**อัพเดทนะคะ น้องโอนเงินคืนให้แล้ว โดยที่เราไม่คิดว่าจะได้คืน น้องอยากให้ลบกระทู้ แต่เราลังเล เพราะอยากให้เป็นบทเรียน เตือนใจ ทั้งเราและน้องในเรื่องความรับผิดชอบ แต่เมื่อน้องแก้ไขสิ่งผิดพลาด และยังต้องดำเนินชีวิตต่อ เราจึงขอแก้ไขเนื้อหาที่เชื่อมโยง รวมถึงรูปที่อาจสาวไปถึงน้อง แต่หากว่าการแก้ไขดังกล่าว กระทบถึงบุคคลากรอื่นๆที่ทำงานด้านนี้ สามารถแจ้งเข้ามาได้นะคะ ยินดีจะลบกระทู้ให้
บุคคลที่สามที่จำเป็นต้องกล่าวถึง ทั้งในรูปแบบบริษัท และ ตัวบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอความกรุณา อย่ากล่าวร้าย หรือ ทำการรบกวนใดๆ กับบุคคลเหล่านั้นนะคะ
ส่วนชื่อของน้องคู่กรณี ขอเรียกว่า 'ออย'
ปี 2013
เรารู้จัก น้องออย จากการไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว โดยน้องเป็นลูกมือติดตามช่างใหญ่ คุณ ... ที่ทำหน้าที่แต่งหน้าให้กับเจ้าสาว น้องออยรับหน้าที่แต่งหน้าให้เรา เราประทับใจฝีมือน้อง และมีการแลกเปลี่ยนเฟสบุ๊ค เพื่อเป็นช่องทางติดต่อในอนาคต
ปี 2016
เราติดต่อน้องทางเฟสบุ๊ค เพื่อถามราคาและเงื่อนไขต่างๆ ในการแต่งหน้าเจ้าสาว ซึ่งน้องออยดีใจที่เราจำเค้าได้ และส่งรูปที่ชนะการประกวดแต่งหน้าเจ้าสาวระดับประเทศ ของเครื่องสำอางค์ แบรนด์ ... เราก็แสดงความยินดีกับน้อง
ส่วนราคา น้องออยแจ้งว่า ทั้งวัน (2 ช่วง - เช้า, เย็น) 15,000 บาท ไม่รวมที่พักสองคืน โดยขอค่ามัดจำล่วงหน้าเพื่อล๊อควัน 5,000 บาท ส่วนที่เหลือจ่ายหลังจบงาน ซี่งเราก็โอนให้ผ่านทางบัญชี ในเดือนมีนาคม 2016 จากนั้นก็ติดต่อรายละเอียดกันบ้างทางไลน์ แต่ในช่วงเดือน พฤษภาคม เราไม่สามารถติดต่อน้องออยได้เลย ทั้งทางไลน์ โทรศัพท์ และ เฟสบุ๊ค เราจึงต้องติดต่อเพื่อน ขอเบอร์คุณ .. ช่างใหญ่ที่น้องเคยทำงานด้วย คุณ ... ได้แจ้งว่า น้องออยไม่ได้ทำงานกับเค้าแล้ว และให้เฟสบุ๊คอันใหม่ของน้องมา หลังจากที่ติดต่อน้องได้อีกครั้ง น้องบอกว่า กระเป๋าหาย มือถืออยู่ในนั้นจึงหายไปด้วย
เนื่องจากงานเราจัดแถวบ้านน้ำเค็ม พังงา ซึ่งใช้เวลาต่อรถราวๆ 45 นาที จากสนามบินภูเก็ต ช่วงเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน เราเริ่มสอบถามว่าน้องออยจะมาที่งานยังไง จะจองตั๋วมาลงเที่ยวเดียวกับที่บ้านเรามั้ย จะได้ติดรถมาด้วยกัน น้องก็ตอบแค่ว่า เดี๋ยวซื้อตั๋วแล้วจะแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้สอบถามน้องอีก เพราะคิดว่าช่างแต่งหน้าที่ได้รางวัลระดับประเทศ คงรับผิดชอบตัวเองได้
งานเราจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ต้นเดือนธันวาคม ราวๆ วันพฤหัส ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ก็พยายามติดต่อน้องเค้าอีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องการเดินทาง ทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ แต่ไม่มีการตอบรับ จนกระทั่งวันศุกร์ ช่วงเช้า น้องไลน์มาหา เพื่อขอเงินเพิ่มอีก 5,000 บาท สำหรับซื้อตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยบอกว่าจะเดินทางมาเช้าวันอาทิตย์ บินตรงจากอุดรธานี มาลงภูเก็ต คือ ณ จุดนั้นเรางงมาก น้องออยบอกเราเองว่าต้องจองที่พักให้เค้าสองคืน เสาร์-อาทิตย์ เพราะงานเช้าเราเริ่ม 7 โมง เจ้าสาวต้องเริ่มแต่งหน้าแต่งตัวประมาณ ตี 4-5 เราเลยไม่เข้าใจว่าน้องเค้าจะมาทันได้ยังไง เราโทรไปหา แต่น้องไม่ยอมรับสายเลย และไม่ติดต่อเรากลับ คืนวันศุกร์ เราเริ่มกังวล จึงปรึกษากับเพื่อน รวมถึงเจ้าของสถานที่ ซึ่งทุกคนคิดเหมือนกันว่า น้อง คงจะเบี้ยว ไม่มางานแน่ และถ้าเราโอนเงินไป คงจะเสียเงินฟรี
ปกติเราเป็นคนไม่แต่งหน้าเท่าไหร่ ไม่มีเครื่องสำอางค์ติดตัวเลย เราเริ่มคิดแก้ปัญหา โดยไหว้วานเพื่อนให้ช่วยแต่งให้ ขอใช้เครื่องสำอางค์เพื่อน เพื่อนใจดีรับปากจะช่วย ติดอีกปัญหาคือ ผิวคนละสี 55 แต่บังเอิญโชคดี มีเพื่อนคนนึงติดต่อพี่ติ๊สช่างแต่งหน้าคนใหม่ให้ทัน พี่ติ๊สน่ารักมากเราตกลงกับพี่เค้าเช้าวันเสาร์ พี่เค้าอุตส่าห์ขับรถจากสุราษฎร์มาพังงาในวันนั้น
จุดพีค
ก่อนวันงานคือ วันเสาร์ทั้งวัน น้องออยไม่รับสาย ไม่ติดต่อกลับ แต่ประมาณสองทุ่มของคืนนั้น เราได้รับสายจากผู้ชายคนนึง โทรมาบอกเราว่า น้องออยประสบอุบัติเหตุรถชนระหว่างทางไปสนามบิน ตอนนี้ขาหักเข้าโรงพยาบาล คงไม่สามารถไปแต่งหน้าให้ได้ ต้องขอโทษด้วย เราซี่งเตรียมตัว เตรียมใจไว้แล้ว ได้แต่ถามกลับไปว่า "น้องออยบอกว่า จะบินมาพรุ่งนี้เช้าไม่ใช่เหรอคะ ทำไมเดินทางคืนนี้" ทางโน้นอึ้งไป แล้วตอบกลับมาแค่ว่า "ถ้ามีอะไรให้โทรหาเค้าเบอร์นี้ น้องลืมโทรศัพท์ไว้หลังเวที ผมเป็นหัวหน้าวงหมอลำ" ???
