เรื่องสั้นสำหรับวีคที่ 11 นี้ มาแนวบู๊ดุเดือดมันส์ๆ ซัดกันด้วยวิทยายุทธหมัดมวย อ่านเพลินทีเดียว พอจบก็เสียดาย ว่าจบไวไป๊! และน่าจะมีอะไรต่อ เหมือนหนังฝรั่งที่มักจบแบบมีปริศนา หรือทำให้คนดูเข้าใจว่าจะมีภาคต่อ...
มาอ่านกันครับ และเล็งๆดู ว่า เจ้าของถุงมือ น่าจะเป็นใคร...
ซอกซอยแห่งนี้ปกติแล้วไร้ซึ่งผู้คน มันเป็นเพียงที่สัญจรผ่าน มิมีผู้ใดหยุดกระทำการใดที่นี่
แต่เมื่อบุรุษคนหนึ่งกำลังจะเดินเข้าซอย กับบุรุษอีกผู้หนึ่งกำลังเดินออกจากซอย ก็พบว่าไหล่ของทั้งสองกระแทกชนกัน
แม้เสียงปะทะกันจะดังพอสมควร แต่ว่ามิมีผู้ใดล้มลงจากการชนครั้งนี้
บุรุษผู้เดินเข้าซอยมานั้นรูปร่างสูงใหญ่เกินกว่าคนทั่วไป ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแน่นหนา ดำรงไว้ด้วยความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด การปะทะกันจึงมิได้สร้างความรู้สึกให้ร่างกายของเขารับรู้เท่าใด เขาสวมใสชุดวอร์มเช่นเดียวกับนักกีฬา
บุรุษผู้เดินออกซอย แม้รูปร่างจากผอมบางกว่าบุรุษผู้เดินเข้าซอยอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว แต่ว่าจากการปะทะครั้งนี้ แม้จะเห็นว่าร่างกายส่วนกล้ามเนื้อมีการสะเทือนและยุบลง แต่ด้วยกล้ามเนื้อของเขาที่มีความยืดหยุ่นเข้าขั้นสูง คล้ายมันดูดซับแรงที่ปะทะกัน เขาจึงไม่ได้ล้มลงไปเช่นกัน ซึ่งบุรุษผู้นี้ใส่หมวกแก๊ปโดยปัดปีกหมวกไปด้านหลัง แต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ดูผ่อนคลาย
ถึงทั้งคู่ไม่ได้ล้มลง แต่ก็บังเกิดระยะห่างระหว่างกัน
ความสูงของคนเราไม่อาจเท่ากัน แต่สายตาย่อมประสานกันได้
บุรุษในชุดวอร์มก้มมองบุรุษผู้สวมหมวก บุรุษผู้สวมหมวกก็เงยหน้ามองบุรุษในชุดวอร์ม
สายตาสองคู่จ้องมองกันไม่กะพริบ กล่าวกันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่ว่าขณะนี้หัวใจของสองคนนี้รู้สึกเช่นไร
ความรู้สึกในใจของแต่ละคน ผู้อื่นคงยากที่รู้ได้ แต่ว่าเราสามารถทราบได้จากสองอย่าง
อย่างแรกคือ
วัจนภาษา
วัจนภาษา หมายถึงการสื่อสารในระบบคำและประโยค ผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจะมีคำเป็นตัวสื่อความหมาย
ส่วนอีกอย่างคือ
อวัจนภาษา
อวัจนภาษา หมายถึงการสื่อสารโดยไม่ใช้การฟัง การพูด การอ่านตามตัวหนังสือ และการเขียนเป็นตัวหนังสือ หรือหมายถึงการสื่อสารโดยไม่ใช้ระบบคำและประโยค
คนเรานั้น การสื่อสารแบบอวัจนภาษา มีอยู่หลากหลาย หลายครั้งเราจะเห็นว่าผู้หญิงกับผู้ชายเวลาแสดงความรักกัน ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด อย่างเช่นการมีเซ็กส์กัน ก็ถือว่าเป็นการสื่อสารด้วยอวัจนภาษา
หากเป็นผู้ชายกับผู้ชายล่ะ
