เริ่มต้นขอเกริ่นก่อนเลยว่า เราเป็นผู้เอาประกันอีกรายหนึ่งของ บ.อลิอันซ์อยุธยา ที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาเขียนเรื่องราวความไม่เป็นธรรม ของบริษัทที่ควรมีธรรมาภิบาลในการดำเนินงานแห่งนี้ รวมถึงพนักงานของบริษัทที่สักแต่ว่าจะพูดบิดเบือนรายละเอียด หมกเม็ด เพื่อให้ลูกค้ายอมทำประกัน และที่เจ็บใจที่สุดก็คือตัวเองที่ทำไมถึงยอมทำประกันโดยไม่ปรึกษาใคร ไม่ละเอียดรอบคอบจนนำมาซึ่งความเสียหายในวันนี้ เมื่อเกิดเรื่องถึงเพิ่งมาค้นในพันทิป พบกรณีของคุณ อโลฮ่า ชะช่ะช่า
https://ppantip.com/topic/33780342 ที่คล้ายกับเรื่องของเรา
เริ่มจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วมีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามีแคมเปญพิเศษให้กับสมาชิบัตรเครดิต KTC ที่ประวัติดี โดยนำเสนอประกัน บลาๆๆๆ ได้ยินแค่คำว่าประกัน”เราก็ถอยแล้ว เราก็เลยบอกไปว่าเรามีประกันแล้ว พนง.คนนั้นก็บอกว่า พี่คะประกันอันนี้เป็นรูปแบบของการออมทรัพย์ไม่เหมือนประกันทั่วไปนะคะ แล้วพี่ก็จะได้ปันผล 3.5% ซึ่งมากกว่าดอกเบี้ยที่พี่ฝากธนาคาร (ประเด็นนี้ทำให้เราสนใจขึ้นมา) พอพนง.เห็นเราสนใจก็นำเสนอซึ่งให้ออมเดือนละ 3,150 บาท ถ้าพี่ยกเลิกก่อนเวลา(อันนี้ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี) ปันผลที่จะได้ 3.5% จะถูกยกเลิก เราถามนะคะว่าแล้วเงินต้นจะได้คืนไหม ทางพนง.ก็บอกว่าได้คืน เป็นอันว่าเราตกลงทำด้วยความที่อยากออมเงินแล้วได้ปันผล 3.5% ด้วย (ใจง่ายและโง่มากเลย) ตอนที่เล่มกรมธรรม์ส่งมายอมรับค่ะว่าไม่ได้อ่านละเอียดนัก เพราะอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจภาษา และศัพท์เฉพาะทางการประกัน เราได้แต่ยึดติดในคำพูดของพนง.ที่ของ บ.อลิอันซ์อยุธยา ว่านี่คือการทำประกันในรูปแบบออมทรัพย์ มีปันผลซึ่งเมื่อยกเลิกจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน จนเมื่อครบ 1 ปี ก็มีพนง.เป็นผู้ชายจาก บ.อลิอันซ์อยุธยา โทรเข้ามาถามเราว่าประกันตัวนี่ของพี่ที่ทำไว้ครบ 1 ปี แล้วพี่จะส่งต่อไหม เราก็เออยังส่งไหว งั้นก็ส่งต่อไป อันนี้ตามปกติถ้าเป็นประกันทั่วไปก็คงไม่มาถามว่าจะส่งต่อไหม ประจวบกับเท่าที่จำได้ว่าพนง.ที่ขายประกันแบบออมทรัพย์เคยบอกว่าต้องส่งไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนดถึงจะได้ปันผล 3.5% เราก็เลยยังส่งต่อไปจนครบ 2 ปี พอดีเราต้องใช้เงินก็เลยอ่ะงั้นเอาเงินจากการออมนี่ล่ะมาใช้ เราก็เลยโทรไปคอลเซนเตอร์ บอกว่าเราขอยุติการส่งประกันแบบออมทรัพย์ตัวนี้ สรุปคำตอบที่เราได้คือ ที่เราทำไปเป็นประกันชีวิต! ไม่ใช่การประกันแบบออมทรัพย์ตามที่พนง.