หลังจากเสร็จงานแต่ง เราเห็นโพสน้องเค้าทางเฟสบุ๊ค ในรูป เป็นรูปขาหักนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คอมเมนท์ที่เค้าคุยกับเพื่อน กลับบอกว่าขาหักเพราะตกเวที ไม่ใช่การเดินทางไปสนามบิน จากนั้นไม่นานรูปที่น้องเข้ารพ ก็หายไป
น้องออย ไม่เคยขอโทษ หรือพยายามติดต่อเราเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่สามารถอัพเดทเฟสบุ๊คได้
ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังงานแต่ง เราไลน์ไปหา พร้อมขอค่ามัดจำคืน น้องกล่าวขอโทษเป็นครั้งแรก และบอกว่าจะทยอยใช้ให้ แต่ก็ไม่มีวี่แวว
2017
มกราคม - ไลน์ไป ไม่อ่าน
เมษายน - ไลน์ไป ไม่อ่าน
พฤษภาคม - ติดต่อทางไลน์ไม่ได้ น่าจะบล๊อคเรา เพราะไม่เคยอ่านข้อความ แต่รูปโปรไฟล์เปลี่ยนตลอด เราเลยติดต่อทางเฟสบุ๊ค น้องออยบอกว่าจะจ่ายคืน แต่ขอเวลาสิ้นเดือนนี้ เพราะขาที่หักเพิ่งดีขึ้น เงินเดือนออกแล้วจะคืนให้
ในช่วงแรก ไม่ได้ทวงเงินน้องบ่อยนัก เนื่องจากคิดว่า น้องคงเดือดร้อนจริงๆ แต่พอเวลาผ่านไปซักพัก เห็นทางเฟสบุ๊คของน้อง น้องมีงานตลอด มีเวลาไปเที่ยว ไปกินเลี้ยงกับเพื่อน เลยเริ่มไม่เข้าใจว่า ทำไมน้องถึงไม่ทยอยใช้เงินคืน
กรกฏาคม - ต้นเดือน ทวงถามอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราเริ่มกำหนดวัน น้องออยก็ตอบกลับมาแค่ว่า "จะรีบหาให้นะคะ"
- ปลายเดือน ทวงอีกครั้ง พร้อมข้อเสนอให้ทยอยคืน น้องออยอ่านข้อความ แต่ไม่มีการตอบกลับ จนต้องส่งข้อความไปอีกถามอีกรอบ กับคำถามว่า 'ไม่คิดจะคืนให้ใช่ไหม' น้องจึงตอบกลับมาว่า 'เงินออกเป็นรอบ ไม่ได้ออกเป็นเดือน เดี๋ยวจะรีบโอนให้' พร้อมกับคำว่า ปวดหัว (ควรเป็นเราไหม ที่ต้องใช้คำนี้)
สิงหาคม - ปลายเดือน เราถามไปอีกครั้งว่าจะโอนให้เมื่อไหร่กันแน่ น้องบอกว่าขอเวลาอีกเดือนนึง
กันยายน - วันที่ 20 ส่งข้อความไปเตือนเรื่องโอนเงิน ไม่มีการตอบกลับ พอถึงสิ้นเดือนไม่มีการโอนเงินให้ เราพยายามส่งข้อความหาอีกครั้ง แต่พบว่า น้องออยบล๊อคเฟสบุ๊คเรา โทรหาก็ไม่รับสาย
ตุลาคม - ต้นเดือน เราตัดสินใจติดต่อคุณ .. ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากช่วงหลัง เราเห็นบนเฟสบุ๊คของน้องออย จึงรู้ว่า น้องกลับไปทำงานกลับคุณ .. อีกครั้ง ซึ่งเราไม่ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด แค่แจ้งคร่าวๆว่า น้องรับเงินมัดจำไป แต่ไม่มาทำงาน ยังไม่คืนมัดจำ และบล๊อคช่องทางการติดต่อ คุณ .. รับปากว่าจะพูดกับน้องให้ เราส่งรายละเอียดมัดจำ กับที่เราคุยกับน้องไปให้คุณ .. ทางไลน์