ถ้าเป็นเรื่องความรักของผู้ชายกันเอง คงไม่ต้องอธิบายตรงนี้ ซึ่งนอกจากการมีเซ็กส์แล้ว ผู้ชายยังมีการแสดงอวัจนภาษาแบบอื่นอยู่
อย่างเช่น
การต่อสู้
คนเราจะต่อสู้กัน อาจมีเรื่องมากมายเป็นต้นเหตุ แต่เบื้องลึกแล้วมันก็คือ อวัจนภาษาแบบหนึ่งที่ผู้ชายแสดงให้แก่กัน
และตอนนี้ บุรุษในชุดวอร์ม กับบุรุษใส่หมวก กำลังเตรียมส่งอวัจนภาษาแก่กัน
ไวเท่าความคิด ลูกเตะของบุรุษในชุดวอร์มก็ถูกส่งประเดิมออกมาก่อน หมายเข้าใส่บุรุษใส่หมวกตรงหน้า ซึ่งปกติแล้วคนทั่วไปหากมีผู้เตะใส่ตนย่อมหลบหลีก แต่ว่าบุรุษใส่หมวกหาทำเช่นนั้นไม่
เขาใช้มือข้างหนึ่งยื่นออกไปเปลี่ยนทิศทางลูกเตะของบุรุษในชุดวอร์มโดยไม่ฝืนแรง ให้พ้นร่างตน จากนั้นก็สืบเท้าเข้าประชิด พร้อมโจมตีออกด้วยท่าหนึ่ง
ถ้ากล่าวถึงแอ็คชั่นสตาร์ หลายคนน่าจะรู้จัก
บรูซ ลี นักแสดงผู้มีฉากบู๊อันยอดเยี่ยม และจากวิชาต่อสู้ที่เรียกว่า
จีตคุนโด้
จีตคุนโด้ เป็นศิลปะการป้องกันตัวชนิดหนึ่งที่เน้นการ เตะ ต่อย เป็นพื้นฐาน โดยผู้คิดค้นศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้คือ บรูซ ลี โดยมีพื้นฐานมาจาก
มวยหวิ่งชุน* แต่มีการนำศิลปะการป้องกันตัวหลายชนิดมาผสมผสานกัน เช่น มวยเส้าหลิน มวยสากล เทควันโด มวยปล้ำ ยูโด ฯลฯ โดยก่อนที่บรูซ ลี จะเสียชีวิต เขาได้เขียนหนังสือ TAO OF JEET KUNE DO เอาไว้
และกระบวนท่าอันเป็นที่จดจำของจีตคุนโด้คือ
หมัดหนึ่งนิ้ว
หมัดหนึ่งนิ้ว เป็นท่าต่อยที่มีชื่อเสียงที่สุดของบรูซ ลี สามารถชกคู่ต่อสู้กระเด็นไปได้หลายเมตร โดยที่ไม่ต้องง้างหมัดชก โดยระยะห่างระหว่างหมัดกับคู่ต่อสู้นั้นอยู่ในระยะหนึ่งนิ้ว
และตอนนี้ หมัดของบุรุษใส่หมวก อยู่ห่างจากร่างของบุรุษในชุดวอร์มเป็นระยะหนึ่งนิ้วแล้ว
บุรุษใส่หมวกสูดหายใจเข้าอย่างรุนแรง ปล่อยออกพร้อมกับการโจมตีด้วยหมัดหนึ่งนิ้วเข้าใส่บุรุษในชุดวอร์ม
ด้วยอานุภาพของมัน ร่างของบุรุษในชุดวอร์มอันสูงใหญ่กระเด็นออกไปสามก้าวทันที
สีหน้าของบุรุษใส่หมวกในคราแรกแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เพราะเมื่อใดที่เขาใช้หมัดหนึ่งนิ้วแล้วไม่พบว่ามีผู้ใดสามารถรอดพ้นได้
แต่สีหน้าของเขาต้องแปรเปลี่ยน เมื่อเห็นบุรุษในชุดวอร์มเพียงแค่ก้าวถอยจากแรงหมัดหนึ่งนิ้ว แต่มิได้มีอาการใด ๆ บังเกิดขึ้นตามมา
และไม่เพียงแค่นั้น พริบตาบุรุษในชุดวอร์มก็พุ่งตรงเข้าใส่บุรุษใส่หมวกต่ออย่างรวดเร็ว
จังหวะนี้บุรุษใส่หมวกไม่คาดคิด เขามัวคิดว่าคู่ต่อสู้ของตนจะพ่ายแพ้ด้วยหมัดพิฆาตของตัวเองแล้ว จึงมิอาจหลบหลีกได้ทัน
และการพุ่งตัวเข้ามาของบุรุษใส่หมวกไม่ใช่แค่รวดเร็ว ทั้งยังรุนแรงอย่างมาก
ซึ่งนี้คือการพุ่งตัวเข้าปะทะตรง ๆ ไร้ซึ่งรูปแบบพิเศษใด ๆ
แต่ว่าหากมองกันที่ลักษณะที่เขาพุ่งตัวมา มันใกล้เคียงกับการพุ่งกระแทกสกรัมของอเมริกันฟุตบอล และท่าทางราวกับ
