สวัสดีค่ะ
ห่างหายไปพักใหญ่เพราะวุ่นวายกับการรับมือลูกน้อยในช่วง terrible 2 กลับมาครั้งนี้เลยขอจัดเต็มรีวิวเรื่องใกล้ตัวใกล้ตา...แบบอยู่บนใบหน้าของเราเลย นั่นก็คือ “ฝ้าและกระ” ค่ะ
เมื่อก่อนเราไม่เคยกังวลเรื่องปัญหาฝ้ากระบนหน้าเลยนะคะ เพราะเป็นคนทากันแดดทุกวัน ติดกันแดดมาก ถึงอยู่บ้านไม่ออกไปไหนเราก็ทากันแดดตลอด ฝ้ากระเลยไม่เคยได้แอ้มหน้าเรา จนมาเกิดฝ้าครั้งแรก ตอนไปทำ Fraxel laser หลุมสิว ซึ่งคุณหมอก็เตือนแล้วว่าให้ทากันแดดแบบเข้มข้นและงดออกแดดจัดเพราะผิวบอบบางมากๆ แต่ด้วยความที่เราดันมีงานด่วนต้องออกต่างจังหวัดหลังทำได้แค่ 2 วัน (จริงๆ ควรหลบแดด 7วัน) แล้วเจอแดดเต็มๆ ทั้งวัน ขนาดทากันแดดแล้วก็เอาไม่อยู่ ผลคือได้ฝ้าบนโหนกแก้มแถมกลับมาด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเดี๋ยวบำรุงหน้าดีๆ ก็คงจางหายไปเอง แต่ไม่ใช่ค่ะ เพราะนอกจากมันไม่หายไปแล้ว พอเราตั้งท้องมันก็พาเพื่อนมาอยู่ด้วยอีกเพียบเลยค่ะ T^T
จากรูปนี้ คือหลังจากเราคลอดลูกและลูกหย่านมแล้วนะคะ เราถึงเริ่มมีเวลากลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น คือสภาพผิวเราแย่มากๆ ทั้งรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยใต้ตา แต่ที่ชัดมากคือ....ฝ้าทั้งแบบตื้นและแบบลึก ซึ่งมันทำให้เราดูแก่และโทรมมาก
เราเลยคิดว่า ต้องจริงจังกับปัญหาฝ้ากระแล้ว เลยเริ่มที่จะหาข้อมูลวิธีกำจัดฝ้าจากที่ต่างๆ ซึ่งส่วนนึงก็ได้ข้อมูลจากใน Pantip นี่แหล่ะค่ะ ครั้งนี้เราเลยมาขอรีวิวกลับเพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลดีๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาฝ้ากระเหมือนกับเรานะคะ ซึ่งเราก็พบว่าการรักษาฝ้ากระ หลักๆ ทำได้ 3 วิธีค่ะ
1. รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ :
ซึ่งเป็นวิธีที่เราลองตั้งแต่ตั้งท้องแล้วฝ้าเริ่มบุกแล้วค่ะ เพราะปลอดภัยที่สุดแล้ว ที่เคยลองก็มีดังนี้ค่ะ
(รูปจาก www.livestrong.com)
สูตรหัวไชเท้า >>> สูตรนี้โด่งดังมาก เราว่าคนเป็นฝ้าทุกคนต้องเคยลอง แค่ล้างหน้าให้สะอาดแล้วฝานหัวไชเท้าบางๆ แปะบนบริเวณที่เป็นฝ้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งฝ้าก็จะจางลงค่ะ
ผลที่ได้ : สำหรับเราแพ้หนักมากค่ะ แปะไว้ไม่ถึง 5 นาที แสบยิบๆๆ แกะออกมาโหนกแก้มแดงเป็นวงเหรียญสิบเลยจ้า....วิธีนี้เหมาะกับคนที่ผิวแข็งแรงเท่านั้นนะคะ ส่วนผิวเรานั้น อ่อนแอก็แพ้ไปค่ะ T^T
(รูปจาก : www.เฮอร์สคลินิก.com)
สูตรว่านหางจระเข้ >>> จริงๆ มีคนแนะนำมะขามเปียกแต่เรายังเข็ดกับหัวไชเท้าเลยขอเป็นสมุนไพรที่ไม่มีความเป็นกรดสูงอย่าง ว่านหางจะเข้ดีกว่า สูตรนี้เราใช้ว่านหางจระเข้ 1 ใบใหญ่ ไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที แล้วก็ปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด นำไปปั่นหรือบดก็ได้ตามถนัดค่ะ แล้วจึงนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้ฝ้าหายได้ไวยิ่งขึ้น
