https://ppantip.com/topic/37356572
ในฐานะเป็นคน "หน้าตาดี" และ ฉลาด หล่อ
ผมอ่านหนังสือมากกว่ากินข้าว ผมอ่านข้อความที่ป้าสาวเหลือน้อยโพสต์แล้ว ผมตึความแตกทันที
แต่กับพวกสติปัญญาเรี่ยดิน ที่ชอบตีความเพื่อให้ตัวเองนำไปใช้ในการเสียดสีถากถางสร้างเรื่องมาม่าได้
ก็จะตีความแบบ "จุ๊ย"
ถ้อยคำว่าที่
แค่คน ... คนเดียว ทำให้เราแตกแยกกันได้ถึงเพียงนี้...
หล่ออย่างผม อ่านแล้วเข้าใจทันที ว่าไม่ได้ถึง คน ๆ เดียวนั้น ยุแยงตะแคงรั่วให้ใครทะเลาะกับใคร
แต่เป็นนัยยะที่บอกว่า
คนรัก ก็รักแบบสุดชีวิต ปกป้องแบบไม่กลัวเปลืองตัว ใครจะมองยังไงไม่สน
คนเกลียดก็เล่นงานไม่หยุด มีอะไรขุดมาเล่นหมด
คนรัก กับ คนเกลียด เลยปะทะกันทางความคิด และ ความเชื่อ
แบบ ความรัก กับ ความเกลียด ปะทะกัน จนความขัดแย้งลุกลามขยายวง บานปลายจนแตกแยกไปหมด
หาก คนรัก - คนเกลียด มีสติสักนิด
ความขัดแย้งแตกแยกก็จะไม่เกิด คนเกลียด ๆ ไป คนรัก ๆ ไป อย่าให้ความสำคัญเกินเหตุ
ต่างฝ่ายต่างระมัดระวัง ต่างฝ่ายต่างรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน หนักหนาเกินก็เพลา ๆ ลง
เรียกว่า อย่าไปให้ความสำคัญ ความสนใจกับคน ๆ เดียวจนเกินเหตุ
นี่คือ นัยยะ ที่ผมตีความได้ ประสาคนฉลาด รอบรู้ แบบไม่ต้องอาศัยก็อปกูเกิ้ลมาอวดรู้
แต่สำหรับบรรดาสติปัญญาเรี่ย ๆ ดิน จะตีความไปตามอารมณ์ ไม่สบอารมณ์เป็นแสดงพฤติกรรม "จุ๊ย" ทันที
เรื่องทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์
ที่ผมรู้ ตอนนี้คุณป้าสาวเหลือน้อยมีหน้าที่ดูแลคนป่วยในบ้านสองคน
คือสามี และ ลูกสาว
ผมว่าคุณป้าสาวเหลือน้อยทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ครับ ไม่ขาดตกบกพร่อง มีเวลาว่างก็ออกไปสวนเสเฮฮากับเพื่อน ๆ
ไม่ได้หน้าดำคร่ำเครียดกับความเจ็บป่วย ซึ่งคุณป้าสาวเหลือน้อยจะพูดกับผมอยู่เสมอว่า เป็นเรื่องปกติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
จ้างพยาบาลเดือนละหลายหมื่นช่วยดูแล มีลูกชายช่วยดูแล มีแม่บ้านช่วยงานสารพัด
มีญาติพี่น้อง มีเพื่อน ที่เป็นแพทย์ เป็นหมอ คอยสอดส่องดูแล มีอะไร ๆ ทุกอย่างครบครัน ไม่ขาดตกบกพร่อง
ผมว่า คุณป้าทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ครับ
ก็ขนาดคนอย่างผม ที่นอนตามร้านเน็ต นอนตามสถานีขนส่ง วิ่งยืมเงินชาวบ้านซื้อข้าวยาไส้
ผมยังเอาตัวรอดได้ ฉะนั้น ป้าสาวเหลือน้อย ไม่มีปัญหาครับ
