เปรียบเทียบความใฝ่ดี คนใฝ่ชั่ว ชีวิตของชายสองคน ............................................... โดย ตระกองขวัญ

กระทู้คำถาม
ชายคนที่ 1

เกิดในชนบทเมืองอุดรธานี  ครอบครัวฐานะยากจน  อาศัยวัด บวชเรียน
ด้วยความใฝ่ดี   จากเด็กบ้านนอก  มุ่งสู่เมืองกรุง  อาศัยวัดเป็นที่อาศัย

ไม่แค่ร่ำเรียนจากตำรับตำรา  แต่ยังฝึกฝนตนเองจากประสบการณ์ตรง  
ด้วยการอาสาเป็นไกด์แลกกับการฝึกภาษากับชาวต่างประเทศที่มาเที่ยวไทย

จบปริญญา  ตอบแทนสังคม  ด้วยการอาสาไปเป็นครูดอย  สอนเด็กชาวเขา  เงินเดือนพอยาไส้

สาวชาวอังกฤษ  เป็นอาสาสมัครทำงานเพื่อชนกลุ่มน้อย  ได้เดินทางมาทำงาน ณ ที่เดียวกันกับชายคนนี้

จากพื้นฐานการฝึกฝนใฝ่ดี  ชายหนุ่มเมืองอุดรสามารถพูดคุยภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว
การสื่อสารกับอาสาสมัครสาวชาวอังกฤษจึงราบรื่น  อาจเพราะ "บุพเพสันนิวาส" ส่งเสริมด้วย

ใกล้วันจะกลับ  อาสาสมัครสาวชาวอังกฤษ  ให้หนุ่มอุดรธานีตัดสินใจ
ว่าจะอยู่บนยอดดอยต่อไป หรือตามเธอกลับอังกฤษ

หนุ่มอุดรธานียังไม่กล้าตัดสินใจ  ด้วยเหตุผลหลายประการ

ถึงวันกลับ  อาสาสมัครสาวกำลังรอขึ้นเครื่องที่เชียงใหม่  ไม่รู้ว่าหนุ่มอุดรธานีตัดสินใจอย่างไร

วันนั้น  หนุ่มอุดรธานี  ตัดสินใจฉับ  แรงแห่งความรักผลักดัน  
เก็บเสื้อผ้าชุดสองสุดยัดกระเป๋า  โกยแน่บสู่เชียงใหม่  และทันเวลาอย่างฉิวเฉียด

นั่นคือปฐมบทครอบครัวอันอบอุ่น  
สามีหล่อเกือบเท่าตระกองขวัญ ภรรยาแสนสวย  ลูกแฝดชายหญิงที่น่ารัก

ประกอบสัมมาอาชีวะด้านการศึกษา  มีสถานะทางสังคมดี  
ได้รับการยอมรับและชื่นชมยกย่องจากคนอังกฤษและคนไทยทั้งที่ทำงานและเพื่อนบ้าน

หนุ่มอุดรธานี  ทำการกุศลให้สาธารณะ  ให้ทั้งอังกฤษ ทั้งไทย  คิดเป็นจำนวนปีละหลายล้านบาท มานับสิบปี
ทำกิจกรรมเพื่อสาธารณะมากมาย  ชนิดตัวเป็นเกลียว

ล่าสุดที่กลับเมืองไทยเมื่อเดือนที่แล้ว  ขนคอมพ์กลางเก่ากลางใหม่หลายสิบเครื่องมาแจกให้โรงเรียนชนบท
เพื่อให้เด็กได้มีโอกาสใช้สื่อการเรียนอย่างทั่วถึง  

เรื่องแบบนี้  ถือเป็นวัตรปกติของหนุ่มอุดรธานี
ไม่เคยโอ้อวด  ไม่เคยประกาศนาม  





ชายคนที่ 2  

เป็นคน กทม.  เกิดในครอบครัวฐานะดีพอสมควร
เรียนจบ ม.ศ.5  จากสถานศึกษาชื่อดังใน กทม.   แต่เอนทรานซ์ไม่ติด  ไม่จบปริญญา
แต่โกหก  โม้  สร้างเรื่องว่าเอนติดจุฬาฯ  แต่สละสิทธิ์   โกหกไม่อาย

