เป็นลิสต์ที่เกิดจากการผสมหนัง 'หนังรักสามเส้า' ระหว่างหนังคลาสสิกกับหนังยุคใหม่ที่น่าสนใจ โดยลิสต์นี้พูดถึงความสัมพันธ์รักที่เกิดขึ้นระหว่างคนสามคน ที่อาจเกิดจากบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับความรักที่กำลังดำเนินอยู่ของคนสองคน ซึ่งท้ายที่สุดความรักครั้งนี้อาจมีใครบางคนที่ต้องเจ็บหรือบางครั้งอาจเป็นบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง...
สำหรับสมาชิกท่านใดมีหนังเรื่องไหนอยากเเนะนำเพิ่มเติม มาคอมเม้นท์เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. Bridget Jones's Diary (2001)
เชื่อว่าคงเป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ที่ใครหลายคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยหนังดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Helen Fielding ที่พูดถึงสาวโสดช่วงวัยสิบที่ชีวิตต้องมาพัวพันกับความรักยุ่งๆจากสองหนุ่มที่เป็นเจ้านายและอดีตคนรู้จัก โดยหนังใช้ตัวละครหญิงเดินเรื่องตามแบบฉบับหนัง chick flicks ที่รับบทนำโดย Renée Zellweger ด้วยความน่ารักสดใส และการแสดงที่เข้าถึงบทบาทก็ทำให้บทดังกล่าวกลายเป็นภาพจำของเธอในฐานะนักแสดง ขณะเดียวกันหนังก็ได้ Hugh Grant และ Colin Firth มาเป็นคู่กัด เป็นตัวรับชงมุกที่เคมีเข้ากันเป็นอย่างดี
9. สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก (2553)
เรียกได้ว่าเป็นหนังโรแมนติกที่ผสมเมสเสจการข้ามผ่านวัย ที่โด่งดังที่สุดอีกเรื่องของไทยนอกเหนือจากแฟนฉัน หรือ Season Change โดยจุดเด่นของหนังคือการหยิบเรื่องราวที่เป็นเรื่องใกล้ตัวหรืออาจเคยเกิดขึ้นกับใครหลายคนอย่าง ความรัก/การแอบชอบของรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียน มาเล่าผ่านหนังในมุมมองของรุ่นน้องที่แอบชอบรุ่นพี่จนเกิดแรงผลักดันในการพัฒนาตนเองทั้งทางรูปลักษณ์ภายนอก และภายในเพื่อเรียกร้องความสนใจจากรุ่นพี่ แต่ด้วยเส้นเรื่องดังกล่าวที่อาจดูทื่อเกินไป หนังก็ฉลาดในการเสริมความสัมพันธ์รักสามเส้าเพื่อความซับซ้อน ให้คนดูเกิดการลุ้นและคาดเดาถึงบทสรุป เมื่อฝั่งรุ่นน้องเกิดการจับพลัดจับผลูไปคบกับเพื่อนสนิทของรุ่นพี่ที่แอบชอบ…
8. Reality Bites (1994)
หากคุณเรียนจบในสายงานหนึ่งมา แต่กลับเกิดความลังเลที่จะก้าวต่อสู่การทำงานจริงในสายอาชีพนั้น อาจด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกและสามารถเกิดได้กับทุกคน ซึ่งนั่นเป็นอีกเส้นเรื่องสำคัญในผลงานกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ Ben Stiller กับภาพสะท้อนสังคมร่วมสมัย ความจริงของวัยรุ่นหลังเรียนจบ ที่นอกเหนือจากชีวิตการทำงานก็ยังมีความรักที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาคอยกวนใจ โดยถ่ายออกมาผ่านความสัมพันธ์รักสามเส้าของหนุ่มที่แอบรักสาวเพื่อนสนิท แต่เธอกำลังคบหาอยู่กับชายอื่นที่ดูดี และเพียบพร้อมกว่าเขาทั้งในแง่ฐานะและหน้าที่การงาน
7. The Classic (2003)
