001
"นี้..รู้เรื่องแนนห้อง 5/4 ที่ตายไปเมื่ออาทิตย์ก่อนป่าว?"
"อือๆ รู้อยู่..น่ากลัวเนอะ.."
"ใช่..แต่รู้มั้ยว่านี้น่ะมันแค่เริ่มต้นนะ"
"อะไรๆ เริ่มต้นอะไรเหรอ? คนร้ายก็ถูกจับไปแล้วนี้"
"ถ้าจบแค่นี้ล่ะก็นะ... ตำนานโรงเรียนของเราไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ? ตำนานทุก 13 ปีน่ะ"
"เอ๊ะ... แล้ว..มันเป็นยังไงอ่ะ.."
"คืองี้นะ.. เรื่องมันมีอยู่ว่า..."
....
ผมมีชื่อว่า "สิทธานต์" "สิทธานต์ ศุภเกริกไกร" เรียกว่า "อ๋อง" ก็ได้ อายุ 16 ปี อยู่ชั้นมัธยม 4 โรงเรียนฐิติวิทยาคม
ผมอาศัยอยู่ตัวคนเดียว เพราะพ่อแม่ทำงานอยู่เมืองนอก เพื่อนสนิทของผมคือ ไอซ์ หมอนี่ผมรู้จักกับมันตั้งแต่เด็ก ไอซ์มักจะมาเล่นกับผมที่บ้านประจำจนเราสนิทกันมาก ต่อมา พอร์ช เพื่อนสนิทอีกคนของผม พอร์ชมักจะเป็นหัวสมองให้กับเพื่อนในกลุ่ม เปรียบเสมือนคุณพ่อคนที่สองสำหรับผม เป็นคนที่น่าพึงพามาก และ น้ำส้ม เพื่อนผู้หญิงที่สนิทมากที่สุดในหมู่เพื่อนๆผู้หญิงในแก๊ง เธอคนนี้เป็นคนร่าเริง ชอบความสนุก ชอบออกไปเที่ยว เราทั้งสี่คนเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มแก๊งที่รักกันมากที่สุด
แต่แล้ว... ช่วงปิดเทอมขึ้นชั้นมัธยม 4 ของพวกเราก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
ทำให้เพื่อนของผม "ต้องตาย"
จะใช้คำว่า "ต้องตาย" ก็ไม่ถูกนัก อันที่จริงต้องบอกว่า พวกเขาตายเพราะความไร้เหตุผล
ความไร้เหตุผลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนคาดคิดว่าเพื่อนของผมจะต้องตาย มันเป็นการตายที่ไม่น่าให้อภัย และเป็นการตายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
นั้นเป็นเพียงเพราะผมไม่เชื่อคำเตือนจากบางสิ่ง บางสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมาแต่สมัยก่อน เพราะความคิดที่ว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็ก ทำให้พวกผม..ไม่สิ ผม..ต้องตกนรกทั้งเป็น
"จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน"
ทักครั้งแรก ไอซ์ตาย ทั้งครั้งที่สอง พอร์ชตาย ทักครั้งที่สาม น้ำส้มหายตัวไป ต่อมาผมฝันว่าผมตาย และครั้งต่อๆมา ผมมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ผมมองเห็นวิญญาณได้....
และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมก็เข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าตกรรมนักเรียนหญิงในห้องน้ำโรงเรียน และผมก็ได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาสามารถมองเห็นวิญญาณได้เหมือนกับผม และเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้
บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีสาเหตุ ไม่มีเหตุผล และไร้ซึ้งความเมตตา จนบางทีผมคิดว่า ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย
ทำไมต้องเป็นผม ทำไมผมถึงรอด แล้วเพื่อนไม่รอด ทำไม่ผมถึงไม่ตาย ทั้งๆที่คนที่ถูกจิ้งจกทักคือผม จนถึงตอนนี้ผมยังหาคำตอบของเรื่องนั้นไม่เจอ...
