คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เค้าทั้ง2จึง..ภาษาพูด. เขาเป็นภาษาเขียน. จักรวาล!
- ไปอ่านเรื่องของคนอื่นดูรูปแบบการเขียนคำพูดในเครื่องหมาย" .." ต้องขึ้นบรรทัดใหม่
- การเว้นบรรทัด และย่อหน้า ไม่ใช่รวมเป็นพรืดอย่างนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ
- ตรวจคำผิดก่อนและหลังวางเรื่อง
- อายุ15ทำได้เท่านี้ดีแล้ว หัดศึกษาและเลียนแบบได้เลย จะชำนาญเร็วค่ะ (ไม่ได้อ่านหมด)
- ไปอ่านเรื่องของคนอื่นดูรูปแบบการเขียนคำพูดในเครื่องหมาย" .." ต้องขึ้นบรรทัดใหม่
- การเว้นบรรทัด และย่อหน้า ไม่ใช่รวมเป็นพรืดอย่างนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบ
- ตรวจคำผิดก่อนและหลังวางเรื่อง
- อายุ15ทำได้เท่านี้ดีแล้ว หัดศึกษาและเลียนแบบได้เลย จะชำนาญเร็วค่ะ (ไม่ได้อ่านหมด)
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
ไพรสัณฑ์พิศวง Ep.1
แล้วในคืนนั้นเองหินทั้งสี่สีนั้นก็ได้เปล่งแสงขึ้นในขณะที่ ดร.แม็กกำลังหลับใหลด้วยความเหนื่อยล้าจากการทำงาน เมื่อรุ่งเช้าตะวันขึ้นในขณะที่ดร.แม็กยังไม่ตื่นนั้น ดร.แม็กได้ยินเสียงเหมือนมีคนซุบซิบกันก็จึงสะดุ้งตื่นแล้วมองไปรอบๆกับไม่พบใคร แต่ก็ตกใจกับตัวเองว่าที่ตัวเองนั้นอยู่ในป่าที่ไหนก็ไม่รู้
เขาจึงลุกขึ้นจากพื้นหญ้าและใช้สัญชาตญาณของนักโบราณคดีสำรวจบริเวณรอบๆก็พบว่าต้นไม้แต่ละต้น ดินที่เหยียบนั้น ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน เขาจึงเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาทางออก แต่เค้ากลับพบฤาษีตนหนึ่งที่กำลังเดินจงกรมอยู่ ดร.แม็กจึงเดินเข้าไปเพื่อที่จะถามทางออก แต่ฤาษีรู้ด้วยญาณที่บำเพ็ญมาว่าชายผู้นี้จะมาสร้างสมดุลแก่ป่าผืนนี้แก่โลกแก่จักวาลและทุกสรรพสิ่ง
ฤาษีจึงสวนตอบไปในขณะที่ดร.แม็กยังไม่เอ่ยคำถามว่า
"เจ้าไม่มีทางที่จะออกไปจากที่นี้ได้หรอกเจ้าจะต้องหาหินทั้ง4ธาตุให้ครบและนำไปให้ผู้ครอบครองทั้ง4เจ้าจำได้ไหมว่าเจ้าเก็บอะไรมา"
ดร.แม็กจึงพูดว่า "โอ้ยยย ไอหินบ้า4ก้อนนั้นอะนะคงอยู่ในชั้นเก็บของที่บ้านข้าแหละ....นี้และข้าจะออกจากป่ายังไง ข้าไม่หาสนใจหรอกนะหินบ้าอะไรนั้นนะข้าจะกลับบ้าน"
