สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้การเขียนรีวิวแรกนะคะ หากผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ สาเหตุที่เขียนรีวิวเนื่องจากได้รับความรู้ดีๆมากมายจากเพื่อนๆชาวพันทิพย์ค่ะ เลยอยากจะลองเสนอประสบการณ์การรักษาหลุมสิวที่ยาวนานกว่า 12 ปี เพื่อให้มีประโยชน์กับผู้ที่เจอปัญหาแบบเดียวกัน และการรักษาหลุมสิวเท่าที่หาอ่านมาในอินเตอร์เน็ตยังไม่ค่อยมีใครรีวิวการเย็บหลุมสิวค่ะ เรามาเริ่มกันเลยนะคะ
สาเหตุการเกิดหลุมสิว
อายุ 15 - จขกทเป็นคนหน้าไม่มันไม่ค่อยมีสิว แต่สิวจะขึ้นเฉพาะที่บริเวณจมูก เวลาเป็นสิวหัวช้างขึ้นมาที ก็จะอยู่ตรงนั้นเป็นปีๆ ไปฉีดสิวที่คลินิคชื่อดังแถวบ้าน บางทีก็ยุบลงไป บางทีก็ไม่ยุบ เป็นรอยนูนๆเหมือนคีลอยด์ แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะยังเป็นเด็ก เท่าที่จำได้สิวหัวช้างน่าจะขึ้นมาประมาณ 5-10 เม็ด จนถึงอายุ 21 ค่ะ
อายุ 21 - ปี 2010 ช่วงมหาลัย เริ่มรักสวยรักงาม เริ่มแต่งหน้าเลยรู้สึกว่าจมูกที่เป็นนูนๆเหมือนรอยคีลอยด์ดูไม่สวยอยากจะทำให้จมูกเรียบ จึงเริ่มไปปรึกษาคุณหมอตามคลินิคต่างๆ โดยคุณหมอจากคลีนิคชื่อดังแห่งหนึ่งแถวเซนทรัลปิ่นเกล้าแนะนำให้ทำ
เลเซอร์ Co2 กรอเนื้อที่เป็นรอยนูนออกไปและทำให้จมูกเรียบลง เราก็ตัดสินใจทำอย่างไม่ลังเลด้วยความอยากสวย พอแผลหายดีเพื่อนๆก็ชมว่าจมูกเรียบแล้วไม่มีรอยนูนอีกต่อไป แต่ใจเจ้ากรรมหลังจากที่แผลหายเป็นปกติ ดันเกิดเป็นแผลหลุมสิวแบบลึกมากๆขึ้นมาแทนนี่สิ ซึ่งจขกทไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากการสิวหัวช้างที่อยู่กับเรามานาน (เราไม่เคยไปบีบมันเลยสักครั้งเดียวค่ะ) หรือเป็นเพราะการใช้
เลเซอร์ co2 ที่มีควาามรุนแรงเกินไปตอนที่คุณหมอกรอจมูก จนทำให้เป็นหลุมลึกลงไปแทน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังเชื่อคุณหมอที่กรอจมูกอยู่ คุณหมอจึงแนะนำให้ทำ
เลเซอร์ fractional co2 ประมาณ 5-10 ครั้ง บวกกับการแต้มกรดที่หลุมเพื่อกระตุ้นให้เนื้อขึ้นมาใหม่ แต่สุดท้ายผลที่ออกมาก็ไม่ได้ตื้นขึ้นจนเป็นที่สังเกตเห็นได้ค่ะ เราจึงหยุดการรักษาและหันมาแต่งหน้าปกปิดแทน
