้แม่แท้ๆกับแม่เลี้ยง สองคนนี้ต่างกันมาก

เราต้องขอบอกก่อนน่ะค่ะว่า เรามีแม่สองคนคือแม่เลี้ยงกับแม่แท้ๆ ความสัมพันธุ์ระหว่างเรากับแม่แท้ๆจะพูดว่าไงดีล่ะ คือไม่รู้สึกสนิทไม่รู้สึกอบอุ่น เหมือนไม่ใช่แม่ลูกกันเลยค่ะไม่รู้เป็นเพราะอะไร อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อตอนเด็กๆพ่อแม่เราแยกทางกันแล้วแม่ทิ้งให้เราอยู่กับพ่อ ซึ่งพ่อเป็นคนโมโหร้ายมากตอนนั้นเราไม่อยากอยู่กับพ่อเลยเรากลัวพ่อมาก ตอนแม่แยกทางกัยพ่อเราได้แต่ถามกับตัวเองซ้ำๆว่า ทำไมแม่ถึงไม่เอาเราไปอยู่ด้วย ทำไมแม่ถึงทิ้งให้เราอยู่กัยพ่อทั้งๆที่รู้ว่าพ่อดุแค่ไหน จนเราเรียนมัธยมค่ะพ่อพาแม่เลี้ยงเข้ามาให้เรารู้จัก ตอนแรกเราแอนตี้แม่เลี้ยงมาก คิดไปต่างๆนาๆว่าคนนัแน่ๆที่ทำให้พ่อแม่เราเลิกกัน แอนตี้อยู่ไม่นานก็แพ้ความดีของแม่เลี้ยงเพราะเค้าเข้ามาเติมเต็มให้เรา เลิกงานก็พากัรไปออกกำลังกาย กินข้าวนอกบ้านด้วยกัน เดินห้างด้วยกันทำกิจกรรมต่างๆด้วยกัน จนพ่อกับแม่เลี้ยงแต่งงานกัน แม่คนนี้ก็เข้ามาอยู่ในบ้านเรา ทำกับข้าวให้กินไปโรงเรียน อยากได้อะไรก็ซื้อให้หาให้ไม่ให้ขาดตกบ่งพร่อง ตอนนั้นเราเรียนอยู่ม.3 เราต้องเดินทางไปโรงเรียนทุกวันด้วยรถเมย์ แม่เลี้ยงกลัวเราลำบากเค้าก็ให้รถมอเตอร์ไซค์เรามาไว้ใช้ แล้วก็โอนเป็นชื่อของเรา เรียนใกล้จบเราเดินทางผิด เราทะเลาะกับพ่อแล้วก็หนีออกจากบ้าน ทิ้งเวลาประมาณ3เดือนค่อยติดต่อแม่เลี้ยงว่าเราสบายดี ไม่ต้องห่วง ตอนที่แม่เลี้ยงได้ยินเสียงเราเหมือนแม่จะดีใจมาก เหมือนร้องไห้ที่เราติดต่อมา จนช่วงนึงเราทะเลาะกับแฟนเราโทรหาแม่เลี้ยง แม่ก็ถามว่าไหวมั๊ย ไม่ไหวก็กลับมาอยู่บ้านเราน่ะแม่รับได้แม่ไม่โกรธหนูน่ะ เท่านั้นแหละเราร้องไห้โหออกมาเลย จนทุกวันนี้อายุก็ใกล้จะเข้าเลข3เข้าเต็มทีแล้ว แม่เลี้ยงก็เลิกลากับพ่อแล้ว แต่เรายังติดต่อพูดคุยกับแม่เลี้ยงตลอด เวลามีปัญหาเรามักจะปรึกษาหรือพูดคุยกับแม่เลี้ยงเสมอ แม่จะบอกเราตลอดว่าสู้ไม่ไหวก็ปล่อยวางน่ะลูก คำพูดที่แม่เลี้ยงมักพูดกับเราประจำคือ แม่เชื่อว่าหนูทำได้ ลูกแม่เก่งอยู่แล้ว หนูลำบากมาเยอะแล้วน่ะลูก แม่รักหนูเหมือนลูกแท้ๆน่ะ ฯลฯ จนเมื่อวานเราโทรไปคุยกับแม่เลี้ยง เราพูดแค่ว่า แม่จ๋า หนูล้มอีกแล้ว หนูเหนื่อยหนูท้อเหลือเกินแม่ หนูอยากกอดแม่ แม่ก็บอกเราว่า เหนื่อยก็พักน่ะลูกอย่าหักโหม อย่าคิดมากน่ะ แม่รักหนูน่ะลูก แม่อยู่ข้างหนูตลอดน่ะ คุยโทรศัพย์ไปร้องไห้ไป อยากกลับไปนอนซบตักแม่เลี้ยงคนนี้มาก คนที่พูดคุยกับเราได้ทุกเรื่อง คนที่รับฟัง คนที่คอยให้กำลังใจเรามาตลอด

ส่วนแม่แท้ๆเรากลับไม่ได้รู้สึกแบบนี้ เราเคยพูดคุยกับแม่เคยปรึกษาแม่ในบางเรื่อง แต่คำตอบที่เราได้คือความเงียบ ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้ฃเดียวที่เราปรึกษาแม่ เราคิดว่าแม่คงจะเครียดเพราะเรา เราก็เลยนิ่งๆ กับแม่คนนี้ก็จำไม่ได้แล้วว่ากอดกันครั้งสุดท้ายตอนไหน แต่ก็มีเข้าไปแวะเวียนเข้าไปกินข้าวกับแม่อยู่บ่อยๆ ไม่ได้ทิ้งหรือปล่อยประละเลย

สุดท้ายนี้เรารู้สึกโชคดีที่สุดที่มีแม่ดีๆทั้งสองคนแบบนี้ ทั้งสองท่านมีความอ่อนโยนกับเรา เป็นกำลังใจให้เราสู้เวลาเราท้อ ทุกวันนี้เวลาท้อเวลาเหนื่อย ก็นึกถึงแต่ท่านทั้งสองนี้แหละ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่