เช้าวันที่ 15 กันยายน ปี 25xx ผมยืนรอรถส้ม(รถโดยสารประจำทาง) อยู่หน้าหมู่บ้าน ขณะที่รออยู่ก็หยิบโทรศัพท์มาปัดดูไรไปเรื่อย โดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบางคนเดินมายืนอยู่ข้างๆผม ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรก็ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
"1..2.." คนข้างๆผมเค้านับเลขเบาๆ แล้วเมื่อนับถึงเลข 3 ร่างนั้นก็กระโจนเข้าถนนทันที
"เฮ้ย!!" ผมที่ยืนอยู่ข้างๆก็ตกใจ แต่จะด้วยความที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนรึไม่ มือของผมก็ไปคว้าจับแขนคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายทันที
เอี๊ยดดดดดด
รถกระบะที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วเบรกกะทันหัน ทำให้รถที่วิ่งต่อท้ายมาเกือบชนตูดกันแล้ว
"เห้ย ข้ามถนนกันระวังๆหน่อยสิวะ!!" เจ้าของรถกระบะเปิดกระจกลงแล้วตวาดใส่พวกผม
"โอ๊ย.. เจ็บๆ" ผมนอนอยู่กับพื้นโดยมีร่างของคนที่ผมช่วยชีวิตไว้นั่งทับช่วงล่างผมอยู่
"ไม่เป็นอะไรนะครับ?" ผมรีบถามบุคคลตรงหน้าทันทีก็พบว่าคนที่ผมช่วยไว้เธอเป็นนักเรียนหญิง ผมปล่อยยาวสลวย ผิวขาวเนียนแลสุขภาพผิวดี แก้มของเธออมชมพู ใต้ตาคล้ำอยูหน่อยๆ แต่หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว เธอใส่เครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับผม ชื่อของเธอคือ "สุพัตรา มักเชียว"
"......" สุพัตราไม่ตอบคำถามของผม เธอเงียบ สีหน้าแสดงออกชัดว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผมทำเมื่อครู่
"เอ่อ...คือว่า...ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ คือ..ถ้างั้นช่วยลุกขึ้นไปหน่อย..จะดีมาก.." เมื่อผมพูดจบหญิงสาวก็แก้มแดงอย่างเห็นได้ชัด เธอลุกขึ้น จัดระเบียบเสื้อผ้าและกระโปรงเธอให้เรียบร้อย ในระหว่างนั้นเธอก็มองค้อนผมอยู่เรื่อยๆ ไม่มีคำขอบคุณหรือคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ เธอไปหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วเดินจากไปทันที
ผมยังคงงุนงงกับสิ่งที่เธอทำ และสายตาของเธอ เมื่อกี้เธอคิดจะฆ่าตัวตายแน่นอน แต่ว่าทำไมล่ะ?
แล้วเมื่อผมสังเกตดีๆ ผมเห็นว่ามีบางสิ่ง..เป็นกลุ่มควัลสีดำขยับไปมาเดินตามหลังเธออยู่ พอผมกะพริบตามันก็หายไปแล้ว...
ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มมานั่งเล่นที่ไม้หินอ่อนใต่ร่มไม้ใหญ่ บริเวณโรงอาหาร ที่นี่เป็นสถานที่ประจำของพวกผมทุกเช้าที่เราจะต้องมานั่งรอเพื่อนกัน ในเวลานี้ผม พลอยและเอ๋ยมาถึงเป็นพวกแรก ตามด้วยเจมส์และต้า คู่หูมหาบรรไลประจำแก๊งที่จะมาสายเป็นประจำ ทำให้ผมเผลอนึกถึงเพื่อนรักของผม พวกที่มาสายมากที่สุดจะเป็นผม ไอซ์ และพอร์ช แล้วน้ำส้มจะเป็นคนคอยตามว่าพวกเราตลอดเรื่องมาสาย....
น้ำส้ม... ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ..