ผลที่ได้ : สูตรนี้เราไม่แพ้ค่ะ แต่ก็ไม่เห็นผลใดๆ ในเรื่องฝ้ากระ รู้สึกแค่ว่าผิวชุ่มชื้นและกระชับขึ้น ด้วยขั้นตอนการเตรียมยุ่งยากมากและไม่เห็นผล สูตรนี้สำหรับเราไม่เวิร์คค่ะ
(รูปจาก : www.kapook.com)
สูตรใบบัวบก >>> สมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตร ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยให้ฝ้ากระ จุดด่างดำจางลงได้ โดยนำมามาปั่นแล้วกรองกากออก นำน้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน รอยฝ้าต่างๆ ก็จะค่อยๆ จางลง แถมผิวหน้ายังเนียนใสอีกด้วย
ผลที่ได้ : สูตรนี้เวิร์คนะ เราลองอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ รู้สึกเหมือนฝ้าค่อยๆ จางลงจริงๆ แต่ก็ต้องหยุดเพราะทนไม่ไหวกับกลิ่นเหม็นเขียว และเหมือนน้ำใบบัวบกพอเก็บไว้นานมันก็เสื่อมคุณภาพ จริงๆ คือมันยุ่งยากด้วยแหล่ะ 555
2. รักษาด้วยเลเซอร์ :
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราหาข้อมูลเยอะมากๆๆๆๆ ด้วยความเป็นคนใจร้อน เวลาไม่ค่อยมี ก็อยากได้ทางลัดแบบยิงปุ๊บ หายปั้บ สวยเลยอะไรแบบนี้ ซึ่งหลักการทำงานของเลเซอร์รักษาฝ้ากระ ก็คือเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวหรือเมลานินให้แตกออก เมื่อเมลานินเสียสภาพก็จะสร้างเม็ดสีน้อยลงๆ ฝ้าก็จะจางลง แต่ตัวฝ้าเกิดขึ้นแล้วบนผิวก็จะโดนความร้อนจากเลเซอร์จนเกิดเป็นสะเก็ดแผล ต้องใช้เวลาที่จะหลุดลอกออก ช่วงแรกผิวอาจด่างแล้วจะค่อยๆ เสมอขึ้น
ซึ่งเราก็ไปเจอกระทู้นึงใน pantip นี่แหล่ะ เค้ารีวิวไว้น่าสนใจมาก เราก็ตามรอยเลยค่ะ ถึงขั้นโทรไปจองคิว...แต่ระหว่างรอคิวไปยิงเลเซอร์ ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ แล้วเกิดไปเจอหลายๆ รีวิวที่บอกว่ายิงแล้วฝ้าหนาปื้ดใหญ่กว่าเดิมบ้าง หน้าด่างบ้าง ไปยิงซ้ำหลายครั้งก็ไม่หายขาดบ้าง เราก็เลยกลัวและโทรไปยกเลิกคิวค่ะ
ผลที่ได้ : ไม่ได้ลองค่ะ ใจไม่ถึง ^^”
3. รักษาด้วยครีมทาฝ้า :
สุดท้ายก็มาถึงวิธีที่คิดว่าเวิร์คสุดสำหรับเราค่ะ ซึ่งในที่นี้เรานำมารีวิวทั้งหมด 6 ยี่ห้อ ( จริงๆ เคยลองมากกว่านี้นะคะ แต่หาซากไม่เจอและหาซื้อยาก)
ลงรูปหมู่นิดนึง แล้วเดี๋ยวจะรีวิวไล่ทีละตัวเรียงตามราคาตั้งแต่ราคาถูกถึงราคาแพงค่ะ (เพราะไม่รู้จะใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเรียงลำดับดี 555)
1. ครีมลอกฝ้ายันฮี ขนาด 20 กรัม/ราคา 149 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาว ปลายหัวบีบทรงแหลมควบคุมปริมาณครีมเวลาบีบออกใช้ได้ง่าย แอบตกใจกับชื่อ “ครีมลอกฝ้า” ดูแรงจัง...แต่ก็ซื้อมาลอง 555
แบรนด์เคลม : นวัตกรรมใหม่ ผสานคุณค่าด้วยสารสกัดที่เข้มข้น แต่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองผิว เป็นครีมรักษาฝ้าและช่วยฟื้นฟูผิวที่มีความหมองคล้ำให้ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ค่อย ๆ จางหายไป ด้วยส่วนผสมเข้มข้นจาก Tranexamic acid, Licorice Extract และ Glycolic Acid เห็นผลใน 14 วัน!