โจ มอนทาน่า สุดยอดผู้เล่นระดับตำนาน ที่ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการอเมริกัน
แน่นอน ด้วยความเร็วและรุนแรง บุรุษใส่ชุดวอร์มย่อมหลบไม่พ้น
บุรุษใส่หมวกก็มิได้หลบ
มิใช่ เขาไม่คิดจะหลบตั้งแต่แรก
พอรับรู้ว่าบุรุษในชุดวอร์มหมายพุ่งเข้าใส่ บุรุษใส่หมวกก็คิดอ่านแล้วว่ามันไม่จำเป็นต้องหลบ เขาเพียงตั้งท่ารอคอยให้พุ่งเข้ามา
แม้เขาจะมีวิชาจีตคุนโค้ แต่สถานการณ์นี้มันเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีเพื่อสกัดกั้น เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของบุรุษในชุดวอร์ม ขนาดโดนหมัดหนึ่งนิ้วไปยังไม่เป็นอะไร การโจมตีเพื่อหยุดการเข้ามาคงไม่ใช่จะทำได้ง่ายอยู่แล้ว
ระยะห่างร่นมาถึงช่วงหนึ่ง บุรุษใส่หมวกแทนที่จะหลบหลีกกลับพุ่งตัวเข้าใส่แทน แต่ว่าเขาเบี่ยงตัวหลบหลีกในลักษณะวงกลมโดยไม่ฝืนแรง หมุนเปลี่ยนแรงที่เข้ามา จนสามารถหลบพ้นการพุ่งเข้ามากระแทกได้
นี่เป็นการเคลื่อนไหวในวิชา
ไอคิโด ใช้ประโยชน์จากแรงของคู่ต่อสู้ที่กระทำเข้ามา เปลี่ยนทิศทางให้รอดพ้นได้
แต่ว่าบุรุษใส่หมวกคาดการณ์ผิด เพราะแทนที่บุรุษในชุดวอร์มจะพุ่งเข้ากระแทกเพียงอย่างเดียว ทันทีที่หลบหลีก เขากลับกางแขนทั้งสองข้างหมายโอบร่างของบุรุษใส่หมวกไว้
การหลบหลีกด้วยวิชาไอคิโดจึงมิเป็นผล
ร่างของบุรุษใส่หมวกถูกบุรุษในชุดวอร์มโอบรัดอย่างรวดเร็ว ดูท่าในเวลานี้บุรุษใส่หมวกคงหนีไม่พ้นเป็นแน่
แต่แล้วก่อนที่มือทั้งสองของบุรุษในชุดวอร์มจะบรรจบกันแน่น ร่างของเขากลับกระเด็นออกห่างบุรุษใส่หมวกเอง คล้ายได้ยินเสียงปะทะกันบางอย่างดังขึ้นมาด้วย
เพราะว่าบุรุษใส่หมวกใช้หมัดหนึ่งนิ้วอีกครั้ง
อย่างทราบกัน หมัดหนึ่งนิ้วมีอานุภาพรุนแรงจนสามารถทำให้คู่ต่อสู้กระเด็นออกไปหลายช่วงก้าวได้ แม้จะเห็นว่าในครั้งแรกหมัดหนึ่งนิ้วมิอาจทำอะไรบุรุษในชุดวอร์มได้ แต่ว่าหากเพื่อให้เขากระเด็นออกไป หมัดหนึ่งนิ้วย่อมทำได้
และไม่เพียงแค่นั้น ทันทีที่ร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระเด็นถอยออกไป บุรุษใส่หมวกก็สืบเท้าร่นระยะเข้าหาอย่างฉับไว
จากนั้นก็ใช้ออกด้วยหมัดหนึ่งนิ้วอีกครั้ง ทำให้ร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระเด็นออกไปอีก
นี่คือ
หมัดหนึ่งนิ้วต่อเนื่อง เป็นการใช้สุดยอดวิชาซ้ำในจุดเดิมเพื่อเพิ่มพลังทำลาย
ครานี้บุรุษในชุดวอร์มถึงกับกระอักมาคำหนึ่ง แต่เขาก็มิได้ล้มลงไป สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนทันที คงมีอาการจากที่การโจมตีเมื่อครู่แน่นอน
บุรุษใส่หมวกไม่คิดว่าการโจมตีของตนทำได้เพียงแค่นี้ สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน แต่เขายิ่งต้องสีหน้าเปลี่ยนขึ้นอีก เพราะบุรุษในชุดวอร์มพุ่งเข้ามาหาทันที
