https://ppantip.com/topic/37353966/comment7
ตั้งใจว่าอยากจะหาเวลามานั่งเขียนต่อยอดกระทู้เก่าของจ่าพิเชษฐ์ที่พูดถึงสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๒ ในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/37353966/comment7 คืออยากจะต่อยอดไปถึงสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๑ เลย เพราะไหนๆ ได้พูดถึงอลิซาเบธที่๒แล้ว ด้วยว่ายุคของพระนางอลิซาเบธที่๑นั้นถือเป็นยุคทองของอังกฤษ หลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ "การเดินเรือ" ข้ามทวีปที่ต่อมาทำให้อังกฤษแผ่อิทธิพลไปทั่วโลกยิ่ง หรือมีเชคสเปียร์ผลิตผลงานด้านวรรณกรรมก้องโลกในยุคของพระนาง แต่ไหนๆ ห้องนี้เป็นห้องการเมืองแล้ว....ผมก็จะนำเสนอเฉพาะด้านประวัติศาสตร์การเมือง จากมุมมองของผมที่ประมวลจากการได้อ่าน ดูสารคดี และพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์อังกฤษโดยตรง
ชีวิตของอลิซาเบธก่อนจะมาเป็นสมเด็จพระราชินีที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษดูเหมือนจะอาภัพมาตั้งแต่เด็ก....กราฟชีวิตขึ้นลงด้วยแรงเหวี่ยงจาก "การเมือง" ภายในประเทศและต่างประเทศแบบสุดโต่ง พระราชบิดาคือพระเจ้าเฮนรี่ที่๘ มีความประสงค์อย่างรุนแรงที่จะได้ลูกชายเพื่อสืบราชบัลลังก์ พระองค์จะหาเรื่องหย่ากับภรรยาคนแรกที่ให้กำเนิดลูกสาว โดยขอให้โป๊ปจากกรุงวาติกันรับรองการเป็นโมฆะของการแต่งงาน แต่โป๊ปไม่ยอม จึงเกิดการตรึงเครียดกันระหว่างอังกฤษกับกรุงวาติกัน (กรุงวาติกันยุคนั้นมีอำนาจแทบจะทั่วยุโรป) พระเจ้าเฮนรี่ตัดขาดกับกรุงวาติกันเรื่องศาสนาและให้บาทหลวงอังกฤษรับรองการหย่า และหวังจะฝากฝีฝากไข้ไว้ภรรยาคนที่สองคือ "แอนน์ โบลีนน์" ที่เริ่มตั้งท้อง (หมอบอกว่าจะให้กำเนิดโอรส) แต่แล้ว...แอนน์ก็แท้งครรภ์และเสียเด็กไป ต่อมาเมื่อแอนน์ตั้งท้องอีก แต่คราวนี้กลับเป็นหญิงคือ "อลิซาเบธ" พระเจ้าเฮนรี่ทรงกลัดกลุ้มยิ่งนักที่ภรรยาไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ (นัยว่าเริ่มหาเรื่องที่จะหย่าร้างกับภรรยาคนที่สองอีก) และเมื่ออลิซาเบธอายุได้สามขวบ พระเจ้าเฮนรี่ได้สั่งประหารชีวิตแอนน์ (ภรรยาของตนเองและพระมารดาของอลิซาเบธ) โดยกล่าวหาว่ามีชู้ ทำให้อลิซาเบธเป็นเด็กกำพร้าและที่เงียบขรึมมาตั้งแต่เด็ก ภาพมารดาของตนถูกบั่นคอด้วยคำสั่งของบิดายังติดอยู่ในภวังค์เกือบตลอดพระชนม์ชีพ (ภาพข้างล่างคือภาพการประหารพระนางแอนน์ โบลีน)
