25 สิงหาคม2559
เมื่อประมาณสี่เดือนที่แล้ว opd screen พบผู้ป่วยหญิง นับถือศาสนาอิสลาม โรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง มีปัญหาเรื่องความดันสูงมาก 200+/100 และ คัดกรองภาวะซึมเศร้า ให้ผลบวก (screen 2Q +ve) เลยส่งไปพบพี่กุ้งๆ ถามว่า ทำไมแกถึงไม่สบายใจ แกตอบว่า "แกตายไม่ได้ ตายตาไม่หลับ เพราะ ลูกสาวแกป่วยเป็นบ้า มา40ปีแล้ว ตอนนี้ ถูกขังอยู่ในขนำหลังบ้าน ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ พูดก็ไม่เป็นภาษามนุษย์ ถ้าแกตายไปแล้ว ใครจะดูแลลูกสาว ทำให้แกเครียดมาก ความดันก็ขึ้น "
หลังจากนั้น เลยไปเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วยรายนี้ กับพี่กุ้ง ก็พบว่า เป็นอย่างที่ป้าคนนี้บอก ลูกสาว แกพูดจาไม่รู้เรื่อง ถูกขังอยู่ในขนำหลังบ้าน ถามอะไร ก็ไม่สบตา พูดไม่เป็นภาษา กลางคืน อยู่ดีๆ ก็ร้องเพลงโหวกเหวก ฟังไม่รู้เรื่อง เวลาอารมณ์เกรี่ยวกราด ก็เคยทำร้ายแม่ และต้องใช้คนมาช่วยจับ 4 คน เลยถูกขังอยู่ในขนำนี้ 40 ปี แล้ว แม่แกเล่าให้ฟังว่า เริ่มป่วยตั้งแต่ อายุ17ปี ตอนนั้นไปรักษาที่รพ.สวนสราญรมย์ แล้ว คนไข้แอบหนีออกจากรพ. ค่อยๆเดิน ขอพักตามวัด ตามมัสยิด ถามหาคนรู้จัก จนมีคนมาบอกแม่แก เลย ตามไปเจอ สุดท้าย เลยไม่พาไปรักษาที่สุราษฏ์ แล้ว ขังไว้ที่ขนำหลังบ้าน จนนับเวลาได้40ปีแล้ว ปัจจุบัน อายุ 57 ปี
เลยนำเรื่องราวไปปรึกษาจิตแพทย์ที่มารพ.เรา ปรากฏว่า จิตแพทย์ให้ญาติพาคนไข้มารพ. และเนื่องจากเป็นมานานแล้ว ควรส่งไปตรวเอ็กซเรย์สมองที่รพ.หาดใหญ่ด้วย
กลายเป็นว่า ญาติพามาไม่ไหว เพราะคนไข้ไม่รู้เรื่องเลย แถมเวลาเอะอะโวยวายอาละวาด ต้องใช้ผู้ชายจับถึง4คน ผมเลยตัดสินใจให้พี่กุ้ง ลองใช้ยาต้านโรคจิต (fendex) ฉีดดูเดือนละครั้ง เพราะ ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว คนไข้ก็ไม่รู้เรื่อง ญาติก็พามารพ.ไม่ได้น่าจะลองกันสักตั้ง
วันแรกที่ฉีดยา พี่กุ้งต้องพาชายฉกรรจ์ ไปช่วยกันจับ 6 คน แต่ จะฉีดยา คนไข้ ถกผ้าถุงไม่ฉีด เฉยเลย ไม่ดิ้น ไม่ร้อง ไม่โวยวาย ผ่านไป3เดือน (ฉีดเดือนละเข็ม) คนไข้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ พูดจาเริ่มรู้เรื่องขึ้น เริ่มช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น ตักข้าวกินเองได้ เริ่มช่วยแม่ ขยี้ผ้าตอนซักได้บ้าง อาบน้ำเองได้ วันนึงอาบตั้ง4-5 รอบ
วันนี้ เลย ไปเยี่ยมบ้าน พร้อมกับ พี่กุ้ง กับน้องผ่อง เห็นคนไข้ หน้าตาแจ่มใสขึ้น เนื้อตัวดูสะอาดสะอ้าน จากเดิมที่มอมแมม อาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง กลายเป็นอาบวันละ4-5รอบ พูดคุยรู้เรื่อง
