อ๊ากกกกกกกกกกกก จก ตัดแปะ พลาดซะแล้ววววววว

อุตส่าห์อยู่เป็นมาตั้งนาน โดนกลยุทธของแก๊งค์หัวหงอกดึงตัวไปเป็นพวกแล้ว ตายล่ะ แบบนี้เตรียมตัวโดนแก๊งค์หัวล้านถล่มได้เลยนะเนี่ย

แหม นับพี่นับน้องสาบานเจ้าร่วมแก๊งค์กันซะล่ะ เอิ๊ก ๆ ๆ

คุนไปคุยมา   ได้ทฤษฎีใหม่

ทฤษฎีต้มจก


ว่าด้วยการต้มตัวเองสะกดจิตตัวเองด้วยการเลือกรับข้อมูลด้านเดียว
ด้านที่ตรงกับจริตความต้องการที่จะดีสเครดิตฝ่ายที่ไม่ชอบโดยไม่ดูข้อเท็จจริงโดยรวม
แล้วหมกมุ่นจมไปกับใจที่เป็นหนอง.  ย้ำคิดย้ำทำกับการหลอกตัวเอง


เห็นตามนี้ละ.

เชื่อไหมล่ะ ถ้าเปลี่ยนขั้วอำนาจเมื่อไหร่

คนที่ชอบต้มกบ จะเลิกต้ม เป็นอวยรัฐบาลแทน อะไรก็ดีขึ้นทุกเซกเม้นท์

คนที่อวยรัฐบาล ก็จะเปลี่ยนไปต้มกบแทน

เรื่องมันก็มีแค่นี้แหละ ถ้าไม่เชื่อผมรอดูกัน ผมจะเก็บกระทู้นี้ไว้

ทฤษฏีต้มกบ เอาจริงๆ มันมีหลายแหล่งที่มา หลายคนอ้างว่าเป็นคนคิด

แล้วก็เอามาพูดต่อๆกัน จริงๆอย่างที่รู้กันคือ มันไม่จริง อย่างที่ว่านะครับ

ทีนี้เวลาคนเอามาพูด ก็จะผูกกับเรื่องที่ต้องการเสนอ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเงิน เรื่องการปกครอง

แต่ละคนก็พูดไปต่างๆกัน แล้วแต่จะเอามาผูกกับเรื่องอะไร

แต่สิ่งที่ทุกคนที่อ้างทฤษฏีนี้ จะมีอย่างนึงที่เหมือนกันเสมอ อย่างแน่นอนคือ

คนที่เอามาพูด จะพูดเมื่ออยู่ในภาวะที่ตัวเองไม่ชอบ ภายใต้รัฐบาลที่ตัวเองไม่ชอบเท่านั้น

ถ้าเป็นรัฐบาลที่ชอบ อะไรมันก็ดีไปหมดอ่ะครับ

ต้องรอให้มีการเปลี่ยนรัฐบาล เป็นรัฐบาลที่ตัวเองชอบเค้าถึงจะหยุดพูดถึงต้มกบ

แม้เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว. ไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางที่ดี  คนที่พูดถึงทฤษฏีนี้ทุกวันก็จะปิดปาก

ไม่พูดถึงมันอีกเลย เพราะเค้าจะไม่พูดดิสเครดิตรัฐบาลที่ตัวเองสนับสนุน

เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลเป็นที่ไม่ชอบอีกนั่นแหละก็จะขุดเอามาพูดอีก

มันก็เป็นเช่นนี้แหละครับ เชื่อผม ถ้าไม่เชื่อก็คอยดูนะครับ

แต่คงต้องรอนานหน่อย เพราะผมคิดว่านอมินีทหารมาแน่

เพราะงั้นต้มกบยังอยู่อีกหลายปี พูดถึงต้มกบจนกว่าจะสูญพันธุ์ไปข้างนึง