'หนึ่งด้าวฟ้าเดียว' กับการจับตามองความสำเร็จเทียบ 'บุพเพสันนิวาส'


หลังจากความสำเร็จของบุพเพสันนิวาส โดย คุณหมื่นโป๊ป-ออเจ้าเบลล่า สำเร็จเพียงชั่วข้ามคืน สร้างเรตติ้งถล่มทลายอีกครั้งนับตั้งแต่ละคร นาคี ลาจอไป ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของช่อง 3 ที่จะสามารถโกยเรตติ้ง และกระแสได้อย่างถูกใจมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อมีข่าวว่า หนึ่งด้าวฟ้าเดียว ละครพีเรียดจาก ทีวีซีน นำแสดงโดย เจมส์จิ-แต้ว จะมาต่อจากบุพเพสันนิวาสนั้น เสียงของผู้ชมต่างก็แตกออกไป บ้างก็ว่าดีใจที่ต่อเนื่องกัน เพราะเป็นประวัติศาสตร์ที่ค่อนข้างเชื่อมต่อและสัมพันธ์กัน และจะได้ติดตามกันดู บ้างก็ว่ารู้สึกไม่ดี เพราะจะทำให้คนดูคาดหวังมากเกินไป และอาจจะผิดหวังได้ เนื่องจากระยะช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่แตกต่างกัน อาจจะทำให้เกิดเป้าหมายแตกต่างกันไป เนื่องจากบุพเพสันนิวาสเป็นช่วงรอยต่อระหว่างราชวงศ์ปราสาททองกับราชวงศ์บ้านพลูหลวง ซึ่งอยู่ในช่วงความไม่สงบภายใน ส่วนหนึ่งด้าวฟ้าเดียวเป็นช่วงระยะปลายราชวงศ์บ้านพลูหลวง ซึ่งต้องเผชิญกับภัยสงครามจากอาณาจักรอังวะ

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้หนึ่งด้าวฟ้าเดียว น่าสนใจไม่ต่างกับบุพเพสันนิวาสก็คือ เป็นเรื่องราวของกลุ่มขันทีนักเทศสมัยปลายอยุธยา จากตุรกี (ในเรื่องใช้คำว่า โต้ระกี่) โดยพระเอก เป็นลูกของโจรป่า ที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นขันทีในพระราชวังกรุงศรีอยุธยา ซึ่งจุดที่น่าสนใจนี้ จะทำให้เราพอได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของอยุธยาเกี่ยวกับเรื่องของขันทีบ้าง ว่ามีเรื่องราวอย่างไร แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นก็คือ ทางวงในของทีวีซีน รับประกันว่า ความสนุก จะมีไม่แพ้บุพเพสันนิวาสแน่นอน แม้อาจจะเต็มไปด้วยความหนักหน่วงตามสไตล์ของทีวีซีน โดยเฉพาะในช่วงท้ายของละคร ก็ตามที

สำหรับคนดูที่เป็นแฟนคลับของทีวีซีน หรือเป็นแฟนคลับของเจมส์จิหรือแต้ว ความคาดหวังอาจจะไม่ได้สูงอะไรมากนัก แต่สำหรับคนดูที่ติดตามบุพเพสันนิวาสด้วยความสนุกของละคร ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ หากต้องมาดูหนึ่งด้าวฟ้าเดียวกัน ก็คงต้องคาดหวังไว้ อย่าง คือ

