[CR] The Netherlands Diary << ตอนที่ 3 >> : Day Trip at Rijksmuseum

ความเดิมตอนที่แล้ว
The Netherlands Diary << ตอนที่ 1 >> : การเดินทางไปยุโรปครั้งแรก https://ppantip.com/topic/37376785
The Netherlands Diary << ตอนที่ 2 >> : วันแห่งครอบครัวที่ Groet https://ppantip.com/topic/37391267

********************

"Day Trip at Rijksmuseum"

7 เมษายน 2560
.. เช้าวันที่ 3 เราเริ่มตื่นกันสายขึ้น แบบว่าเริ่มปรับตัวกับเวลาตื่นเวลานอนกันได้แล้ว (เริ่มนอนดึกขึ้น แต่ก็ยังง่วงก่อนเที่ยงคืนอยู่ดี) เรื่องกาแฟตอนเช้านี้พ่อกับแม่มีความชำนาญในการใช้เครื่องชงกาแฟกันแล้วครับ ก็เลยไม่เป็นปัญหาที่ตื่นมาชงกาแฟในตอนเช้า แต่พอใช้เครื่องชงกาแฟเป็น พี่มาร์ตินก็เอาของเล่นใหม่มานำเสนออีกเป็นกาต้มกาแฟแบบอิตาเลียนมาทำให้เรียนรู้ใหม่อีกแล้ว (มันคือ Moka Pot แต่ข้อเสียคือมันเป็นไซส์ที่ชงได้ทีละ 2 แก้ว แถมยังเปิดแก๊สไม่ค่อยเป็นก็เลยขี้เกียจทำกัน) แล้วตอนนี้เรามีขนมอยู่หลายอย่างเลยครับ ทั้งที่เดินไปซื้อเองที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตตอนเช้าเมื่อวันก่อนกับที่พี่มาร์ตินซื้อมาให้ เลยทำให้กลายเป็นช่วงเวลาของความสำราญในการกินกาแฟตอนเช้าเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะขนมของพี่มาร์ตินนั้นเป็นแนวขนมพื้นบ้านที่เค้าจะทำขายกันแค่ช่วงเทศกาล (ช่วงที่ไปนั้นใกล้เทศกาลอีสเตอร์) และอื่นๆอีกมากมาย ขนมของดัชต์นี้ส่วนใหญ่จะมีรสหวาน หวาน แล้วก็หวาน แต่มักจะชอบเบรกรสชาติด้วยซินาม่อนผงนี่น่ะซิ ซึ่งถ้าใครไม่เคยกินจะบอกว่าแปลกทุกคน ซึ่งก็เป็นไปตามคาดว่าพ่อกับแม่มากินขนมของดัชต์ครั้งแรกแล้วก็มีอาการส่ายหน้าทันที ไม่รู้อร่อยหรืออิ่มก็ไม่รู้น่ะครับ
… พอพูดถึงขนมของดัชต์ ก็นึกถึงเรื่องที่แสดงถึงความแตกต่างทางวัฒนธรรมได้อย่างอีกนึงครับ โดยเรื่องมันมีอยู่ว่ามีขนมอย่างนึงมันเป็นขนมปังหวานที่มีไส้เป็นผลไม้กวนสักอย่างอาจจะเป็นพีชหรือพวกแอพริคอตนี่แหละครับไม่แน่ใจ แล้วในส่วนท็อปปิ้งก็จะเป็นผลไม้แห้งกับพวกถั่วต่างๆโรยลงมา ตามมาด้วยซินาม่อนผง จากนั้นก็หั่นเป็นชิ้นๆปิดท้ายด้วยการโรยไอซ์ซิ่งลงไปเป็นอันจบวิธีการเสริฟของเค้า ประเด็นก็คือพอพ่อกับแม่เค้าชิมแล้วรสชาติมันไม่ถูกปากเค้า แต่ด้วยความที่เค้าเกรงใจกลัวคนซื้อเสียใจก็เลยบอกพี่มาร์ตินว่าอร่อยมาก เท่านั้นแหละครับพ่อกับแม่ก็ได้กินขนมชนิดนี้ติดต่อกัน 3 วัน เพราะเค้าคิดว่าพ่อกับแม่ชอบ จนสุดท้ายพี่โอ๋ก็เลยให้แม่บอกกับพี่มาร์ตินตรงๆไปเลยครับว่ามันไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ รุ่งเช้านางจึงเปลี่ยนไปซื้อขนมชนิดใหม่มาครับแล้วบอกว่าอร่อยมั้ย ถ้าไม่อร่อยให้บอก ไม่งั้นพรุ่งนี้จะเป็นขนมนี้อีกน่ะ!!! ….. นี่แหละครับคำว่ากลัวเสียน้ำใจแบบไทยๆที่ไม่มีในพจนานุกรมของชาวดัชต์