กริ๊งงงงงงงง
สัญญาณเข้าแถวตอนเช้าดังขึ้น ผมกับเพื่อนจึงรีบลุกไปเช้าแถวที่กลางสนาม ทุกวันจันทร์และพฤหัส นักเรียนจะเข้าแถวที่สนามใหญ่ ส่วนวันอังคาร พุธ ศุกร์จะเข้าแถวที่หน้าตึกเรียนแต่ชั้นแต่ละสาย ห้องของผมอยู่ห้องที่เจ็ด จะอยู่ใกล้กับหน้าเสาธงโรงเรียน โดยมีแถวของห้องสี่กับห้องห้าที่อยู่ตรงกับเสาธง แล้วที่เหลือก็เรียงตามลำดับห้องไป ตอนนี้นักเรียนมาเข้าแถวกันหมดแล้ว เพลงชาติบรรเลงขึ้น
โดยในตอนนั้นไม่มีใครทันสังเกตเลยว่า มีใครบางคนกำลังเดินขึ้นตึกเรียนอย่างเชื่องช้า ร่างนั้นดูผอมบาง ไร้เรี่ยวแรง คอไหล่ตก ดูไม่มีชีวิตชีวา ร่างนั้นยังคงเดินขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสี่ ซึ้งเป็นชั้นบนสุดของอาคารเรียนที่หนึ่ง
เธอเดินมาที่ระเบียง ดวงตาจ้องมองออกไปนอกระเบียง มองอย่างไร้จุดหมาย ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ขอแค่เธอไม่อยู่ซักคนชีวิตของใครบางคนอาจจะดีขึ้นก็ได้ ความคิดผุดขึ้นมาภายในใจของเด็กสาวม.ปลายคนนี้
เธอก้าวขาขึ้นบนระเบียง ปีนขึ้นมาแล้วยืนอยู่บนระเบียงสำเร็จ สายลมซัดเข้ามาจนทำให้เธอเซเล็กน้อย เมื่อครู่นี้หญิงสาวเกิดรู้สึกกลัวขึ้นมาชั่วครู่ แต่ก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกด้านลบที่เธอสั่งสมมานานนับชั่วชีวิตนี้เข้ามาแทนที่
"ตายไปซะ"
"เร็วเข้าซี่.."
"รีบตายๆไปซะที"
เสียงน่าขนลุกขยะแขยงดังขึ้นมา หญฺงสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็กรีดร้องออกมา เธอทนไม่ไหวกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ เธอรับไม่ได้กับชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมารทั้งกายและใจ มันเกินพอแล้วที่เธอจะยืนยัดสู้กับมัน
"เอาซี่..โดดเลย"
"จะได้ตายซักที"
"ตายไปซะ..."
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด หญิงสาวระเบิดความรู้สึกออกมาเป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช แล้วร่างของเธอก็ร่วงหล่นลงมาปะทะกับพื้นธรณี....
"กรี๊ดดดดดด"
"ว้ายยยยยยยย"
"เห้ย มีคนตกตึก"
"ฆ่าตัวตาย"
"มีคนโดดตึกวะ"
เสียงกรีดร้องและเสียงโหวกเหวกของเหล่าบรรดานักเรียนและครูที่อยู่กลางสนามต่างพากันแห่ชุลมุนเข้ามายังที่เกิดเหตุ บางคนวิ่งมาด้วยท่าทางตื่นตกใจ บางคนกรี๊ดจนสลบช๊อคกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า บางคนก็จับกลุ่มคุยกันที ซุบซิบไปเรื่อย
จนผมได้ยินบางอย่างเข้า
"กูว่าแล้วไง เรื่องนั้นอ่ะ"
"ไม่ทันไรก็มีคนตายตามแล้ว"
"ต่อไปจะเป็นตาใครวะ..กูกลัว"
"อาถรรพ์ของจริงว่ะ.."
