หลวงพ่อพัฒน์ท่านเป็นพระอริยเจ้าทรงอภิญญามีญาณทัศนะแจ่มใสแม่นยำจริงๆครับ
เคยไปทำบุญกับท่านหลายวาระ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีคนเขาบอกว่า เขาเดือดร้อนเรื่องเงิน
เขามาขอให้ช่วยบูชามีดหมอหลวงพ่อพัฒน์หน่อย
ซึ่งเราก็ไม่รู้จักเขา แต่ก็ด้วยเคารพหลวงพ่อพัฒน์ จึงช่วยเขาไป
ต่อมาได้ไปวัดห้วยด้วน ตั้งใจจะเอามีดไปอวดหลวงพ่อพัฒน์แล้วจะขอให้ท่านเสกซ้ำ แต่วันนั้นท่านติดไปฉันเพลข้างนอก จึงนั่งรอท่านเพราะคนในวัดบอกเดี๋ยวท่านก็กลับ
ระหว่างรอก็ขอให้คนในวัดช่วยดูว่า ใช่ของหลวงพ่อพัฒน์เสกไหม?แล้วเป็นรุ่นไหน? คนในวัดดูแล้วบอกไม่มีโค๊ดไม่ใช่ของท่าน ท่านไม่ได้เสก ตอนนั้นใจแป้วเลยคิดว่าเราโดนหลอกแล้ว ก็คิดในใจว่า ไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรวะ เดี๋ยวขอให้ท่านเสกใหม่ก็ได้
ท่านเสกให้แล้วก็ขลังเหมือนกันนั่นแหละ
จากนั้นรออีกสักครู่ หลวงพ่อพัฒน์กลับจากกิจนิมนต์มาถึงวัด จึงเข้าไปกราบทำบุญและพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับท่าน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องโดนหลอกให้ซื้อมีดหมอให้ท่านฟัง
จากนั้นก็ขอให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตวัตถุมงคลให้เป็นพวกพระและเครื่องรางเก่าๆที่เคยได้รับและเคยเช่าบูชามาพร้อมส่งมีดหมอ ขอให้ท่านปลุกเสกด้วย
พอท่านจับมีดหมอแล้วท่านนิ่งไปสักครู่ ท่านก็ว่า #มีดนี่กูเคยเสกแล้ว_ไม่มีโค๊ดก็ของกู
อึ้งเลยครับ
รู้สึกดีใจว่าไม่ได้โดนหลอกแต่อัศจรรย์ใจท่านรู้ได้อย่างไร? เรากังวลใจในเรื่องนี้ #ญาณหยั่งรู้ท่านแจ่มแจ้งจริงๆครับ
ในกาลต่อมา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าในอดีต 3 องค์ที่เสด็จมาโดยปาฏิหาริย์ของชมรมสู่ร่มโพธิญาณมาขอให้ท่านโมทนาบุญร่วมกัน
พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าโบราณมีพระนามดังนี้
1 พระอาทิวชิรกายสีขีวิสุทธิรังษีพุทธเจ้า
ถวาย พระเทพวชิรากร (พระอาจารย์ชัย) บรรจุพระมหาเจดีย์ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่
2 พระสัทธรรมวิทยาตถาคตพุทธเจ้า
ถวายบรรจุพระมหาเจดีย์ในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (สงฆ์) วิทยาเขตขอนแก่น
3 พระประภูตรัตนพุทธเจ้า
ถวาย หลวงปู่อินตอง สุภาโร วัดป่าวีระธรรม จ.สกลนคร
