วิ่งเหยาะๆ 4 km เหนื่อย เหงื่ออกมากแต่ไหวอยู่ กับวิ่งเร็วขึ้นแต่ได้แค่2.5 km คือแย่แล้ว อย่างไหนใช้พลังงานมากกว่ากัน

หลังจากที่ซิทอัพทุกวัน ไม่ช่วยเรื่องลดน้ำหนัก เลยเปลี่ยนมาเป็นวิ่ง วันนี้เข้าวันที่5 แล้วที่วิ่ง รู้สึกสดชื่นหลังจากวิ่งครับ แต่มีข้อสงสัยคือ

วันแรก(ไม่ได้วิ่งมานานมาก)วิ่งเหยาะๆ ได้ประมาณ1km นิดๆ คือจะตายให้ได้ เจ็บจี๊ดที่หัวใจ หัวใจเต้นแรงมาก เลยพอแค่นี้ ใช้เวลาราวๆ15นาที

วันที่2 วิ่งเหยาะๆเหมือนเดิม วันนี้ตั้งเป้าไว้ 3.6 km ซึ่งวิ่งถึง แต่หยุดเดินราวๆ 300เมตร คือแบบเหนื่อยมาก เจ็บจี๊ดที่หัวใจเหมือนเดิม ใช้เวลาไป35นาที

วันที่3 วิ่งเหยาะๆ stepเดิม วันนี้ได้3.6 km เหมือนเดิม แต่หายใจได้สะดวกขึ้น รู้สึกไม่เหนื่อยแบบวันแรก ใช้เวลาไปราวๆ 30 นาที

วันที่4 วิ่งเหยาะๆ stepเดิม วันนี้ไปได้ 4 km (ตั้งเป้าไว้แค่4kmครับ เพราะจะมืดก่อน) รู้สึกสบายๆแล้วครับวันนี้ คือไหว หัวใจเต้นปกติแล้ว ไม่เหนื่อยเท่าไหร่ ใช้เวลาไป 32 นาที

วันที่5(วันนี้) วิ่งstep ที่เร็วขึ้น กลับกลายเป็นว่า วันนี้วิ่งไปได้ราวๆ 2.5 km คือจะตายให้ได้ อาการเหมือนวันที่2เลย แต่ใช้เวลาแค่ 18 นาที เท่านั้น

เลยอยากทราบว่า การเผาผลาญแคลอรี่ ระหว่างการวิ่งเหยาะๆ 4km(แบบวันที่4)กับการวิ่งที่เร็วขึ้น 2.5km(แบบวันที่5) อย่างไหนลดแคลอรี่ได้ดีกว่ากันครับ เพราะผมรู้สึกว่า วันที่5 ผมใช้พลังงานไปมากกว่า แต่ใช้เวลาวิ่งน้อยกว่า อาจจะเบิร์นแคลอรี่ได้น้อยกว่ารึเปล่าครับ รบกวนท่านที่คำนวณเป็นคำนวณให้ทีครับ

*ป.ล. หลังจากนี้ ถ้าไม่มีงานดึก จะวิ่งทุกวันครับ วันละ4km ให้ได้ รู้สึกว่าร่างกายสดชื่นขึ้นมากเลยครับ*
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่