เป็นกระทู้ที่ 4 ที่เขียนถึงละครเรื่องนี้ในเวลา 4 ปี กระทู้ละ 1 ปี
แต่ละปีก็จะเป็นเรื่องที่ละครเรื่องนี้ผ่านไปแต่ละปี หาอ่านได้ตามชื่อเจ้าของกระทู้
วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า "ออเจ้า" ปรากฏการณ์บุพเพสันนิวาสที่เกิดขึ้น คงไม่ต้องอธิบายว่ามันเป็นอย่างไร
ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ย่อมต้องให้ทั้งนิยาย บทโทรทัศน์ นักแสดง ทีมงานผู้จัดและสถานี
ในฐานะคนที่ติดตามการสร้างละครเรื่องนี้มาเกือบ 6 ปี ตั้งแต่ 2555 พร้อมความเป็นไปมาตลอด
เมื่อถึงเวลาออกอากาศแล้วจนมาถึงเวลานี้ ก็ย่อมดีใจที่ทุกคนชื่นชอบเหมือนที่เคยคิดไว้
อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเราอาจจะได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนไป
ละครอิงประวัติศาสตร์ของไทย ที่มักจะถูกคิดว่าเป็นละครที่มีกรอบค่อนข้างสูง
แต่เรื่องนี้อาจด้วย ตัวละครเป็นตัวละครในยุคปัจจุบันเข้าไปอาศัยร่างของคนยุคอดีต
เลยมีลูกเล่นให้ทำเยอะตั้งแต่ในนิยาย ทำให้เรื่องนี้สามารถถูกพูดถึงในวงกว้างได้
ละครอิงประวัติศาสตร์เลยถูกดำเนินเรื่องไปอย่างน่าสนุก แต่มีรายละเอียดให้ได้เรียนรู้
บุพเพสันนิวาส หลายคนก็พูดว่ามันก็แค่เรื่อง นิยายข้ามภพมาหาผัว ซึ่งทุกชนชาติก็ทำพลอตนี้กันทั่ว
แต่ถ้าใครได้อ่านจะรู้ว่าเรื่องนี้จะรู้ว่ามันไม่เหมือนกับเรื่องไหนไม่ว่าชนชาติไหน
และนี่คือเสน่ห์ของนิยายที่เป็นละครเรื่องนี้กำลังออกอากาศและทำให้คนได้เรียนรู้
เมื่อถูกนำมาสร้างเป็นงานละคร ทีมงานก็ได้นำนิยายให้ออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรร
แต่ยังคงขนบความเป็นละครพีเรียดที่คุณคุ้นเคย งานภาพที่ดูสบายตา ดนตรีประกอบที่ไพเราะ สีสันสดใสไม่มีลูกเล่นมากมาย
แต่ซ่อนการตัตต่อ และหากลวิธีที่น่าสนใจและดึงดูดให้คนดูชาญฉลาด อาทิการให้คนดูรู้จักตัวเอกทั้งชายหญิง
ตั้งแต่เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างการะเกดในตอนแรก และอารมณ์ของพี่หมื่นต่อการะเกดในวันที่สอง
ซึ่งทำให้คนที่ทั้งเคยอ่านนิยายและได้ดูละครเรื่องนี้ครั้งแรกก็ต้องประหลาดใจ
และทำละครเรื่องนี้ถูกนำมาขยายในทุกทางที่จะเป็นได้ซึ่งนับได้มาถึงเกือบครึ่งเรื่องแล้ว
และในอาทิตย์ต่อไปจะเข้าสู่หน้าฉากประวัติศาสตร์ของตัวละครในประวัติศาสตร์จริง
อย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเป็นความท้าทายต่อคนสร้างและคนดูมากขึ้นก็คงต้องติดตามกันต่อไป
สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงละครเรื่องนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข
จากนิยายที่สนุก บทโทรทัศน์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนิยายมากมาย อรรถรสทุกอย่างในนิยายยังพบได้ในละครเกือบทั้งหมด