แถมในครั้งนี้พุ่งมาด้วยความเร็วและรุนแรงมากว่าเดิมอีกด้วย
ครั้งนี้อย่าแต่ว่าหลบหลีก แม้แต่วิชาการเคลื่อนแบบวงกลมแบบไอคิโด บุรุษใส่หมวกก็ใช้ออกไม่ทัน ถูกร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระแทกเข้าเต็ม ๆ ร่างของบุรุษใส่หมวกกระเด็นออกไปหลายก้าวทันที
แต่ว่าเป็นการกระเด็นออกไปไกลเกินปกติ
เพราะนี่คือ การผ่อนแรงการโจมตีของบุรุษใส่หมวก ในเมื่อเขารู้ตัวว่ามิอาจหลบหลีกได้ทัน และมิอาจใช้การเคลื่อนที่แบบไอคิโดได้ เขาจึงตัดสินยอมรับการโจมตีนี้ โดยยอมให้ปะทะกับร่างของตน แล้วกระโดดถอยตามแรงนั้นไปด้วยเพื่อผ่อนแรงโจมตี ทำให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และไม่ได้ล้มลง เพราะทันทีที่กระเด็นห่างออกไปนั้น เขาก็พลิกตัวขึ้น แล้วหันหลังเคลื่อนตัวหนีห่างออกไป
บุรุษในชุดวอร์มก็มึนงง ว่าเหตุใดบุรุษใส่หมวกถึงไม่ยอมรับมือตัวเองต่อ ต้องหนีออกไป
แต่ว่า พอได้ยินเสียงร้องชนิดหนึ่งดังขึ้น เขาเองก็ไม่คิดจะรับมือพวกมัน รีบวิ่งหนีออกไปทางเดียวกับบุรุษใส่หมวก
เพราะว่าเสียงที่บุรุษในชุดวอร์มได้ยินนั้นคือ เสียงของสุนัข และไม่มีแค่เสียงเดียวอีกด้วย
ด้านหลังของพวกเขา มีสุนัข 10 ตัว
จากนั้นสุนัขทั้งสิบตัวก็วิ่งไล่ตามทั้งสองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนี้ก็มิอาจล่วงรู้ว่าทั้งสองจะรอดพ้นฝูงสุนัขเหล่านี้ได้เช่นไร
แต่ว่า ทั้งสองคนนี้ สู้กันทำไม?
NOTE : เสริมความรู้จากกรรมการ "หวิ่งชุน" เป็นสำเนียงกวางตุ้ง ถ้าเป็นจีนกลางก็คือ "หย่งชุน" อันลือลั่นของ "ยิบมัน" นั่นเองครับ
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. Lady Star 919
7. Luckard
8. Na(นะ)
9. peiNing
10. psycho_factory
11. Soul Master
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. นลินมณี
22. น้องลิงน้อย
23. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
24. รัชต์สารินท์
25. สวนดอก
26. อิสิ
***
รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 13 มีนาคม 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะได้สิทธิ์ร่วมรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม
🔥💥⚡️ THE WEEKLY GLOVES วีคที่ 10 เรื่องสั้น#20 "Versus Fighting" โดย ถุงมือ "เป็ดปักกิ่ง" ⚡️💥🔥
เรื่องสั้นสำหรับวีคที่ 11 นี้ มาแนวบู๊ดุเดือดมันส์ๆ ซัดกันด้วยวิทยายุทธหมัดมวย อ่านเพลินทีเดียว พอจบก็เสียดาย ว่าจบไวไป๊! และน่าจะมีอะไรต่อ เหมือนหนังฝรั่งที่มักจบแบบมีปริศนา หรือทำให้คนดูเข้าใจว่าจะมีภาคต่อ...
มาอ่านกันครับ และเล็งๆดู ว่า เจ้าของถุงมือ น่าจะเป็นใคร...