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมเข้มข้น แต่เกลี่ยง่ายอยู่นะ กลิ่นเหมือนยาตามคลินิก กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน ซึมดีปานกลางไม่เหนอะผิว ไม่มันเยิ้ม
สรุป : ตัวนี้ก่อนใช้เราเทสท้องแขน 24ชม. เพราะกลัวแพ้ (เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยใช้ตัวครีมหน้าขาวสีชมพูเดือนแรกดีมากหน้าขาวมากแต่ขาวแบบแห้งๆ พอเดือนที่สอง ออกแดดแล้วแสบหน้าเลยเลิกใช้) ตอนเทสไม่แพ้นะคะ แต่พอใช้ไปได้ 2-3 วัน เรารู้สึกคันยิบๆ ตรงฝ้ากระที่ทาเหมือนผิวจะลอกเลยหยุดใช้ค่ะ เสียดายของเลยเอามารอยดำตามแขนขาแทน จางเร็วดีค่ะ
คะแนน : 5/10 (ให้คาบเส้นเพราะคนที่ไม่แพ้เค้าอาจใช้ดีก็ได้)
2. ครีมทาฝ้า Amela-Ex ขนาด 12 มล. /ราคา 390 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกดูแข็งแรงสีม่วงอ่อน ปลายหัวบีบรูใหญ่ ควบคุมปริมาณลำบากเลอะติดฝาด้านในตลอด และเป็นพลาสติกแบบด้านเลยเกิดรอยขีดข่วนง่าย จากรูปจะเลอะๆ เทอะๆ หน่อยเพราะงัดมาจากกระเป๋าเครื่องสำอางใบเก่า
แบรนด์เคลม : ประสิทธิภาพในการลดเลือนฝ้า จากนวัตกรรม PEM-C™ ในอเมลา-เอ็กซ์ ที่ได้รับการตีพิมพ์ลง วารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติ “Current Therapeutic Research 2010”
PEM-C™ (Pazana Effective Melanin Control) นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะของ อเมลา-เอ็กซ์ ในการควบคุมการสร้างเม็ดสีผิวให้เป็นไปอย่างปกติ ปรับสีผิวให้กระจ่างใส จึงช่วยทำให้ฝ้าจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ทำลายผิว ฝ้าจางลงตั้งแต่สัปดาห์แรก
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมเข้มข้น เกลี่ยง่ายดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ซึมช้า แอบรู้สึกหนึบๆ หน้าหลังทา
สรุป : ตัวนี้เป็นครีมทาฝ้าตัวแรกๆ ที่ซื้อมาลองเพราะเค้าดังมานาน ช่วงสัปดาห์แรกที่ใช้เหมือนฝ้าจะจางลงนิดๆ ดีใจมาก แต่พอใช้ต่อสัปดาห์ที่ 2-3 กลับไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ แถมมีสิวอุดตันขึ้นด้วย อาจเพราะเนื้อครีมหนักเลยอุดตันผิว ฝ้ากระไม่หาย แถมยังอุดตันผิว...ขอลาขาดค่ะ บาย
คะแนน : 6/10
3. ครีม Vin21 Melasma Extra Care ขนาด 10มล. /ราคา 380 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาว ปลายหัวบีบแหลม ควบคุมปริมาณเนื้อครีมเวลาบีบใช้ได้ดี
แบรนด์เคลม : ครีมทาฝ้า สูตรจากสวิตเซอร์แลนด์ รวมที่สุดของสารบำรุงเพื่อการลดฝ้ากระ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการลดฝ้า กระ ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริงช่วยลดเลือนฝ้า กระ ทำให้ผิวขาวขึ้นแบบปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Liquid Crystal Base เนื้อครีมจึงเล็กละเอียดขนาดไมโคร ครีม ซึมสู่ผิวล้ำลึกเข้าทำงานตรงตำแหน่งเซลล์สร้างเม็ดสีทำให้เห็นผลเร็วและชัดเจน