และที่สำคัญทุกคนนำสิ่งที่ได้เห็นจากในละครมาต่อขยายเพื่อเกิดการเรียนรู้ซึ่งคือผลสำเร็จแล้ว
ของละครอิงประวัติศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งน้อยเรื่องมากที่จะทำให้คนสนใจได้ทั้งความสนุก
และสาระที่ถูกสอดแทรก เพราะส่วนใหญ่ก็หมดไปกับละครแนวนี้ที่แฝงแนวคิดที่ขัดแย้งเมื่อได้ดูละครแนวนี้
คือ คนดูจะชอบและผูกมัดกับเรื่องนั้นไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
และการไม่เปิดใจคิดว่าเป็นเครื่องมือสร้างวาทกรรมชาตินิยมแบบที่บางคนคิด
แต่บุพเพสันนิวาสทุกคนที่ดูก็เสมือนเกศสุรางค์ที่ได้เข้าไปรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมการเรียนรู้
เหตุและผลที่เกิดขึ้นในละครเรื่องนี้ คงแล้วแต่คนดูจะตัดสินใจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
พอถึงเหตุการณ์เหล่านั้นในมาถึง การแสดงความเห็นจะทำให้คนทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้
เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ที่ในแง่เรื่องราว ทั้งงานสร้างอาจมีบางฉากละครเรื่องนี้ทำแล้วรู้สึกน่าจะได้มากกว่านี้
เพื่อในอนาคตเราอาจจะมีอีกหลายมุมมองที่เกิดขึ้น จากงานสร้างที่หลากหลาย
และมันคือก้าวใหม่ของละครอิงประวัติศาสตร์ของไทยอีกครั้ง
คำถามที่มักเกิดขึ้นให้ ทำไมละครอิงประวัติศาสตร์ไทยถึงต้องเป็นแบบนี้
ทำไมทำแบบจีน ญี่ปุ่น เกาหลีหรือแบบฝรั่งไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ละครอิงประวัติศาสตร์บ้านเรามันจะได้หลากหลาย
แต่วันนี้ บุพเพสันนิวาส ทำให้เรารู้ว่า ละครอิงประวัติศาสตร์ของไทยยังมีพลังและสร้างสรรใหม่ในตัวเองเสมอ
และเรื่องนี้ยังจุดประกายอะไรหลายอย่างเกิดขึ้น ยุคสมัยที่ไม่เคยเรียนรู้ได้นำมาเรียนรู้อีกครั้ง
หนังสืออ้างอิงถูกกลับมาหยิบใช้เพื่อในการแสวงหาคำตอบ นำไปสู่การแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย
สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้กลับมาให้คนได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ซึ่งละครเรื่องนี้ยังคงมีเรื่องแบบนี้จนจบเรื่อง และสิ่งที่สำคัญเราอาจได้เห็นการสร้างสรรนิยายเล่มใหม่
หรือสร้างกลวิธีใหม่ในนิยายอิงประวัติศาสตร์มากขึ้น และอาจถูกนำมาสร้างเป็นหนังเป็นละครมากขึ้น
และละครอิงประวัติศาสตร์ไทยก็สามารถให้ความสนุกไม่แพ้ชาติต่าง ๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์และเสน่ห์ในตัวเอง
ถือว่าความสำเร็จของเรื่องนี้จะบังเกิดเรื่องมหัศจรรย์อะไรอีกก็คงไม่มีใครรู้ได้
สำหรับเจ้าของกระทู้ บุพเพสันนิวาส ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คือการเริ่มเดินทางอีกก้าวของละครอิงประวัติศาสตร์อีกครั้ง