ผมที่ยังยืนอยู่ที่แถวยังคงแอบฟังถึงเรื่องที่เพื่อนห้องอื่นซุบซิบกันไม่ทันไร เอ๋ยกับพลอยก็เข้ามาจับแขนผม แล้วพาออกไปจากที่ตรงนี้กัน โดยมีต้ากับเจมส์ตามมาด้วย ทุกคนเงียบไม่มีใครพูดอะไร หลังจากที่ออกมาจากแถวแล้ว พวกเราก็พากันขึ้นมารอที่ลานพฤษาที่นัดหมายโฮมรูมของห้อง ผมสังเกตสีหน้าของเพื่อนแต่ละคน ทุกคนยังคงตกอยู่ในอาการช๊อคโดยที่เอ๋ยสีหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด
"เพิ่งจะผ่านมาไม่กี่อาทิตย์เองแท้ๆ..." เอ๋ยพึมพัมกับตัวเอง แต่ทุกคนตรงนี้ได้ยินกันหมด
"คราวนี้มีเด็กฆ่าตัวตายอีก..รายต่อไปจะเป็นใครอีกก็ไม่รู้" เอ๋ยพูดจบผมก้าวเข้าหาเธอทันที
"รายต่อไปคืออะไร? เธอรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?" ผมยิงคำถามทันที เพราะคาใจกับเรื่องที่ได้ยินตอนที่อยู่ในแถวมาก
เอ๋ยทำหน้ากังวลแล้วถอนหายใจออกมาก่อนที่เธอจะเล่าเรื่องให้ผมฟัง
"ัฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ แต่ว่าเคยได้ยินพวกเพื่อนห้องหกคุยกันน่ะ เรื่อง ตำนานทุก 13 ปี"
"ตำนาน..ทุก 13 ปี?" พลอยทวนคำพูดของเอ๋ยอีกรอบ ดูเธอจะสนใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ไอ้เจมส์กับต้าก็ย้ายตัวเองมานั่งล้อมวงฟังเรื่องที่เอ๋ยจะเล่าต่อจากนี้อย่างหน้าตาใจจดใจจ่อมาก
"อืม.. เรื่องช่วงแรกไม่ค่อยมีใครจำกันได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าโรงเรียนของเราจะต้องมีคนตายทุกๆ 13 ปี โดยที่การตายของทุกคน จะต้องตายไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งภายในโรงเรียน ซึ้งเมื่อ 13 ปีก่อน ก็มีนักเรียนและอาจารย์ ตายไปรวม 50 ศพ"
"เชี้ย อย่าบอกนะว่าตายยกห้อง!?" ต้าอุทานออกมา
เอ๋ยกลืนน้ำลายทีหนึ่งแล้วเธอจึงเล่าต่อ
"จะบอกว่าอย่างนั่นก็คงจะใช่ แต่เรื่องแบบนี้มันดูเป็นเรื่องใหญ๋มากเลยใช่มั้ยล่ะ ได้ยินว่าในช่วงที่เกิดเหตุทุกคนกลับทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วปล่อยให้คดีการตายยกห้องเงียบหายไป"
"เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย" พลอยหน้าถอดสีจนดูเธอจะเป็นลมล้นไปได้ในทันที
ผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ในโรงเรียนของตัวเอง และเป็นเรื่องที่ถ้าพ่อแม่ผมรู้ก่อนที่จะเลือกโรงเรียนนี้ให้กับผม พวกท่านคงไม่ให้ผมมาอยู่อย่างงี้แน่
เอ๋ยเล่าต่อแต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด รายนี้เองก็แถบจะลมจับอยู่แล้วแท้ๆ "แต่ส่วนมากเหมือน 13 ปีก่อนจะตายแบบว่าไม่เลือกห้อง ไม่เลือกชั้น จู่ๆก็มีคนตาย จู่ๆนักเรียนก็หายตัวไป ไม่มีรูปแบบการตายที่แน่นอน "
แกร๊ก ตึง!!
กิ่งไม้ใหญ่หักตกลงมากลางวงพวกเรา ทุกคนตกใจวงแตกไปคนละทิศคนละทาง แต่ชั่วพริบตาเดียว พริบตาเดียวจริงๆ ตอนที่กิ่งไม้ตกลงมา แว๊บแรกที่ผมเห็น..
มันเป็น
.....หัวคน.....
By TAKUMA李。
บุพเพสันนิบาต <โรงเรียนมรณะ> บทที่ 1 สุพัตรา
"นี้..รู้เรื่องแนนห้อง 5/4 ที่ตายไปเมื่ออาทิตย์ก่อนป่าว?"
"อือๆ รู้อยู่..น่ากลัวเนอะ.."
"ใช่..แต่รู้มั้ยว่านี้น่ะมันแค่เริ่มต้นนะ"
"อะไรๆ เริ่มต้นอะไรเหรอ? คนร้ายก็ถูกจับไปแล้วนี้"
"ถ้าจบแค่นี้ล่ะก็นะ... ตำนานโรงเรียนของเราไง เธอไม่เคยได้ยินเหรอ? ตำนานทุก 13 ปีน่ะ"
"เอ๊ะ... แล้ว..มันเป็นยังไงอ่ะ.."
