สวัสดีครับ (บอกก่อนว่า ผมเป็นเกย์ครับไม่ใช่ชายเเท้)
พอดีวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองครับ เกิดขึ้นกับเราและเพือนใน facebookคนนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้คบกับคัยเลยครับ
แต่ก็มีมาคุยๆแปบๆเขากะหาย อีกอย่างผมทำงานละก็เรียนด้วยครับ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะคุยกับใครจิงจัง
จนมาวันนึ่ง ผมได้คุยกับคนๆนึ่ง ซึ้งผมก็เห็นนะว่าเค้าชอบมากดไลย์ กดหัวใจผมอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ผมไม่มีแฟน แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร
จนเขาเข้ามาทักทาย เราก็คุยๆกันครับ แต่เขาก็เข้าใจเราว่าเราทำงานระก็เรียนด้วย เลยอาจไม่มีเวลาที่จะตอบแชท เขาเป็นคนเเรกที่เข้ามาคุยเเล้วไม่หาย
เค้าเป็นเหมือนเพือนที่ดีคนนึ่งที่สามารถคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ซึ้งจนเราเริ่มหวั่นไหว ตลอดเวลา3เดือน ที่คุยเป็นเพือนกันมา
ผมมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้กับอะไรหลายๆอย่างที่จะเข้ามาในชีวิตผม ทั้งเรื่องที่มันเกิดขึ้นเเล้วเขาก็ค่อยปลอบผม ทั้งเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้นเเต่เรา
ไม่เห็นหนทางที่เราจะแก้ไขมันเขาก็ค่อยช่วยเหลือ ตอนเเรกผมเฉยๆกับคนนี้มาก เพราะเขาไม่ใช่สเป๊กผม แต่สุดท้ายใจผมเองที่อ่อนไหว
วันนึ่งผมอยากจะนั่งคุยนั่งสนทนากับเขา เจอกันตัวเป็นๆ เลยนัดเจอที่ร้านอาหารเขาก็มาตามนัด เราคุยๆกันเรื้องชีวิตตัวเอง ตามประสา
คนที่เคยเจอกันเป็นครั้งแรก แล้วเราก็ชวนกันกินข้าว ดูหนัง หรือเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ จนผมย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ผมนั้นรักเค้าแล้วใช่ไหม
ผมยอมเปิดใจ เขายอมเปิดใจ ในทุกๆเรื่อง เขาเข้าใจในความที่เราเป็นคนไม่มีเวลา เข้าใจว่าเราต้องเหนื่อย เราต้องทำงาน ต้องเรียน
ตอนนี้ผมกับเขาก็คุยกันไปเรื่อยๆ คุยกันไปแบบนี้ จนเราคิดว่าเราควรพร้อมหรือยัง ที่จะเดินไปข้างหน้า พร้อมๆกับคนๆนี้
เคยเฉยๆกับใครแล้วพอได้รู้จักได้เจอ แล้วรู้สึกดีเหมือนกันไหมครับ
พอดีวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ของตัวเองครับ เกิดขึ้นกับเราและเพือนใน facebookคนนึ่ง ซึ่งตอนนี้ผมไม่ได้คบกับคัยเลยครับ
แต่ก็มีมาคุยๆแปบๆเขากะหาย อีกอย่างผมทำงานละก็เรียนด้วยครับ ทำให้ไม่ค่อยมีเวลาที่จะคุยกับใครจิงจัง
จนมาวันนึ่ง ผมได้คุยกับคนๆนึ่ง ซึ้งผมก็เห็นนะว่าเค้าชอบมากดไลย์ กดหัวใจผมอยู่บ่อยๆ ตั้งแต่ผมไม่มีแฟน แต่ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไร
จนเขาเข้ามาทักทาย เราก็คุยๆกันครับ แต่เขาก็เข้าใจเราว่าเราทำงานระก็เรียนด้วย เลยอาจไม่มีเวลาที่จะตอบแชท เขาเป็นคนเเรกที่เข้ามาคุยเเล้วไม่หาย
เค้าเป็นเหมือนเพือนที่ดีคนนึ่งที่สามารถคุยกับเราได้ทุกเรื่อง ซึ้งจนเราเริ่มหวั่นไหว ตลอดเวลา3เดือน ที่คุยเป็นเพือนกันมา
ผมมีกำลังใจที่จะลุกขึ้นสู้กับอะไรหลายๆอย่างที่จะเข้ามาในชีวิตผม ทั้งเรื่องที่มันเกิดขึ้นเเล้วเขาก็ค่อยปลอบผม ทั้งเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้นเเต่เรา
ไม่เห็นหนทางที่เราจะแก้ไขมันเขาก็ค่อยช่วยเหลือ ตอนเเรกผมเฉยๆกับคนนี้มาก เพราะเขาไม่ใช่สเป๊กผม แต่สุดท้ายใจผมเองที่อ่อนไหว
วันนึ่งผมอยากจะนั่งคุยนั่งสนทนากับเขา เจอกันตัวเป็นๆ เลยนัดเจอที่ร้านอาหารเขาก็มาตามนัด เราคุยๆกันเรื้องชีวิตตัวเอง ตามประสา
คนที่เคยเจอกันเป็นครั้งแรก แล้วเราก็ชวนกันกินข้าว ดูหนัง หรือเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ จนผมย้อนกลับมาถามตัวเองว่า ผมนั้นรักเค้าแล้วใช่ไหม
ผมยอมเปิดใจ เขายอมเปิดใจ ในทุกๆเรื่อง เขาเข้าใจในความที่เราเป็นคนไม่มีเวลา เข้าใจว่าเราต้องเหนื่อย เราต้องทำงาน ต้องเรียน
ตอนนี้ผมกับเขาก็คุยกันไปเรื่อยๆ คุยกันไปแบบนี้ จนเราคิดว่าเราควรพร้อมหรือยัง ที่จะเดินไปข้างหน้า พร้อมๆกับคนๆนี้