เมื่อท่านทราบท่านก็ยกมือพนมเหนือศรีษะแล้วกล่าวว่า ขออนุโมทนาด้วยนะ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและกริยาที่เคารพในพระบรมสารีริกธาตุอย่างสูง
จากนั้นท่านก็ยกโถบรรจุพระโบราณบรมสารีริกธาตุขึ้นจบเหนือศรีษะ แล้วอธิษฐานนิ่งสงบสักครู่ จึงส่งโถบรรจุพระบรมสารีริกธาตุคืนให้กลุ่มเรา
แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า ของสูงนะนี่ บารมีท่านมากนะ
แล้วท่านกล่าวว่า นี่ขนลุกเลย
จากนั้นท่านก็ชมพระโบราณบรมสารีริกธาตุทีละองค์ พอชมถึง พระอาทิวชิระกายสิขีวิสุทธิรังษีพุทธเจ้า ท่านก็ว่าองค์นี้สำคัญที่สุด แล้วท่านก็ยกมือพนมสักการะอีกวาระหนึ่ง
จากนั้นก็กราบลาท่านกลับบ้าน
ในกาลต่อมา น้องซัน(สมาชิกชมรมสู่ร่มโพธิญาณ) ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ใส่ผอบจะไปถวายท่าน
พอท่านสัมผัสแล้ว ท่านกล่าวว่า เมื่อกี้เห็นแสงแจ้งสว่างออกจากผอบ ท่านว่าเป็นนี่ พระบรมสารีริกธาตุ ของแท้ ท่านจึงให้อัญเชิญไปไว้ในโบสถ์ เพื่อให้พระเณรแม่ชีผู้ปฎิบัติธรรมสาธุชนได้มีโอกาสกราบไหว้สักการะเอาบุญ"
หลังจากนั้น อ.วิกรานต์ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
นั่งรถผ่าน จ.นครสวรรค์ ก็คิดถึง หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จึงชวนกันเข้าไปกราบทำบุญกับท่าน
เมื่อถึง วัดห้วยด้วน จึงเข้าไปกราบท่านในวันนั้นไปถึงวัดประมาณ 5 โมงเย็น ช่วงเวลานั้นฝนตกหนักมากและท่านก็ว่างๆพอดีจึงได้มีโอกาศสนทนากับท่านนานพอสมควร
เมื่อฝนเบาลงแล้วจึงร่วมกันทำบุญกับท่านแล้วกราบลา
จู่ๆท่านก็ส่งพวงมาลัยให้ อ.วิกรานต์ พร้อมกล่าวว่า
เอ้าเอาไปบูชาพระบรมธาตุในรถให้หน่อย
ทุกคนอึ้งในญาณทัศนะท่านอีกครา
อ.วิกรานต์ จึงเห็นเป็นโอกาศดีเลยกราบเรียนท่านว่า พอดีวันนี้จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของ พระมังคลพุทธเจ้า เอาเข้าไปใน กรุงเทพฯ ครับ
เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาโดยปาฏิหาริย์ครับ
ท่านพยักหน้ารับทราบ
คณะเราเลยรีบไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาให้ หลวงพ่อพัฒน์ ท่านชม
พอท่านเห็นท่านจ้องนิ่งๆสักครู่หนึ่งแล้วหันก็หยิบพวงมาลัยมาพนมเหนือศรีษะแล้วคล้องลงที่ผอบอย่างนอบน้อม
แล้วกล่าวว่า เออดีๆศักดิ์สิทธิ์
ท่านยิ้มแต่ไม่กล่าวอะไรอีก
เพื่อเสร็จธุระแล้วจึงกราบลาท่านแล้วออกเดินทางเข้า กทม.