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมไม่ข้นแต่ก็ไม่เหลว เกลี่ยแล้วเป็นน้ำเลย แต่กลับซึมช้า(ซะงั้น) ทิ้งความเหนียวหนึบไว้บนผิว กลิ่นน้ำหอมแรง ฉุน ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ ผิว
สรุป : ตัวนี้สอยมาเพราะเภสัชร้านยาแถวบ้านแนะนำ จริงๆ เราไม่โอเคกับกลิ่นน้ำหอมเท่าไหร่ แต่ก็ยอมทนใช้ไปเกือบเดือน ผิวตรงที่ทามันดูกระจ่างใส นุ่มขึ้นนะ แต่กับฝ้ากระคือจางลงน้อยมากกก น้องเภสัชบอกว่า พี่น่าจะต้องใช้ซัก 2เดือน...หืมมม นานไปนะ คงไม่ซื้อต่อค่ะ
คะแนน : 7/10 (เหมาะกับคนไม่รีบค่ะ)
4. Smooth-E White Baby Face Serum ขนาด 24 กรัม /ราคา 565 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาวทรงแบน ปลายหัวบีบรูใหญ่มาก แต่เค้าให้ทาทั่วหน้าก็เหมาะสมดีค่ะ ส่วนตัวชอบหลอดครีมแบบแบน มันให้ฟีลเค้าท์เตอร์แบรนด์ดีค่ะ 555
แบรนด์เคลม : เวชสำอางที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อผิวเนียน ขาว พร้อมตัวยารักษาฝ้า ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ให้ผิวหน้าเนียนขาว ไร้เงาฝ้า อย่างได้ผลและปลอดภัย ตัวยาสำคัญของการรักษาฝ้า คือ Alpha arbutin, Licorice และ Bisabolol ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สาร Alpha arbutin ที่ใช้ได้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง จากศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร แล้วว่า ช่วยให้ฝ้าจางลงใน 4 สัปดาห์แรกที่ใช้ อย่างได้ผลและปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงกับผิวหน้า
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อเซรั่มค่อนข้างหนักคือออกไปทางครีมมากกว่าจะเป็นเซรั่มนะ กลิ่นหอมสะอาดๆ ทาง่าย ซึมไวพอประมาณ เค้าให้นวดๆ 30วินาที พอซึมเข้าผิวแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้นเลยค่ะ ตัวนี้ใช้ทาทั่วหน้า เช้า-เย็น แต่เราลองเช้าแล้วไม่รอดค่ะ หน้ามันเยิ้มกลัวสิวอุดตันบุก เลยทาแค่ก่อนนอนค่ะ
สรุป : เราใช้ประมาณ 1 เดือน ก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจนค่ะ ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น ขาวขึ้นจริงแต่เรื่องฝ้ากระ เราไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ จริงๆ ชอบเนื้อเซรั่มเค้ามากนะ ใช้แล้วผิวนุ่มนิ่มดีแต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องฝ้ากระ แถมราคาก็สูงเกินกว่าจะเอามาเป็นแค่ครีมบำรุงผิวค่ะ ไม่ซื้อต่อค่ะ
คะแนน : 7/10
<<<<< ตัวต่อไป ขอลงต่อในคอมเม้นท์นะคะ >>>>>
[CR] จัดเต็ม! รีวิว 6 ครีมทาฝ้ากระ และสารพัดวิธีธรรมชาติที่ว่าเวิร์คฉบับมนุษย์แม่