ด้วยความใฝ่ต่ำ  ไม่รำเรียนต่อ  

จนวันหนึ่ง  ก็ได้รับมรดกจากพ่อ  เป็นกิจการของครอบครัว   มูลค่าหลายสิบล้าน

ด้วยความใฝ่ต่ำ  ทำกิจการเจ๊ง  มีหนี้หลายสิบล้าน  เพราะติดการพนัน  อวดรวยใช้เงินครอบครัวอย่างสุรุ่ยสุร่าย

ทุกวันนี้  ต้องหนีหนี้สารพัด  

ชอบทำตัวเป็นคนมีระดับ อวดร่ำโอ่รวย  ตลอดชีวิตเสเพลอยู่กับสถานที่อโคจร และเรื่องการพนัน
ใช้เงินเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง  เพื่อสร้างการยอมรับ  ใช้เงินแล้วต้องโฆษณาไปทั่วเพื่อให้คนรู้คนเห็น

ด้วยความเป็นนักพนัน  จึงมีชั้นเชิงเล่ห์เหลี่ยมในการพูดจา วางบุคลิก ให้คนเชื่อและคล้อยตามได้เก่ง
ทำตัวน่าสงสารเก่ง  สร้างเรื่องใส่ร้ายคนอื่นได้แนบเนียน  รู้วิธีมัดใจคนอื่น  และชำนาญในการทำตัวให้คนเกรง

ในทางการเมือง  ก็อยากมีความหมายมีความสำคัญ  
ช่วงพันธมิตรเสื้อเหลืองครองเมือง  ก็ทำตัวเป็นเหลืองตัวพ่อ  ถึงขนาดตั้งแก๊งไล่ล่าคนเสื้อแดง  
แต่เพราะความเป็นชนนิสัยชั้นต่ำ เข้าไม่ได้กับเซเลปเสื้อเหลือง  จึงพลิกขั้วหันมาทางเสื้อแดง  
และเห็นว่า มีโอกาสที่จะสร้างบทบาทให้ตัวเอง  ก็สร้างภาพว่าเป็นผู้รักประชาธิปไตย

ชอบอวดโอ่ว่าเป็นผู้มีอิทธิพล  มีบารมี  แต่โดนเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เท่าลูกหมาจัดการจนต้องนอนคุก
ถึงวันนี้  ยังไม่กล้าเอ่ยชื่อเด็กผู้หญิงคนนั้น  เพราะกลัว

ปัจจุบัน  ตำรวจสายสืบ  เล่าให้ฟังว่า  กำลังหาช่องทางจัดการ แม้จะขัดใจนาย
เพราะชายคนนี้  ใช้ชั้นบนของบ้านเปิดบ่อนการพนัน






เปรียบเทียบให้เห็น  ความใฝ่ดี  คนใฝ่ชั่ว

ชีวิตคนบางคน  ใกล้ถึงจุดจบเต็มที  เต็มที่ไม่เกินห้าปีจากวันนี้
เพราะเลิกนิสัยนักพนันไม่ได้  ชอบอวดโอ่  ชอบกร่าง โม้ โกหก  ข่มขู่  สร้างเรื่องกล่าวหาใส่ร้ายคนไปทั่ว

สร้างศัตรูไว้มาก  เพื่อนเหลือน้อยลง ๆ ทุกวัน

หน้ากากที่สวม  หลุดลุ่ยลอกออกทุกวัน



ชีวิตคนเรา  ไม่มีโอกาสให้แก้ตัวหลายครั้งนัก
หากยังมีเวลา  ยังมีโอกาส  ก็จงรับไว้  อย่าถือดี  อย่ามัวเมาจนทิ้งโอกาสซ้ำซาก

อย่างน้อย  ยังมีเมีย มีลูกคอยเป็นแรงใจ
ทิ้งพวกเขามานาน  แต่ก็ยังไม่สายที่จะกลับไปหาพวกเขา

สังคมภายนอก  มันแค่เปลือก ไม่ใช่แก่น   อย่าเพริดหลงจนขาดสติ




ทำดีได้ดี  ทำชั่วได้ชั่ว

รักการทำชั่ว  
บทสุดท้าย  ไม่คุก  ก็ฆ่าตัวตาย
ไม่เป็นไร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่