"คืองี้นะ.. เรื่องมันมีอยู่ว่า..."
....
ผมมีชื่อว่า "สิทธานต์" "สิทธานต์ ศุภเกริกไกร" เรียกว่า "อ๋อง" ก็ได้ อายุ 16 ปี อยู่ชั้นมัธยม 4 โรงเรียนฐิติวิทยาคม
ผมอาศัยอยู่ตัวคนเดียว เพราะพ่อแม่ทำงานอยู่เมืองนอก เพื่อนสนิทของผมคือ ไอซ์ หมอนี่ผมรู้จักกับมันตั้งแต่เด็ก ไอซ์มักจะมาเล่นกับผมที่บ้านประจำจนเราสนิทกันมาก ต่อมา พอร์ช เพื่อนสนิทอีกคนของผม พอร์ชมักจะเป็นหัวสมองให้กับเพื่อนในกลุ่ม เปรียบเสมือนคุณพ่อคนที่สองสำหรับผม เป็นคนที่น่าพึงพามาก และ น้ำส้ม เพื่อนผู้หญิงที่สนิทมากที่สุดในหมู่เพื่อนๆผู้หญิงในแก๊ง เธอคนนี้เป็นคนร่าเริง ชอบความสนุก ชอบออกไปเที่ยว เราทั้งสี่คนเรียกได้ว่าเป็นกลุ่มแก๊งที่รักกันมากที่สุด
แต่แล้ว... ช่วงปิดเทอมขึ้นชั้นมัธยม 4 ของพวกเราก็เกิดเรื่องบางอย่างขึ้น
ทำให้เพื่อนของผม "ต้องตาย"
จะใช้คำว่า "ต้องตาย" ก็ไม่ถูกนัก อันที่จริงต้องบอกว่า พวกเขาตายเพราะความไร้เหตุผล
ความไร้เหตุผลที่ไม่มีมนุษย์คนไหนคาดคิดว่าเพื่อนของผมจะต้องตาย มันเป็นการตายที่ไม่น่าให้อภัย และเป็นการตายที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น
นั้นเป็นเพียงเพราะผมไม่เชื่อคำเตือนจากบางสิ่ง บางสิ่งที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสืบต่อกันมาแต่สมัยก่อน เพราะความคิดที่ว่ามันเป็นแค่เรื่องหลอกเด็ก ทำให้พวกผม..ไม่สิ ผม..ต้องตกนรกทั้งเป็น
"จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน"
ทักครั้งแรก ไอซ์ตาย ทั้งครั้งที่สอง พอร์ชตาย ทักครั้งที่สาม น้ำส้มหายตัวไป ต่อมาผมฝันว่าผมตาย และครั้งต่อๆมา ผมมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น ผมมองเห็นวิญญาณได้....
และครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมก็เข้าไปพัวพันกับคดีฆ่าตกรรมนักเรียนหญิงในห้องน้ำโรงเรียน และผมก็ได้เจอกับผู้ชายคนหนึ่ง เขาสามารถมองเห็นวิญญาณได้เหมือนกับผม และเป็นคนที่ช่วยชีวิตผมเอาไว้
บางสิ่งบางอย่างมันเกิดขึ้นโดยที่ไม่มีสาเหตุ ไม่มีเหตุผล และไร้ซึ้งความเมตตา จนบางทีผมคิดว่า ทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับผมด้วย
ทำไมต้องเป็นผม ทำไมผมถึงรอด แล้วเพื่อนไม่รอด ทำไม่ผมถึงไม่ตาย ทั้งๆที่คนที่ถูกจิ้งจกทักคือผม จนถึงตอนนี้ผมยังหาคำตอบของเรื่องนั้นไม่เจอ...