วันถัดมา น้องออย ติดต่อกลับ โดยบอกว่าจะทยอยคืน สองงวด วันที่ 15 และ 25 แต่พอวันที่ 18 เราเช็คบัญชี ไม่มีการโอนเงินเข้ามา ส่งข้อความไปถาม ได้คำตอบกลับมาแค่ว่า 'โอนแล้วจะแจ้ง'
วันที่ 30 ถามน้องออยอีกครั้ง ก็ตอบกลับมาเหมือนเดิม 'โอนแล้วจะแจ้ง'
พฤศจิกายน - ต้นเดือน คือเริ่มหงุดหงิดขั้นสุด ส่งข้อความไปต่อว่า ถามว่า ตกลงจะคืนเมื่อไหร่ ถ้านับจากวันโอนค่ามันจำก็ปีกว่าแล้วน้องไม่ตอบกลับค่ะ
ปี 2018
เดือน มค 2018 เราพยายามติดต่อน้องเค้าอีกครั้ง แต่เหมือนเดิมค่ะ บล๊อคเราเป็นครั้งที่สอง เราทำได้แค่ไลน์ไปแจ้งคุณ .. หัวหน้าน้องอีกครั้งด้วยความเกรงใจ เพราะเรื่องทั้งหมด คุณ .. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น คุณ .. ได้แต่รับปากว่าจะบอกน้องออยให้ แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีความคืบหน้าใดๆเกิดขึ้น
จนถึงวันนี้ ลากยาวมาปีกว่าแลัว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน คือเอาจริงๆ เราไม่เคยคิดว่าจะได้คืนนะ เพราะคนเราถ้ามีความรับผิดชอบจริงๆ ถ้าไม่มีเป็นก้อน ก็ทยอยโอนคืนให้ได้ แต่นี่ไม่เคยทำ รับปากว่าจะโอนแต่ก็เบี้ยวตลอด ที่สุดคือ บล๊อคช่องทางการติดต่อ แล้วตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าน้องออย ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ สิ่งที่น้องไม่มีคือ ความรับผิดชอบค่ะ
โดนช่างแต่งหน้าเจ้าสาว แชมป์ประเทศไทย เบี้ยวค่ามัดจำ
บุคคลที่สามที่จำเป็นต้องกล่าวถึง ทั้งในรูปแบบบริษัท และ ตัวบุคคล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอความกรุณา อย่ากล่าวร้าย หรือ ทำการรบกวนใดๆ กับบุคคลเหล่านั้นนะคะ
ส่วนชื่อของน้องคู่กรณี ขอเรียกว่า 'ออย'
ปี 2013
เรารู้จัก น้องออย จากการไปเป็นเพื่อนเจ้าสาว โดยน้องเป็นลูกมือติดตามช่างใหญ่ คุณ ... ที่ทำหน้าที่แต่งหน้าให้กับเจ้าสาว น้องออยรับหน้าที่แต่งหน้าให้เรา เราประทับใจฝีมือน้อง และมีการแลกเปลี่ยนเฟสบุ๊ค เพื่อเป็นช่องทางติดต่อในอนาคต
ปี 2016
เราติดต่อน้องทางเฟสบุ๊ค เพื่อถามราคาและเงื่อนไขต่างๆ ในการแต่งหน้าเจ้าสาว ซึ่งน้องออยดีใจที่เราจำเค้าได้ และส่งรูปที่ชนะการประกวดแต่งหน้าเจ้าสาวระดับประเทศ ของเครื่องสำอางค์ แบรนด์ ... เราก็แสดงความยินดีกับน้อง