พี่กุ้ง : วันนี้ กินข้าวกับอะไร
คนไข้ : ช้อนสีฟ้า (แกถือช้อนสีฟ้าติดตัวไว้ตลอด ไว้เตรียมกินข้าวเต็มที่)
พี่กุ้ง : แล้ว ตอนเที่ยงกินอะไร
คนไข้ : ก๋วยเตี๋ยว
คนไ้ข้ขอออกจากหนำ เดินนำเรา พาพวกเรามานั่งคุยกันตรงลานบ้าน
พอพี่กุ้งไปเจอแม่คนไข้ ๆ แกแทบจะโผมากอดพี่กุ้ง แกดีใจมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับที่มาตอนแรก แกบอกว่า แบบนี้ แกหมดห่วงแล้ว ตายตาหลับแล้ว (แต่ยังมีปัญหาขาดยาความดันอยู่ แกไม่ไปตามนัด แล้วไปกินยาตามบ้าน) เลย บอกแกว่า ทางอำเภอทราบเรื่องแล้ว ตอนนี้ คนไข้ยังไม่มีบัตรประชาชน ชื่อตามทะเบียนบ้านก็ไม่มี ทางอำเภอ เขาจะมาถ่ายรูปที่บ้าน และ สอบถามหน่อย แล้ว จะให้พาไปถ่ายรูปทำบัตรประชาชนที่อำเภอ จะได้ทำบัตรทอง และ บัตรผุ้พิการต่อได้เลย ได้เงินเพิ่มมาเดือนละ 800 (น้องชายแกยิ้มใหญ่ แกบ่นว่า ช่วงนี้คนไข้กินเยอะ กินชาเย็นทุกวันเลย ค่าข้าววันนึงเกือบร้อย)
น่าจะ ปลดโซ่ตรวจสำเร็จนะ เห็นแม่คนไข้ ยิ้มออก ทีมงานก็ชื่นใจ 40 ปีที่ถูกขังอยู่ในขนำ 40 ปีที่ไม่รับรู้อะไรผ่านไปในชีวิต วันนี้ คนไข้ออกมาได้แล้ว แถมชอบออกมานั่งหน้าบ้าน และ ช่วยเหลือตนเองได้หลายอย่าง เห็นแบบนี รู้สึกดีจัง
เยี่ยมบ้าน ฟื้นฟูคนไข้จิตเวช
เมื่อประมาณสี่เดือนที่แล้ว opd screen พบผู้ป่วยหญิง นับถือศาสนาอิสลาม โรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูง มีปัญหาเรื่องความดันสูงมาก 200+/100 และ คัดกรองภาวะซึมเศร้า ให้ผลบวก (screen 2Q +ve) เลยส่งไปพบพี่กุ้งๆ ถามว่า ทำไมแกถึงไม่สบายใจ แกตอบว่า "แกตายไม่ได้ ตายตาไม่หลับ เพราะ ลูกสาวแกป่วยเป็นบ้า มา40ปีแล้ว ตอนนี้ ถูกขังอยู่ในขนำหลังบ้าน ช่วยตัวเองก็ไม่ได้ พูดก็ไม่เป็นภาษามนุษย์ ถ้าแกตายไปแล้ว ใครจะดูแลลูกสาว ทำให้แกเครียดมาก ความดันก็ขึ้น "
หลังจากนั้น เลยไปเยี่ยมบ้าน ผู้ป่วยรายนี้ กับพี่กุ้ง ก็พบว่า เป็นอย่างที่ป้าคนนี้บอก ลูกสาว แกพูดจาไม่รู้เรื่อง ถูกขังอยู่ในขนำหลังบ้าน ถามอะไร ก็ไม่สบตา พูดไม่เป็นภาษา กลางคืน อยู่ดีๆ ก็ร้องเพลงโหวกเหวก ฟังไม่รู้เรื่อง เวลาอารมณ์เกรี่ยวกราด ก็เคยทำร้ายแม่ และต้องใช้คนมาช่วยจับ 4 คน เลยถูกขังอยู่ในขนำนี้ 40 ปี แล้ว แม่แกเล่าให้ฟังว่า เริ่มป่วยตั้งแต่ อายุ17ปี ตอนนั้นไปรักษาที่รพ.สวนสราญรมย์ แล้ว คนไข้แอบหนีออกจากรพ. ค่อยๆเดิน ขอพักตามวัด ตามมัสยิด ถามหาคนรู้จัก จนมีคนมาบอกแม่แก เลย ตามไปเจอ สุดท้าย เลยไม่พาไปรักษาที่สุราษฏ์ แล้ว ขังไว้ที่ขนำหลังบ้าน จนนับเวลาได้40ปีแล้ว ปัจจุบัน อายุ 57 ปี