ฤาษีจึงบอกว่า
"ธาตุทั้ง4นี้แหละนำพาเจ้ามาที่นี้ถ้าหินไม่ได้อยู่กับเจ้าแสดงว่าหินกระจัดกระจายในผืนป่าแห่งนี้เจ้าจะต้องไปหาและคืนผุ้ครอบครองทั้ง4เพื่อที่จะได้กลับไม่เช้นนั้นป่าผืนนี้ก็จะเสียสมดุลและสิ่งมีชีวิตไม่ว่าพืชหรือสัตว์ล้วนแล้วจะตายทั้งสิ้น"
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับข้าด้วยละ"ดร.แม็กพูด
ฤาษีจึงกล่าว่า
"เกี่ยวสิ้ถ้าเจ้าไม่ทำป่านี้ก็จะสลายและส่งผลไปยังโลกของเจ้าและยังส่งผลไปยังจักวาลและทุกสรรพสิ่งจะสลายหาเป็นอากาศธาตุเจ้าเข้าใจหรือยัง"
ดร.แม็กโต้เถียงและบอกว่า
"ข้าจะกลับบ้าน"
จากนั้นฤาษีจึงทำให้เห็นถึงกาลล้มสลายของทุกสรรพสิ่งในอนาคตถ้าดร.แม็กไม่ทำ ทุกๆอย่างจะหายไปแม้แต่ความมืดก็จะหายไปดร.แม็กจึงหยุดนิ่งไปชั่วครู่ พร้อมเปลี่ยนความคิดและถามฤาษีว่า
"ข้าจะหาได้อย่างไร"
ฤาษียิ้มแล้วจึงนำเข็มทิศในย่ามให้แล้วบอกว่า
"สิ่งนี้จะนำพาเจ้าไปหาธาตุทั้ง4เมื่อเจ้าได้แล้วเจ้าจงเอาไปให้ผู้ครอบครองทั้ง4เข็มทิศนี้จะนำทางเจ้าเจ้ามีเวลาเพียง7วัน7คืนแล้วในช่วงเวลานี้ผืนป่าจะเสียสมดุลไปเรื่อยๆเพราะผู้ครอบครองนั้นเสียอิทธิฤทธิ์ไปเรื่อยเจ้าจงรีบไปผลไม้ที่ป่าแห่งนี้สามารถทานได้ทั้งสิ้น"
เมื่อฤาษีกล่าวจบก็ได้เหาะขึ้นไปบนเมฆและหายลับไป
ดร.แม็กล้มลงกับพื้นหญ้าเขียวชะอุ่มและลองเปิดเข็มทิศดูก็เห็นว่าเข็มนั้นหมุนอย่างรวดเร็วและร้อนขึ้นจน ดร.แม็กทนไม่ไหวปล่อยลงพื้นไฟนั้นกลับลุกที่เข็มทิศนั้น และหลอมเข็มทิศเป็นทองคำเหลว ทองคำนั้นกับหลอมตัวเองกลายเป็น นกทองคำที่ ดวงตาสีแดงดุจดั่งพระอาทิตย์ และปากนั้นสีเขียวมรกต ปีกทั้ง2นั้นสีดั่งมหาสมุทร
ดร.แม็กพูดด้วยความตกใจว่า
"นี้มันอะไรกันวะนี้"
นกทองคำตัวนั้นจึงทักทายดร.แม็กว่า
"ข้าคือกัมพูปักษีหรือเรียกข้าว่ากัมพูข้าคือนกที่โดนท่านตาสาปให้เป็นเข็มทิศทองคำ และจะกลายร่างกลับมาเป็นเช่นเดิมได้ก็ต่อเมื่อถึงกาลสุดท้ายของป่านี้และข้ากับเจ้าจะช่วยป่านี้ด้วยกัน"
ดร.แม็กจึงตั้งสติและได้พูดคุยกับกัมพูและทำความรู้จักกับกัมพูจึงได้รู้ว่าตาของกัมพูนี้คือพญาครุฑนั้นเอง
