มาอ่านบทความที่น่าสนใจกันหน่อยค่ะ....👍👍👍👍👍👍
นับเป็นผลงานชิ้นโบแดงสำหรับอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งจะไม่มีทางได้เห็นในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั่นคือการสาง 2 คดีมหกรรมโคตรโกงฝีมืออัปยศรัฐบาลเลือกตั้งนั่นคือคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ธุรกิจตระกูลชิน กับมหากาพย์คดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านซึ่งยืดเยื้อมานานนับสิบปี
ในคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ตระกูลชินยุครัฐบาลทักษิณเป็นคดีเก่าที่ศาลต้องสั่งพักคดีชั่วคราวเนื่องจากจำเลยคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก หลบหนีออกนอกประเทศซึ่งกฎหมายเดิมกำหนดไว้ว่า หากจำเลยไม่มาปรากฏตัวต่อศาลก็ไม่สามารถเดินหน้าพิจารณาคดีได้ แต่ในยุคคสช.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ผ่านร่างกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญาฉบับแก้ไขใหม่ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะมีสาระสำคัญเป็นการอุดช่องโหว่แก้เผ็ดจำเลยที่หนีคดีไปเสพสุขอยู่ในต่างแดน โดยกำหนดให้ศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ซึ่งทำให้ต้องจำหน่ายคดีชั่วคราวเนื่องจากจำเลยหนีคดี สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามกระบวนการปกติ
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2560 สำนักงานอัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเดินหน้าคดีที่เคยยื่นฟ้อง นายทักษิณ ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตด้วยการตราพระราชกำหนดอันเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)ทำให้รัฐเสียหายเป็นมูลค่า 66,000 ล้านบาท
ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาลับหลังให้ออกหมายจับ นายทักษิณ และคดีจะเดินหน้าพิจารณาไปตามกระบวนการซึ่งหากมีคำพิพากษาว่า นายทักษิณ มีความผิดจริงก็อาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับรัฐ
นอกจากหมายจับคดีล่าสุดแล้ว นายทักษิณ เคยถูกออกหมายจับอีก 5 คดี ประกอบด้วย คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก คดีทุจริตธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯหรือเอกซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อสินค้าด้านสื่อสารโทรคมนาคมของตระกูลชิน คดีทุจริตหวยบนดินทำให้รัฐเสียหายหลายหมื่นล้านบาท คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ทำให้รัฐเสียหายราว 12,000 ล้านบาท และคดีที่กองทัพบกยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท ยังไม่รวมคดีทุจริตอีกจำนวนมากที่กำลังทยอยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
มหกรรมโคตรโกงอีกคดีหนึ่งคือคดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่มีการอนุมัติในยุครัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้รัฐเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเครื่องบำบัดน้ำเสียจนปัจจุบันก็ยังทิ้งร้างกลายเป็นสุสานแห่งความวิบัติของแผ่นดิน โดยมหกรรมโคตรโกงโครงการนี้เป็นการสมคบกันโกงชาติปล้นแผ่นดินระหว่างผู้มีอำนาจทางการเมืองขณะนั้นหลายคนรวมทั้งบริษัทเอกชนโดยโกงทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดหาที่ดินนับพันไร่ในอำเภอคลองด่าน ซึ่งนักการเมืองกว้านซื้อที่ดินที่จะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียไว้ล่วงหน้าในราคาถูก จากนั้นมีการอนุมัติโครงการโดยรัฐซื้อที่ดินจากนักการเมืองในราคาสูงกว่าราคากลางหลายเท่าตัว จากนั้นมีการโกงในทุกขั้นตอน จนภายหลังมีการฟ้องร้องต่อศาลว่ามีการทุจริตทำให้ต้องยุติโครงการ ขณะที่ฝ่ายเอกชนกลับฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐเป็นเงินกว่า 9,000 ล้านบาท หรือที่เรียกว่าคดีค่าโง่บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
เมื่อคสช.เข้ามามีอำนาจได้รื้อฟื้นคดีทุจริตทั้งหลายที่สร้างความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินซึ่งรวมทั้งคดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านจนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งในที่สุดคดีมหกรรมโคตรโกงที่ยืดเยื้อมานานนับสิบปีก็มาถึงบทสรุปเมื่อศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาให้ถอนมติของคณะอนุญาโตตุลาการในอดีตที่ให้รัฐชดใช้ความเสียหายแก่บริษัทเอกชนกว่า 9,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการทุจริต
คดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ศาลเคยมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย ซึ่งขณะนี้หลบหนีโทษความผิดออกนอกประเทศ
จากตัวอย่างมหากาพย์คดีมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินทั้ง 2 คดีดังกล่าวควรที่อำนาจรัฐคสช.จะขยายผลให้ถึงที่สุดเพื่อติดตามยึดทรัพย์จากเหล่าคนโกงเพื่อนำคืนกลับมาเป็นของแผ่นดินจึงจะถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงอย่างสมบูรณ์แบบ
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/politic/columnist/34403
ฝีมือในยุคลุงตู่พออวยได้ใช่ไหมล่ะคะ....?
