ความสัมพันธ์ระหว่างไอด้อลกับโอตะ - ความเห็นที่น่าสนใจ..

ที่มา - เพจ Starless Night - Harit Mahaton


ว่าด้วยไอดอล

ผมพยายามไม่พูดถึงไอดอลมานาน จริงๆมันคาบเกี่ยวกับหลายประเด็นซึ่งไม่อยากไปพูดถึง

แต่วันนี้สนทนากับมิตรสหาย แล้วเขาขอให้เขียนถึงเรื่องนี้สั้นๆ เร็วๆ สักหน่อย

อย่างแรก - ผมชอบข้อเสนอที่บอกว่า วงไอดอลดังเพราะมันมีคนชอบสไตลย์ญี่ปุ่นแบบนี้จำนวนมาก มานานแล้ว แต่เราเป็นกระแสรองในสังคม ที่ต้องอยู่เงียบๆ

ในขณะที่สื่อต่างๆของไทย นำเสนอแต่ภาพแฟชั่นแบบพิมพ์นิยม ฝรั่งๆ หรือแนวเน็ตไอดอลๆ ที่ฮิตกันมาหลายปี - จนหญิงไทยพากันได้รับอิธิพลไปหมด

แต่กระแสความงามในรูปแบบไอดอลนี้ก็เข้ามา ทำให้คนจำนวนมากที่ชอบแนวนี้อยู่แล้ว แต่ที่ผ่านต้องอยู่ใต้น้ำแบบเงียบๆ ได้โอกาสช่วยกันโหมกระแสขึ้นมาเผยแพร่วาทกรรมความงามรูปแบบนี้

จริงๆผมเองก็เนียนๆดันๆ สไตลย์นี้อยู่ ดีครับดี
.
.
.
อย่างที่สอง - คือการมองไอดอลเป็น Sex Object เป็นอะไรที่หยาบมาก

ด้วยเหตุผลข้อเมื่อกี้ เรื่องความงาม ความต้องตาต้องใจ รูปลักษณ์ภายนอกเป็นส่วนหนึ่งในมิติของการเสพไอดอล แต่ไม่ใช่ทั้งหมด

การเป็นโอตะไอดอลมันไม่ใช่แค่การมองผู้หญิงบนรถไฟฟ้า แล้วรู้สึกว่า "สวยว่ะ" หรือไม่ใช่แค่การดูรูปสาวสวยๆ ในวอลเฟสบุค

อันที่จริง การต้องตาต้องใจความงามภายนอก นั้นเป็นแค่สิ่งที่เกิดขึ้นในจังหวะแรกพบสนใจเท่านั้น

กระบวนการตั้งแต่ถูกตก จนกลายเป็นโอชิ และสนับสนุนเหนียวแน่นมันทำงานในจิตใจระดับที่ลึกกว่านั้น

สิ่งที่ไอดอลเติมเต็มไม่ใช่แค่ความต้องการหยาบๆทางเพศ แต่ไอดอลทำงานกับผู้คนในระดับ value ของชีวิต

value ของชีวิต ที่ว่าคืออะไร

ผมยกตัวอย่างเช่น สมมุติผมนั่งคุยกับคุณป้าคนหนึ่ง แล้วถามว่า คิดว่าคุณค่าของชีวิตป้าคืออะไร? วันๆหนึ่ง ป้าใช้ชีวิตไปเพื่ออะไร ที่ทนเหนื่อยทุกวันนี้เพื่ออะไร? ทำไมถึงยังหายใจอยู่?

ป้าอาจจะตอบว่า "เพื่อลูกของป้า อยากให้ลูกมีชีวิตดีๆ ป้ายอมเหนื่อยทำงาน หาเงิน ต่อสู้กับชีวิตเพื่อนลูกได้"

หรือบางคนอาจจะตอบว่า "เพื่อความสำเร็จในชีวิต อยากสร้างผลงาน ให้มีชื่อเสียง"

หรือ "อยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ ให้พ่อแม่ อยู่สบาย"

หรือ "อยากทำให้ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตย"

หรือ "อยากเห็นเป็ดเป็นแชมป์"

มนุษย์เรามีเป้าหมายหลากหลาย คนคนหนึ่งอาจจะมีเป้าหมายในชีวิตหลายอย่าง ป้าอาจจะอยู่เพื่อลูก และเชียร์เป็ดด้วยก็ได้

สิ่งเหล่านี้คือคุณค่า อันเป็นตัวตน เป็นความหมายของการดำรงอยู่

เป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงให้ผู้คนมีแรงใจในการผ่านจากวันหนึ่งไปยังอีกวัน

การมอบเหตุผลของการดำรงอยู่ให้กับผู้คน (หรือเพิ่มเข้าไปจากที่เคยมีอยู่แล้ว) คือฟังก์ชั่นที่แท้ของไอดอล

สายสัมพันธ์นี้เกิดจากความสัมพันธ์สองทางระหว่างโอตะ กับ ไอดอล เชื่อมต่อกันด้วยความรัก กำลังใจ เสียงเชียร์ และรอยยิ้ม

โอตะสนับสนุนไอดอล ทั้งจ่ายเงิน สร้างคอนเทนท์ ชักชวนคนมาติดเชื้อ

ไอดอลก็สนับสนุนโอตะ ด้วยเรื่องราวการการฟันฝ่า ความพยายามสู่ความสำเร็จ ความสดใส รอยยิ้ม และกำลังใจ