ซอกซอยแห่งนี้ปกติแล้วไร้ซึ่งผู้คน มันเป็นเพียงที่สัญจรผ่าน มิมีผู้ใดหยุดกระทำการใดที่นี่
แต่เมื่อบุรุษคนหนึ่งกำลังจะเดินเข้าซอย กับบุรุษอีกผู้หนึ่งกำลังเดินออกจากซอย ก็พบว่าไหล่ของทั้งสองกระแทกชนกัน
แม้เสียงปะทะกันจะดังพอสมควร แต่ว่ามิมีผู้ใดล้มลงจากการชนครั้งนี้
บุรุษผู้เดินเข้าซอยมานั้นรูปร่างสูงใหญ่เกินกว่าคนทั่วไป ร่างกายเต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแน่นหนา ดำรงไว้ด้วยความแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัด การปะทะกันจึงมิได้สร้างความรู้สึกให้ร่างกายของเขารับรู้เท่าใด เขาสวมใสชุดวอร์มเช่นเดียวกับนักกีฬา
บุรุษผู้เดินออกซอย แม้รูปร่างจากผอมบางกว่าบุรุษผู้เดินเข้าซอยอย่างน้อยหนึ่งเท่าตัว แต่ว่าจากการปะทะครั้งนี้ แม้จะเห็นว่าร่างกายส่วนกล้ามเนื้อมีการสะเทือนและยุบลง แต่ด้วยกล้ามเนื้อของเขาที่มีความยืดหยุ่นเข้าขั้นสูง คล้ายมันดูดซับแรงที่ปะทะกัน เขาจึงไม่ได้ล้มลงไปเช่นกัน ซึ่งบุรุษผู้นี้ใส่หมวกแก๊ปโดยปัดปีกหมวกไปด้านหลัง แต่งกายด้วยเสื้อยืดกางเกงยีนส์ดูผ่อนคลาย
ถึงทั้งคู่ไม่ได้ล้มลง แต่ก็บังเกิดระยะห่างระหว่างกัน
ความสูงของคนเราไม่อาจเท่ากัน แต่สายตาย่อมประสานกันได้
บุรุษในชุดวอร์มก้มมองบุรุษผู้สวมหมวก บุรุษผู้สวมหมวกก็เงยหน้ามองบุรุษในชุดวอร์ม
สายตาสองคู่จ้องมองกันไม่กะพริบ กล่าวกันว่าดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ แต่ว่าขณะนี้หัวใจของสองคนนี้รู้สึกเช่นไร
ความรู้สึกในใจของแต่ละคน ผู้อื่นคงยากที่รู้ได้ แต่ว่าเราสามารถทราบได้จากสองอย่าง
อย่างแรกคือ วัจนภาษา
วัจนภาษา หมายถึงการสื่อสารในระบบคำและประโยค ผ่านการฟัง พูด อ่าน เขียน โดยจะมีคำเป็นตัวสื่อความหมาย
ส่วนอีกอย่างคือ อวัจนภาษา
อวัจนภาษา หมายถึงการสื่อสารโดยไม่ใช้การฟัง การพูด การอ่านตามตัวหนังสือ และการเขียนเป็นตัวหนังสือ หรือหมายถึงการสื่อสารโดยไม่ใช้ระบบคำและประโยค
คนเรานั้น การสื่อสารแบบอวัจนภาษา มีอยู่หลากหลาย หลายครั้งเราจะเห็นว่าผู้หญิงกับผู้ชายเวลาแสดงความรักกัน ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด อย่างเช่นการมีเซ็กส์กัน ก็ถือว่าเป็นการสื่อสารด้วยอวัจนภาษา
หากเป็นผู้ชายกับผู้ชายล่ะ
ถ้าเป็นเรื่องความรักของผู้ชายกันเอง คงไม่ต้องอธิบายตรงนี้ ซึ่งนอกจากการมีเซ็กส์แล้ว ผู้ชายยังมีการแสดงอวัจนภาษาแบบอื่นอยู่
อย่างเช่น การต่อสู้
คนเราจะต่อสู้กัน อาจมีเรื่องมากมายเป็นต้นเหตุ แต่เบื้องลึกแล้วมันก็คือ อวัจนภาษาแบบหนึ่งที่ผู้ชายแสดงให้แก่กัน
