนทั่วไปไม่รู้ อาจมองความบ้ากับความอัจฉริยะ ห่างกันเพียงเส้นบางๆ หรือบางครั้งเป็นสิ่งเดียวกัน
“ผมเพียงอยากคุยกับเธอ....ว่าก่อนตายเธอคิดยังไงกับผม” เสียงคุณหมอสั่นเครือ ขณะซบหน้าลงกับฝ่ามือ เขาพยายามซ่อนความรู้สึกหรือหลบซ่อนอะไรกันแน่ ท่าทางประสาทรับประทานมากกว่าตนไข้เสียอีก
“เธอตายไปแล้ว” ผมย้ำหัวตะปู
“ผมรู้”
“คุณหมอรับได้นะครับ...ว่าการเหนี่ยวนำจะมีผลชั่วคราว...ว่าแต่ทำไมคุณหมอต้องย้อนรอยไปหาความเจ็บปวดล่ะครับ”
ขณะถาม ผมระมัดระวังน้ำเสียงให้ราบเรียบ อย่างไม่ควรแสดงอารมณ์ส่วนตัวมากเกินไป อย่าทำร้ายคุณหมออมากเกินไป อารมณ์บางอย่างเหนือเหตุผล
แต่ความจริงคืออาหารมื้อกลางวันของผมกำลังถูกรบกวน....ที่รัก...
“ผมเพียงอยากคุยกับเธออีกสักครั้งเท่านั้น ได้โปรด จากรายงานการรักษา ผมรู้ว่าคุณทำได้..เหนี่ยวนำให้ผมบ้าที ผมอยากเจอเธอ...”
ความรักมันบ้ายิ่งกว่าบ้าขนาดนี้หรืออย่างไร...จิตแพทย์กลับเป็นคนอ้อนวอนขอร้องคนไข้ทางจิตเสียเอง เรื่องแบบนี้เคยมีที่ไหนกัน
ในมุมมองของความรัก คืออะไรกันแน่..แต่คนบ้าอย่างผมเข้าใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ความรักแท้จริงไม่เคยทำร้ายกัน คนที่ทำร้ายคนอื่นหลายคนต่างอ้างความรักในการทำเลวเพื่อให้เหคุผลกับตัวเองเท่านั้น
“เธออยู่ข้างหลังคุณหมอแล้วครับ” ผมบอกอย่างตาเห็น เพราะในนาทีนั้นเอง ผมมองเห็นร่างของผู้หญิงปรากฏต่อหน้าต่อตาอย่างชัดเจน คุณหมอหันไปมอง และยิ้มอย่างดีใจ มีความสุข เขาได้สิ่งสมหวัง และต้องการไปแล้ว ถึงจะได้แบบ บ้าๆ ก็ช่างเถอะ... หลังจากนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีก จิตใจสั่นไหวราวระลอกคลื่น ผมกำลังทำบ้าอะไรกัน...ผมบ้าเพื่อตัวเองหรือใครกันแน่ หรือบ้าแบบไร้ความหวัง
ทุกครั้งที่เหนี่ยวนำคนอื่น พลังบ้าของผมจะเสื่อมถอยลดลง พลังความบ้าอย่างไรก็มขอบเขตจำกัด ไม่สามารถบรรลุขั้น “บ้าไร้เงา”
ผมถึงต้องนั่งกินอาหารเช้าที่น่าสงสารเพียงลำพัง เพราะ”เธอ” มาไม่ได้เสียแล้ว น้ำตาของผมไหลรินจากความเจ็บปวด ที่รัก...ผมเสียใจเหลือเกิน แต่ผมต้องสละความบ้าของผมเพื่อคนอื่น
คนบ้าก็มีหัวใจ..คนบ้าก็รักคนเป็น..ไม่ใช่หรือ แม้จะรักแบบบ้าๆ ก็ตามที ที่รัก....รออีกนิด.. แล้วผมจะบ้าจนกว่าจะได้ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ วันนี้ความบ้าของผมแบ่งปันเพื่อคุณอื่นไปเสียแล้ว ขอโทษนะที่รัก ที่วันนี้ไม่เจอกัน ผมผิดเอง แต่ได้โปรดเชื่อใจ ผมจะบ้าเพื่อให้คุณกลับมาให้ได้
นะที่รัก...ที่รัก..
ผมจะรัก..จะรอ...จะบ้า....เพื่อคุณ ตลอดไป......
จบบทครับผม