บรรดาขาป่วนทั้งหลาย.....
🎀👌~มาลาริน~ฝีมือลุงตู่....ผลงานโบแดงยุคคสช. สาง 2 คดีใหญ่ประจานนักโกงเมือง
นับเป็นผลงานชิ้นโบแดงสำหรับอำนาจรัฐคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ซึ่งจะไม่มีทางได้เห็นในยุครัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งนั่นคือการสาง 2 คดีมหกรรมโคตรโกงฝีมืออัปยศรัฐบาลเลือกตั้งนั่นคือคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ธุรกิจตระกูลชิน กับมหากาพย์คดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านซึ่งยืดเยื้อมานานนับสิบปี
ในคดีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตเอื้อประโยชน์ตระกูลชินยุครัฐบาลทักษิณเป็นคดีเก่าที่ศาลต้องสั่งพักคดีชั่วคราวเนื่องจากจำเลยคือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯนักโทษหนีคุก หลบหนีออกนอกประเทศซึ่งกฎหมายเดิมกำหนดไว้ว่า หากจำเลยไม่มาปรากฏตัวต่อศาลก็ไม่สามารถเดินหน้าพิจารณาคดีได้ แต่ในยุคคสช.สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ได้ผ่านร่างกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญาฉบับแก้ไขใหม่ซึ่งมีความสำคัญมากเพราะมีสาระสำคัญเป็นการอุดช่องโหว่แก้เผ็ดจำเลยที่หนีคดีไปเสพสุขอยู่ในต่างแดน โดยกำหนดให้ศาลสามารถพิจารณาคดีลับหลังจำเลยได้ซึ่งทำให้ต้องจำหน่ายคดีชั่วคราวเนื่องจากจำเลยหนีคดี สามารถเดินหน้าต่อไปได้ตามกระบวนการปกติ
เมื่อวันที่ 21 พ.ย.2560 สำนักงานอัยการสูงสุดยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเดินหน้าคดีที่เคยยื่นฟ้อง นายทักษิณ ในความผิดฐานเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นส่วนหรือบริษัทที่รับสัมปทานหรือเข้าเป็นคู่สัญญาในลักษณะดังกล่าว เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้าไปมีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตัวเองหรือผู้อื่น เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใดหรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต กรณีแปลงค่าสัมปทานกิจการโทรคมนาคมเป็นภาษีสรรพสามิตด้วยการตราพระราชกำหนดอันเอื้อประโยชน์ต่อธุรกิจบริษัทชินคอร์ปอเรชั่นจำกัด(มหาชน)ทำให้รัฐเสียหายเป็นมูลค่า 66,000 ล้านบาท
ล่าสุดศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาลับหลังให้ออกหมายจับ นายทักษิณ และคดีจะเดินหน้าพิจารณาไปตามกระบวนการซึ่งหากมีคำพิพากษาว่า นายทักษิณ มีความผิดจริงก็อาจนำไปสู่การยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินตามมูลค่าความเสียหายที่เกิดกับรัฐ