ความกังวลเรื่องหลุมสิวหายไปประมาณ 3 ปี จนมีพี่ที่ทำงานมาทักว่า จมูกไปโดนแมลงสาปแทะมาหรอ พี่เค้าพูดเล่นๆ แต่มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเรามาก จึงทำให้เรามีไฟในการกลับมารักษาหลุมสิวอีกครั้ง และตอนนี้เราก็มีทุนทรัพย์มากขึ้นกว่าตอนเป็นนักศึกษา เราหาอ่านกระทู้ในพันทิพย์ กระทู้ตามคลีนิคต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีใครเขียนรีวิวกันจริงจังนัก และมีเพื่อนของแม่แนะนำให้ไปหาคุณหมอที่คลีนิคแถวบางนา คุณหมอแนะนำให้
ทำ subcision ครั้งละ 7000 บาท คุณหมอบอกว่าทำ 2 ครั้งน่าจะดีขึ้น เราก็ไปทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ เจ็บตัวสุดๆ
ผ่านมา 1 ปี มีผู้ใหญ่ที่เรานักถือบอกว่า คุณหมอจากคลีนิคตรงถนนพระอาทิตย์เก่งมาก และพี่ชายเราปรึกษาเรื่องสิวกับคุณหมออยู่เราเลยไปปรึกษาคุณหมอบ้าง และคุณหมอบอกให้ทำการ
แต้มกรด ควบคู่ไปกับการทำเลเซอร์ erbium yag และ เลเซอร์ co2 ยิงเข้าไปที่ตรงกลางหลุม คุณหมอไม่ได้เป็นคนยิงเองค่ะ จะมีหมอยิงเลเซอร์สลับเวรกันไปในแต่ละครั้งที่รักษา ซึ่งจุดนี้คุณหมอบอกว่าต้องมีวินัย ต้องมาทำตามที่นัดทุกครั้ง ไอเราก็ดันหัวอ่อนไปทำตามที่คุณหมอบอก โดยไม่ได้สังเกตจมูกตัวเองเลยว่า ยิ่งทำแผลยิ่งขยายอาณาเขตกว้างขึ้น แผลตื้นขึ้นกว่าวิธีอื่นที่รักษามาทั้งหมดก็จริง แต่ปากหลุมมันดันกว้างขึ้นด้วย เนื่องจากโดนเลเซอร์ทำลายเนื้อไป และคุณหมอที่ยิงให้ในแต่ละครั้งบางคนก็ยิงแคบๆตรงกลางหลุม บางคนก็ยิงคลอบคลุมทั้งหลุม เราทำไป 10 กว่าครั้ง แต่ละครั้งทำกลับมาจมูกจะแดงไป 3 อาทิตย์ จนทุกคนชินแล้วว่าจมูกเราจะต้องแดงแบบนี้ตลอดเวลาที่เจอกัน เวลาผ่านไปเป็นปี หมดเงินไปเป็นหมื่นๆ พึ่งจะมารู้สึกตัวอีกทีว่า
แย่ละหลุมมันกว้างขึ้น โอเอ็มจี น้ำตาตกในเลยค่ะ
เมื่อเรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เราก็เดินจากมา (รู้ตัวช้าไป 10 สเต็ป) เราก็เลยกลับมาพึ่งพี่กูเกิ้ลและกระทู้ต่างๆในพันทิพย์อีกครั้ง เราอ่านเจอเรื่องของการทำกราฟฟิ่งที่จมูก แต่ไม่มีคนมารีวิวแบบจริงจังนัก เราเลยไปปรึกษาคุณหมอแถวรถไฟฟ้าเพลินจิตดู คุณหมอน่ารักมากแต่การทำ