ห่างหายไปพักใหญ่เพราะวุ่นวายกับการรับมือลูกน้อยในช่วง terrible 2 กลับมาครั้งนี้เลยขอจัดเต็มรีวิวเรื่องใกล้ตัวใกล้ตา...แบบอยู่บนใบหน้าของเราเลย นั่นก็คือ “ฝ้าและกระ” ค่ะ
เมื่อก่อนเราไม่เคยกังวลเรื่องปัญหาฝ้ากระบนหน้าเลยนะคะ เพราะเป็นคนทากันแดดทุกวัน ติดกันแดดมาก ถึงอยู่บ้านไม่ออกไปไหนเราก็ทากันแดดตลอด ฝ้ากระเลยไม่เคยได้แอ้มหน้าเรา จนมาเกิดฝ้าครั้งแรก ตอนไปทำ Fraxel laser หลุมสิว ซึ่งคุณหมอก็เตือนแล้วว่าให้ทากันแดดแบบเข้มข้นและงดออกแดดจัดเพราะผิวบอบบางมากๆ แต่ด้วยความที่เราดันมีงานด่วนต้องออกต่างจังหวัดหลังทำได้แค่ 2 วัน (จริงๆ ควรหลบแดด 7วัน) แล้วเจอแดดเต็มๆ ทั้งวัน ขนาดทากันแดดแล้วก็เอาไม่อยู่ ผลคือได้ฝ้าบนโหนกแก้มแถมกลับมาด้วย ตอนแรกก็ไม่ได้สนใจคิดว่าเดี๋ยวบำรุงหน้าดีๆ ก็คงจางหายไปเอง แต่ไม่ใช่ค่ะ เพราะนอกจากมันไม่หายไปแล้ว พอเราตั้งท้องมันก็พาเพื่อนมาอยู่ด้วยอีกเพียบเลยค่ะ T^T
จากรูปนี้ คือหลังจากเราคลอดลูกและลูกหย่านมแล้วนะคะ เราถึงเริ่มมีเวลากลับมาดูแลตัวเองมากขึ้น คือสภาพผิวเราแย่มากๆ ทั้งรูขุมขนกว้าง ริ้วรอยใต้ตา แต่ที่ชัดมากคือ....ฝ้าทั้งแบบตื้นและแบบลึก ซึ่งมันทำให้เราดูแก่และโทรมมาก
เราเลยคิดว่า ต้องจริงจังกับปัญหาฝ้ากระแล้ว เลยเริ่มที่จะหาข้อมูลวิธีกำจัดฝ้าจากที่ต่างๆ ซึ่งส่วนนึงก็ได้ข้อมูลจากใน Pantip นี่แหล่ะค่ะ ครั้งนี้เราเลยมาขอรีวิวกลับเพื่อเป็นอีกหนึ่งข้อมูลดีๆ สำหรับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาฝ้ากระเหมือนกับเรานะคะ ซึ่งเราก็พบว่าการรักษาฝ้ากระ หลักๆ ทำได้ 3 วิธีค่ะ
1. รักษาด้วยวิธีธรรมชาติ :
ซึ่งเป็นวิธีที่เราลองตั้งแต่ตั้งท้องแล้วฝ้าเริ่มบุกแล้วค่ะ เพราะปลอดภัยที่สุดแล้ว ที่เคยลองก็มีดังนี้ค่ะ
(รูปจาก www.livestrong.com)
สูตรหัวไชเท้า >>> สูตรนี้โด่งดังมาก เราว่าคนเป็นฝ้าทุกคนต้องเคยลอง แค่ล้างหน้าให้สะอาดแล้วฝานหัวไชเท้าบางๆ แปะบนบริเวณที่เป็นฝ้าประมาณ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำสัปดาห์ละ 3-4 ครั้งฝ้าก็จะจางลงค่ะ
ผลที่ได้ : สำหรับเราแพ้หนักมากค่ะ แปะไว้ไม่ถึง 5 นาที แสบยิบๆๆ แกะออกมาโหนกแก้มแดงเป็นวงเหรียญสิบเลยจ้า....วิธีนี้เหมาะกับคนที่ผิวแข็งแรงเท่านั้นนะคะ ส่วนผิวเรานั้น อ่อนแอก็แพ้ไปค่ะ T^T
(รูปจาก : www.เฮอร์สคลินิก.com)
สูตรว่านหางจระเข้ >>> จริงๆ มีคนแนะนำมะขามเปียกแต่เรายังเข็ดกับหัวไชเท้าเลยขอเป็นสมุนไพรที่ไม่มีความเป็นกรดสูงอย่าง ว่านหางจะเข้ดีกว่า สูตรนี้เราใช้ว่านหางจระเข้ 1 ใบใหญ่ ไปแช่น้ำประมาณ 10 นาที แล้วก็ปอกเปลือกออกและล้างให้สะอาด นำไปปั่นหรือบดก็ได้ตามถนัดค่ะ แล้วจึงนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที ทำเป็นประจำสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ก็จะช่วยให้ฝ้าหายได้ไวยิ่งขึ้น