และตอนนี้ บุรุษในชุดวอร์ม กับบุรุษใส่หมวก กำลังเตรียมส่งอวัจนภาษาแก่กัน
ไวเท่าความคิด ลูกเตะของบุรุษในชุดวอร์มก็ถูกส่งประเดิมออกมาก่อน หมายเข้าใส่บุรุษใส่หมวกตรงหน้า ซึ่งปกติแล้วคนทั่วไปหากมีผู้เตะใส่ตนย่อมหลบหลีก แต่ว่าบุรุษใส่หมวกหาทำเช่นนั้นไม่
เขาใช้มือข้างหนึ่งยื่นออกไปเปลี่ยนทิศทางลูกเตะของบุรุษในชุดวอร์มโดยไม่ฝืนแรง ให้พ้นร่างตน จากนั้นก็สืบเท้าเข้าประชิด พร้อมโจมตีออกด้วยท่าหนึ่ง
ถ้ากล่าวถึงแอ็คชั่นสตาร์ หลายคนน่าจะรู้จัก บรูซ ลี นักแสดงผู้มีฉากบู๊อันยอดเยี่ยม และจากวิชาต่อสู้ที่เรียกว่า จีตคุนโด้
จีตคุนโด้ เป็นศิลปะการป้องกันตัวชนิดหนึ่งที่เน้นการ เตะ ต่อย เป็นพื้นฐาน โดยผู้คิดค้นศิลปะการป้องกันตัวชนิดนี้คือ บรูซ ลี โดยมีพื้นฐานมาจาก มวยหวิ่งชุน* แต่มีการนำศิลปะการป้องกันตัวหลายชนิดมาผสมผสานกัน เช่น มวยเส้าหลิน มวยสากล เทควันโด มวยปล้ำ ยูโด ฯลฯ โดยก่อนที่บรูซ ลี จะเสียชีวิต เขาได้เขียนหนังสือ TAO OF JEET KUNE DO เอาไว้
และกระบวนท่าอันเป็นที่จดจำของจีตคุนโด้คือ หมัดหนึ่งนิ้ว
หมัดหนึ่งนิ้ว เป็นท่าต่อยที่มีชื่อเสียงที่สุดของบรูซ ลี สามารถชกคู่ต่อสู้กระเด็นไปได้หลายเมตร โดยที่ไม่ต้องง้างหมัดชก โดยระยะห่างระหว่างหมัดกับคู่ต่อสู้นั้นอยู่ในระยะหนึ่งนิ้ว
และตอนนี้ หมัดของบุรุษใส่หมวก อยู่ห่างจากร่างของบุรุษในชุดวอร์มเป็นระยะหนึ่งนิ้วแล้ว
บุรุษใส่หมวกสูดหายใจเข้าอย่างรุนแรง ปล่อยออกพร้อมกับการโจมตีด้วยหมัดหนึ่งนิ้วเข้าใส่บุรุษในชุดวอร์ม
ด้วยอานุภาพของมัน ร่างของบุรุษในชุดวอร์มอันสูงใหญ่กระเด็นออกไปสามก้าวทันที
สีหน้าของบุรุษใส่หมวกในคราแรกแฝงไว้ด้วยรอยยิ้มแห่งชัยชนะ เพราะเมื่อใดที่เขาใช้หมัดหนึ่งนิ้วแล้วไม่พบว่ามีผู้ใดสามารถรอดพ้นได้
แต่สีหน้าของเขาต้องแปรเปลี่ยน เมื่อเห็นบุรุษในชุดวอร์มเพียงแค่ก้าวถอยจากแรงหมัดหนึ่งนิ้ว แต่มิได้มีอาการใด ๆ บังเกิดขึ้นตามมา
และไม่เพียงแค่นั้น พริบตาบุรุษในชุดวอร์มก็พุ่งตรงเข้าใส่บุรุษใส่หมวกต่ออย่างรวดเร็ว
จังหวะนี้บุรุษใส่หมวกไม่คาดคิด เขามัวคิดว่าคู่ต่อสู้ของตนจะพ่ายแพ้ด้วยหมัดพิฆาตของตัวเองแล้ว จึงมิอาจหลบหลีกได้ทัน
และการพุ่งตัวเข้ามาของบุรุษใส่หมวกไม่ใช่แค่รวดเร็ว ทั้งยังรุนแรงอย่างมาก
ซึ่งนี้คือการพุ่งตัวเข้าปะทะตรง ๆ ไร้ซึ่งรูปแบบพิเศษใด ๆ
แต่ว่าหากมองกันที่ลักษณะที่เขาพุ่งตัวมา มันใกล้เคียงกับการพุ่งกระแทกสกรัมของอเมริกันฟุตบอล และท่าทางราวกับ โจ มอนทาน่า สุดยอดผู้เล่นระดับตำนาน ที่ได้รับเกียรติให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบ็คที่ดีที่สุดตลอดกาลของวงการอเมริกัน