Moka Pot รสชาติกาแฟออกมาเข้มข้นถูกใจสองตายายมากครับ

ขนมที่นี่น่ากินทุกอย่างเลยครับ อย่างที่เห็นนี้เป็นมัฟฟินอันเบ้อเริ่ม ถ้าจำไม่ผิดอันละยูโรนิดๆครับ
แต่อร่อยมากๆๆ  แถมซุปเปอร์มาร์เก็ตที่นี่ในโซนที่ขายขนมปังต่างๆนี้ละลานตามากครับ



… วันนี้โปรแกรมการท่องเที่ยวของเราพี่มาร์ตินจะพาเราเข้าเมืองไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันครับ แน่นอนครับว่าที่อัมสเตอร์ดัมนี้เป็นเมืองที่มีพิพิธภัณฑ์เยอะมาก โดยเฉพาะพิพิธภัณฑ์ศิลปะและพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางต่างๆนี้อย่างเยอะเลย แบบว่าถ้าจัดเป็น Museum Tour อย่างเดียวนี่สัปดาห์นึงคงไม่พอครับ (เงินค่าบัตรเข้าชมก็คงไม่พอเช่นกันเพราะค่าบัตรนี้อย่างต่ำแต่ละที่มี 10 € ขึ้นไปทั้งนั้นครับ) ซึ่งไม่เฉพาะอัมสเตอร์ดัมเท่านั้นครับ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นี้มีพิพิธภัณฑ์เยอะมากจริงๆ เมืองเล็กเมืองน้อยก็มีพิพิธภัณฑ์เต็มไปหมด ทั้งของเอกชน ของเทศบาลท้องถิ่น ของรัฐบาลส่วนกลางที่ไปตั้งตามหัวเมืองต่างๆก็มีหลายที่ แถมคนที่นี่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันมากครับ จะเห็นได้จากทุกที่ที่ไปนี้คนท้องถิ่นเยอะมากจริงๆ ยิ่งกว่านั้นถ้าที่ใดมี Special Exhibition น่ะครับ คนอย่างหนาแน่นสุดๆเลยครับ
…หลังจากกินอาหารเช้ากันเรียบแล้ว ประมาณ 10 โมงครึ่งครับเราก็ออกเดินทางกัน เช่นเดิมครับการเดินทางเข้าเมืองของพวกเราก็คือรถรางสาย 1 มาลงที่สถานี Leidseplein  จากนั้นเดินย้อนกันไปผ่านทางเข้า Vondelpark อีกนิดหน่อย ก็ถึงแล้วครับพิพิธภัณฑ์แห่งชาติอัมสเตอร์ดัม หรือที่เรารู้จักกันโดยทั่วไปว่า Rijksmuseum นั่นเอง
… เป็นโอกาสที่ดีมากๆเลยครับที่วันนี้พวกเราได้มาเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ซึ่งแค่ตัวอาคารที่เราเห็นจากภายนอกก็ทำให้เราตื่นเต้นแล้วครับ วันที่ไปนี้คนค่อนข้างเยอะครับเพราะเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของเนเธอร์แลนด์แล้วแต่โชคดีที่เราซื้อตั๋วทางออนไลน์มาล่วงหน้าแล้วเลยไม่ต้องต่อคิวซื้อตั๋วกัน โดยตั๋วที่ซื้อล่วงหน้านี้มีอยู่ 2 ใบครับที่เป็นตั๋วรวมที่เค้าเรียกว่า Museum Kaart เพราะว่าพี่โอ๋เค้ารู้ครับว่าผมเป็นชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ก็เลยซื้อตั๋วประเภทนี้เอาไว้ให้เผื่อเอาไปใช้ที่อื่นๆด้วย (ส่วนตัวแล้วแนะนำเลยครับสำหรับขาชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์แบบผมเพราะเจ้า Museum Kaart นี้เรียกว่าคุ้มมากครับโดยตัวบัตรอยู่ที่ราคา 59.90 € มีอายุ 1 ปี สามารถใช้เป็นบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่เข้าร่วมในบัตรนี้เป็น 100 แห่งทั่วประเทศเนเธอร์แลนด์เลยครับ เพราะอย่างที่ Rijksmuseum ที่เดียวนี้ค่าเข้าชมในตั๋วผู้ใหญ่ 1 คนนี้อยู่ที่ 17.5 € แล้วครับ แบบว่าเข้าชมแค่ 3-4 ที่นี่ก็คุ้มแล้ว) แต่ว่าบางพิพิธภัณฑ์อาจจะต้องมีทางเข้าต่างหาก ซึ่งถ้าภาษาไม่ค่อยแข็งแรงอย่างผมอาจจะมีงงๆกันบ้าง หรือถ้าใช้เป็นบัตรชั่วคราวนี้บางที่ก็ปฏิเสธไม่รับก็มีครับ (ของผมก็ใช้เป็นบัตรชั่วคราวเหมือนกันครับ ค่อยลงทะเบียนอัพโหลดรูปเป็นของพี่โอ๋ทีหลัง ตัวอย่างไม่ดีไม่ควรเลียนแบบน่ะครับ)