เช้าวันที่ 15 กันยายน ปี 25xx ผมยืนรอรถส้ม(รถโดยสารประจำทาง) อยู่หน้าหมู่บ้าน ขณะที่รออยู่ก็หยิบโทรศัพท์มาปัดดูไรไปเรื่อย โดยไม่ได้สังเกตเลยว่ามีบางคนเดินมายืนอยู่ข้างๆผม ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรก็ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่อ
"1..2.." คนข้างๆผมเค้านับเลขเบาๆ แล้วเมื่อนับถึงเลข 3 ร่างนั้นก็กระโจนเข้าถนนทันที
"เฮ้ย!!" ผมที่ยืนอยู่ข้างๆก็ตกใจ แต่จะด้วยความที่เคยเจอสถานการณ์แบบนี้มาก่อนรึไม่ มือของผมก็ไปคว้าจับแขนคนที่กำลังจะฆ่าตัวตายทันที
เอี๊ยดดดดดด
รถกระบะที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วเบรกกะทันหัน ทำให้รถที่วิ่งต่อท้ายมาเกือบชนตูดกันแล้ว
"เห้ย ข้ามถนนกันระวังๆหน่อยสิวะ!!" เจ้าของรถกระบะเปิดกระจกลงแล้วตวาดใส่พวกผม
"โอ๊ย.. เจ็บๆ" ผมนอนอยู่กับพื้นโดยมีร่างของคนที่ผมช่วยชีวิตไว้นั่งทับช่วงล่างผมอยู่
"ไม่เป็นอะไรนะครับ?" ผมรีบถามบุคคลตรงหน้าทันทีก็พบว่าคนที่ผมช่วยไว้เธอเป็นนักเรียนหญิง ผมปล่อยยาวสลวย ผิวขาวเนียนแลสุขภาพผิวดี แก้มของเธออมชมพู ใต้ตาคล้ำอยูหน่อยๆ แต่หน้าตาใช้ได้เลยทีเดียว เธอใส่เครื่องแบบโรงเรียนเดียวกับผม ชื่อของเธอคือ "สุพัตรา มักเชียว"
"......" สุพัตราไม่ตอบคำถามของผม เธอเงียบ สีหน้าแสดงออกชัดว่าไม่พอใจกับสิ่งที่ผมทำเมื่อครู่
"เอ่อ...คือว่า...ไม่เป็นอะไรใช่มั้ยครับ คือ..ถ้างั้นช่วยลุกขึ้นไปหน่อย..จะดีมาก.." เมื่อผมพูดจบหญิงสาวก็แก้มแดงอย่างเห็นได้ชัด เธอลุกขึ้น จัดระเบียบเสื้อผ้าและกระโปรงเธอให้เรียบร้อย ในระหว่างนั้นเธอก็มองค้อนผมอยู่เรื่อยๆ ไม่มีคำขอบคุณหรือคำพูดใดๆออกมาจากปากของเธอ เธอไปหยิบกระเป๋านักเรียนแล้วเดินจากไปทันที
ผมยังคงงุนงงกับสิ่งที่เธอทำ และสายตาของเธอ เมื่อกี้เธอคิดจะฆ่าตัวตายแน่นอน แต่ว่าทำไมล่ะ?
แล้วเมื่อผมสังเกตดีๆ ผมเห็นว่ามีบางสิ่ง..เป็นกลุ่มควัลสีดำขยับไปมาเดินตามหลังเธออยู่ พอผมกะพริบตามันก็หายไปแล้ว...
ผมกับเพื่อนๆในกลุ่มมานั่งเล่นที่ไม้หินอ่อนใต่ร่มไม้ใหญ่ บริเวณโรงอาหาร ที่นี่เป็นสถานที่ประจำของพวกผมทุกเช้าที่เราจะต้องมานั่งรอเพื่อนกัน ในเวลานี้ผม พลอยและเอ๋ยมาถึงเป็นพวกแรก ตามด้วยเจมส์และต้า คู่หูมหาบรรไลประจำแก๊งที่จะมาสายเป็นประจำ ทำให้ผมเผลอนึกถึงเพื่อนรักของผม พวกที่มาสายมากที่สุดจะเป็นผม ไอซ์ และพอร์ช แล้วน้ำส้มจะเป็นคนคอยตามว่าพวกเราตลอดเรื่องมาสาย....
น้ำส้ม... ตอนนี้เธอจะเป็นยังไงบ้างนะ..