นอกจากหมายจับคดีล่าสุดแล้ว นายทักษิณ เคยถูกออกหมายจับอีก 5 คดี ประกอบด้วย คดีทุจริตจัดซื้อที่ดินย่านรัชดาภิเษก คดีทุจริตธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าฯหรือเอกซิมแบงก์ ปล่อยกู้ให้รัฐบาลพม่า 4,000 ล้านบาท เพื่อนำไปซื้อสินค้าด้านสื่อสารโทรคมนาคมของตระกูลชิน คดีทุจริตหวยบนดินทำให้รัฐเสียหายหลายหมื่นล้านบาท คดีทุจริตธนาคารกรุงไทยปล่อยกู้ให้กลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ทำให้รัฐเสียหายราว 12,000 ล้านบาท และคดีที่กองทัพบกยื่นฟ้องในข้อหาหมิ่นประมาท ยังไม่รวมคดีทุจริตอีกจำนวนมากที่กำลังทยอยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
มหกรรมโคตรโกงอีกคดีหนึ่งคือคดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านที่มีการอนุมัติในยุครัฐบาล นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้รัฐเสียหายมูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเครื่องบำบัดน้ำเสียจนปัจจุบันก็ยังทิ้งร้างกลายเป็นสุสานแห่งความวิบัติของแผ่นดิน โดยมหกรรมโคตรโกงโครงการนี้เป็นการสมคบกันโกงชาติปล้นแผ่นดินระหว่างผู้มีอำนาจทางการเมืองขณะนั้นหลายคนรวมทั้งบริษัทเอกชนโดยโกงทุกขั้นตอนตั้งแต่การจัดหาที่ดินนับพันไร่ในอำเภอคลองด่าน ซึ่งนักการเมืองกว้านซื้อที่ดินที่จะสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียไว้ล่วงหน้าในราคาถูก จากนั้นมีการอนุมัติโครงการโดยรัฐซื้อที่ดินจากนักการเมืองในราคาสูงกว่าราคากลางหลายเท่าตัว จากนั้นมีการโกงในทุกขั้นตอน จนภายหลังมีการฟ้องร้องต่อศาลว่ามีการทุจริตทำให้ต้องยุติโครงการ ขณะที่ฝ่ายเอกชนกลับฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐเป็นเงินกว่า 9,000 ล้านบาท หรือที่เรียกว่าคดีค่าโง่บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน
เมื่อคสช.เข้ามามีอำนาจได้รื้อฟื้นคดีทุจริตทั้งหลายที่สร้างความเสียหายแก่รัฐอย่างร้ายแรงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของแผ่นดินซึ่งรวมทั้งคดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านจนนำไปสู่การยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง ซึ่งในที่สุดคดีมหกรรมโคตรโกงที่ยืดเยื้อมานานนับสิบปีก็มาถึงบทสรุปเมื่อศาลปกครองกลางอ่านคำพิพากษาให้ถอนมติของคณะอนุญาโตตุลาการในอดีตที่ให้รัฐชดใช้ความเสียหายแก่บริษัทเอกชนกว่า 9,000 ล้านบาท เนื่องจากมีการทุจริต
คดีทุจริตโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ศาลเคยมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งในจำนวนนี้รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรมช.มหาดไทย ซึ่งขณะนี้หลบหนีโทษความผิดออกนอกประเทศ
จากตัวอย่างมหากาพย์คดีมหกรรมโกงชาติปล้นแผ่นดินทั้ง 2 คดีดังกล่าวควรที่อำนาจรัฐคสช.จะขยายผลให้ถึงที่สุดเพื่อติดตามยึดทรัพย์จากเหล่าคนโกงเพื่อนำคืนกลับมาเป็นของแผ่นดินจึงจะถือเป็นผลงานชิ้นโบแดงอย่างสมบูรณ์แบบ
ทีมข่าวการเมือง
http://www.naewna.com/politic/columnist/34403
ฝีมือในยุคลุงตู่พออวยได้ใช่ไหมล่ะคะ....?
บรรดาขาป่วนทั้งหลาย.....