แน่นอน ด้วยความเร็วและรุนแรง บุรุษใส่ชุดวอร์มย่อมหลบไม่พ้น
บุรุษใส่หมวกก็มิได้หลบ
มิใช่ เขาไม่คิดจะหลบตั้งแต่แรก
พอรับรู้ว่าบุรุษในชุดวอร์มหมายพุ่งเข้าใส่ บุรุษใส่หมวกก็คิดอ่านแล้วว่ามันไม่จำเป็นต้องหลบ เขาเพียงตั้งท่ารอคอยให้พุ่งเข้ามา
แม้เขาจะมีวิชาจีตคุนโค้ แต่สถานการณ์นี้มันเป็นเรื่องยากที่จะโจมตีเพื่อสกัดกั้น เพราะร่างกายที่แข็งแกร่งของบุรุษในชุดวอร์ม ขนาดโดนหมัดหนึ่งนิ้วไปยังไม่เป็นอะไร การโจมตีเพื่อหยุดการเข้ามาคงไม่ใช่จะทำได้ง่ายอยู่แล้ว
ระยะห่างร่นมาถึงช่วงหนึ่ง บุรุษใส่หมวกแทนที่จะหลบหลีกกลับพุ่งตัวเข้าใส่แทน แต่ว่าเขาเบี่ยงตัวหลบหลีกในลักษณะวงกลมโดยไม่ฝืนแรง หมุนเปลี่ยนแรงที่เข้ามา จนสามารถหลบพ้นการพุ่งเข้ามากระแทกได้
นี่เป็นการเคลื่อนไหวในวิชา ไอคิโด ใช้ประโยชน์จากแรงของคู่ต่อสู้ที่กระทำเข้ามา เปลี่ยนทิศทางให้รอดพ้นได้
แต่ว่าบุรุษใส่หมวกคาดการณ์ผิด เพราะแทนที่บุรุษในชุดวอร์มจะพุ่งเข้ากระแทกเพียงอย่างเดียว ทันทีที่หลบหลีก เขากลับกางแขนทั้งสองข้างหมายโอบร่างของบุรุษใส่หมวกไว้
การหลบหลีกด้วยวิชาไอคิโดจึงมิเป็นผล
ร่างของบุรุษใส่หมวกถูกบุรุษในชุดวอร์มโอบรัดอย่างรวดเร็ว ดูท่าในเวลานี้บุรุษใส่หมวกคงหนีไม่พ้นเป็นแน่
แต่แล้วก่อนที่มือทั้งสองของบุรุษในชุดวอร์มจะบรรจบกันแน่น ร่างของเขากลับกระเด็นออกห่างบุรุษใส่หมวกเอง คล้ายได้ยินเสียงปะทะกันบางอย่างดังขึ้นมาด้วย
เพราะว่าบุรุษใส่หมวกใช้หมัดหนึ่งนิ้วอีกครั้ง
อย่างทราบกัน หมัดหนึ่งนิ้วมีอานุภาพรุนแรงจนสามารถทำให้คู่ต่อสู้กระเด็นออกไปหลายช่วงก้าวได้ แม้จะเห็นว่าในครั้งแรกหมัดหนึ่งนิ้วมิอาจทำอะไรบุรุษในชุดวอร์มได้ แต่ว่าหากเพื่อให้เขากระเด็นออกไป หมัดหนึ่งนิ้วย่อมทำได้
และไม่เพียงแค่นั้น ทันทีที่ร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระเด็นถอยออกไป บุรุษใส่หมวกก็สืบเท้าร่นระยะเข้าหาอย่างฉับไว
จากนั้นก็ใช้ออกด้วยหมัดหนึ่งนิ้วอีกครั้ง ทำให้ร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระเด็นออกไปอีก
นี่คือ หมัดหนึ่งนิ้วต่อเนื่อง เป็นการใช้สุดยอดวิชาซ้ำในจุดเดิมเพื่อเพิ่มพลังทำลาย
ครานี้บุรุษในชุดวอร์มถึงกับกระอักมาคำหนึ่ง แต่เขาก็มิได้ล้มลงไป สีหน้าของเขาแปรเปลี่ยนทันที คงมีอาการจากที่การโจมตีเมื่อครู่แน่นอน
บุรุษใส่หมวกไม่คิดว่าการโจมตีของตนทำได้เพียงแค่นี้ สีหน้าเปลี่ยนเช่นกัน แต่เขายิ่งต้องสีหน้าเปลี่ยนขึ้นอีก เพราะบุรุษในชุดวอร์มพุ่งเข้ามาหาทันที
