คนที่มีประกันสุขภาพ นอนโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจจริงหรือ???????????

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับ ผมเป็นคนชอบอ่านกระทู้ในพันทิปมากโดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสุขภาพ และวันนี้ผมก็จะมาตั้งกระทู้แรกในชีวิตของผม ซึ่งผมว่าเรื่องที่ผมกำลังจะพูดไม่น่าจะมีผมคนเดียวที่เป็น แพลมเยอะน่าเบื่อเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าครับ
ในยุคปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บมีมาใหม่มากมาย คนเราก็สนใจในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น และเริ่มเป็นห่วงตังเองรวมถึงครอบครัวมากขึ้น จึงมีคนสนใจทำประกันสุขภาพกันมากขึ้นทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพราะอย่างน้อยก็อุ่นใจ ( หรือเปล่า ) ถ้าหากเจ็บป่วยไข้ไม่สบาย ประกันก็จะรับผิดชอบค่าจ่ายแทนเรา ซึ่งประเด็นของกระทู้นี้มันอยู่ตรงนี้ครับ "คนที่มีประสุขภาพ นอนโรงพยาบาลได้อย่างสบายใจจิงหรือ" ผมตอบได้เลยว่ามีผมคนนึงละครับที่เวลาป่วยไข้ ไม่สบายต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล พูดง่ายๆ คือต้องนอนโรงพยาบาลอะครับ ผมจะรู้สึกจิตตก ไม่สบายใจ ทั้งเรื่องอาการป่วยและเรื่องการรักษาตัวครั้งนี้ประกันจะจ่ายค่าใช้จ่ายให้เราหรือเปล่า จะลุ้นที่สุดคือวันสุดท้ายที่คุณหมอให้กลับบ้านได้ ใจจดจ่ออยู่ที่เครื่องโทรศัพท์ของโรงพยาบาลที่เจ้าหน้าที่การเงินจะคอยแจ้งเราว่าได้ดำเนินการไปถึงไหนแล้ว และโทรศัพท์มือถือของตัวเองว่าจะมี SMS มาแจ้งว่าอย่างไร ถ้าได้รับแจ้งค่าจากเจ้าหน้าที่การเงินว่าประกันอนุมัติค่าสินไหมแล้ว พร้อมกับได้รับ SMS ยื่นยันจากทางบริษัทประกัน เหมือนวันนั้นถูกหวยรางวัลใหญ่ แต่ถ้าเจ้าหน้าที่การเงินแจ้งว่าทางบริษัทประกันกำลังดำเนินการตรวจสอบเอกสารอยู่ ขอให้ทางผู้ป่วยชำระเงินไปก่อน แล้วส่งเอกสารไปทำเรื่องเคลมคืนที่หลังนี่ถึงกับเศร้าเลยนะครับ ถ้าค่าใช้จ่ายน้อยๆ ไม่เท่าไร แต่ถ้าค่าใช้จ่ายเยอะๆ คนที่ไม่พร้อมจ่ายจะทำอย่างไรครับ มีบัตรเครดิตจ่ายไปก่อนแต่เราก็ต้องมานั่งเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารเจ้าของบัตร กว่าประกันจะอนุมัติสินไหมคืน ผมว่าต้องเสียดอกเบี้ยเพียบอะครับ หรือบางที่ก็ไม่คืนเลยก็มี ( ผมอ่านเจอในกระทู้หลายกระทู้เลยในเรื่องนี้ ) ผมก็เลยมานั่งคิดดูว่าสิ่งที่ผมคิด และที่ผมกังวล จะใครเหมือนผมบ้างที่มีความรู้สึกนี้ และถ้ามีหลายคนที่คิดเหมือนผม ผมอยากถามว่านี่เรากำลังทำอะไรกันอยู่ ค่าเบี้ยประกันก็เสียปีละสี่ ห้าหมื่น แล้วต้องมานั่งลุ้นหลังการรักษาอีกว่าประกันจะจ่ายค่ารักษาหรือไม่ สู้เก็บเงินไว้รักษาตัวเองมันไม่ดีกว่าเหรอ เดี๋ยวนี้โรงพยาบาลรัฐบาลเค้าก็เริ่มพัฒนาเรื่องการให้บริการกันบ้างแล้วนะครับ คนเราต่างจิต ต่างใจ ต่างความคิด ผมคิดว่าอย่างนี้ คนอื่นจะคิดอย่างไร เรามาแชร์กันเนอะมองหลายๆ มุม มันก็ดีว่าคิดเองเออเองคนเดียว สุดท้ายแล้วก็ต้องบอกว่า "ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐ" ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่