ภายหลังพระบรมสารีริกธาตุ พระมังคลพุทธเจ้า องค์นี้ได้นำมาถวาย หลวงพ่อสงัด วัดศรีภวังค์ จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อสงัด ได้จัดพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐานใน พระบรมธาตุเจดีย์ ของวัดแบบเป็นการถาวรเรียบร้อยแล้ว
ท่านใดประสงค์จะไปกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตก็เชิญตามสะดวกครับ
หลวงพ่อพัฒน์ท่านเป็นพระอริยเจ้าทรงอภิญญามีญาณทัศนะแจ่มใสแม่นยำ
เคยไปทำบุญกับท่านหลายวาระ
มีอยู่ครั้งหนึ่ง มีคนเขาบอกว่า เขาเดือดร้อนเรื่องเงิน
เขามาขอให้ช่วยบูชามีดหมอหลวงพ่อพัฒน์หน่อย
ซึ่งเราก็ไม่รู้จักเขา แต่ก็ด้วยเคารพหลวงพ่อพัฒน์ จึงช่วยเขาไป
ต่อมาได้ไปวัดห้วยด้วน ตั้งใจจะเอามีดไปอวดหลวงพ่อพัฒน์แล้วจะขอให้ท่านเสกซ้ำ แต่วันนั้นท่านติดไปฉันเพลข้างนอก จึงนั่งรอท่านเพราะคนในวัดบอกเดี๋ยวท่านก็กลับ
ระหว่างรอก็ขอให้คนในวัดช่วยดูว่า ใช่ของหลวงพ่อพัฒน์เสกไหม?แล้วเป็นรุ่นไหน? คนในวัดดูแล้วบอกไม่มีโค๊ดไม่ใช่ของท่าน ท่านไม่ได้เสก ตอนนั้นใจแป้วเลยคิดว่าเราโดนหลอกแล้ว ก็คิดในใจว่า ไม่ใช่ก็ไม่เป็นไรวะ เดี๋ยวขอให้ท่านเสกใหม่ก็ได้
ท่านเสกให้แล้วก็ขลังเหมือนกันนั่นแหละ
จากนั้นรออีกสักครู่ หลวงพ่อพัฒน์กลับจากกิจนิมนต์มาถึงวัด จึงเข้าไปกราบทำบุญและพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบกับท่าน แต่ไม่ได้เล่าเรื่องโดนหลอกให้ซื้อมีดหมอให้ท่านฟัง
จากนั้นก็ขอให้ท่านเมตตาอธิษฐานจิตวัตถุมงคลให้เป็นพวกพระและเครื่องรางเก่าๆที่เคยได้รับและเคยเช่าบูชามาพร้อมส่งมีดหมอ ขอให้ท่านปลุกเสกด้วย
พอท่านจับมีดหมอแล้วท่านนิ่งไปสักครู่ ท่านก็ว่า #มีดนี่กูเคยเสกแล้ว_ไม่มีโค๊ดก็ของกู
อึ้งเลยครับ
รู้สึกดีใจว่าไม่ได้โดนหลอกแต่อัศจรรย์ใจท่านรู้ได้อย่างไร? เรากังวลใจในเรื่องนี้ #ญาณหยั่งรู้ท่านแจ่มแจ้งจริงๆครับ
ในกาลต่อมา อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าในอดีต 3 องค์ที่เสด็จมาโดยปาฏิหาริย์ของชมรมสู่ร่มโพธิญาณมาขอให้ท่านโมทนาบุญร่วมกัน
พระบรมสารีริกธาตุพระพุทธเจ้าโบราณมีพระนามดังนี้
1 พระอาทิวชิรกายสีขีวิสุทธิรังษีพุทธเจ้า
ถวาย พระเทพวชิรากร (พระอาจารย์ชัย) บรรจุพระมหาเจดีย์ วัดมหาธาตุวชิรมงคล จ.กระบี่
2 พระสัทธรรมวิทยาตถาคตพุทธเจ้า
ถวายบรรจุพระมหาเจดีย์ในมหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (สงฆ์) วิทยาเขตขอนแก่น
3 พระประภูตรัตนพุทธเจ้า
ถวาย หลวงปู่อินตอง สุภาโร วัดป่าวีระธรรม จ.สกลนคร