กราฟฟิ่งต้องเอาเนื้อจากใบหูมาปลูกถ่ายเข้าไปที่จมูกเท่ากับเป็นการผ่าตัดเล็กๆ คุณหมออธิบายละเอียด มีรูปภาพประกอบ แต่เรายังไม่อยากทำเพราะจิตใจไม่พร้อมกับการผิดพลาดอีกแล้วและต้องใช้ระยะเวลาดูแลแผล 1 ปีเต็มๆค่ะ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นรีวิวจากคนที่ทำแล้วจริงๆเลยสักที เราจึงตัดวิธีการนี้ออกก่อน
และแล้วเราก็เหลือบไปเห็น
การเย็บหลุมสิวจากกระทู้หนึ่ง ซึ่งมีรูปภาพประกอบแต่ไม่ชัดเจนมาก เราเกิดความสนใจเนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดรวมถึงการเย็บแผลก็ดูเหมือนเป็นวิธีการซ่อมรอยแผลเป็นที่ดี เราจึงทำการค้นหาคุณหมอศัลยกรรมตกแต่งชื่อดังตามเว็บต่างๆ (ถ้าเป็นเรื่องนี้มีคนเขียนรีวิวไว้เต็มเลยค่ะ ^^) และเราก็เลือกมา 2 ท่าน ท่านแรกคุณหมอชื่อดังจากซอยสุขุมวิทxx คุณหมอคิดราคา 18,000 และบอกว่าต้องเย็บ 2 ครั้ง และบอกว่าแผลใหญ่อาจจะไม่ได้ผล เราก็เลยไปปรึกษาคุณหมอคนที่ 2 แถวลาดพร้าว คุณหมอดูแผลและตอบด้วยความมั่นใจว่าทำได้ หมอคิดค่าทำ 15,000 บาท และทำครั้งเดียวสวยเลย เพียงแค่ห้ามออกแดด 6 เดือน ด้วยความที่เชื่อมั่นในการทำ research ที่เราหามาบวกกับความมั่นใจที่คุณหมอให้มา เราจึงตัดสินใจทำค่ะ
โดยการเย็บแผลมีขั้นตอนง่ายๆคือ
1.ฉีดยาชา (เจ็บน้ำตาไหลนิดๆ)
2.คุณหมอทำการกรีดเนื้อชั้นบนบริเวณแผลหลุมเพื่อให้ผิวหนังเกิดรอยแผล (ผิวหนังคนเราหากเกิดรอยแผลจะทำการสมานแผลด้วยตัวเองค่ะ)
3.คุณหมอลงมือเย็บแผล เพื่อให้รอยหลุมสิวติดเข้าหากันค่ะ
ผลที่ออกมาเป็นดังนี้ค่ะ
รูปแผลตอนยังไม่ตัดไหมค่ะ ดูน่ากลัวหน่อยนะคะ ตอนเช็ดแอลกอฮอลก่อนเย็บแผลคุณหมอเหลือบไปเห็นแผลเป็นที่หางคิ้ว เลยแถมเย็บคิ้วให้ด้วยค่ะ ใจดีสุดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าให้เราย้อนเวลากลับไปได้...
1. เราจะไม่ไปยุ่งกับแผลนูนหรือแผลคีลอยด์ที่จมูกเลยค่ะ เราจะปล่อยมันไว้อย่างนั้น
2. หลังจากที่เกิดหลุมสิวแบบ ice pickแล้ว เราจะไม่รักษาด้วยการทำ fractional co2, subcision, erbrium yag และเลเซอร์กรอผิวทุกชนิด เพราะมันทำให้เนื้อข้างๆรอยแผลหลุมมันหายไปด้วย และจมูกเป็นส่วนที่มีเนื้อน้อย กระตุ้นให้ขึ้นใหม่ยากไม่เหมือนบริเวณแก้ม