เมโลดราม่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำซีรีส์ที่โดดเด่นและขึ้นชื่อของฝั่งเกาหลีมาอย่างยาวนาน ซึ่งกลวิธีต่างๆมีการส่งต่อ ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการทำหนังจนเกิดผลสำเร็จอย่าง Failan, Il Mare, A Moment to Remember, More than Blue และแน่นอนว่า The Classic เป็นอีกเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย เพราะนอกจากมีเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจ หลากหลายโมเม้นต์ที่น่าจดจำ ก็ยังมีดนตรีและเพลงประกอบที่ไพเราะติดหูอย่าง Me to you, you to me โดยหนังพูดถึงความสัมพันธ์ของสองคู่รักต่างยุคสมัย หนึ่งคือหญิงสาวที่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมชมรมละครเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่แอบปลื้มที่กำลังคบอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอ และสองคือรักต่างชนชั้นของหนุ่มที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่กำลังเป็นคู่หมั้นของเพื่อนสนิท
6. The Age of Innocence (1993)
โรแมนติก-ดราม่าเป็นลักษณะหนังที่ Martin Scorsese คลุกคลีกับมันในช่วงแรกเริ่มของอาชีพผู้กำกับ ก่อนค้นพบแนวทางที่แท้จริงของตัวเองอย่างหนังอาชญากรรมหรือพวกแนวแก๊งสเตอร์ และสร้างสรรค์ผลงานแนวนี้เรื่อยมาตลอดจน The Age of Innocence ที่เป็นการวกกลับมาทำหนังโรแมนติก-ดราม่าอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ในบรรยากาศหนังย้อนยุคที่เล่นปมรักต้องห้ามของเหล่าสังคมชนชั้นสูง ที่ชายหนุ่มรูปงามของตระกูลผู้สูงศักดิ์ที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ไปตกหลุมรักหญิงสาวในเครือญาติที่เขาพยายามหาหนทางให้เธอกลับมาเป็นที่ยอมรับในสังคมอีกครั้ง
5. Never Let Me Go (2010)
ผลงานการดัดแปลงจากนิยายไฟไซของ Kazuo Ishiguro ที่เซ็ทโลกดิสโทเปียของมนุษย์โคลนนิ่งที่เกิดมาและเติบโตขึ้นเพื่อเป็นอวัยวะให้กับมนุษย์คนอื่น แน่นอนว่าวัฏจักรชีวิตต้องแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความฝันและมีสิทธิ์ที่จะรักกับใครสักคน ซึ่งหนังก็ได้เจาะลึกไปยังปมความรัก และนำเสนอออกมาในรูปแบบรักสามเส้าของเพื่อนสนิทสามคน ที่แม้ว่าความรู้สึกต่างๆจะถูกสารภาพออกมา เกิดเป็นความรักที่คู่ควรของคนสองคน แต่หนังก็ชี้ให้เห็นว่าบางครั้งความรักที่ยิ่งใหญ่นั้น ก็ไม่อาจช่วยให้มนุษย์เราหลีกหนีชะตากรรมของตัวเองพ้น
4. Sabrina (1954)
คงมีผู้หญิงไม่กี่คนที่เกิดมาเพื่อเป็นต้นแบบ เป็นพลังแห่งการส่งต่ออิทธิพลผ่านยุคสมัยเหมือนอย่าง Jacqueline Kennedy Onassis, Diana Frances และAudrey Hepburn นักแสดงที่โด่งดังอย่างมากในยุค 50-60 ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ กิริยาท่าทางที่งดงาม และการแต่งกายที่สวยเก๋จนกลายเป็นผู้นําเทรนด์แห่งยุคสมัย ซึ่งในฐานะนักแสดงหญิงก็นับว่าเป็นอีกคนที่มีความสามารถมาก การันตีโดยรางวัลออสการ์จาก Roman Holiday และบทบาทคุณภาพอีกมากมายหนึ่งในนั้นคือ Sabrina หนังโรแมนติกแห่งเทพนิยายซินเดอเรลล่า ที่ว่าด้วยรักสามเส้าของสองพี่น้องที่ไปตกหลุมรักลูกสาวคนขับรถ
3. Gone With The Wind (1939)