ผลที่ได้ : สูตรนี้เราไม่แพ้ค่ะ แต่ก็ไม่เห็นผลใดๆ ในเรื่องฝ้ากระ รู้สึกแค่ว่าผิวชุ่มชื้นและกระชับขึ้น ด้วยขั้นตอนการเตรียมยุ่งยากมากและไม่เห็นผล สูตรนี้สำหรับเราไม่เวิร์คค่ะ
(รูปจาก : www.kapook.com)
สูตรใบบัวบก >>> สมุนไพรรักษาฝ้าอีกสูตร ที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยให้ฝ้ากระ จุดด่างดำจางลงได้ โดยนำมามาปั่นแล้วกรองกากออก นำน้ำใบบัวบกมาเช็ดหน้าแทนการใช้โทนเนอร์ก่อนนอนทุกวัน รอยฝ้าต่างๆ ก็จะค่อยๆ จางลง แถมผิวหน้ายังเนียนใสอีกด้วย
ผลที่ได้ : สูตรนี้เวิร์คนะ เราลองอยู่เกือบ 2 อาทิตย์ รู้สึกเหมือนฝ้าค่อยๆ จางลงจริงๆ แต่ก็ต้องหยุดเพราะทนไม่ไหวกับกลิ่นเหม็นเขียว และเหมือนน้ำใบบัวบกพอเก็บไว้นานมันก็เสื่อมคุณภาพ จริงๆ คือมันยุ่งยากด้วยแหล่ะ 555
2. รักษาด้วยเลเซอร์ :
วิธีนี้เป็นวิธีที่เราหาข้อมูลเยอะมากๆๆๆๆ ด้วยความเป็นคนใจร้อน เวลาไม่ค่อยมี ก็อยากได้ทางลัดแบบยิงปุ๊บ หายปั้บ สวยเลยอะไรแบบนี้ ซึ่งหลักการทำงานของเลเซอร์รักษาฝ้ากระ ก็คือเลเซอร์จะเข้าไปทำลายเม็ดสีผิวหรือเมลานินให้แตกออก เมื่อเมลานินเสียสภาพก็จะสร้างเม็ดสีน้อยลงๆ ฝ้าก็จะจางลง แต่ตัวฝ้าเกิดขึ้นแล้วบนผิวก็จะโดนความร้อนจากเลเซอร์จนเกิดเป็นสะเก็ดแผล ต้องใช้เวลาที่จะหลุดลอกออก ช่วงแรกผิวอาจด่างแล้วจะค่อยๆ เสมอขึ้น
ซึ่งเราก็ไปเจอกระทู้นึงใน pantip นี่แหล่ะ เค้ารีวิวไว้น่าสนใจมาก เราก็ตามรอยเลยค่ะ ถึงขั้นโทรไปจองคิว...แต่ระหว่างรอคิวไปยิงเลเซอร์ ก็หาข้อมูลไปเรื่อยๆ แล้วเกิดไปเจอหลายๆ รีวิวที่บอกว่ายิงแล้วฝ้าหนาปื้ดใหญ่กว่าเดิมบ้าง หน้าด่างบ้าง ไปยิงซ้ำหลายครั้งก็ไม่หายขาดบ้าง เราก็เลยกลัวและโทรไปยกเลิกคิวค่ะ
ผลที่ได้ : ไม่ได้ลองค่ะ ใจไม่ถึง ^^”
3. รักษาด้วยครีมทาฝ้า :
สุดท้ายก็มาถึงวิธีที่คิดว่าเวิร์คสุดสำหรับเราค่ะ ซึ่งในที่นี้เรานำมารีวิวทั้งหมด 6 ยี่ห้อ ( จริงๆ เคยลองมากกว่านี้นะคะ แต่หาซากไม่เจอและหาซื้อยาก)
ลงรูปหมู่นิดนึง แล้วเดี๋ยวจะรีวิวไล่ทีละตัวเรียงตามราคาตั้งแต่ราคาถูกถึงราคาแพงค่ะ (เพราะไม่รู้จะใช้หลักเกณฑ์อะไรในการเรียงลำดับดี 555)
1. ครีมลอกฝ้ายันฮี ขนาด 20 กรัม/ราคา 149 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาว ปลายหัวบีบทรงแหลมควบคุมปริมาณครีมเวลาบีบออกใช้ได้ง่าย แอบตกใจกับชื่อ “ครีมลอกฝ้า” ดูแรงจัง...แต่ก็ซื้อมาลอง 555
แบรนด์เคลม : นวัตกรรมใหม่ ผสานคุณค่าด้วยสารสกัดที่เข้มข้น แต่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองผิว เป็นครีมรักษาฝ้าและช่วยฟื้นฟูผิวที่มีความหมองคล้ำให้ผิวหน้าแลดูขาวกระจ่างใสขึ้น ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น รอยฝ้า กระ จุดด่างดำ ค่อย ๆ จางหายไป ด้วยส่วนผสมเข้มข้นจาก Tranexamic acid, Licorice Extract และ Glycolic Acid เห็นผลใน 14 วัน!