3. ถ้าเป็นหลุมสิวลึกบริเวณจมูก เราขอแนะนำทางลัดให้กับเพื่อนๆทุกคน ว่าให้ไปเย็บหลุมสิวเลยค่ะ เสียเงินมากหน่อยแต่ครั้งเดียว ใช้ระยะเวลาดูแลรักษาแค่ 6 เดือนค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกท่านที่มีปัญหานี้นะคะ เขียนยาวหน่อย แต่อยากให้เห็นภาพว่าเรารักษามาแล้วหลายวิธีใช้เวลาหลายสิบปี เสียทุนทรัพย์ไปมาก อยากลองแนะนำสิ่งดีๆที่ยังไม่ค่อยมีคนเขียนรีวิวให้ได้อ่านและพิจารณากันดูค่ะ ขอบคุณค่ะ
[CR] รีวิวการรักษาหลุมสิว ด้วยการเย็บหลุมสิวคะ
สาเหตุการเกิดหลุมสิว
อายุ 15 - จขกทเป็นคนหน้าไม่มันไม่ค่อยมีสิว แต่สิวจะขึ้นเฉพาะที่บริเวณจมูก เวลาเป็นสิวหัวช้างขึ้นมาที ก็จะอยู่ตรงนั้นเป็นปีๆ ไปฉีดสิวที่คลินิคชื่อดังแถวบ้าน บางทีก็ยุบลงไป บางทีก็ไม่ยุบ เป็นรอยนูนๆเหมือนคีลอยด์ แต่เราก็ไม่ได้ใส่ใจมากเพราะยังเป็นเด็ก เท่าที่จำได้สิวหัวช้างน่าจะขึ้นมาประมาณ 5-10 เม็ด จนถึงอายุ 21 ค่ะ
อายุ 21 - ปี 2010 ช่วงมหาลัย เริ่มรักสวยรักงาม เริ่มแต่งหน้าเลยรู้สึกว่าจมูกที่เป็นนูนๆเหมือนรอยคีลอยด์ดูไม่สวยอยากจะทำให้จมูกเรียบ จึงเริ่มไปปรึกษาคุณหมอตามคลินิคต่างๆ โดยคุณหมอจากคลีนิคชื่อดังแห่งหนึ่งแถวเซนทรัลปิ่นเกล้าแนะนำให้ทำเลเซอร์ Co2 กรอเนื้อที่เป็นรอยนูนออกไปและทำให้จมูกเรียบลง เราก็ตัดสินใจทำอย่างไม่ลังเลด้วยความอยากสวย พอแผลหายดีเพื่อนๆก็ชมว่าจมูกเรียบแล้วไม่มีรอยนูนอีกต่อไป แต่ใจเจ้ากรรมหลังจากที่แผลหายเป็นปกติ ดันเกิดเป็นแผลหลุมสิวแบบลึกมากๆขึ้นมาแทนนี่สิ ซึ่งจขกทไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากการสิวหัวช้างที่อยู่กับเรามานาน (เราไม่เคยไปบีบมันเลยสักครั้งเดียวค่ะ) หรือเป็นเพราะการใช้เลเซอร์ co2 ที่มีควาามรุนแรงเกินไปตอนที่คุณหมอกรอจมูก จนทำให้เป็นหลุมลึกลงไปแทน ซึ่งตอนนั้นเราก็ยังเชื่อคุณหมอที่กรอจมูกอยู่ คุณหมอจึงแนะนำให้ทำเลเซอร์ fractional co2 ประมาณ 5-10 ครั้ง บวกกับการแต้มกรดที่หลุมเพื่อกระตุ้นให้เนื้อขึ้นมาใหม่ แต่สุดท้ายผลที่ออกมาก็ไม่ได้ตื้นขึ้นจนเป็นที่สังเกตเห็นได้ค่ะ เราจึงหยุดการรักษาและหันมาแต่งหน้าปกปิดแทน