คนนั้นบอกเรา ถ้ายกเลิกเราจะได้เงินเวนคืนเพียง 23,300 บาท จากที่เราส่งไป 75,600 บาท เงินเราที่พนักงานขายคนนั้นบอกว่าเป็นเงินออมมันจะหายไป 52,300 บาท นี่คืออะไรคะเงินที่เรากัดฟันเก็บออมทั้งๆที่เรามีภาระต้องส่งบ้านและอื่นๆที่เราต้องรับผิดชอบ เงินจำนวนนี้ไม่น้อยเลยสำหรับเรา บ.อลิอันซ์อยุธยา คะ เราไม่ทราบว่าคุณอบรมพนง.ของคุณให้ชักจูงลูกค้า โดยใช้แรงจูงใจว่ามันคือออมทรัพย์ที่มีปันผล 3.5% หรือเป็นที่ตัวพนง.อลิอันซ์อยุธยาเองที่หัวหมอ ให้ข้อมูลลูกค้าโดยบิดเบือนรายละเอียดข้อเท็จจริง เพราะเท่าที่อ่านมา การพูดชักจูงลูกค้า มันเป็นแพทเทิร์นเดียวกันหมดเลย คุณใช้ความไม่รู้ การให้ความหวังในการเก็บออม บวกกับเราไม่คิดว่าบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับต้นๆของประเทศจะมีความไม่ตรงไปตรงมา อย่างนี้เราควรจะทำและรู้สึกยังไงดีกับการหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
ซึ่งตอนนี้เราได้ดำเนินการโดย
1.ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ ของ บ.อลิอันซ์อยุธยา ทางพนง.ขอเวลาส่งเรื่องเพื่อตรวจสอบเทปเสียง ทั้งของพนง.ที่เสนอขายในคราวแรก และพนง.ที่โทรมาถามว่าส่งเงินต่อหรือไม่ ก็รอกันต่อไป
2. โทรขอคำแนะนำจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทางคปภ.ก็ไม่สามารถให้คำแนะนำได้มากนัก ต้องรอทาง บ.อลิอันซ์อยุธยา ติดต่อกลับมาจึงจะมีแนวทางในการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ข้อมูลไม่ชัดเจนของพนง.คนนั้น
3. จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราสามารคำนวณเงินทั้งการเวณคืนเป็น และเงินได้เมื่อครบระยะเวลาประกัน 15 ปี ตามที่เราเข้าใจ (แบบซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 15/7 มีเงินปันผล ทุนประกัน 100,000 บาท)
สรุปเราต้องจ่ายให้บ.อลิอันซ์อยุธยา 3,150 X 12 X 7 = 264,600 บาท
ปีที่ 2-7 ปันผล 3.5% 3.5X100,000/100 = 3,500X 6 ปี = 21,000 บาท
ปีที่ 8-14 ปันผล 5% 5X100,000/100 = 5,000X 7 ปี = 35,000 บาท
ปีที่ 15 ครบกำหนดสัญญา 210% 210X100,000/100 = 210,000 บาท
(เงินปันผล + เงินครบกำหนดสัญญา) - เงินที่เราต้องจ่ายครบ 7 ปี คือ (21,000+ 35,000+210,000) - 264,600 = 1,400 บาท
1,400 บาท นี่คือปันผลที่เราจะรับจากการกัดฟันเก็บออมของเราในปีที่ 15 จากการชักจูงของพนง.บ.อลิอันซ์อยุธยา ให้ทำประกันเงินออมซึ่งดอกดีกว่าการฝากกับธนาคาร