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมเข้มข้น แต่เกลี่ยง่ายอยู่นะ กลิ่นเหมือนยาตามคลินิก กลิ่นอ่อนๆ ไม่ฉุน ซึมดีปานกลางไม่เหนอะผิว ไม่มันเยิ้ม
สรุป : ตัวนี้ก่อนใช้เราเทสท้องแขน 24ชม. เพราะกลัวแพ้ (เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยใช้ตัวครีมหน้าขาวสีชมพูเดือนแรกดีมากหน้าขาวมากแต่ขาวแบบแห้งๆ พอเดือนที่สอง ออกแดดแล้วแสบหน้าเลยเลิกใช้) ตอนเทสไม่แพ้นะคะ แต่พอใช้ไปได้ 2-3 วัน เรารู้สึกคันยิบๆ ตรงฝ้ากระที่ทาเหมือนผิวจะลอกเลยหยุดใช้ค่ะ เสียดายของเลยเอามารอยดำตามแขนขาแทน จางเร็วดีค่ะ
คะแนน : 5/10 (ให้คาบเส้นเพราะคนที่ไม่แพ้เค้าอาจใช้ดีก็ได้)
2. ครีมทาฝ้า Amela-Ex ขนาด 12 มล. /ราคา 390 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกดูแข็งแรงสีม่วงอ่อน ปลายหัวบีบรูใหญ่ ควบคุมปริมาณลำบากเลอะติดฝาด้านในตลอด และเป็นพลาสติกแบบด้านเลยเกิดรอยขีดข่วนง่าย จากรูปจะเลอะๆ เทอะๆ หน่อยเพราะงัดมาจากกระเป๋าเครื่องสำอางใบเก่า
แบรนด์เคลม : ประสิทธิภาพในการลดเลือนฝ้า จากนวัตกรรม PEM-C™ ในอเมลา-เอ็กซ์ ที่ได้รับการตีพิมพ์ลง วารสารทางการแพทย์ระดับนานาชาติ “Current Therapeutic Research 2010”
PEM-C™ (Pazana Effective Melanin Control) นวัตกรรมเอกสิทธิ์เฉพาะของ อเมลา-เอ็กซ์ ในการควบคุมการสร้างเม็ดสีผิวให้เป็นไปอย่างปกติ ปรับสีผิวให้กระจ่างใส จึงช่วยทำให้ฝ้าจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ ปลอดภัย ไม่ทำลายผิว ฝ้าจางลงตั้งแต่สัปดาห์แรก
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมเข้มข้น เกลี่ยง่ายดี มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ไม่ฉุน ซึมช้า แอบรู้สึกหนึบๆ หน้าหลังทา
สรุป : ตัวนี้เป็นครีมทาฝ้าตัวแรกๆ ที่ซื้อมาลองเพราะเค้าดังมานาน ช่วงสัปดาห์แรกที่ใช้เหมือนฝ้าจะจางลงนิดๆ ดีใจมาก แต่พอใช้ต่อสัปดาห์ที่ 2-3 กลับไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ แถมมีสิวอุดตันขึ้นด้วย อาจเพราะเนื้อครีมหนักเลยอุดตันผิว ฝ้ากระไม่หาย แถมยังอุดตันผิว...ขอลาขาดค่ะ บาย
คะแนน : 6/10
3. ครีม Vin21 Melasma Extra Care ขนาด 10มล. /ราคา 380 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาว ปลายหัวบีบแหลม ควบคุมปริมาณเนื้อครีมเวลาบีบใช้ได้ดี
แบรนด์เคลม : ครีมทาฝ้า สูตรจากสวิตเซอร์แลนด์ รวมที่สุดของสารบำรุงเพื่อการลดฝ้ากระ อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อการลดฝ้า กระ ที่ต้นเหตุอย่างแท้จริงช่วยลดเลือนฝ้า กระ ทำให้ผิวขาวขึ้นแบบปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยี Liquid Crystal Base เนื้อครีมจึงเล็กละเอียดขนาดไมโคร ครีม ซึมสู่ผิวล้ำลึกเข้าทำงานตรงตำแหน่งเซลล์สร้างเม็ดสีทำให้เห็นผลเร็วและชัดเจน