ส่วนราคา น้องออยแจ้งว่า ทั้งวัน (2 ช่วง - เช้า, เย็น) 15,000 บาท ไม่รวมที่พักสองคืน โดยขอค่ามัดจำล่วงหน้าเพื่อล๊อควัน 5,000 บาท ส่วนที่เหลือจ่ายหลังจบงาน ซี่งเราก็โอนให้ผ่านทางบัญชี ในเดือนมีนาคม 2016 จากนั้นก็ติดต่อรายละเอียดกันบ้างทางไลน์ แต่ในช่วงเดือน พฤษภาคม เราไม่สามารถติดต่อน้องออยได้เลย ทั้งทางไลน์ โทรศัพท์ และ เฟสบุ๊ค เราจึงต้องติดต่อเพื่อน ขอเบอร์คุณ .. ช่างใหญ่ที่น้องเคยทำงานด้วย คุณ ... ได้แจ้งว่า น้องออยไม่ได้ทำงานกับเค้าแล้ว และให้เฟสบุ๊คอันใหม่ของน้องมา หลังจากที่ติดต่อน้องได้อีกครั้ง น้องบอกว่า กระเป๋าหาย มือถืออยู่ในนั้นจึงหายไปด้วย
เนื่องจากงานเราจัดแถวบ้านน้ำเค็ม พังงา ซึ่งใช้เวลาต่อรถราวๆ 45 นาที จากสนามบินภูเก็ต ช่วงเดือน ตุลาคม - พฤศจิกายน เราเริ่มสอบถามว่าน้องออยจะมาที่งานยังไง จะจองตั๋วมาลงเที่ยวเดียวกับที่บ้านเรามั้ย จะได้ติดรถมาด้วยกัน น้องก็ตอบแค่ว่า เดี๋ยวซื้อตั๋วแล้วจะแจ้งให้ทราบ หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้สอบถามน้องอีก เพราะคิดว่าช่างแต่งหน้าที่ได้รางวัลระดับประเทศ คงรับผิดชอบตัวเองได้
งานเราจัดขึ้นในวันอาทิตย์ ต้นเดือนธันวาคม ราวๆ วันพฤหัส ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ก็พยายามติดต่อน้องเค้าอีกครั้ง เพื่อสอบถามเรื่องการเดินทาง ทั้งทางไลน์และโทรศัพท์ แต่ไม่มีการตอบรับ จนกระทั่งวันศุกร์ ช่วงเช้า น้องไลน์มาหา เพื่อขอเงินเพิ่มอีก 5,000 บาท สำหรับซื้อตั๋วเครื่องบินและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยบอกว่าจะเดินทางมาเช้าวันอาทิตย์ บินตรงจากอุดรธานี มาลงภูเก็ต คือ ณ จุดนั้นเรางงมาก น้องออยบอกเราเองว่าต้องจองที่พักให้เค้าสองคืน เสาร์-อาทิตย์ เพราะงานเช้าเราเริ่ม 7 โมง เจ้าสาวต้องเริ่มแต่งหน้าแต่งตัวประมาณ ตี 4-5 เราเลยไม่เข้าใจว่าน้องเค้าจะมาทันได้ยังไง เราโทรไปหา แต่น้องไม่ยอมรับสายเลย และไม่ติดต่อเรากลับ คืนวันศุกร์ เราเริ่มกังวล จึงปรึกษากับเพื่อน รวมถึงเจ้าของสถานที่ ซึ่งทุกคนคิดเหมือนกันว่า น้อง คงจะเบี้ยว ไม่มางานแน่ และถ้าเราโอนเงินไป คงจะเสียเงินฟรี