แถมในครั้งนี้พุ่งมาด้วยความเร็วและรุนแรงมากว่าเดิมอีกด้วย
ครั้งนี้อย่าแต่ว่าหลบหลีก แม้แต่วิชาการเคลื่อนแบบวงกลมแบบไอคิโด บุรุษใส่หมวกก็ใช้ออกไม่ทัน ถูกร่างของบุรุษในชุดวอร์มกระแทกเข้าเต็ม ๆ ร่างของบุรุษใส่หมวกกระเด็นออกไปหลายก้าวทันที
แต่ว่าเป็นการกระเด็นออกไปไกลเกินปกติ
เพราะนี่คือ การผ่อนแรงการโจมตีของบุรุษใส่หมวก ในเมื่อเขารู้ตัวว่ามิอาจหลบหลีกได้ทัน และมิอาจใช้การเคลื่อนที่แบบไอคิโดได้ เขาจึงตัดสินยอมรับการโจมตีนี้ โดยยอมให้ปะทะกับร่างของตน แล้วกระโดดถอยตามแรงนั้นไปด้วยเพื่อผ่อนแรงโจมตี ทำให้บาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
และไม่ได้ล้มลง เพราะทันทีที่กระเด็นห่างออกไปนั้น เขาก็พลิกตัวขึ้น แล้วหันหลังเคลื่อนตัวหนีห่างออกไป
บุรุษในชุดวอร์มก็มึนงง ว่าเหตุใดบุรุษใส่หมวกถึงไม่ยอมรับมือตัวเองต่อ ต้องหนีออกไป
แต่ว่า พอได้ยินเสียงร้องชนิดหนึ่งดังขึ้น เขาเองก็ไม่คิดจะรับมือพวกมัน รีบวิ่งหนีออกไปทางเดียวกับบุรุษใส่หมวก
เพราะว่าเสียงที่บุรุษในชุดวอร์มได้ยินนั้นคือ เสียงของสุนัข และไม่มีแค่เสียงเดียวอีกด้วย
ด้านหลังของพวกเขา มีสุนัข 10 ตัว
จากนั้นสุนัขทั้งสิบตัวก็วิ่งไล่ตามทั้งสองอย่างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนี้ก็มิอาจล่วงรู้ว่าทั้งสองจะรอดพ้นฝูงสุนัขเหล่านี้ได้เช่นไร
แต่ว่า ทั้งสองคนนี้ สู้กันทำไม?
ถุงมือ เป็ดปักกิ่ง
NOTE : เสริมความรู้จากกรรมการ "หวิ่งชุน" เป็นสำเนียงกวางตุ้ง ถ้าเป็นจีนกลางก็คือ "หย่งชุน" อันลือลั่นของ "ยิบมัน" นั่นเองครับ
รายชื่อให้เลือกตอบครับ
1. B-thirteen
2. Christian Trevelyan Grey
3. GTW
4. kasareev
5. KTHc
6. Lady Star 919
7. Luckard
8. Na(นะ)
9. peiNing
10. psycho_factory
11. Soul Master
12. Susisiri
13. Tantava
14. TOSHARE
15. turtle_cheesecake
16. WANG JIE
17. เกสรผกา
18. คีตมินทร์
19. จอมยุทธนักสืบ
20. ชายขอบคันนายาว
21. นลินมณี
22. น้องลิงน้อย
23. ยัยตัวร้ายมุกอันดา
24. รัชต์สารินท์
25. สวนดอก
26. อิสิ
*** รายชื่อ อาจมีการเปลี่ยนแปลง เพิ่มเติม หรือเอาออก ตลอดเวลา ^^
*** จะเฉลยถุงมือนี้ใน วันที่ 13 มีนาคม 2561 ***
สโลแกนของเราคือ "อยากเขียน อยากแต่ง ตอนไหนก็ได้ ไม่มีคำว่า หมดเขตเมื่อไร"
จัดไป ในแต่ละสัปดาห์ และสรุปผลคะแนนทุกครั้งที่เฉลย
ผู้ชนะที่ 1 และ/หรือ ผู้ที่ไม่มีใครทายถูก จะได้สิทธิ์ร่วมรายการ THE GLOVES FINAL 2018 ตอนปลายปีครับผม