กริ๊งงงงงงงง
สัญญาณเข้าแถวตอนเช้าดังขึ้น ผมกับเพื่อนจึงรีบลุกไปเช้าแถวที่กลางสนาม ทุกวันจันทร์และพฤหัส นักเรียนจะเข้าแถวที่สนามใหญ่ ส่วนวันอังคาร พุธ ศุกร์จะเข้าแถวที่หน้าตึกเรียนแต่ชั้นแต่ละสาย ห้องของผมอยู่ห้องที่เจ็ด จะอยู่ใกล้กับหน้าเสาธงโรงเรียน โดยมีแถวของห้องสี่กับห้องห้าที่อยู่ตรงกับเสาธง แล้วที่เหลือก็เรียงตามลำดับห้องไป ตอนนี้นักเรียนมาเข้าแถวกันหมดแล้ว เพลงชาติบรรเลงขึ้น
โดยในตอนนั้นไม่มีใครทันสังเกตเลยว่า มีใครบางคนกำลังเดินขึ้นตึกเรียนอย่างเชื่องช้า ร่างนั้นดูผอมบาง ไร้เรี่ยวแรง คอไหล่ตก ดูไม่มีชีวิตชีวา ร่างนั้นยังคงเดินขึ้นไปเรื่อยๆจนถึงชั้นสี่ ซึ้งเป็นชั้นบนสุดของอาคารเรียนที่หนึ่ง
เธอเดินมาที่ระเบียง ดวงตาจ้องมองออกไปนอกระเบียง มองอย่างไร้จุดหมาย ชีวิตนี้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ขอแค่เธอไม่อยู่ซักคนชีวิตของใครบางคนอาจจะดีขึ้นก็ได้ ความคิดผุดขึ้นมาภายในใจของเด็กสาวม.ปลายคนนี้
เธอก้าวขาขึ้นบนระเบียง ปีนขึ้นมาแล้วยืนอยู่บนระเบียงสำเร็จ สายลมซัดเข้ามาจนทำให้เธอเซเล็กน้อย เมื่อครู่นี้หญิงสาวเกิดรู้สึกกลัวขึ้นมาชั่วครู่ แต่ก็ถูกกลบด้วยความรู้สึกด้านลบที่เธอสั่งสมมานานนับชั่วชีวิตนี้เข้ามาแทนที่
"ตายไปซะ"
"เร็วเข้าซี่.."
"รีบตายๆไปซะที"
เสียงน่าขนลุกขยะแขยงดังขึ้นมา หญฺงสาวเมื่อได้ยินเช่นนั้นเธอก็กรีดร้องออกมา เธอทนไม่ไหวกับสิ่งที่เป็นอยู่ตอนนี้ เธอรับไม่ได้กับชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมารทั้งกายและใจ มันเกินพอแล้วที่เธอจะยืนยัดสู้กับมัน
"เอาซี่..โดดเลย"
"จะได้ตายซักที"
"ตายไปซะ..."
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดด หญิงสาวระเบิดความรู้สึกออกมาเป็นเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช แล้วร่างของเธอก็ร่วงหล่นลงมาปะทะกับพื้นธรณี....
"กรี๊ดดดดดด"
"ว้ายยยยยยยย"
"เห้ย มีคนตกตึก"
"ฆ่าตัวตาย"
"มีคนโดดตึกวะ"
เสียงกรีดร้องและเสียงโหวกเหวกของเหล่าบรรดานักเรียนและครูที่อยู่กลางสนามต่างพากันแห่ชุลมุนเข้ามายังที่เกิดเหตุ บางคนวิ่งมาด้วยท่าทางตื่นตกใจ บางคนกรี๊ดจนสลบช๊อคกับภาพที่เห็นอยู่เบื้องหน้า บางคนก็จับกลุ่มคุยกันที ซุบซิบไปเรื่อย
จนผมได้ยินบางอย่างเข้า
"กูว่าแล้วไง เรื่องนั้นอ่ะ"
"ไม่ทันไรก็มีคนตายตามแล้ว"
"ต่อไปจะเป็นตาใครวะ..กูกลัว"
"อาถรรพ์ของจริงว่ะ.."