❀ บุพเพสันนิวาส ❀ การสร้างสรรสู่ก้าวใหม่อีกครั้งของละครอิงประวัติศาสตร์
แต่ละปีก็จะเป็นเรื่องที่ละครเรื่องนี้ผ่านไปแต่ละปี หาอ่านได้ตามชื่อเจ้าของกระทู้
วันนี้ไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า "ออเจ้า" ปรากฏการณ์บุพเพสันนิวาสที่เกิดขึ้น คงไม่ต้องอธิบายว่ามันเป็นอย่างไร
ซึ่งความสำเร็จครั้งนี้ย่อมต้องให้ทั้งนิยาย บทโทรทัศน์ นักแสดง ทีมงานผู้จัดและสถานี
ในฐานะคนที่ติดตามการสร้างละครเรื่องนี้มาเกือบ 6 ปี ตั้งแต่ 2555 พร้อมความเป็นไปมาตลอด
เมื่อถึงเวลาออกอากาศแล้วจนมาถึงเวลานี้ ก็ย่อมดีใจที่ทุกคนชื่นชอบเหมือนที่เคยคิดไว้
อย่างที่เคยกล่าวไว้ว่า ถ้าละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเราอาจจะได้เห็นอะไรที่เปลี่ยนไป
ละครอิงประวัติศาสตร์ของไทย ที่มักจะถูกคิดว่าเป็นละครที่มีกรอบค่อนข้างสูง
แต่เรื่องนี้อาจด้วย ตัวละครเป็นตัวละครในยุคปัจจุบันเข้าไปอาศัยร่างของคนยุคอดีต
เลยมีลูกเล่นให้ทำเยอะตั้งแต่ในนิยาย ทำให้เรื่องนี้สามารถถูกพูดถึงในวงกว้างได้
ละครอิงประวัติศาสตร์เลยถูกดำเนินเรื่องไปอย่างน่าสนุก แต่มีรายละเอียดให้ได้เรียนรู้
บุพเพสันนิวาส หลายคนก็พูดว่ามันก็แค่เรื่อง นิยายข้ามภพมาหาผัว ซึ่งทุกชนชาติก็ทำพลอตนี้กันทั่ว
แต่ถ้าใครได้อ่านจะรู้ว่าเรื่องนี้จะรู้ว่ามันไม่เหมือนกับเรื่องไหนไม่ว่าชนชาติไหน
และนี่คือเสน่ห์ของนิยายที่เป็นละครเรื่องนี้กำลังออกอากาศและทำให้คนได้เรียนรู้
เมื่อถูกนำมาสร้างเป็นงานละคร ทีมงานก็ได้นำนิยายให้ออกมาเคลื่อนไหวได้อย่างสร้างสรร
แต่ยังคงขนบความเป็นละครพีเรียดที่คุณคุ้นเคย งานภาพที่ดูสบายตา ดนตรีประกอบที่ไพเราะ สีสันสดใสไม่มีลูกเล่นมากมาย
แต่ซ่อนการตัตต่อ และหากลวิธีที่น่าสนใจและดึงดูดให้คนดูชาญฉลาด อาทิการให้คนดูรู้จักตัวเอกทั้งชายหญิง
ตั้งแต่เกศสุรางค์ที่อยู่ในร่างการะเกดในตอนแรก และอารมณ์ของพี่หมื่นต่อการะเกดในวันที่สอง
ซึ่งทำให้คนที่ทั้งเคยอ่านนิยายและได้ดูละครเรื่องนี้ครั้งแรกก็ต้องประหลาดใจ
และทำละครเรื่องนี้ถูกนำมาขยายในทุกทางที่จะเป็นได้ซึ่งนับได้มาถึงเกือบครึ่งเรื่องแล้ว
และในอาทิตย์ต่อไปจะเข้าสู่หน้าฉากประวัติศาสตร์ของตัวละครในประวัติศาสตร์จริง
อย่างมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเป็นความท้าทายต่อคนสร้างและคนดูมากขึ้นก็คงต้องติดตามกันต่อไป
สิ่งที่ดีที่สุดในเรื่องนี้ ทุกคนสามารถเข้าถึงละครเรื่องนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข
จากนิยายที่สนุก บทโทรทัศน์ที่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงนิยายมากมาย อรรถรสทุกอย่างในนิยายยังพบได้ในละครเกือบทั้งหมด