เราอยากแชร์ให้ทุกคนได้รู้ และเท่าทันกับความไม่ตรงไปตรงมา บิดเบือนรายละเอียดข้อเท็จจริงของการขายประกัน และอยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงมาจัดการอย่างจริงจังกับบริษัทประกันหรือพนักงาน ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน ใช้ช่องโหว่ของความไม่รู้ของประชาชน มาหาประโยชน์โดยมิชอบบนความเดือดร้องของประชาชนที่ทำมาหากินอย่างสุจริต
ขอบคุณทุกคำแนะนำ และความเห็นล่วงหน้า และขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ
โดนพนักงานขายประกัน ทำให้เข้าใจว่าเป็นการออมเงินแต่จริงๆมันคือการทำประกันกับอลิอันซ์
เริ่มจากเมื่อ 2 ปีที่แล้วมีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่ามีแคมเปญพิเศษให้กับสมาชิบัตรเครดิต KTC ที่ประวัติดี โดยนำเสนอประกัน บลาๆๆๆ ได้ยินแค่คำว่าประกัน”เราก็ถอยแล้ว เราก็เลยบอกไปว่าเรามีประกันแล้ว พนง.คนนั้นก็บอกว่า พี่คะประกันอันนี้เป็นรูปแบบของการออมทรัพย์ไม่เหมือนประกันทั่วไปนะคะ แล้วพี่ก็จะได้ปันผล 3.5% ซึ่งมากกว่าดอกเบี้ยที่พี่ฝากธนาคาร (ประเด็นนี้ทำให้เราสนใจขึ้นมา) พอพนง.เห็นเราสนใจก็นำเสนอซึ่งให้ออมเดือนละ 3,150 บาท ถ้าพี่ยกเลิกก่อนเวลา(อันนี้ไม่แน่ใจว่าช่วงเวลา 6 เดือน หรือ 1 ปี) ปันผลที่จะได้ 3.5% จะถูกยกเลิก เราถามนะคะว่าแล้วเงินต้นจะได้คืนไหม ทางพนง.ก็บอกว่าได้คืน เป็นอันว่าเราตกลงทำด้วยความที่อยากออมเงินแล้วได้ปันผล 3.5% ด้วย (ใจง่ายและโง่มากเลย) ตอนที่เล่มกรมธรรม์ส่งมายอมรับค่ะว่าไม่ได้อ่านละเอียดนัก เพราะอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจภาษา และศัพท์เฉพาะทางการประกัน เราได้แต่ยึดติดในคำพูดของพนง.ที่ของ บ.อลิอันซ์อยุธยา ว่านี่คือการทำประกันในรูปแบบออมทรัพย์ มีปันผลซึ่งเมื่อยกเลิกจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน จนเมื่อครบ 1 ปี ก็มีพนง.เป็นผู้ชายจาก บ.อลิอันซ์อยุธยา โทรเข้ามาถามเราว่าประกันตัวนี่ของพี่ที่ทำไว้ครบ 1 ปี แล้วพี่จะส่งต่อไหม เราก็เออยังส่งไหว งั้นก็ส่งต่อไป อันนี้ตามปกติถ้าเป็นประกันทั่วไปก็คงไม่มาถามว่าจะส่งต่อไหม ประจวบกับเท่าที่จำได้ว่าพนง.ที่ขายประกันแบบออมทรัพย์เคยบอกว่าต้องส่งไม่น้อยกว่าเวลาที่กำหนดถึงจะได้ปันผล 3.5% เราก็เลยยังส่งต่อไปจนครบ 2 ปี พอดีเราต้องใช้เงินก็เลยอ่ะงั้นเอาเงินจากการออมนี่ล่ะมาใช้ เราก็เลยโทรไปคอลเซนเตอร์ บอกว่าเราขอยุติการส่งประกันแบบออมทรัพย์ตัวนี้ สรุปคำตอบที่เราได้คือ ที่เราทำไปเป็นประกันชีวิต! ไม่ใช่การประกันแบบออมทรัพย์ตามที่พนง.