ดร.แม็กจึงถามกัมพูว่า
"แล้วผู้ครอบครองทั้ง4คือใครแล้วข้าจะหาหินที่ไหน"
กัมพูจึงบอกว่า
"ธาตุทั้ง4นั้นคือดินน้ำลมและไฟสีน้ำตาลนั้นคือดิน น้ำเงินนั้นคือน้ำ เขียวนั้นคือลมและแดงนั้นคือไฟ ส่วนผู้ครอบครองทั้งสี่นั้นก็คือผู้ครอบครอบธาตุทั้ง4 ธาตุดินนั้นคือนางมักลีผล ธาตุน้ำคือท่านพญานาคราช ธาตุลมนั้นนคือพระพาย ส่วนธาตุไฟนั้นตาข้าเองท่านพญาครุฑ"
ดร.แม็กได้ฟังอย่างนั้นก็ได้รับรู้ถึงภาระอันยิ่งใหญ่ที่จะต้องทำให้สำเร็จในเวลาที่เหลือไม่มากนักจึงบอกกับกัมพูว่า
"ไปเราไปหากันเถอะเหลือเวลาไม่มาก"
"เอ๋ท่านฤาษีไม่ได้บอกท่านหรอว่าเราจะตามหาธาตุทั้ง4ได้นั้นก็จะต้องเป็นยามราตรีเพราะหินทั้ง4นั้นจะเปล่งแสงขึ้นและข้าจะสามารถบินไปดูแสงนั้นและนำพาเจ้าไปได้อดทนหน่อยหน่าอีกไม่กี่ชั่วโมง"กัมพูพูด
"และในคืนนี้เราจะไปหาธาตุอะไรก่อนละ" ดร.แม็กถาม
"สัญชาตญาณข้าบอกว่าคืนนี้เราจะต้องค้นธาตุดินก่อนเพราะสัญชาตญาณข้าบอกว่าอยู่ไม่ไกลจากที่นี้"กัมพูกล่าว
เมื่อทิวาลับขอบฟ้าดวงจันทราก็เปล่งแสง เขาทั้ง2จึงออกเดินทางตามหาหินธาตุดินโดยมีกัมพูนำทางเมื่อมุ่งหน้าเดินทางไปสักพักกัมพูได้ยินเสียงสัตว์ชนิดนึงวิ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วสัตว์วิ่งมาพบกับเค้าทั้ง2นั้น คือคชสิงห์ที่ตกมันจึงหันมาทางเค้าทั้ง2และวิ่งตรงเข้ามา ด้วยความเร็วกัมพูจึงบอกให้ดร.แม็กหนี กัมพูจึงบินไปเกาะบนต้นไม้ แต่ดร.แม็กนั้นกลับขาแข็งขยับไม่ได้ด้วยความกลัวและความประหลาดใจ ดร.แม็กนำมือทั้งสองมาป้องกันไว้ข้างหน้าตัวเอง เมื่อคชสิงห์วิ่งมาถึงดร.แม็กก็ได้หยุดลงและก้มหมอบลงดร.แม็กจึงลูบหัวด้วยความประหลาดใจ กัมพูจึงบินลงมาแล้วพูดว่า
"ว่าประหลาดยิ่งนักนี้คือท่าทางของการยอมเจ้าไม่ค่อยได้เห็นใครที่คชสิงห์ให้ขึ้นหลัง....เจ้าก็ขึ้นหลังคชสิงห์เถอะและเดินทางต่อ"