ความกังวลเรื่องหลุมสิวหายไปประมาณ 3 ปี จนมีพี่ที่ทำงานมาทักว่า จมูกไปโดนแมลงสาปแทะมาหรอ พี่เค้าพูดเล่นๆ แต่มันเป็นคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเรามาก จึงทำให้เรามีไฟในการกลับมารักษาหลุมสิวอีกครั้ง และตอนนี้เราก็มีทุนทรัพย์มากขึ้นกว่าตอนเป็นนักศึกษา เราหาอ่านกระทู้ในพันทิพย์ กระทู้ตามคลีนิคต่างๆ ซึ่งไม่ได้มีใครเขียนรีวิวกันจริงจังนัก และมีเพื่อนของแม่แนะนำให้ไปหาคุณหมอที่คลีนิคแถวบางนา คุณหมอแนะนำให้ทำ subcision ครั้งละ 7000 บาท คุณหมอบอกว่าทำ 2 ครั้งน่าจะดีขึ้น เราก็ไปทำ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ช่วยอะไรค่ะ เจ็บตัวสุดๆ
ผ่านมา 1 ปี มีผู้ใหญ่ที่เรานักถือบอกว่า คุณหมอจากคลีนิคตรงถนนพระอาทิตย์เก่งมาก และพี่ชายเราปรึกษาเรื่องสิวกับคุณหมออยู่เราเลยไปปรึกษาคุณหมอบ้าง และคุณหมอบอกให้ทำการแต้มกรด ควบคู่ไปกับการทำเลเซอร์ erbium yag และ เลเซอร์ co2 ยิงเข้าไปที่ตรงกลางหลุม คุณหมอไม่ได้เป็นคนยิงเองค่ะ จะมีหมอยิงเลเซอร์สลับเวรกันไปในแต่ละครั้งที่รักษา ซึ่งจุดนี้คุณหมอบอกว่าต้องมีวินัย ต้องมาทำตามที่นัดทุกครั้ง ไอเราก็ดันหัวอ่อนไปทำตามที่คุณหมอบอก โดยไม่ได้สังเกตจมูกตัวเองเลยว่า ยิ่งทำแผลยิ่งขยายอาณาเขตกว้างขึ้น แผลตื้นขึ้นกว่าวิธีอื่นที่รักษามาทั้งหมดก็จริง แต่ปากหลุมมันดันกว้างขึ้นด้วย เนื่องจากโดนเลเซอร์ทำลายเนื้อไป และคุณหมอที่ยิงให้ในแต่ละครั้งบางคนก็ยิงแคบๆตรงกลางหลุม บางคนก็ยิงคลอบคลุมทั้งหลุม เราทำไป 10 กว่าครั้ง แต่ละครั้งทำกลับมาจมูกจะแดงไป 3 อาทิตย์ จนทุกคนชินแล้วว่าจมูกเราจะต้องแดงแบบนี้ตลอดเวลาที่เจอกัน เวลาผ่านไปเป็นปี หมดเงินไปเป็นหมื่นๆ พึ่งจะมารู้สึกตัวอีกทีว่า แย่ละหลุมมันกว้างขึ้น โอเอ็มจี น้ำตาตกในเลยค่ะ
เมื่อเรารู้แล้วว่ามันไม่ใช่ เราก็เดินจากมา (รู้ตัวช้าไป 10 สเต็ป) เราก็เลยกลับมาพึ่งพี่กูเกิ้ลและกระทู้ต่างๆในพันทิพย์อีกครั้ง เราอ่านเจอเรื่องของการทำกราฟฟิ่งที่จมูก แต่ไม่มีคนมารีวิวแบบจริงจังนัก เราเลยไปปรึกษาคุณหมอแถวรถไฟฟ้าเพลินจิตดู คุณหมอน่ารักมากแต่การทำกราฟฟิ่งต้องเอาเนื้อจากใบหูมาปลูกถ่ายเข้าไปที่จมูกเท่ากับเป็นการผ่าตัดเล็กๆ คุณหมออธิบายละเอียด มีรูปภาพประกอบ แต่เรายังไม่อยากทำเพราะจิตใจไม่พร้อมกับการผิดพลาดอีกแล้วและต้องใช้ระยะเวลาดูแลแผล 1 ปีเต็มๆค่ะ อีกทั้งยังไม่เคยเห็นรีวิวจากคนที่ทำแล้วจริงๆเลยสักที เราจึงตัดวิธีการนี้ออกก่อน
