เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทางแฟนจขกท. ชวนไปไหว้พระที่ประจวบฯ โดยต้นเรื่องบอกว่าถ้าเธอได้ไปต้องชอบแน่ๆ ซึ่งหนทางค่อนข้างไกล และที่สำคัญนัดผิดเวลา ทางจขกท. ออกจากบ้านข้ากว่าทริปที่แล้ว โดยเริ่ม Start ตอน 05.30 น. แฟนก็บ่นนิดหน่อยเพราะกลัวเสียเวลา หนทางค่อนข้างไกล ที่สำคัญเช้ามืดทำความเร็วไม่ได้ ต้องขับไปเรื่อยๆ การเดินทางต้นเดือนฟ้าสว่างช้า อากาศเย็น มีหมอกลงในการเดินทาง เส้นทางค่อนข้างร่มรื่น แต่มีการทำทางหลายจุดอยู่เหมือนกัน โดยการเดินทางครั้งนี้เราตาม GPS Garmin เหมือนเช่นเคย (ตั้งเวลาออกเดินทาง และเวลาถึงคำนวณเสร็จไว้เรียบร้อย ??? เรียบร้อยจริงๆ คะ เครื่องคำนวณเลือกเส้นที่รถใหญ่วิ่งได้ปกติ แต่ต้องบุกหน่อยๆ ^^a อยากพูดกับเจ้ากามินได้จริงๆ ว่าคุณ GPS คะรถฉันบางทีก็ไม่ใช่ Off Road นะคะ)

งบประมาณหมดกลางทาง

ด้วยการคำนวณเวลาบุกเข้าเส้นทางทุ่งนา เข้าหมู่บ้านเลี่ยงถนนใหญ่ จึงทำให้ย่นระยะการเดินทางเร็วขึ้น เราก็เดินทางไปถึงวัดทางสาย ตอนแรกงง เลี้ยวเข้าวัดเลยแว๊บ คือวัดกุฎิอยู่ด้านล่าง แต่ตัววิหารอยู่บนเนินเขา ต้องขับเลยทางเข้าวัดไปหน่อย ก็จะเห็นทางขึ้นเนินเพื่อไปวิหาร พอขึ้นมาได้ปุปสวยจังเลย เจอพระองค์ใหญ่อยู่บนเนินเขาและเมื่อเข้าไปสักการะใกล้ๆ จะเห็นตราสัญลักษณ์ตราประจำพระองค์ ของพระราชินีในหลวงราชการที่ 9 อยู่ที่ฐานพระ ซึ่งรอบวัดเงียบคนไม่พลุกพล่าน แต่มีคนค่อยมาจุดประทัดเป็นระยะๆ เพื่อมาแก้บน

เราจัดแจงสักการะเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็เดินทางขึ้นไปไหว้พระบรมสารีริกธาตุ พอขึ้นไปเห็นด้านบนปุบ อดชื่นชมความสวยไม่ได้เลย (แต่แอบเหนื่อย ไปถึงช่วงแดดเปรี้ยงพอดี แนะนำหาครีมกันแดดพร้อมร่มกันแดดไปคะ คนมีอายุเดินได้แต่ หอบอยู่ทางยาวๆ ไม่ชันมาก แต่ขึ้นเนิน มีดมยาดมเหมือนกัน 555+++) ถ่ายได้ด้านนอกคะ ด้านในเขียนว่าห้ามถ่ายรูปแต่มีหลายคนยกมือถือถ่ายด้านในอยู่ แต่จขกท. ขอรักษาในกฏระเบียบที่ทางวัดจัดให้นะคะ เลยไม่ได้ถ่ายด้านในมา พอดีมีมัคคุเทศน์จำเป็น (นักเรียนที่สละเวลาในวัดหยุดมาเดินแนะนำภายในว่าวัดนี้เกิดจากแรงศรัทธาได้อย่างไร) พอเรารู้ประวัติถึงกับอึ้ง คิดในใจว่าโชคดีจังที่ได้มา มาด้วยความตั้งใจแค่เพราะว่าบรรยากาศ แต่วัดนี้ได้ทำให้หัวใจของจขกท. กับแฟน พองโตเมื่อรู้ประวัติยิ่งขึ้นไปอีก (ต้องขอบคุณน้องๆ มากเลย คนที่มาถ้าไม่ได้ฟังน้องๆ ที่สละเวลา จะไม่รู้ประวัติที่นี้เลย ไม่รู้ว่าทำไมเจ้าอาวาสที่นี้ถึงห้ามถ่าย พระที่นี้ด้านบนสุดหมายความว่าอย่างไร)

ถ้าใครสังเกตุรูปที่เก็บพระสารีริกธาตุ ว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหนไหมคะ

ใช่คะที่นี้เป็นสถานที่จริง ที่สนามหลวงเป็นภาพจำลองมาจากวัดนี้คะ พระเมรุมาศ … วัดนี้สร้างขึ้นเพื่อถวายในหลวงราชการที่ 9 พระราชินีเป็นประธาน สมเด็จพระเทพฯ เป็นผู้ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ยกยอดฉัตรของที่นี้ ด้านบนสุดสร้างพระประจำวันเกิดให้ในหลวงราชการที่ 9 โดยที่นี้มีทั้งหมด 5 ชั้น มีอยู่ 2 ชั้นที่ปิด มีชั้นหนึ่งจะเปิดแค่วันมาฆบูชาเท่านั้น และอีกชั้นจะเปิดเมื่อมีการจัดงานในวัด และที่สำคัญฝรั่งที่มาแทบทุกคนจะถามหากระเบื้องแก้วที่มีรูปในหลวงซ่อนอยู่ นักท่องเที่ยวคนไทยอาจจะไม่รู้ทุกคน แต่ฝรั่งที่มาวัดนี้ทุกคนจะต้องถามหากระเบี้องแผ่นนี้ มีหลายๆ จุดที่เขียนถึงพระราชกรณียกิจมากมาย Hilight เต็มไปหมด เจ้าอาวาสถึงไม่อยากให้ใครถ่ายรูปสถานที่นี้ อยากให้เป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ มีความเคารพในพื้นที่นี้ ถ้าไม่ได้มัคคุเทศน์จำเป็น เราคงไม่รู้ เราได้แต่ชื่นชมความสวยงาม แต่ไม่รู้ที่มาที่ไป

เมื่อไหว้ที่นี้เสร็จแล้วขากลับตั้งใจไปแวะ ไหว้หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ วัดห้วยมงคลเพื่อความเป็นศิริมงคลให้กลับชีวิตตนเอง

Bye Bye ประจวบคีรีขันธ์ ในวันสบายๆ ที่ทำให้หัวใจพองโต