จากวรรณกรรมคลาสสิกของ Margaret Mitchell ที่พูดถึงสาวทรงเสน่ห์ ที่ดันไปตกหลุมรักชายหนุ่มที่กำลังจะแต่งงาน จนเกิดเป็นรักสามเส้าและปมความรักอีกมากมายที่มีฉากหลังเป็นสงครามกลางเมือง โดยหนังถูกร้อยเรียงผ่านฝีมือของ Victor Fleming จนกลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมีอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งความยอดเยี่ยมดังกล่าวการันตีได้จากการคว้า 8 รางวัลสำคัญบนเวทีออสการ์ อีกทั้งสมัยที่หนังเข้าฉายยังได้รับกระแสนิยมที่สูงมาก จนถูกบันทึกว่าเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเมื่อคิดตามอัตราเงินเฟ้อที่ผันเปลี่ยนตามเวลา
2. Jules et Jim (1962)
หลายคนคงรู้จัก François Truffaut จากหนังดราม่า The 400 Blows โดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศสท่านนี้โดดเด่นในการถ่ายทอดภาพยนตร์กวีนิพนธ์ ที่เต็มไปด้วยการเปรียบเปรยความละเอียดอ่อนและความสร้างสรรค์เชิงศิลปะ Jules et Jim จึงกลายเป็นอีกข้อพิสูจน์ถึงแนวทางดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยการสะท้อนผ่านเรื่องราวรักสามเส้าที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและการเสียสละ ที่เกิดขึ้นระหว่างหนุ่มเพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกัน โดยผู้กำกับก็เปรียบเธอเสมือนดั่งงานประติมากรรม ความงดงาม ความลึกลับที่น่าค้นหาที่สามารถทำให้เหล่าชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงภวังค์ตั้งแต่แรกพบ
1. Casablanca (1942)
อีกหนึ่งหนังคลาสสิกขึ้นหิ้งตลอดกาล ที่มีความสำคัญต่อวงการภาพยนตร์ไม่แพ้หนังอย่าง Citizen Kane, The Godfather หรือหากมองในมุมของหนังรักก็การันตีความยอดเยี่ยมได้จากการเป็นหนังรักเบอร์หนึ่งของ AFI โดยองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งเสริมหนังนอกเหนือจากงานภาพของ Arthur Edeson, เพลงประกอบที่แต่งโดย Max Steiner, หรือการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Humphrey Bogart ก็จะเป็นส่วนของบทภาพยนตร์ ที่เต็มไปด้วยไดอะล็อกที่ลึกซึ้งคมคาย และจุดสำคัญก็คือ การสะท้อนการตัดสินใจครั้งสำคัญของตัวละครภายใต้ปมรักสามเส้า ของชายผู้ต้องเลือกระหว่างการช่วยเหลืออดีตคนรักกับแฟนหนุ่มให้อพยพไปยังอเมริกาอย่างปลอดภัย หรือเลือกที่จะเข้าร่วมและกำจัดแฟนหนุ่มของอดีตคนรักที่เป็นผู้นำฝ่ายต่อต้านนาซี
.
.
.
.
.
.
.
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังเเละซีรีส์
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @puneak_b
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน
10 หนังรักสามเส้า(เศร้า) ที่คุณไม่ควรพลาด
เป็นลิสต์ที่เกิดจากการผสมหนัง 'หนังรักสามเส้า' ระหว่างหนังคลาสสิกกับหนังยุคใหม่ที่น่าสนใจ โดยลิสต์นี้พูดถึงความสัมพันธ์รักที่เกิดขึ้นระหว่างคนสามคน ที่อาจเกิดจากบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้องกับความรักที่กำลังดำเนินอยู่ของคนสองคน ซึ่งท้ายที่สุดความรักครั้งนี้อาจมีใครบางคนที่ต้องเจ็บหรือบางครั้งอาจเป็นบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง...
สำหรับสมาชิกท่านใดมีหนังเรื่องไหนอยากเเนะนำเพิ่มเติม มาคอมเม้นท์เเลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ...