และแล้วเราก็เหลือบไปเห็นการเย็บหลุมสิวจากกระทู้หนึ่ง ซึ่งมีรูปภาพประกอบแต่ไม่ชัดเจนมาก เราเกิดความสนใจเนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดรวมถึงการเย็บแผลก็ดูเหมือนเป็นวิธีการซ่อมรอยแผลเป็นที่ดี เราจึงทำการค้นหาคุณหมอศัลยกรรมตกแต่งชื่อดังตามเว็บต่างๆ (ถ้าเป็นเรื่องนี้มีคนเขียนรีวิวไว้เต็มเลยค่ะ ^^) และเราก็เลือกมา 2 ท่าน ท่านแรกคุณหมอชื่อดังจากซอยสุขุมวิทxx คุณหมอคิดราคา 18,000 และบอกว่าต้องเย็บ 2 ครั้ง และบอกว่าแผลใหญ่อาจจะไม่ได้ผล เราก็เลยไปปรึกษาคุณหมอคนที่ 2 แถวลาดพร้าว คุณหมอดูแผลและตอบด้วยความมั่นใจว่าทำได้ หมอคิดค่าทำ 15,000 บาท และทำครั้งเดียวสวยเลย เพียงแค่ห้ามออกแดด 6 เดือน ด้วยความที่เชื่อมั่นในการทำ research ที่เราหามาบวกกับความมั่นใจที่คุณหมอให้มา เราจึงตัดสินใจทำค่ะ
โดยการเย็บแผลมีขั้นตอนง่ายๆคือ
1.ฉีดยาชา (เจ็บน้ำตาไหลนิดๆ)
2.คุณหมอทำการกรีดเนื้อชั้นบนบริเวณแผลหลุมเพื่อให้ผิวหนังเกิดรอยแผล (ผิวหนังคนเราหากเกิดรอยแผลจะทำการสมานแผลด้วยตัวเองค่ะ)
3.คุณหมอลงมือเย็บแผล เพื่อให้รอยหลุมสิวติดเข้าหากันค่ะ
ผลที่ออกมาเป็นดังนี้ค่ะ
รูปแผลตอนยังไม่ตัดไหมค่ะ ดูน่ากลัวหน่อยนะคะ ตอนเช็ดแอลกอฮอลก่อนเย็บแผลคุณหมอเหลือบไปเห็นแผลเป็นที่หางคิ้ว เลยแถมเย็บคิ้วให้ด้วยค่ะ ใจดีสุดๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถ้าให้เราย้อนเวลากลับไปได้...
1. เราจะไม่ไปยุ่งกับแผลนูนหรือแผลคีลอยด์ที่จมูกเลยค่ะ เราจะปล่อยมันไว้อย่างนั้น
2. หลังจากที่เกิดหลุมสิวแบบ ice pickแล้ว เราจะไม่รักษาด้วยการทำ fractional co2, subcision, erbrium yag และเลเซอร์กรอผิวทุกชนิด เพราะมันทำให้เนื้อข้างๆรอยแผลหลุมมันหายไปด้วย และจมูกเป็นส่วนที่มีเนื้อน้อย กระตุ้นให้ขึ้นใหม่ยากไม่เหมือนบริเวณแก้ม
3. ถ้าเป็นหลุมสิวลึกบริเวณจมูก เราขอแนะนำทางลัดให้กับเพื่อนๆทุกคน ว่าให้ไปเย็บหลุมสิวเลยค่ะ เสียเงินมากหน่อยแต่ครั้งเดียว ใช้ระยะเวลาดูแลรักษาแค่ 6 เดือนค่ะ
หวังว่าจะมีประโยชน์กับทุกท่านที่มีปัญหานี้นะคะ เขียนยาวหน่อย แต่อยากให้เห็นภาพว่าเรารักษามาแล้วหลายวิธีใช้เวลาหลายสิบปี เสียทุนทรัพย์ไปมาก อยากลองแนะนำสิ่งดีๆที่ยังไม่ค่อยมีคนเขียนรีวิวให้ได้อ่านและพิจารณากันดูค่ะ ขอบคุณค่ะ