เลยนำเรื่องราวไปปรึกษาจิตแพทย์ที่มารพ.เรา ปรากฏว่า จิตแพทย์ให้ญาติพาคนไข้มารพ. และเนื่องจากเป็นมานานแล้ว ควรส่งไปตรวเอ็กซเรย์สมองที่รพ.หาดใหญ่ด้วย
กลายเป็นว่า ญาติพามาไม่ไหว เพราะคนไข้ไม่รู้เรื่องเลย แถมเวลาเอะอะโวยวายอาละวาด ต้องใช้ผู้ชายจับถึง4คน ผมเลยตัดสินใจให้พี่กุ้ง ลองใช้ยาต้านโรคจิต (fendex) ฉีดดูเดือนละครั้ง เพราะ ตอนนี้ไม่มีอะไรต้องเสียแล้ว คนไข้ก็ไม่รู้เรื่อง ญาติก็พามารพ.ไม่ได้น่าจะลองกันสักตั้ง
วันแรกที่ฉีดยา พี่กุ้งต้องพาชายฉกรรจ์ ไปช่วยกันจับ 6 คน แต่ จะฉีดยา คนไข้ ถกผ้าถุงไม่ฉีด เฉยเลย ไม่ดิ้น ไม่ร้อง ไม่โวยวาย ผ่านไป3เดือน (ฉีดเดือนละเข็ม) คนไข้เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ พูดจาเริ่มรู้เรื่องขึ้น เริ่มช่วยเหลือตนเองได้มากขึ้น ตักข้าวกินเองได้ เริ่มช่วยแม่ ขยี้ผ้าตอนซักได้บ้าง อาบน้ำเองได้ วันนึงอาบตั้ง4-5 รอบ
วันนี้ เลย ไปเยี่ยมบ้าน พร้อมกับ พี่กุ้ง กับน้องผ่อง เห็นคนไข้ หน้าตาแจ่มใสขึ้น เนื้อตัวดูสะอาดสะอ้าน จากเดิมที่มอมแมม อาบน้ำอาทิตย์ละครั้ง กลายเป็นอาบวันละ4-5รอบ พูดคุยรู้เรื่อง
พี่กุ้ง : วันนี้ กินข้าวกับอะไร
คนไข้ : ช้อนสีฟ้า (แกถือช้อนสีฟ้าติดตัวไว้ตลอด ไว้เตรียมกินข้าวเต็มที่)
พี่กุ้ง : แล้ว ตอนเที่ยงกินอะไร
คนไข้ : ก๋วยเตี๋ยว
คนไ้ข้ขอออกจากหนำ เดินนำเรา พาพวกเรามานั่งคุยกันตรงลานบ้าน
พอพี่กุ้งไปเจอแม่คนไข้ ๆ แกแทบจะโผมากอดพี่กุ้ง แกดีใจมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ผิดกับที่มาตอนแรก แกบอกว่า แบบนี้ แกหมดห่วงแล้ว ตายตาหลับแล้ว (แต่ยังมีปัญหาขาดยาความดันอยู่ แกไม่ไปตามนัด แล้วไปกินยาตามบ้าน) เลย บอกแกว่า ทางอำเภอทราบเรื่องแล้ว ตอนนี้ คนไข้ยังไม่มีบัตรประชาชน ชื่อตามทะเบียนบ้านก็ไม่มี ทางอำเภอ เขาจะมาถ่ายรูปที่บ้าน และ สอบถามหน่อย แล้ว จะให้พาไปถ่ายรูปทำบัตรประชาชนที่อำเภอ จะได้ทำบัตรทอง และ บัตรผุ้พิการต่อได้เลย ได้เงินเพิ่มมาเดือนละ 800 (น้องชายแกยิ้มใหญ่ แกบ่นว่า ช่วงนี้คนไข้กินเยอะ กินชาเย็นทุกวันเลย ค่าข้าววันนึงเกือบร้อย)
น่าจะ ปลดโซ่ตรวจสำเร็จนะ เห็นแม่คนไข้ ยิ้มออก ทีมงานก็ชื่นใจ 40 ปีที่ถูกขังอยู่ในขนำ 40 ปีที่ไม่รับรู้อะไรผ่านไปในชีวิต วันนี้ คนไข้ออกมาได้แล้ว แถมชอบออกมานั่งหน้าบ้าน และ ช่วยเหลือตนเองได้หลายอย่าง เห็นแบบนี รู้สึกดีจัง