ดร.แม็กจึงขี่คชสิงห์และมุ่งหน้าต่อเมื่อเดินทางได้สักพักใหญ่กัมพูจึงบอกว่าใกล้ถึงแล้วข้างหน้านั้น มีแสงสีน้ำตาลสว่างไสวพุ่งขึ้นฟ้าแต่เมื่อกัมพูสังเกตดูแล้ว จึงให้หยุดอยู่ตรงโคนต้นไม้ใหญ่แล้วให้ ดร.ลงจากคชสิงห์เสียก่อนเพราะข้างหน้านั้นมี หุ่นมนุษย์ดินนับ5000ตัวจึงให้สังเกตดูไปเสียก่อน เมื่อ2คู่หูกำลังหาทางอยู่นั้นคชสิงห์กับหลงใหลกับแสงสีน้ำตาลของธาตุดินจึงเดินเข้าไป ในดงหุ่นมนุษย์ดินและแล้ว ดินนั้นก็ดูดคชสิงห์หายไปทั้งตัว แล้วสัตว์นานาพันธ์ุในบริเวณนั้นก็ต่างหลงใหลและเดินเข้าตามกันๆและโดนดินดูดตามๆกัน ไม่ว่าจะเป็นเหมหงษ์กินนรที่บินอยู่บนฟ้านั้นก็โดนแรงโน้มถ่วงดึงลงสู่ผืนดิน ดร.แม็กถึงกับกุมขมับ
แต่ทันใดนั้นเองฝนก็ได้ห่าตกลงมาชุดใหญ่
กัมพูได้สังเกตเห็นหุ่นมนุษย์ดินนั้นละลายและดินตรงนั้นก็เปียกกัมพูจึงให้ดร.แม็กดึงขนที่ปีกแล้วปล่อยไปตามลม เมื่อขนของกัมพูนั้นไปตกลงสู่พื้นบริเวณขอบเขตนั้น ขอบเขตนั้นก็ลุกเป็นไฟเผาดินที่เปียกชุ่มกลายเป็นดินแข็งที่ไม่ต่างจากเครื่องปั้นดินเผา จึงทำให้ดินนั้นไม่สามารถดูดสิ่งใดลงไปได้แต่แรงโน้มถ่วงนั้นยังอยู่
กัมพูจึงให้ดร.แม็กวิ่งไปคว้าเอาหินธาตุดินมา ดร.แม็กได้ยินอย่างนั้นจึงวิ่งฝ่าเข้าไปหุ่นมนุษย์ดิน ที่นิ่งและแข็งดั่งหินเมื่อ ดร.แม็กเอื้อมมือคว้าธาตุดินมาได้นั้น มนุษย์ดินที่หยุดนิ่งกลับขยับแล้วล้อมดร.แม็กไว้ กัมพูเห็นเช่นนั้นจะไปช่วยก็ช่วยไม่ได้ หุ่นดินทั้ง5000ตัวก็ค่อยๆเคลื่อนที่เข้ามาอย่างช้าๆ ในมือซ้ายของ
ดร.แม็กนั้นกำหินธาตุดินแน่นจนเส้นเลือดขึ้นแขนและจึงภาวนาว่า
"หากข้าเป็นผู้จะช่วยผืนป่านี้จริงขอให้อนุภาคของธาตุดินจงช่วยข้าเถิด"
ทันใดนั้นเองหุ่นทั้ง5000ตัวนั้นกลับระเบิดกลายเป็นฝุ่นตลบอบอวลดร.แม็กจึงวิ่งฝ่าออกมาและกับพบกับกัมพูทั้ง2จึงออกจากบริเวณนั้นและเมื่อออกห่างจากฝุ่นที่ตลบอบอวลนั้นท้องฟ้าก็กลับรุ่งเช้าเสียแล้วทำให้ทั้ง2นั้นดีใจที่ได้หินธาตุดินมาและพร้อมที่จะตะลุยในคืนต่อไปแต่ตอนนี้พวกเค้าทั้ง2จึงนอนพักเสียก่อน
เหลือเวลาอีกเพียง6วันเท่านั้นกับธาตุทั้ง3ที่ยังไม่พบและยังจะต้องนำไปให้ผู้ครอบครอบทั้ง4อีกเขาทั้ง2จะสามารถช่วยทุกสรรพสิ่งได้หรือไม่เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อโปรดติดตามได้ตอนต่อไป
#ผลงานเด็กหัดเขียนอายุ15ปีฝากผลงานด้วยนะครับ