ไซโควิปลาส....3

กระทู้สนทนา
ไซโควิปลาส .......1
https://ppantip.com/topic/37429163


ไซโควิปลาส.....2
https://ppantip.com/topic/37435562


........



             ได้โปรด....เหนี่ยวนำ ให้ผมเป็นบ้าได้ไหม...

             คุณคงไม่เชื่อว่า ว่า.. มีหมอโรคจิตมาอ้อนวอน ให้ผม ‘ทำบ้า’  . ให้เขา...ใช่ไหมล่ะ...ผมว่าคุณเองก็ไม่มีทางเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ จะเป็นจริง และเป็นไปได้ โดยเฉพาะ ...ในสภาบันอันทรงเกียรติ ที่เรียกว่า สถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตประสาทแห่งนี้  แต่อะไรก็เป็นไปได้ไม่ใช่หรือครับ..

             เรื่องมีอยู่ว่า  ผมกำลังเตรียมอาหารเช้า กับ “ที่รัก”  ของผม ความรักความฝันของผมเท่านี่ก็เกินพอ...จะมีอะไรวิเศษมากไปกว่าการได้อยู่กับคนรัก  คุณไม่ต้องสงสัยอะไร เพราะเธอตายไปนานแล้ว แต่....เธอยังอยู่กับผมจนทุกวันนี้ ขอเพียงผม “บ้าพอ” หมายความว่า ถ้าบ้าพออะไรก็เป็นไปได้ แต่ผมว่าอย่าดีกว่า... พวกคุณก็อยู่ดีๆ ไปตามประสาพวกคุณดีกว่า ไม่ต้องมาบ้าให้เสียเวลา  ไม่ต้องมีพยายามเข้าใจจักรวาลของความบ้าหรอก..ไม่...ไม่ได้หมายถึงอะไรดีกว่าหรือแย่กว่า...เอาล่ะ...ถ้าคุณยังไม่พร้อมจะบ้า ผมก็จะเล่าให้คุณฟังก็แล้วกัน

            อาหารเช้า...

            ไม่...ใช่...มันมีความหมายมากกว่าอาหารมื้อหนึ่ง  รู้ไหมว่าผมยอมบ้าแค่ไหน กว่าจะมีวันนี้

             อาหารเช้าของผมเตรียมไว้ที่ลานกว้าง ที่เรียกว่าดงสนแสนสวย   ผมมีเพื่อนมากมายหลายคน  แต่คนที่ผมประทับใจมากที่สุด เป็นคนไข้หนุ่มคนหนึ่ง  ที่เขาสามารถสื่อสารกับ ต้นไม้และพืชพรรณต่างๆได้   เขามีเพื่อนต่างเพศชื่อ โรส และโรซี่  ทั้งสองต้นเป็นกุหลาบน่ารักอัธยาศัยดีมาก  ผมเรียกเขาง่ายๆว่า “มิสเตอร์บี”  ก็แล้วกันนะครับ

           เขาเคยเล่าเรื่องส่วนตัวให้ผมฟัง และมันเป็นเรื่อง “น่าเศร้าที่เปี่ยมพลัง”  มากที่สุดเรื่องหนึ่ง กับเรื่องของสาว “ปอย”  หญิงสาวคนไข้ทางจิต ที่ต้องมารักษาตัวในสถาบันแห่งนี้  เขาและเธอตกลงร่วมใจกันสร้างวงล้อสวนกุหลาบและความรักแห่งอ้อมแขนงามแห่งกุหลาบสวย ล้อมรอบอาณาเขตแห่งฝันรัก คนไข้หนุ่มคนนั้นบอกกับผม ด้วยคำคมความหมายของคนบ้า  แต่ผมเข้าใจมากกว่าคุยเรื่องนี้กับคนดีๆเสียอีก  และเอาใจช่วยเขา ให้บ้าพอจะได้เธอกลับมา.....แต่มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าหากเธอยังไม่ตาย