ผมที่ยังยืนอยู่ที่แถวยังคงแอบฟังถึงเรื่องที่เพื่อนห้องอื่นซุบซิบกันไม่ทันไร เอ๋ยกับพลอยก็เข้ามาจับแขนผม แล้วพาออกไปจากที่ตรงนี้กัน โดยมีต้ากับเจมส์ตามมาด้วย ทุกคนเงียบไม่มีใครพูดอะไร หลังจากที่ออกมาจากแถวแล้ว พวกเราก็พากันขึ้นมารอที่ลานพฤษาที่นัดหมายโฮมรูมของห้อง ผมสังเกตสีหน้าของเพื่อนแต่ละคน ทุกคนยังคงตกอยู่ในอาการช๊อคโดยที่เอ๋ยสีหน้าถอดสีอย่างเห็นได้ชัด
"เพิ่งจะผ่านมาไม่กี่อาทิตย์เองแท้ๆ..." เอ๋ยพึมพัมกับตัวเอง แต่ทุกคนตรงนี้ได้ยินกันหมด
"คราวนี้มีเด็กฆ่าตัวตายอีก..รายต่อไปจะเป็นใครอีกก็ไม่รู้" เอ๋ยพูดจบผมก้าวเข้าหาเธอทันที
"รายต่อไปคืออะไร? เธอรู้เรื่องนี้ด้วยเหรอ?" ผมยิงคำถามทันที เพราะคาใจกับเรื่องที่ได้ยินตอนที่อยู่ในแถวมาก
เอ๋ยทำหน้ากังวลแล้วถอนหายใจออกมาก่อนที่เธอจะเล่าเรื่องให้ผมฟัง
"ัฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอกนะ แต่ว่าเคยได้ยินพวกเพื่อนห้องหกคุยกันน่ะ เรื่อง ตำนานทุก 13 ปี"
"ตำนาน..ทุก 13 ปี?" พลอยทวนคำพูดของเอ๋ยอีกรอบ ดูเธอจะสนใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน ไอ้เจมส์กับต้าก็ย้ายตัวเองมานั่งล้อมวงฟังเรื่องที่เอ๋ยจะเล่าต่อจากนี้อย่างหน้าตาใจจดใจจ่อมาก
"อืม.. เรื่องช่วงแรกไม่ค่อยมีใครจำกันได้แล้วล่ะว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ว่าโรงเรียนของเราจะต้องมีคนตายทุกๆ 13 ปี โดยที่การตายของทุกคน จะต้องตายไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งภายในโรงเรียน ซึ้งเมื่อ 13 ปีก่อน ก็มีนักเรียนและอาจารย์ ตายไปรวม 50 ศพ"
"เชี้ย อย่าบอกนะว่าตายยกห้อง!?" ต้าอุทานออกมา
เอ๋ยกลืนน้ำลายทีหนึ่งแล้วเธอจึงเล่าต่อ
"จะบอกว่าอย่างนั่นก็คงจะใช่ แต่เรื่องแบบนี้มันดูเป็นเรื่องใหญ๋มากเลยใช่มั้ยล่ะ ได้ยินว่าในช่วงที่เกิดเหตุทุกคนกลับทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วปล่อยให้คดีการตายยกห้องเงียบหายไป"
"เรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย" พลอยหน้าถอดสีจนดูเธอจะเป็นลมล้นไปได้ในทันที
ผมเองก็ไม่อยากเชื่อว่าจะเคยเกิดเรื่องแบบนี้ในโรงเรียนของตัวเอง และเป็นเรื่องที่ถ้าพ่อแม่ผมรู้ก่อนที่จะเลือกโรงเรียนนี้ให้กับผม พวกท่านคงไม่ให้ผมมาอยู่อย่างงี้แน่
เอ๋ยเล่าต่อแต่ใบหน้าเต็มไปด้วยความกลัวสุดขีด รายนี้เองก็แถบจะลมจับอยู่แล้วแท้ๆ "แต่ส่วนมากเหมือน 13 ปีก่อนจะตายแบบว่าไม่เลือกห้อง ไม่เลือกชั้น จู่ๆก็มีคนตาย จู่ๆนักเรียนก็หายตัวไป ไม่มีรูปแบบการตายที่แน่นอน "
แกร๊ก ตึง!!
กิ่งไม้ใหญ่หักตกลงมากลางวงพวกเรา ทุกคนตกใจวงแตกไปคนละทิศคนละทาง แต่ชั่วพริบตาเดียว พริบตาเดียวจริงๆ ตอนที่กิ่งไม้ตกลงมา แว๊บแรกที่ผมเห็น..
.....หัวคน.....
By TAKUMA李。