อลิซาเบธมีพี่สาวต่างมารดาคือแมรี่ (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีแมรี่)ที่เกิดจากภรรยาคนแรกของพระเจ้าเฮนรี่ ในตอนแรกแมรี่มีสถานะเป็นองค์ "รัชทายาท" ที่จะสืบบังลังก์ แต่เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ได้หย่ากับแม่ของแมรี่แล้ว สถานะของแมรี่ก็ไม่ใช่รัชทายาทอีกต่อไป คนที่เป็นองค์รัชยาทตอนนี้ก็คือ "อลิซาเบธ" แต่หลังจากประหารแม่ของอลิซาเบธแล้ว พระเจ้าเฮนรี่ก็ไปแต่งงานใหม่อีกคือเจนน์ และเจนน์ก็ให้กำเนิดลูกชาย แล้วพระเจ้าเฮนรี่ก็ปลดอลิซาเบธออกจากตำแหน่งรัชทายาท จากนั้นก็แต่งตั้งเอ็ดเวิร์ดลูกชายที่เกิดกับเจนน์ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน หลังจากสิ้นรัชสมัยพระเจ้าเฮนรี่ เอ็ดเวิร์ดก็ขึ้นครองราชย์ด้วยอายุยังน้อย ตอนนี้เกมส์การเมืองเข้มข้นมาก มีการประลองกำลังกันระหว่างสามพี่น้องต่างมารดาคือ แมรี่ อลิซาเบธ และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ทั้งสามคนล้วนเคยครองตำแหน่ง "รัชทายาท" มาแล้ว แต่บัลลังก์ตกมาอยู่ที่เอ็ดเวิร์ด เกมส์การดิสเครดิตและลอบสังหารระหว่างพี่น้องก็เกิดขึ้นโดยมีที่ปรึกษาของแต่ละฝ่ายคอยยุยง แต่เพราะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถือไพ่ที่เหนือกว่าเพราะสถาปนาเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ทำให้แมรี่และอลิซาเบธต้องหลบภัยไปอยู่เมืองอื่น
ครองราชย์ได้เพียงไม่นานพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็สิ้นพระชนม์ ก่อนหน้านั้น..พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดพยายามทุกวิธีทางที่จะกีดกันแมรี่และอลิซาเบธไม่ให้ได้ขึ้นครองบัลลังก์โดย พระองค์ทรงแต่งตั้งให้พระญาติคือเลดี้เจนขึ้นครองแทน แต่ก็ถูกกองกำลังของแมรี่และอลิซาเบธที่ร่วมกันต่อต้าน ทำให้เลดี้เจนครองราชย์เพียงระยะเวลาสั้นๆ (ถ้าจำไม่ผิดก็คงจะประมาณห้าเดือนกว่าๆ ) เมื่อปราบเลดี้เจนลงได้ สองพี่น้องแมรี่และอลิซาเบธก็ขี่ม้าเคียงข้างกันเข้ากรุงลอนดอนในฐานะผู้ชนะ แมรี่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินี ความสัมพันธ์ระหว่างแมรี่กับอลิซาเบธในช่วงแรกก็ราบรื่น แต่ต่อมาพระนางแมรี่เกรงว่าน้องสาวต่างมารดาอย่างอลิซาเบธจะแย่งชิงบัลลังก์ ก็หาเรื่องจับน้องสาวเข้าห้องขัง รอวันประหาร (ตามคำยุยงของเหล่าที่ปรึกษา) สุดท้ายอลิซาเบธก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้มีส่วนพัวพันกับการกบฏที่ต่อต้านการปราบปรามชาวโปรแตสแตนท์ของพระนางแม่รี่ กระนั้นอลิซาเบธก็ยังคงถูกกักกันในสถานที่ๆ กำหนดเอาไว้ เมื่อสิ้นพระนางแมรี่.....อลิซาเบธก็ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๑ พระนางทรงครองราชย์อย่างยาวนานและสร้างความรุ่งเรืองซึ่งถือว่าเป็น "ยุคทอง" ของอังกฤษเลยทีเดียว ที่สำคัญพระนางทรงครองโสด ตลอดพระชนม์ชีพจนได้สมัญญานามว่า "the virgin queen" ราชินีผู้ถือพรมจรรย์