         แต่เสียดายว่า เธอหายจากอาการ “บ้า” เสียก่อน ทำให้เธอกลับสู่โลกภายนอก(ที่ปกติ)  โดยลืมมิตรภาพแห่งความบ้าไปจนหมดสิ้น........มันน่าเศร้ากับการลบเลือนความบ้าโดยโลกแห่งความเป็นจริง น่าเศร้ากับการจากกันเพราะความไม่บ้า

         “ผมจะรอเธอ....เสมอ ต่อให้เธอไม่มีวันกลับมาก็ตาม”

         คำพูดแสนเศร้า..รู้จักรักเข้าใจเมื่อบ้า แต่พอหายบ้า กลับลืมเลือน....มันน่าบ้าไหมล่ะ...

           พูดง่ายๆ  ก็คือ ผมสามารถ  “เหนี่ยวนำ”  เป้าหมาย ให้บ้า มองเห็น สัมผัส  รับรู้ ถึงคนรักและความรักที่ตายไปแล้วได้  แต่ผลของการเหนี่ยวนำเป็นแบบชั่วคราว   คนถูกเหนี่ยวนำพอหลับไป จะตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปกติ....คนรักจะหายไปเพียงชั่วข้ามคืน.....มันน่าเศร้าใช่ไหม...

         แต่ผมว่าไม่ใช่.........

         พลังบ้าของผม มีผลชั่วคราว กับ “ความรัก” เท่านั้น    และมีผลเพียงข้ามคืน  ถ้าเป็นคุณจะยอมรับได้ไหมล่ะ..........?

         “ทำไมคุณหมออยากเจอเธอ”

          ผมเอ่ยปากถามคุณหมอตรงๆ คุณหมอที่เคยเขียนรายงานว่าผม “บ้าประสาท” จนไม่สามารถอยู่ร่วมกับคนปกติได้  ซึ่งนำถึงการถูกส่งตัวมาอยู่ในสถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตแห่งนี้”

          ผมมองหน้าคุณหมอ..หรือนัยหนึ่งคุณหมอเป็นฝ่ายมองหน้าผม  ใครมองใครกันแน่...ช่างเถอะ...  ใครจะมองใครไม่สำคัญเท่ากับสายตาของคนหมอจิตแพทย์ ที่กำลังขอร้องความบ้าจากคนไข้

        “ผมอยากบ้า..เหนี่ยวนำผมได้ไหม...”

         เสียงคุณหมอร้าวรานสุดแสน...บางทีอาจมีเพียงคนบ้าจะเข้าใจ..บางคนอยากจะดี  แต่บางคนอยากจะบ้า  ผมนึกในใจอย่างไม่เข้าใจ แต่ยังคงดีพอจะมองหน้าคุณหมอซึ่งเป็นหมอประจำตัวมานานหลายเดือน ก่อนถามว่า

         “ทำไมคุณหมอยากบ้าล่ะครับ”

          มันเป็นคำถามที่ชวนบ้า เหลือเกิน แต่ผมต้องถามให้รู้แจ้งเห็นจริง เพราะความบ้ามีระบบระเบียบของมันอยู่  อย่างคนทั่วไปไม่รู้   อาจมองความบ้ากับความอัจฉริยะ ห่างกันเพียงเส้นบางๆ หรือบางครั้งเป็นสิ่งเดียวกัน

         “ผมเพียงอยากคุยกับเธอ....ว่าก่อนตายเธอคิดยังไงกับผม”     เสียงคุณหมอสั่นเครือ ขณะซบหน้าลงกับฝ่ามือ  เขาพยายามซ่อนความรู้สึกหรือหลบซ่อนอะไรกันแน่  ท่าทางประสาทรับประทานมากกว่าตนไข้เสียอีก

          “เธอตายไปแล้ว”  ผมย้ำหัวตะปู

          “ผมรู้”