และที่สำคัญทุกคนนำสิ่งที่ได้เห็นจากในละครมาต่อขยายเพื่อเกิดการเรียนรู้ซึ่งคือผลสำเร็จแล้ว
ของละครอิงประวัติศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งน้อยเรื่องมากที่จะทำให้คนสนใจได้ทั้งความสนุก
และสาระที่ถูกสอดแทรก เพราะส่วนใหญ่ก็หมดไปกับละครแนวนี้ที่แฝงแนวคิดที่ขัดแย้งเมื่อได้ดูละครแนวนี้
คือ คนดูจะชอบและผูกมัดกับเรื่องนั้นไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
และการไม่เปิดใจคิดว่าเป็นเครื่องมือสร้างวาทกรรมชาตินิยมแบบที่บางคนคิด
แต่บุพเพสันนิวาสทุกคนที่ดูก็เสมือนเกศสุรางค์ที่ได้เข้าไปรับรู้ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น และพร้อมการเรียนรู้
เหตุและผลที่เกิดขึ้นในละครเรื่องนี้ คงแล้วแต่คนดูจะตัดสินใจตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
พอถึงเหตุการณ์เหล่านั้นในมาถึง การแสดงความเห็นจะทำให้คนทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้
เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ที่ในแง่เรื่องราว ทั้งงานสร้างอาจมีบางฉากละครเรื่องนี้ทำแล้วรู้สึกน่าจะได้มากกว่านี้
เพื่อในอนาคตเราอาจจะมีอีกหลายมุมมองที่เกิดขึ้น จากงานสร้างที่หลากหลาย
และมันคือก้าวใหม่ของละครอิงประวัติศาสตร์ของไทยอีกครั้ง
คำถามที่มักเกิดขึ้นให้ ทำไมละครอิงประวัติศาสตร์ไทยถึงต้องเป็นแบบนี้
ทำไมทำแบบจีน ญี่ปุ่น เกาหลีหรือแบบฝรั่งไม่ได้ ซึ่งจะทำให้ละครอิงประวัติศาสตร์บ้านเรามันจะได้หลากหลาย
แต่วันนี้ บุพเพสันนิวาส ทำให้เรารู้ว่า ละครอิงประวัติศาสตร์ของไทยยังมีพลังและสร้างสรรใหม่ในตัวเองเสมอ
และเรื่องนี้ยังจุดประกายอะไรหลายอย่างเกิดขึ้น ยุคสมัยที่ไม่เคยเรียนรู้ได้นำมาเรียนรู้อีกครั้ง
หนังสืออ้างอิงถูกกลับมาหยิบใช้เพื่อในการแสวงหาคำตอบ นำไปสู่การแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย
สถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่ได้กลับมาให้คนได้เข้าไปสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่
ซึ่งละครเรื่องนี้ยังคงมีเรื่องแบบนี้จนจบเรื่อง และสิ่งที่สำคัญเราอาจได้เห็นการสร้างสรรนิยายเล่มใหม่
หรือสร้างกลวิธีใหม่ในนิยายอิงประวัติศาสตร์มากขึ้น และอาจถูกนำมาสร้างเป็นหนังเป็นละครมากขึ้น
และละครอิงประวัติศาสตร์ไทยก็สามารถให้ความสนุกไม่แพ้ชาติต่าง ๆ ที่ยังคงเอกลักษณ์และเสน่ห์ในตัวเอง
ถือว่าความสำเร็จของเรื่องนี้จะบังเกิดเรื่องมหัศจรรย์อะไรอีกก็คงไม่มีใครรู้ได้
สำหรับเจ้าของกระทู้ บุพเพสันนิวาส ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ คือการเริ่มเดินทางอีกก้าวของละครอิงประวัติศาสตร์อีกครั้ง