พระนางทรงปรีชาสามารถอย่างยิ่ง ทรงปราบและแก้ปัญหาจราจลและความขัดแย้งระหว่างคริสต์สองนิกายโปรแตสแตนท์และคาธอลิกที่ก่อหวอดมาหลายรัชสมัย แม้จะตกอยู่ระหว่างคมหอกและดาบของอำนาจจากสองประเทศคือฝรั่งเศส (ปกครองสก็อตแลนด์ ด้วยตอนนั้น) และสเปน (ที่มีกองกำลังทางเรืออย่างเกรียงไกร) แต่ก็ทรงวางพระองค์เจริญสัมพันธไมตรีกับสองชาติอย่างมีไหวพริบและเท่าทัน กษัตริย์จากฝรั่งเศสและสเปนเองก็หมายมั่นปั้นมือจะรวบหัวรวบหางอังกฤษด้วยการส่งเทียบเชิญให้พระนางอลิซาเบธได้เสกสมรสกับรัชทายาท แต่พระนางปฏิเสธไปทั้งสองประเทศ ทั้งๆ ที่เหล่าที่ปรึกษาอยากให้พระนางสมรสกับเจ้าชายเมืองใดเมืองหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของอังกฤษ แต่พระนางทรงตรัสตอบเหล่าที่ปรึกษาและราชบริพารว่า "สามีของฉันชาติอังกฤษ ลูกหลานก็คือชาวอังกฤษ" พระนางทรงทุ่มเทให้กับประเทศอังกฤษอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงต่อต้านอำนาจของโป๊ปแห่งวาติกันที่แผ่อิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่คลุมยุโรปในตอนนั้น จนอังกฤษค่อยๆ หลุดจากอิทธิพลของวาติกัน
วาระสุดท้ายของพระนางนั้นเป็นที่น่าสงสารไม่น้อย ว่ากันว่าช่วงหลังๆ พระนางทรงมีพระสุบินร้ายอยู่บ่อยๆ จนทำให้พระนางทรงกลัวว่าวันหนึ่งเมื่อหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก พระนางจึงไม่ทรงยอมบรรทมอยู่หลายวันมาก จนพระพลานามัยทรุดโทรม สุดท้ายพระนางก็สิ้นพระชนม์ .....ในระหว่างสี่สิบสี่ปีที่ทรงครองราชย์นั้นมีปลีกและเกร็ดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวพระนางมากมาย รัก แค้น พิศวาส เลือด มีการไปสร้างเป็นภาพยนต์หลายเวอร์ชั่นหาดูตามยูทูปก็คงจะมี
ผมเขียนเล่าแบบกว้างๆ (เนื้อที่และเวลามีจำกัด) อาจจะตกๆ หล่นๆ บ้างก็ขออภัย
...ต่อยอดกระทู้ "แก่ไม่เกินแกง" ของจ่าพิเชษฐ์..../วัชรานนท์
ตั้งใจว่าอยากจะหาเวลามานั่งเขียนต่อยอดกระทู้เก่าของจ่าพิเชษฐ์ที่พูดถึงสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๒ ในกระทู้นี้
https://ppantip.com/topic/37353966/comment7 คืออยากจะต่อยอดไปถึงสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๑ เลย เพราะไหนๆ ได้พูดถึงอลิซาเบธที่๒แล้ว ด้วยว่ายุคของพระนางอลิซาเบธที่๑นั้นถือเป็นยุคทองของอังกฤษ หลายๆ ด้าน โดยเฉพาะ "การเดินเรือ" ข้ามทวีปที่ต่อมาทำให้อังกฤษแผ่อิทธิพลไปทั่วโลกยิ่ง หรือมีเชคสเปียร์ผลิตผลงานด้านวรรณกรรมก้องโลกในยุคของพระนาง แต่ไหนๆ ห้องนี้เป็นห้องการเมืองแล้ว....ผมก็จะนำเสนอเฉพาะด้านประวัติศาสตร์การเมือง จากมุมมองของผมที่ประมวลจากการได้อ่าน ดูสารคดี และพูดคุยกับเพื่อนที่เป็นอาจารย์สอนประวัติศาสตร์อังกฤษโดยตรง