ถึงแล้วครับ Rijksmuseum หน้าตาอาคารนี้คล้ายๆกับ Amsterdam Centraal เพราะออกแบบโดยสถาปนิกคนเดียวกันครับ

ภายนอกอาคาร

เข้ามาด้านในครับ อลังการมาก

แค่กระจกสีตรงทางเข้าโถงใหญ่ก็เกิดอาการอู้หูส์ๆๆๆแล้วล่ะครับ

การตกแต่งภายในอาคาร


… กลับมาที่บรรยากาศใน Rijksmuseum กันบ้างครับ ที่นี่มีจุดเด่นมากๆเลยที่คอลเลคชั่นงานศิลปะของจิตรกรชาวดัชต์ที่มีชื่อเสียงมากๆอย่าง Rembrandt, Vermeer, Frans Hals โดยเฉพาะภาพเขียนที่ชื่อว่า “The Night Watch” อันเป็นภาพที่มีชื่อเสียงมากๆของ Rembrandt ก็จัดแสดงอยู่ที่นี่ครับ (รูปปั้นที่ตั้งอยู่ตรงลาน Rembrandtplein ที่พวกเราไปถ่ายรูปมากันเมื่อวันก่อนก็มีรูปปั้นจำลองมาจากภาพนี้เช่นกัน) ดังนั้นภารกิจสำคัญของการแวะชมที่นี่นั่นก็คือการหาภาพ “The Night Watch” นี่แหละครับ จากทางเข้าเราก็เดินขึ้นไปส่วนจัดแสดงที่ชั้น 2 ครับ โดยโถงกลางจะเป็นห้องขนาดใหญ่ที่ 2 ฝั่งเป็นคอลเลคชั่นภาพเขียนในสมัยศิลปะยุคทองของเนเธอร์แลนด์ล้วนๆเลยครับ แบบว่าเต็มอิ่มมากๆ จากนั้นปลายโถงใหญ่ก็จะเป็นห้องขนาดกลางอีกห้องนึงครับ ที่นี่จะเป็นห้องที่จัดแสดงภาพเขียนขนาดใหญ่ ซึ่งก็ตามคาดครับว่า “The Night Watch” ของเราอยู่ที่นี่ และก็เป็นไปตามคาดอีกเช่นกันว่าคนจะเยอะเป็นพิเศษประหนึ่งห้องที่จัดแสดงภาพโมนาลิซ่าที่ลูฟวร์เลยครับ... ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับว่าพ่อกับแม่สามารถใช้เวลากับงานศิลปะเหล่านี้ได้เป็นชั่วโมงเลยครับ ตอนแรกก็กลัวเหมือนกันน่ะครับว่าเค้าจะเบื่อกัน ที่ไหนเดินดูกันซะละเอียดเลยครับ เป็นคอศิลปะกันตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ยคุณพ่อกับคุณแม่ของช้านๆๆ …. 5555