ปกติเราเป็นคนไม่แต่งหน้าเท่าไหร่ ไม่มีเครื่องสำอางค์ติดตัวเลย เราเริ่มคิดแก้ปัญหา โดยไหว้วานเพื่อนให้ช่วยแต่งให้ ขอใช้เครื่องสำอางค์เพื่อน เพื่อนใจดีรับปากจะช่วย ติดอีกปัญหาคือ ผิวคนละสี 55 แต่บังเอิญโชคดี มีเพื่อนคนนึงติดต่อพี่ติ๊สช่างแต่งหน้าคนใหม่ให้ทัน พี่ติ๊สน่ารักมากเราตกลงกับพี่เค้าเช้าวันเสาร์ พี่เค้าอุตส่าห์ขับรถจากสุราษฎร์มาพังงาในวันนั้น
จุดพีค
ก่อนวันงานคือ วันเสาร์ทั้งวัน น้องออยไม่รับสาย ไม่ติดต่อกลับ แต่ประมาณสองทุ่มของคืนนั้น เราได้รับสายจากผู้ชายคนนึง โทรมาบอกเราว่า น้องออยประสบอุบัติเหตุรถชนระหว่างทางไปสนามบิน ตอนนี้ขาหักเข้าโรงพยาบาล คงไม่สามารถไปแต่งหน้าให้ได้ ต้องขอโทษด้วย เราซี่งเตรียมตัว เตรียมใจไว้แล้ว ได้แต่ถามกลับไปว่า "น้องออยบอกว่า จะบินมาพรุ่งนี้เช้าไม่ใช่เหรอคะ ทำไมเดินทางคืนนี้" ทางโน้นอึ้งไป แล้วตอบกลับมาแค่ว่า "ถ้ามีอะไรให้โทรหาเค้าเบอร์นี้ น้องลืมโทรศัพท์ไว้หลังเวที ผมเป็นหัวหน้าวงหมอลำ" ???
หลังจากเสร็จงานแต่ง เราเห็นโพสน้องเค้าทางเฟสบุ๊ค ในรูป เป็นรูปขาหักนอนอยู่ที่โรงพยาบาล แต่คอมเมนท์ที่เค้าคุยกับเพื่อน กลับบอกว่าขาหักเพราะตกเวที ไม่ใช่การเดินทางไปสนามบิน จากนั้นไม่นานรูปที่น้องเข้ารพ ก็หายไป
น้องออย ไม่เคยขอโทษ หรือพยายามติดต่อเราเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง แต่สามารถอัพเดทเฟสบุ๊คได้
ประมาณหนึ่งสัปดาห์หลังงานแต่ง เราไลน์ไปหา พร้อมขอค่ามัดจำคืน น้องกล่าวขอโทษเป็นครั้งแรก และบอกว่าจะทยอยใช้ให้ แต่ก็ไม่มีวี่แวว
2017
มกราคม - ไลน์ไป ไม่อ่าน
เมษายน - ไลน์ไป ไม่อ่าน
พฤษภาคม - ติดต่อทางไลน์ไม่ได้ น่าจะบล๊อคเรา เพราะไม่เคยอ่านข้อความ แต่รูปโปรไฟล์เปลี่ยนตลอด เราเลยติดต่อทางเฟสบุ๊ค น้องออยบอกว่าจะจ่ายคืน แต่ขอเวลาสิ้นเดือนนี้ เพราะขาที่หักเพิ่งดีขึ้น เงินเดือนออกแล้วจะคืนให้
ในช่วงแรก ไม่ได้ทวงเงินน้องบ่อยนัก เนื่องจากคิดว่า น้องคงเดือดร้อนจริงๆ แต่พอเวลาผ่านไปซักพัก เห็นทางเฟสบุ๊คของน้อง น้องมีงานตลอด มีเวลาไปเที่ยว ไปกินเลี้ยงกับเพื่อน เลยเริ่มไม่เข้าใจว่า ทำไมน้องถึงไม่ทยอยใช้เงินคืน
กรกฏาคม - ต้นเดือน ทวงถามอีกครั้ง โดยครั้งนี้เราเริ่มกำหนดวัน น้องออยก็ตอบกลับมาแค่ว่า "จะรีบหาให้นะคะ"
- ปลายเดือน ทวงอีกครั้ง พร้อมข้อเสนอให้ทยอยคืน น้องออยอ่านข้อความ แต่ไม่มีการตอบกลับ จนต้องส่งข้อความไปอีกถามอีกรอบ กับคำถามว่า 'ไม่คิดจะคืนให้ใช่ไหม' น้องจึงตอบกลับมาว่า 'เงินออกเป็นรอบ ไม่ได้ออกเป็นเดือน เดี๋ยวจะรีบโอนให้' พร้อมกับคำว่า ปวดหัว (ควรเป็นเราไหม ที่ต้องใช้คำนี้)