ชีวิตของอลิซาเบธก่อนจะมาเป็นสมเด็จพระราชินีที่ยิ่งใหญ่ของอังกฤษดูเหมือนจะอาภัพมาตั้งแต่เด็ก....กราฟชีวิตขึ้นลงด้วยแรงเหวี่ยงจาก "การเมือง" ภายในประเทศและต่างประเทศแบบสุดโต่ง พระราชบิดาคือพระเจ้าเฮนรี่ที่๘ มีความประสงค์อย่างรุนแรงที่จะได้ลูกชายเพื่อสืบราชบัลลังก์ พระองค์จะหาเรื่องหย่ากับภรรยาคนแรกที่ให้กำเนิดลูกสาว โดยขอให้โป๊ปจากกรุงวาติกันรับรองการเป็นโมฆะของการแต่งงาน แต่โป๊ปไม่ยอม จึงเกิดการตรึงเครียดกันระหว่างอังกฤษกับกรุงวาติกัน (กรุงวาติกันยุคนั้นมีอำนาจแทบจะทั่วยุโรป) พระเจ้าเฮนรี่ตัดขาดกับกรุงวาติกันเรื่องศาสนาและให้บาทหลวงอังกฤษรับรองการหย่า และหวังจะฝากฝีฝากไข้ไว้ภรรยาคนที่สองคือ "แอนน์ โบลีนน์" ที่เริ่มตั้งท้อง (หมอบอกว่าจะให้กำเนิดโอรส) แต่แล้ว...แอนน์ก็แท้งครรภ์และเสียเด็กไป ต่อมาเมื่อแอนน์ตั้งท้องอีก แต่คราวนี้กลับเป็นหญิงคือ "อลิซาเบธ" พระเจ้าเฮนรี่ทรงกลัดกลุ้มยิ่งนักที่ภรรยาไม่สามารถให้กำเนิดลูกชายได้ (นัยว่าเริ่มหาเรื่องที่จะหย่าร้างกับภรรยาคนที่สองอีก) และเมื่ออลิซาเบธอายุได้สามขวบ พระเจ้าเฮนรี่ได้สั่งประหารชีวิตแอนน์ (ภรรยาของตนเองและพระมารดาของอลิซาเบธ) โดยกล่าวหาว่ามีชู้ ทำให้อลิซาเบธเป็นเด็กกำพร้าและที่เงียบขรึมมาตั้งแต่เด็ก ภาพมารดาของตนถูกบั่นคอด้วยคำสั่งของบิดายังติดอยู่ในภวังค์เกือบตลอดพระชนม์ชีพ (ภาพข้างล่างคือภาพการประหารพระนางแอนน์ โบลีน)
อลิซาเบธมีพี่สาวต่างมารดาคือแมรี่ (ต่อมาคือสมเด็จพระราชินีแมรี่)ที่เกิดจากภรรยาคนแรกของพระเจ้าเฮนรี่ ในตอนแรกแมรี่มีสถานะเป็นองค์ "รัชทายาท" ที่จะสืบบังลังก์ แต่เมื่อพระเจ้าเฮนรี่ได้หย่ากับแม่ของแมรี่แล้ว สถานะของแมรี่ก็ไม่ใช่รัชทายาทอีกต่อไป คนที่เป็นองค์รัชยาทตอนนี้ก็คือ "อลิซาเบธ" แต่หลังจากประหารแม่ของอลิซาเบธแล้ว พระเจ้าเฮนรี่ก็ไปแต่งงานใหม่อีกคือเจนน์ และเจนน์ก็ให้กำเนิดลูกชาย แล้วพระเจ้าเฮนรี่ก็ปลดอลิซาเบธออกจากตำแหน่งรัชทายาท จากนั้นก็แต่งตั้งเอ็ดเวิร์ดลูกชายที่เกิดกับเจนน์ขึ้นเป็นรัชทายาทแทน หลังจากสิ้นรัชสมัยพระเจ้าเฮนรี่ เอ็ดเวิร์ดก็ขึ้นครองราชย์ด้วยอายุยังน้อย ตอนนี้เกมส์การเมืองเข้มข้นมาก มีการประลองกำลังกันระหว่างสามพี่น้องต่างมารดาคือ แมรี่ อลิซาเบธ และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ทั้งสามคนล้วนเคยครองตำแหน่ง "รัชทายาท" มาแล้ว แต่บัลลังก์ตกมาอยู่ที่เอ็ดเวิร์ด เกมส์การดิสเครดิตและลอบสังหารระหว่างพี่น้องก็เกิดขึ้นโดยมีที่ปรึกษาของแต่ละฝ่ายคอยยุยง แต่เพราะพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดถือไพ่ที่เหนือกว่าเพราะสถาปนาเป็นพระเจ้าแผ่นดินแล้ว ทำให้แมรี่และอลิซาเบธต้องหลบภัยไปอยู่เมืองอื่น