         “คุณหมอรับได้นะครับ...ว่าการเหนี่ยวนำจะมีผลชั่วคราว...ว่าแต่ทำไมคุณหมอต้องย้อนรอยไปหาความเจ็บปวดล่ะครับ”

          ขณะถาม ผมระมัดระวังน้ำเสียงให้ราบเรียบ อย่างไม่ควรแสดงอารมณ์ส่วนตัวมากเกินไป  อย่าทำร้ายคุณหมออมากเกินไป  อารมณ์บางอย่างเหนือเหตุผล

          แต่ความจริงคืออาหารมื้อกลางวันของผมกำลังถูกรบกวน....ที่รัก...

         “ผมเพียงอยากคุยกับเธออีกสักครั้งเท่านั้น  ได้โปรด  จากรายงานการรักษา ผมรู้ว่าคุณทำได้..เหนี่ยวนำให้ผมบ้าที   ผมอยากเจอเธอ...”

          ความรักมันบ้ายิ่งกว่าบ้าขนาดนี้หรืออย่างไร...จิตแพทย์กลับเป็นคนอ้อนวอนขอร้องคนไข้ทางจิตเสียเอง เรื่องแบบนี้เคยมีที่ไหนกัน
ในมุมมองของความรัก คืออะไรกันแน่..แต่คนบ้าอย่างผมเข้าใจว่า ไม่ว่าอย่างไร ความรักแท้จริงไม่เคยทำร้ายกัน คนที่ทำร้ายคนอื่นหลายคนต่างอ้างความรักในการทำเลวเพื่อให้เหคุผลกับตัวเองเท่านั้น

          “เธออยู่ข้างหลังคุณหมอแล้วครับ”    ผมบอกอย่างตาเห็น เพราะในนาทีนั้นเอง ผมมองเห็นร่างของผู้หญิงปรากฏต่อหน้าต่อตาอย่างชัดเจน  คุณหมอหันไปมอง และยิ้มอย่างดีใจ มีความสุข  เขาได้สิ่งสมหวัง และต้องการไปแล้ว ถึงจะได้แบบ บ้าๆ ก็ช่างเถอะ... หลังจากนั้นผมไม่รับรู้อะไรอีก จิตใจสั่นไหวราวระลอกคลื่น ผมกำลังทำบ้าอะไรกัน...ผมบ้าเพื่อตัวเองหรือใครกันแน่ หรือบ้าแบบไร้ความหวัง


          ทุกครั้งที่เหนี่ยวนำคนอื่น พลังบ้าของผมจะเสื่อมถอยลดลง พลังความบ้าอย่างไรก็มขอบเขตจำกัด ไม่สามารถบรรลุขั้น “บ้าไร้เงา”

          ผมถึงต้องนั่งกินอาหารเช้าที่น่าสงสารเพียงลำพัง เพราะ”เธอ” มาไม่ได้เสียแล้ว  น้ำตาของผมไหลรินจากความเจ็บปวด  ที่รัก...ผมเสียใจเหลือเกิน  แต่ผมต้องสละความบ้าของผมเพื่อคนอื่น

         คนบ้าก็มีหัวใจ..คนบ้าก็รักคนเป็น..ไม่ใช่หรือ     แม้จะรักแบบบ้าๆ ก็ตามที    ที่รัก....รออีกนิด.. แล้วผมจะบ้าจนกว่าจะได้ทานข้าวด้วยกันสักมื้อ  วันนี้ความบ้าของผมแบ่งปันเพื่อคุณอื่นไปเสียแล้ว ขอโทษนะที่รัก ที่วันนี้ไม่เจอกัน ผมผิดเอง แต่ได้โปรดเชื่อใจ   ผมจะบ้าเพื่อให้คุณกลับมาให้ได้

          นะที่รัก...ที่รัก..

        ผมจะรัก..จะรอ...จะบ้า....เพื่อคุณ ตลอดไป......



จบบทครับผม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่