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
10. Bridget Jones's Diary (2001)
เชื่อว่าคงเป็นหนังโรแมนติก-คอมเมดี้ที่ใครหลายคนต่างรู้จักกันเป็นอย่างดี โดยหนังดัดแปลงจากนิยายขายดีของ Helen Fielding ที่พูดถึงสาวโสดช่วงวัยสิบที่ชีวิตต้องมาพัวพันกับความรักยุ่งๆจากสองหนุ่มที่เป็นเจ้านายและอดีตคนรู้จัก โดยหนังใช้ตัวละครหญิงเดินเรื่องตามแบบฉบับหนัง chick flicks ที่รับบทนำโดย Renée Zellweger ด้วยความน่ารักสดใส และการแสดงที่เข้าถึงบทบาทก็ทำให้บทดังกล่าวกลายเป็นภาพจำของเธอในฐานะนักแสดง ขณะเดียวกันหนังก็ได้ Hugh Grant และ Colin Firth มาเป็นคู่กัด เป็นตัวรับชงมุกที่เคมีเข้ากันเป็นอย่างดี
9. สิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารัก (2553)
เรียกได้ว่าเป็นหนังโรแมนติกที่ผสมเมสเสจการข้ามผ่านวัย ที่โด่งดังที่สุดอีกเรื่องของไทยนอกเหนือจากแฟนฉัน หรือ Season Change โดยจุดเด่นของหนังคือการหยิบเรื่องราวที่เป็นเรื่องใกล้ตัวหรืออาจเคยเกิดขึ้นกับใครหลายคนอย่าง ความรัก/การแอบชอบของรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงเรียน มาเล่าผ่านหนังในมุมมองของรุ่นน้องที่แอบชอบรุ่นพี่จนเกิดแรงผลักดันในการพัฒนาตนเองทั้งทางรูปลักษณ์ภายนอก และภายในเพื่อเรียกร้องความสนใจจากรุ่นพี่ แต่ด้วยเส้นเรื่องดังกล่าวที่อาจดูทื่อเกินไป หนังก็ฉลาดในการเสริมความสัมพันธ์รักสามเส้าเพื่อความซับซ้อน ให้คนดูเกิดการลุ้นและคาดเดาถึงบทสรุป เมื่อฝั่งรุ่นน้องเกิดการจับพลัดจับผลูไปคบกับเพื่อนสนิทของรุ่นพี่ที่แอบชอบ…
8. Reality Bites (1994)
หากคุณเรียนจบในสายงานหนึ่งมา แต่กลับเกิดความลังเลที่จะก้าวต่อสู่การทำงานจริงในสายอาชีพนั้น อาจด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องแปลกและสามารถเกิดได้กับทุกคน ซึ่งนั่นเป็นอีกเส้นเรื่องสำคัญในผลงานกำกับหนังยาวเรื่องแรกของ Ben Stiller กับภาพสะท้อนสังคมร่วมสมัย ความจริงของวัยรุ่นหลังเรียนจบ ที่นอกเหนือจากชีวิตการทำงานก็ยังมีความรักที่เป็นอีกหนึ่งปัญหาคอยกวนใจ โดยถ่ายออกมาผ่านความสัมพันธ์รักสามเส้าของหนุ่มที่แอบรักสาวเพื่อนสนิท แต่เธอกำลังคบหาอยู่กับชายอื่นที่ดูดี และเพียบพร้อมกว่าเขาทั้งในแง่ฐานะและหน้าที่การงาน
7. The Classic (2003)