1.ความสนุก ซึ่งจะถูกมองว่าสนุกเทียบเท่ากับบุพเพสันนิวาสหรือไม่ เนื่องจากจุดขายของบุพเพสันนิวาส ไม่ได้ขายคู่จิ้น ไม่ได้ขายความแรง แต่ขายเนื้อหา ความบันเทิงล้วนๆ ซึ่งการที่ตัวละครอย่างเกศสุรางค์ หรือการะเกด ได้สร้างความแปลกใหม่กับละครไทยด้วยการทำสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ถือเป็นความแปลกใหม่อย่างหนึ่ง ดังนั้นสำหรับหนึ่งด้าวฟ้าเดียว หากมีจุดขายใหม่ๆที่แตกต่างและน่าสนใจ ก็จะดึงดูดได้ แต่หากขายความสนุกแบบเก่าๆ เช่น เนื้อหาตลกๆอย่างที่เคยมีมา (ทางทีวีซีนยืนยันว่ามีฉากตลกด้วย) หรือวิธีการแก้ปัญหาของตัวละครนำ อาจจะพอประสบความสำเร็จ แต่ไม่ถึงกับพลุแตกเหมือนอย่างบุพเพสันนิวาส

2.เนื้อหาประวัติศาสตร์ ตรงจุดนี้ไม่ต้องคาดหวังอะไรมาก ส่วนสำคัญที่สุดคือ เนื้อหาสำคัญ เหตุการณ์สำคัญ ไม่ควรมีการบิดเบือนหรือต่อเติมจนเกิดความเข้าใจผิดเด็ดขาด เพราะจะทำให้สังคมตำหนิได้ว่าเป็นความผิดพลาดที่ค่อนข้างร้ายแรง เนื่องจากประวัติศาสตร์เป็นเรื่องราวของอดีต ซึ่งยังไม่มีบทสรุปที่แน่นอนในบางจุด รองลงมาคือเนื้อหารายละเอียดเล็กๆน้อย เช่น การแต่งตัว การพูดจา หรือแม้แต่ประเพณี รวมไปถึงวิถีชีวิตชาวบ้าน

3.ฝีมือการแสดง สำหรับเจมส์จิ แต้ว ก็ถือว่าอยู่ระดับดี แต่กลุ่มที่น่าดูก็คือ ลุงปุ๊ มนตรี ที่ฝากผลงานไว้มากมายรวมทั้งนาคีและชั่วโมงต้องมนต์ กิก ดนัย ที่แค่ได้ยินชื่อก็รู้แล้วว่าต้องเป็นพวกเพื่อนรักพระเอก สำหรับนักแสดงที่ใช้ร่วมกับบุพเพสันนิวาส ก็จะมี ก๊อต จิรายุ เท่านั้น แต่ถ้าถามถึงนักแสดงจากละครเรื่องนาคี นอกจากลุงปุ๊กับกิก ดนัยแล้ว ก็ยังมี ไผ่ วิศรุต, โก โกสินทร์ รวมถึงพระเอกจากละครดัง ขุนศึก อย่าง อั้ม อธิชาติ นี้คือสิ่งที่น่าไว้ใจที่สุด

4.ความอลังการ เท่าที่ทราบมา เห็นว่าลงทุนไปพอสมควร แต่จะเยอะหรือน้อยก็ยังไม่ทราบ เพราะยังไม่เห็นทีเซอร์แบบจริงๆ

5.เรตติ้ง อันนี้แล้วแต่คนดูจริงๆว่า 4 อย่างแรกจะถูกใจเขาหรือไม่

ถ้าวัดตามความรู้สึกคนดูส่วนใหญ่ ถ้าไม่นับที่เริ่มเบื่อละครพีเรียด หรือคาดหวังไว้สูงเกินไป เชื่อว่าหนึ่งด้าวฟ้าเดียว อย่างน้อยที่สุด จะถูกกล่าวในกระแสใหญ่ระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่มากนักก็ได้ หากไม่มีจุดขายใหม่ๆ เนื่องจากละครทีวีซีน เป็นละครที่ค่อนข้างโปรเกรสซีฟพอสมควร แต่หากทีวีซีน สามารถสร้างจุดขายได้ไม่ต่างกับบุพเพสันนิวาส นั้นจึงจะเป็นเสน่ห์ที่น่าดึงดูดเหมือนกันครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่