ครองราชย์ได้เพียงไม่นานพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดก็สิ้นพระชนม์ ก่อนหน้านั้น..พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดพยายามทุกวิธีทางที่จะกีดกันแมรี่และอลิซาเบธไม่ให้ได้ขึ้นครองบัลลังก์โดย พระองค์ทรงแต่งตั้งให้พระญาติคือเลดี้เจนขึ้นครองแทน แต่ก็ถูกกองกำลังของแมรี่และอลิซาเบธที่ร่วมกันต่อต้าน ทำให้เลดี้เจนครองราชย์เพียงระยะเวลาสั้นๆ (ถ้าจำไม่ผิดก็คงจะประมาณห้าเดือนกว่าๆ ) เมื่อปราบเลดี้เจนลงได้ สองพี่น้องแมรี่และอลิซาเบธก็ขี่ม้าเคียงข้างกันเข้ากรุงลอนดอนในฐานะผู้ชนะ แมรี่สถาปนาตัวเองขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินี ความสัมพันธ์ระหว่างแมรี่กับอลิซาเบธในช่วงแรกก็ราบรื่น แต่ต่อมาพระนางแมรี่เกรงว่าน้องสาวต่างมารดาอย่างอลิซาเบธจะแย่งชิงบัลลังก์ ก็หาเรื่องจับน้องสาวเข้าห้องขัง รอวันประหาร (ตามคำยุยงของเหล่าที่ปรึกษา) สุดท้ายอลิซาเบธก็พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองว่าไม่ได้มีส่วนพัวพันกับการกบฏที่ต่อต้านการปราบปรามชาวโปรแตสแตนท์ของพระนางแม่รี่ กระนั้นอลิซาเบธก็ยังคงถูกกักกันในสถานที่ๆ กำหนดเอาไว้ เมื่อสิ้นพระนางแมรี่.....อลิซาเบธก็ได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชินีอลิซาเบธที่๑ พระนางทรงครองราชย์อย่างยาวนานและสร้างความรุ่งเรืองซึ่งถือว่าเป็น "ยุคทอง" ของอังกฤษเลยทีเดียว ที่สำคัญพระนางทรงครองโสด ตลอดพระชนม์ชีพจนได้สมัญญานามว่า "the virgin queen" ราชินีผู้ถือพรมจรรย์
พระนางทรงปรีชาสามารถอย่างยิ่ง ทรงปราบและแก้ปัญหาจราจลและความขัดแย้งระหว่างคริสต์สองนิกายโปรแตสแตนท์และคาธอลิกที่ก่อหวอดมาหลายรัชสมัย แม้จะตกอยู่ระหว่างคมหอกและดาบของอำนาจจากสองประเทศคือฝรั่งเศส (ปกครองสก็อตแลนด์ ด้วยตอนนั้น) และสเปน (ที่มีกองกำลังทางเรืออย่างเกรียงไกร) แต่ก็ทรงวางพระองค์เจริญสัมพันธไมตรีกับสองชาติอย่างมีไหวพริบและเท่าทัน กษัตริย์จากฝรั่งเศสและสเปนเองก็หมายมั่นปั้นมือจะรวบหัวรวบหางอังกฤษด้วยการส่งเทียบเชิญให้พระนางอลิซาเบธได้เสกสมรสกับรัชทายาท แต่พระนางปฏิเสธไปทั้งสองประเทศ ทั้งๆ ที่เหล่าที่ปรึกษาอยากให้พระนางสมรสกับเจ้าชายเมืองใดเมืองหนึ่งเพื่อความปลอดภัยของอังกฤษ แต่พระนางทรงตรัสตอบเหล่าที่ปรึกษาและราชบริพารว่า "สามีของฉันชาติอังกฤษ ลูกหลานก็คือชาวอังกฤษ" พระนางทรงทุ่มเทให้กับประเทศอังกฤษอย่างมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทรงต่อต้านอำนาจของโป๊ปแห่งวาติกันที่แผ่อิทธิพลอันยิ่งใหญ่ที่คลุมยุโรปในตอนนั้น จนอังกฤษค่อยๆ หลุดจากอิทธิพลของวาติกัน
วาระสุดท้ายของพระนางนั้นเป็นที่น่าสงสารไม่น้อย ว่ากันว่าช่วงหลังๆ พระนางทรงมีพระสุบินร้ายอยู่บ่อยๆ จนทำให้พระนางทรงกลัวว่าวันหนึ่งเมื่อหลับไปแล้วจะไม่ตื่นขึ้นมาอีก พระนางจึงไม่ทรงยอมบรรทมอยู่หลายวันมาก จนพระพลานามัยทรุดโทรม สุดท้ายพระนางก็สิ้นพระชนม์ .....ในระหว่างสี่สิบสี่ปีที่ทรงครองราชย์นั้นมีปลีกและเกร็ดเรื่องราวเกี่ยวกับตัวพระนางมากมาย รัก แค้น พิศวาส เลือด มีการไปสร้างเป็นภาพยนต์หลายเวอร์ชั่นหาดูตามยูทูปก็คงจะมี
ผมเขียนเล่าแบบกว้างๆ (เนื้อที่และเวลามีจำกัด) อาจจะตกๆ หล่นๆ บ้างก็ขออภัย