เมโลดราม่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการทำซีรีส์ที่โดดเด่นและขึ้นชื่อของฝั่งเกาหลีมาอย่างยาวนาน ซึ่งกลวิธีต่างๆมีการส่งต่อ ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการทำหนังจนเกิดผลสำเร็จอย่าง Failan, Il Mare, A Moment to Remember, More than Blue และแน่นอนว่า The Classic เป็นอีกเรื่องที่ไม่สามารถมองข้ามได้เลย เพราะนอกจากมีเรื่องราวที่ลึกซึ้งกินใจ หลากหลายโมเม้นต์ที่น่าจดจำ ก็ยังมีดนตรีและเพลงประกอบที่ไพเราะติดหูอย่าง Me to you, you to me โดยหนังพูดถึงความสัมพันธ์ของสองคู่รักต่างยุคสมัย หนึ่งคือหญิงสาวที่ยอมเข้าร่วมกิจกรรมชมรมละครเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับชายหนุ่มที่แอบปลื้มที่กำลังคบอยู่กับเพื่อนสนิทของเธอ และสองคือรักต่างชนชั้นของหนุ่มที่ตกหลุมรักหญิงสาวที่กำลังเป็นคู่หมั้นของเพื่อนสนิท
6. The Age of Innocence (1993)
โรแมนติก-ดราม่าเป็นลักษณะหนังที่ Martin Scorsese คลุกคลีกับมันในช่วงแรกเริ่มของอาชีพผู้กำกับ ก่อนค้นพบแนวทางที่แท้จริงของตัวเองอย่างหนังอาชญากรรมหรือพวกแนวแก๊งสเตอร์ และสร้างสรรค์ผลงานแนวนี้เรื่อยมาตลอดจน The Age of Innocence ที่เป็นการวกกลับมาทำหนังโรแมนติก-ดราม่าอย่างเต็มตัวอีกครั้ง ในบรรยากาศหนังย้อนยุคที่เล่นปมรักต้องห้ามของเหล่าสังคมชนชั้นสูง ที่ชายหนุ่มรูปงามของตระกูลผู้สูงศักดิ์ที่มีคู่หมั้นเป็นตัวเป็นตนอยู่แล้ว แต่ไปตกหลุมรักหญิงสาวในเครือญาติที่เขาพยายามหาหนทางให้เธอกลับมาเป็นที่ยอมรับในสังคมอีกครั้ง
5. Never Let Me Go (2010)
ผลงานการดัดแปลงจากนิยายไฟไซของ Kazuo Ishiguro ที่เซ็ทโลกดิสโทเปียของมนุษย์โคลนนิ่งที่เกิดมาและเติบโตขึ้นเพื่อเป็นอวัยวะให้กับมนุษย์คนอื่น แน่นอนว่าวัฏจักรชีวิตต้องแตกต่างจากมนุษย์ทั่วไปอย่างสิ้นเชิง ที่เกิดขึ้นมาพร้อมกับความฝันและมีสิทธิ์ที่จะรักกับใครสักคน ซึ่งหนังก็ได้เจาะลึกไปยังปมความรัก และนำเสนอออกมาในรูปแบบรักสามเส้าของเพื่อนสนิทสามคน ที่แม้ว่าความรู้สึกต่างๆจะถูกสารภาพออกมา เกิดเป็นความรักที่คู่ควรของคนสองคน แต่หนังก็ชี้ให้เห็นว่าบางครั้งความรักที่ยิ่งใหญ่นั้น ก็ไม่อาจช่วยให้มนุษย์เราหลีกหนีชะตากรรมของตัวเองพ้น
4. Sabrina (1954)
คงมีผู้หญิงไม่กี่คนที่เกิดมาเพื่อเป็นต้นแบบ เป็นพลังแห่งการส่งต่ออิทธิพลผ่านยุคสมัยเหมือนอย่าง Jacqueline Kennedy Onassis, Diana Frances และAudrey Hepburn นักแสดงที่โด่งดังอย่างมากในยุค 50-60 ที่มาพร้อมรูปลักษณ์ กิริยาท่าทางที่งดงาม และการแต่งกายที่สวยเก๋จนกลายเป็นผู้นําเทรนด์แห่งยุคสมัย ซึ่งในฐานะนักแสดงหญิงก็นับว่าเป็นอีกคนที่มีความสามารถมาก การันตีโดยรางวัลออสการ์จาก Roman Holiday และบทบาทคุณภาพอีกมากมายหนึ่งในนั้นคือ Sabrina หนังโรแมนติกแห่งเทพนิยายซินเดอเรลล่า ที่ว่าด้วยรักสามเส้าของสองพี่น้องที่ไปตกหลุมรักลูกสาวคนขับรถ
3. Gone With The Wind (1939)