Collection ภาพเขียนใน Rijksmuseum


The Night Watch มหาชนมุงเยอะมาก จนต้องเขย่งถ่ายภาพมันเลยเบลอๆ อย่างที่เห็น
นี่ก็ Rembrandt เหมือนกันแต่คนไม่มามุงก็เลยได้ถ่ายแบบสวยๆ

... จากนั้นเราก็ใช้เวลากันใน Rijksmuseum ต่ออีกประมาณราวๆ 2 ชั่วโมงได้ครับ ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับ 2 ผู้เฒ่า เพราะว่าการเดินในพิพิธภัณฑ์นี้มันจะไม่เหมือนเดินเล่นกันด้านนอก ใครที่ไปเที่ยวแนวนี้บ่อยๆจะรู้ดีครับว่าปวดน่องขนาดไหนกับการเดินไปเดินมาในพิพิธภัณฑ์ แถมที่นั่งก็ไม่ค่อยมีด้วย ซึ่งนอกจากงานศิลปะของเหล่าศิลปินดัชต์ที่มีชื่อเสียงแล้ว ยังมีศิลปวัตถุอื่นๆมากมายเลยครับ ทั้งเครื่องทอง งานโลหะ งานงาช้างที่ก็สวยมากๆ แล้วก็อื่นๆอีกมากมายเลยครับ ซึ่งที่นี่เค้าจะเน้นการแสดงวัตถุที่เน้นไปทางศิลปะมากกว่า เช่น พวกภาพเขียน งานปั้น งานแกะสลักครับ ส่วนโบราณวัตถุก็จะเน้นไปทาง Decorative Art ซะมากกว่า พวกตู้ เตียง โต๊ะ ดังนั้นงานแนวประวัติศาสตร์หรือแนวโบราณคดีเลยค่อนข้างน้อยครับ เพราะอย่างที่บอกไปว่า พิพิธภัณฑ์ที่นี่มีเยอะมากครับ แล้วก็จะเป็นพวกพิพิธภัณฑ์เฉพาะทางเป็นส่วนใหญ่ อย่างที่ Rijksmuseum ที่อัมสเตอร์ดัมก็เน้นงานศิลปะครับ แต่ที่เมือง Leiden เป็น Rijksmuseum van Oudheden ที่เน้นวัตถุโบราณและประวัติศาสตร์ หรือ Rijksmuseum van Natuurlijke Historie พิพิธภัณฑ์แห่งชาติธรรมชาติวิทยา ก็อยู่ที่เมืองนี้เช่นเดียวกัน (จะบอกว่างวดหน้าถ้ามีโอกาสไปที่เนเธอร์แลนด์อีกผมอยากไปที่ Leiden มากๆๆ เพราะที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ใหญ่ๆเยอะมาก ห่างจากบ้านพี่โอ๋ไปประมาณ 30 กิโลเอง ฟิตร่างกายหน่อยผมว่าขี่จักรยานไปได้ครับ)
เพิ่งรู้ว่าแม่เดินพิพิธภัณฑ์เก่งมาก พลังงานเหลือเฟือมากๆ

คอลเลคชั่นเครื่องทอง

กระเบื้องปูผนังบ้าน อันนี้สมัยเนเธอร์แลนด์รุ่งเรืองจากการค้า

คอลเลคชั่นจากเอเชียก็มีครับ แต่วันนั้นยังเดินดูไม่ทั่วเลยครับน่าจะยังมีอีกพอสมควร

งานแกะสลักหินอ่อน ของจริงสวยมากๆ

ห้องแสดงแบบจำลองเรือของ VOC ยุคการค้าอันรุ่งโรจน์ของดัชต์

Rijksmuseum Library หนังสือโบราณทั้งนั้น โดยเฉพาะ ปวศ.ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ที่ร่ำเรียนกันทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็ถุกค้นพบจากกองหนังสือโบราณเหล่านี้ล่ะครับ
ชื่อสินค้า:   ยุโรป , Europe , Netherland , เนเธอร์แลนด์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่