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อครีมไม่ข้นแต่ก็ไม่เหลว เกลี่ยแล้วเป็นน้ำเลย แต่กลับซึมช้า(ซะงั้น) ทิ้งความเหนียวหนึบไว้บนผิว กลิ่นน้ำหอมแรง ฉุน ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ ผิว
สรุป : ตัวนี้สอยมาเพราะเภสัชร้านยาแถวบ้านแนะนำ จริงๆ เราไม่โอเคกับกลิ่นน้ำหอมเท่าไหร่ แต่ก็ยอมทนใช้ไปเกือบเดือน ผิวตรงที่ทามันดูกระจ่างใส นุ่มขึ้นนะ แต่กับฝ้ากระคือจางลงน้อยมากกก น้องเภสัชบอกว่า พี่น่าจะต้องใช้ซัก 2เดือน...หืมมม นานไปนะ คงไม่ซื้อต่อค่ะ
คะแนน : 7/10 (เหมาะกับคนไม่รีบค่ะ)
4. Smooth-E White Baby Face Serum ขนาด 24 กรัม /ราคา 565 บาท
แพคเกจ : หลอดพลาสติกแบบนิ่มสีขาวทรงแบน ปลายหัวบีบรูใหญ่มาก แต่เค้าให้ทาทั่วหน้าก็เหมาะสมดีค่ะ ส่วนตัวชอบหลอดครีมแบบแบน มันให้ฟีลเค้าท์เตอร์แบรนด์ดีค่ะ 555
แบรนด์เคลม : เวชสำอางที่เป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อผิวเนียน ขาว พร้อมตัวยารักษาฝ้า ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ให้ผิวหน้าเนียนขาว ไร้เงาฝ้า อย่างได้ผลและปลอดภัย ตัวยาสำคัญของการรักษาฝ้า คือ Alpha arbutin, Licorice และ Bisabolol ซึ่งเป็นสารสกัดธรรมชาติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ สาร Alpha arbutin ที่ใช้ได้ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง จากศูนย์ผิวหนัง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร แล้วว่า ช่วยให้ฝ้าจางลงใน 4 สัปดาห์แรกที่ใช้ อย่างได้ผลและปลอดภัย ไม่ก่อให้เกิดอาการข้างเคียงกับผิวหน้า
ความรู้สึกเมื่อใช้ : เนื้อเซรั่มค่อนข้างหนักคือออกไปทางครีมมากกว่าจะเป็นเซรั่มนะ กลิ่นหอมสะอาดๆ ทาง่าย ซึมไวพอประมาณ เค้าให้นวดๆ 30วินาที พอซึมเข้าผิวแล้วรู้สึกว่าผิวนุ่มขึ้นเลยค่ะ ตัวนี้ใช้ทาทั่วหน้า เช้า-เย็น แต่เราลองเช้าแล้วไม่รอดค่ะ หน้ามันเยิ้มกลัวสิวอุดตันบุก เลยทาแค่ก่อนนอนค่ะ
สรุป : เราใช้ประมาณ 1 เดือน ก็ยังไม่เห็นผลอะไรชัดเจนค่ะ ผิวหน้านุ่มชุ่มชื้น ขาวขึ้นจริงแต่เรื่องฝ้ากระ เราไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ จริงๆ ชอบเนื้อเซรั่มเค้ามากนะ ใช้แล้วผิวนุ่มนิ่มดีแต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องฝ้ากระ แถมราคาก็สูงเกินกว่าจะเอามาเป็นแค่ครีมบำรุงผิวค่ะ ไม่ซื้อต่อค่ะ
คะแนน : 7/10
<<<<< ตัวต่อไป ขอลงต่อในคอมเม้นท์นะคะ >>>>>