จากวรรณกรรมคลาสสิกของ Margaret Mitchell ที่พูดถึงสาวทรงเสน่ห์ ที่ดันไปตกหลุมรักชายหนุ่มที่กำลังจะแต่งงาน จนเกิดเป็นรักสามเส้าและปมความรักอีกมากมายที่มีฉากหลังเป็นสงครามกลางเมือง โดยหนังถูกร้อยเรียงผ่านฝีมือของ Victor Fleming จนกลายเป็นหนังที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และมีอิทธิพลต่อวงการภาพยนตร์ที่สุดอีกหนึ่งเรื่อง ซึ่งความยอดเยี่ยมดังกล่าวการันตีได้จากการคว้า 8 รางวัลสำคัญบนเวทีออสการ์ อีกทั้งสมัยที่หนังเข้าฉายยังได้รับกระแสนิยมที่สูงมาก จนถูกบันทึกว่าเป็นหนังที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาลเมื่อคิดตามอัตราเงินเฟ้อที่ผันเปลี่ยนตามเวลา
2. Jules et Jim (1962)
หลายคนคงรู้จัก François Truffaut จากหนังดราม่า The 400 Blows โดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศสท่านนี้โดดเด่นในการถ่ายทอดภาพยนตร์กวีนิพนธ์ ที่เต็มไปด้วยการเปรียบเปรยความละเอียดอ่อนและความสร้างสรรค์เชิงศิลปะ Jules et Jim จึงกลายเป็นอีกข้อพิสูจน์ถึงแนวทางดังกล่าวได้เป็นอย่างดี โดยการสะท้อนผ่านเรื่องราวรักสามเส้าที่เต็มไปด้วยมิตรภาพและการเสียสละ ที่เกิดขึ้นระหว่างหนุ่มเพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักหญิงสาวคนเดียวกัน โดยผู้กำกับก็เปรียบเธอเสมือนดั่งงานประติมากรรม ความงดงาม ความลึกลับที่น่าค้นหาที่สามารถทำให้เหล่าชายหนุ่มตกอยู่ในห้วงภวังค์ตั้งแต่แรกพบ
1. Casablanca (1942)
อีกหนึ่งหนังคลาสสิกขึ้นหิ้งตลอดกาล ที่มีความสำคัญต่อวงการภาพยนตร์ไม่แพ้หนังอย่าง Citizen Kane, The Godfather หรือหากมองในมุมของหนังรักก็การันตีความยอดเยี่ยมได้จากการเป็นหนังรักเบอร์หนึ่งของ AFI โดยองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยส่งเสริมหนังนอกเหนือจากงานภาพของ Arthur Edeson, เพลงประกอบที่แต่งโดย Max Steiner, หรือการแสดงที่ยอดเยี่ยมของ Humphrey Bogart ก็จะเป็นส่วนของบทภาพยนตร์ ที่เต็มไปด้วยไดอะล็อกที่ลึกซึ้งคมคาย และจุดสำคัญก็คือ การสะท้อนการตัดสินใจครั้งสำคัญของตัวละครภายใต้ปมรักสามเส้า ของชายผู้ต้องเลือกระหว่างการช่วยเหลืออดีตคนรักกับแฟนหนุ่มให้อพยพไปยังอเมริกาอย่างปลอดภัย หรือเลือกที่จะเข้าร่วมและกำจัดแฟนหนุ่มของอดีตคนรักที่เป็นผู้นำฝ่ายต่อต้านนาซี
.
.
.
.
.
.
.
ทวิตเตอร์เพจ @Review_Me_ พูดคุยหนังเเละซีรีส์
ขออนุญาตฝากเพจนะครับ
https://www.facebook.com/Criticalme
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @puneak_b
เป็นพื้นที่สำหรับรีวิวหนังสือนิยายต่างๆโดยเฉพาะแนวสืบสวน