คนนั้นบอกเรา ถ้ายกเลิกเราจะได้เงินเวนคืนเพียง 23,300 บาท จากที่เราส่งไป 75,600 บาท เงินเราที่พนักงานขายคนนั้นบอกว่าเป็นเงินออมมันจะหายไป 52,300 บาท นี่คืออะไรคะเงินที่เรากัดฟันเก็บออมทั้งๆที่เรามีภาระต้องส่งบ้านและอื่นๆที่เราต้องรับผิดชอบ เงินจำนวนนี้ไม่น้อยเลยสำหรับเรา บ.อลิอันซ์อยุธยา คะ เราไม่ทราบว่าคุณอบรมพนง.ของคุณให้ชักจูงลูกค้า โดยใช้แรงจูงใจว่ามันคือออมทรัพย์ที่มีปันผล 3.5% หรือเป็นที่ตัวพนง.อลิอันซ์อยุธยาเองที่หัวหมอ ให้ข้อมูลลูกค้าโดยบิดเบือนรายละเอียดข้อเท็จจริง เพราะเท่าที่อ่านมา การพูดชักจูงลูกค้า มันเป็นแพทเทิร์นเดียวกันหมดเลย คุณใช้ความไม่รู้ การให้ความหวังในการเก็บออม บวกกับเราไม่คิดว่าบริษัทประกันขนาดใหญ่ระดับต้นๆของประเทศจะมีความไม่ตรงไปตรงมา อย่างนี้เราควรจะทำและรู้สึกยังไงดีกับการหากินบนความเดือดร้อนของประชาชน
ซึ่งตอนนี้เราได้ดำเนินการโดย
1.ติดต่อคอลเซ็นเตอร์ ของ บ.อลิอันซ์อยุธยา ทางพนง.ขอเวลาส่งเรื่องเพื่อตรวจสอบเทปเสียง ทั้งของพนง.ที่เสนอขายในคราวแรก และพนง.ที่โทรมาถามว่าส่งเงินต่อหรือไม่ ก็รอกันต่อไป
2. โทรขอคำแนะนำจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ทางคปภ.ก็ไม่สามารถให้คำแนะนำได้มากนัก ต้องรอทาง บ.อลิอันซ์อยุธยา ติดต่อกลับมาจึงจะมีแนวทางในการดำเนินการเกี่ยวกับการให้ข้อมูลไม่ชัดเจนของพนง.คนนั้น
3. จากเหตุการณ์นี้ทำให้เราสามารคำนวณเงินทั้งการเวณคืนเป็น และเงินได้เมื่อครบระยะเวลาประกัน 15 ปี ตามที่เราเข้าใจ (แบบซุปเปอร์ เซฟวิ่ง 15/7 มีเงินปันผล ทุนประกัน 100,000 บาท)
สรุปเราต้องจ่ายให้บ.อลิอันซ์อยุธยา 3,150 X 12 X 7 = 264,600 บาท
ปีที่ 2-7 ปันผล 3.5% 3.5X100,000/100 = 3,500X 6 ปี = 21,000 บาท
ปีที่ 8-14 ปันผล 5% 5X100,000/100 = 5,000X 7 ปี = 35,000 บาท
ปีที่ 15 ครบกำหนดสัญญา 210% 210X100,000/100 = 210,000 บาท
(เงินปันผล + เงินครบกำหนดสัญญา) - เงินที่เราต้องจ่ายครบ 7 ปี คือ (21,000+ 35,000+210,000) - 264,600 = 1,400 บาท
1,400 บาท นี่คือปันผลที่เราจะรับจากการกัดฟันเก็บออมของเราในปีที่ 15 จากการชักจูงของพนง.บ.อลิอันซ์อยุธยา ให้ทำประกันเงินออมซึ่งดอกดีกว่าการฝากกับธนาคาร
เราอยากแชร์ให้ทุกคนได้รู้ และเท่าทันกับความไม่ตรงไปตรงมา บิดเบือนรายละเอียดข้อเท็จจริงของการขายประกัน และอยากให้หน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยลงมาจัดการอย่างจริงจังกับบริษัทประกันหรือพนักงาน ที่ให้ข้อมูลบิดเบือน ใช้ช่องโหว่ของความไม่รู้ของประชาชน มาหาประโยชน์โดยมิชอบบนความเดือดร้องของประชาชนที่ทำมาหากินอย่างสุจริต
ขอบคุณทุกคำแนะนำ และความเห็นล่วงหน้า และขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่อ่านจนจบนะคะ