ความสำเร็จของไอดอล คือความสำเร็จของโอตะ

จะว่าไปแล้วก็คล้ายความสัมพันธ์แบบ พ่อ-แม่ กับ ลูก

พ่อ-แม่ ดีใจที่ลูก สอบเข้าโรงเรียนดีๆได้ ประสบความสำเร็จ มีคนชื่นชมอย่างไร

โอตะก็ยินดีที่โอชิตัวเองได้เป็นเซนเตอร์ ได้ออกงานใหม่ ได้ประสบความสำเร็จแบบนั้น

ผมยกตัวอย่างเช่น เพื่อนผมคนหนึ่ง เป็นคนอยู่เปล่าๆ ไม่ยอมทำงาน ใช้ชีวิตไปวันๆ พอกลายเป็นโอตะของไอดอลญี่ปุ่นวงหนึ่ง มันก็ลุกขึ้นมาทำงานเฉยเลย เพื่อหาเงินเปย์ไอดอล (แถมรายได้เยอะด้วย) คอนเส็ปของมันคือไม่ใช่ว่าไม่มีฝีมือ แค่ไม่มีเหตุผลในการทำงานเลยอยู่ไปวันๆ ไอดอลมาเติมเต็มเหตุผลของการดำรงอยู่เลยออกไปทำงาน ว่าแบบนั้น

ในวันที่มืดมนของโอตะ มีเพียงไอดอลเท่านั้นที่เป็นเหมือนแสงสว่างที่ส่องเข้ามาในชีวิต ท่ามกลางคนที่ไม่เข้าใจ มีแต่ความน่าเบื่อ ไร้ความหมาย พลังด้านลบ มีแค่ไอดอลที่ทำให้เรามีความสุข มีกำลัง ทำให้เราพอจะยิ้มได้ เป็นแสงสว่างที่โอตะซึ่งอยู่ในความมืดได้ชื่นชมและใช้นำทาง

ดังนั้นสำหรับโอตะแล้ว ไอดอลเป็นทั้ง แฟนที่ได้ความรักจากเรา ลูกสาวที่เราให้ความหวังสนับสนุนเป็นคุณค่าของชีวิต และ มิโกะผู้นำทางจิตวิญญาณที่เราบูชาเป็นเหมือนแสงส่องทางในวันมืดมิด ผสมกัน

ดังนั้นผมไม่แปลกใจเลย ถ้าจะมีคนแต่งเพลง ทำ MV ให้ฟรี หรือแม้แต่ลงทุนจ่ายเงินทำหนัง - เออ เป็นผม ผมก็ทำว่ะ

ดังนั้น กรณีรีเอ็คชั้นของโอตะ ต่อการมีแฟน และเรื่องในทางลบอื่นๆ นั้น จึงเป็นเรื่องซับซ้อน

ความรู้สึกมันปนเปไปหมด ไอดอลเป็นทั้ง แฟน ลูกสาว และ มิโกะ พอมาเกิดเรื่องแบบนี้ ความรู้สึกหลายอย่างมันผสมกัน

ทั้งความรู้สึกอกหัก - ทั้งความรู้สึกว่า "เฮ้ย แล้วเป้าหมายที่เราตั้งกันมาแต่ต้นล่ะ จะเอายังไงต่อ จะเทแล้วเหรอ จะไปไหวมั้ย" - และความรู้สึกเหมือนพระมิตซูโอะประกาศแต่งงาน

มันไม่ง่ายที่คนจะมีวุฒิภาวะทางอารมณ์พอจะรับมือกับสภานการณ์นี้ โดยเฉพาะพวกที่อินหนัก บางคนอาจจะรู้สึกเหมือนเป้าหมายชีวิตพังทลาย

ผมสงสัยว่าตัวไอดอลเองได้ตระหนักถึงตรงนี้หรือเปล่า? นั่นสิ

วงไทยหลายค่ายคิดทำตลาดไอดอลแต่ไม่ได้เข้าใจตรงจุดนี้ ไอดอลแบบญี่ปุ่นไม่ใช่การขายสาวสวยดูเพอเฟคมาแต่ต้น ไม่เหมือนดาราเซเลปที่เราคุ้นเคย

ประเด็นมันไม่ใช่แค่ว่าร้องเพลงเก่ง เต้นเก่ง สวย

การทำตลาดแบบนั้น มันอาจจะได้ความสนใจเบื้องต้น แต่ไม่ได้ลงรากลึกเท่าไหร่ อาจจะต้องประเมินตรงนี้ใหม่ และเข้าใจว่ามันไม่โปรดักซ์ที่ใช้การโปรโมทแบบเดียวกับ นักร้อง ดารา เซเลป ที่ผ่านๆมา
               -------------------------------------------------------------------------------------------------------

นี่น่าจะอธิบาย ความรู้สึกของโอตะที่มีต่อไอด้อลได้ครอบคลุมดี, การให้แรงใจ-บันดาลใจ ให้สู้ชีวิตต่อไป นี่แหละที่ทำให้ไอด้อลแตกต่างจากนักร้อง-เกิร์ลกรุ๊ป ที่คนนอกไม่ลองก็คงไม่เข้าใจ.....
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่