เมื่อท่านทราบท่านก็ยกมือพนมเหนือศรีษะแล้วกล่าวว่า ขออนุโมทนาด้วยนะ ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มและกริยาที่เคารพในพระบรมสารีริกธาตุอย่างสูง
จากนั้นท่านก็ยกโถบรรจุพระโบราณบรมสารีริกธาตุขึ้นจบเหนือศรีษะ แล้วอธิษฐานนิ่งสงบสักครู่ จึงส่งโถบรรจุพระบรมสารีริกธาตุคืนให้กลุ่มเรา
แล้วท่านก็พูดขึ้นว่า ของสูงนะนี่ บารมีท่านมากนะ
แล้วท่านกล่าวว่า นี่ขนลุกเลย
จากนั้นท่านก็ชมพระโบราณบรมสารีริกธาตุทีละองค์ พอชมถึง พระอาทิวชิระกายสิขีวิสุทธิรังษีพุทธเจ้า ท่านก็ว่าองค์นี้สำคัญที่สุด แล้วท่านก็ยกมือพนมสักการะอีกวาระหนึ่ง
จากนั้นก็กราบลาท่านกลับบ้าน
ในกาลต่อมา น้องซัน(สมาชิกชมรมสู่ร่มโพธิญาณ) ได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ใส่ผอบจะไปถวายท่าน
พอท่านสัมผัสแล้ว ท่านกล่าวว่า เมื่อกี้เห็นแสงแจ้งสว่างออกจากผอบ ท่านว่าเป็นนี่ พระบรมสารีริกธาตุ ของแท้ ท่านจึงให้อัญเชิญไปไว้ในโบสถ์ เพื่อให้พระเณรแม่ชีผู้ปฎิบัติธรรมสาธุชนได้มีโอกาสกราบไหว้สักการะเอาบุญ"
หลังจากนั้น อ.วิกรานต์ จะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
นั่งรถผ่าน จ.นครสวรรค์ ก็คิดถึง หลวงพ่อพัฒน์ วัดห้วยด้วน จึงชวนกันเข้าไปกราบทำบุญกับท่าน
เมื่อถึง วัดห้วยด้วน จึงเข้าไปกราบท่านในวันนั้นไปถึงวัดประมาณ 5 โมงเย็น ช่วงเวลานั้นฝนตกหนักมากและท่านก็ว่างๆพอดีจึงได้มีโอกาศสนทนากับท่านนานพอสมควร
เมื่อฝนเบาลงแล้วจึงร่วมกันทำบุญกับท่านแล้วกราบลา
จู่ๆท่านก็ส่งพวงมาลัยให้ อ.วิกรานต์ พร้อมกล่าวว่า
เอ้าเอาไปบูชาพระบรมธาตุในรถให้หน่อย
ทุกคนอึ้งในญาณทัศนะท่านอีกครา
อ.วิกรานต์ จึงเห็นเป็นโอกาศดีเลยกราบเรียนท่านว่า พอดีวันนี้จะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของ พระมังคลพุทธเจ้า เอาเข้าไปใน กรุงเทพฯ ครับ
เป็นพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาโดยปาฏิหาริย์ครับ
ท่านพยักหน้ารับทราบ
คณะเราเลยรีบไปอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาให้ หลวงพ่อพัฒน์ ท่านชม
พอท่านเห็นท่านจ้องนิ่งๆสักครู่หนึ่งแล้วหันก็หยิบพวงมาลัยมาพนมเหนือศรีษะแล้วคล้องลงที่ผอบอย่างนอบน้อม
แล้วกล่าวว่า เออดีๆศักดิ์สิทธิ์
ท่านยิ้มแต่ไม่กล่าวอะไรอีก
เพื่อเสร็จธุระแล้วจึงกราบลาท่านแล้วออกเดินทางเข้า กทม.
ภายหลังพระบรมสารีริกธาตุ พระมังคลพุทธเจ้า องค์นี้ได้นำมาถวาย หลวงพ่อสงัด วัดศรีภวังค์ จ.พระนครศรีอยุธยา
หลวงพ่อสงัด ได้จัดพิธีอัญเชิญขึ้นประดิษฐานใน พระบรมธาตุเจดีย์ ของวัดแบบเป็นการถาวรเรียบร้อยแล้ว
ท่านใดประสงค์จะไปกราบไหว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิตก็เชิญตามสะดวกครับ