สิงหาคม - ปลายเดือน เราถามไปอีกครั้งว่าจะโอนให้เมื่อไหร่กันแน่ น้องบอกว่าขอเวลาอีกเดือนนึง
กันยายน - วันที่ 20 ส่งข้อความไปเตือนเรื่องโอนเงิน ไม่มีการตอบกลับ พอถึงสิ้นเดือนไม่มีการโอนเงินให้ เราพยายามส่งข้อความหาอีกครั้ง แต่พบว่า น้องออยบล๊อคเฟสบุ๊คเรา โทรหาก็ไม่รับสาย
ตุลาคม - ต้นเดือน เราตัดสินใจติดต่อคุณ .. ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากช่วงหลัง เราเห็นบนเฟสบุ๊คของน้องออย จึงรู้ว่า น้องกลับไปทำงานกลับคุณ .. อีกครั้ง ซึ่งเราไม่ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมด แค่แจ้งคร่าวๆว่า น้องรับเงินมัดจำไป แต่ไม่มาทำงาน ยังไม่คืนมัดจำ และบล๊อคช่องทางการติดต่อ คุณ .. รับปากว่าจะพูดกับน้องให้ เราส่งรายละเอียดมัดจำ กับที่เราคุยกับน้องไปให้คุณ .. ทางไลน์
วันถัดมา น้องออย ติดต่อกลับ โดยบอกว่าจะทยอยคืน สองงวด วันที่ 15 และ 25 แต่พอวันที่ 18 เราเช็คบัญชี ไม่มีการโอนเงินเข้ามา ส่งข้อความไปถาม ได้คำตอบกลับมาแค่ว่า 'โอนแล้วจะแจ้ง'
วันที่ 30 ถามน้องออยอีกครั้ง ก็ตอบกลับมาเหมือนเดิม 'โอนแล้วจะแจ้ง'
พฤศจิกายน - ต้นเดือน คือเริ่มหงุดหงิดขั้นสุด ส่งข้อความไปต่อว่า ถามว่า ตกลงจะคืนเมื่อไหร่ ถ้านับจากวันโอนค่ามันจำก็ปีกว่าแล้วน้องไม่ตอบกลับค่ะ
ปี 2018
เดือน มค 2018 เราพยายามติดต่อน้องเค้าอีกครั้ง แต่เหมือนเดิมค่ะ บล๊อคเราเป็นครั้งที่สอง เราทำได้แค่ไลน์ไปแจ้งคุณ .. หัวหน้าน้องอีกครั้งด้วยความเกรงใจ เพราะเรื่องทั้งหมด คุณ .. ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น คุณ .. ได้แต่รับปากว่าจะบอกน้องออยให้ แต่ก็เหมือนเดิม ไม่มีความคืบหน้าใดๆเกิดขึ้น
จนถึงวันนี้ ลากยาวมาปีกว่าแลัว ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เงินคืน คือเอาจริงๆ เราไม่เคยคิดว่าจะได้คืนนะ เพราะคนเราถ้ามีความรับผิดชอบจริงๆ ถ้าไม่มีเป็นก้อน ก็ทยอยโอนคืนให้ได้ แต่นี่ไม่เคยทำ รับปากว่าจะโอนแต่ก็เบี้ยวตลอด ที่สุดคือ บล๊อคช่องทางการติดต่อ แล้วตลอดปีกว่าที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าน้องออย ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ สิ่งที่น้องไม่มีคือ ความรับผิดชอบค่ะ