แต่บางคน ใครก็ไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นของกระทู้นี้นะครับ แค่นำมาบอกเล่าให้ฟัง
บางคนนั้น หนีหนี้หัวซุกหัวซุน มีหนี้เกือบร้อยล้านบาท เป็น NPL ระดับชาติ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
บริษัทเจ๊งยับ ขาดทุน ไม่ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาสองปีแล้ว ชอบอวดรวย
ต้องหย่ากับเมีย
ลูก ๆ แต่ละคน ต้องเปลี่ยนนามสกุล ใช้คนละนามสกุล เพื่อตัดความเกี่ยวข้องกัน เหมือนไม่ได้เป็นพ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง กันเลย
เพื่อหนีภาระทางหนี้สิน หนีความผูกพันทางหนี้สิน
ณ วันนี้ บริษัทไม่รู้ยังมีตัวตนอยู่ไหม
คนบางคนที่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท
ต้องย้ายสำมะโนไปอยู่บ้านที่มีแต่ตอในต่างจังหวัด หลบการติดตามทวงหนี้ หนีการบังคับชำระหนี้
แต่เมื่อเช้านี้ ได้ข่าวว่า ได้ย้ายสำมะโนจากบ้านที่มีแต่ตอ ไปอยู่บ้านที่มีหลังคาแล้วเรียบร้อย
ก็ยินดีด้วย จะได้เป็นสัมภเวสีที่มีหลังคาคุ้มหัวกันแดดกันฝน
ระวังไว้เหอะ ไม่มีธุรกิจ ไม่มีรายได้ (เพราะหนีเจ้าหนี้) แต่มีเงินใช้
นั่นก็แปลว่า เงินไม่มีที่ไปที่มา เกิดมีเงินขึ้นมาจากแหล่งที่ไม่อยู่ในระบบการเงิน คนที่รับไปอยู่ในสำมะโน
จะโดนข้อหาฟอกเงินไปด้วย ซวยไม่รู้ตัว
ก็บ่นลมจ้อแล้งไปครับ ว่าคนเรานั้น หน้าที่ที่สมบูรณ์เป็นอย่างไร
คุณป้าสาวเหลือน้อย ครับ
ผมอยากบอกว่า คนบางพวก ช่างไม่รู้จัก "sao..เหลือ..noi" เอาซะเลย
คงนึกว่า ซัดหน่อย ป้าคงยอม คงหงอ ไม่รู้ว่าระดับสาวเหลือน้อยนี่แหละ
จะโค่นตุลาการภิวัตมาแล้ว ประสาอะไรกับเกรียนบอร์ดสั่ว ๆ ไม่กี่คน
จบจุฬาฯ ตั้งแต่ 50 ปีก่อน
สถานะทางสังคมสูงกว่ากาก ๆ ขี้โม้ร้อยเท่า
สถานะทางครอบครัวสมบูรณ์แบบ
สถานะทางการเงิน มีบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินใช้ ไม่ต้องหนีหนี้หัวซุกหัวซุนขนาดต้องย้ายสำมะโนไปซุกตออยู่
ฯลฯ
อย่าดีแต่กร่าง ดูซะมั่งใครเป็นใคร จะได้ไม่หางจุกตูดซ้ำซาก
ทีหลังอย่าทำ
ผมก็งง ๆ นะครับ ว่าคนอย่างคุณป้า "สาวเหลือน้อย" ทำอะไรทำไมผิดไปหมด ขอช่วยซ้ำอีกสักคนครับ รอโอกาสมานานแล้ว .....
ในฐานะเป็นคน "หน้าตาดี" และ ฉลาด หล่อ
ผมอ่านหนังสือมากกว่ากินข้าว ผมอ่านข้อความที่ป้าสาวเหลือน้อยโพสต์แล้ว ผมตึความแตกทันที
แต่กับพวกสติปัญญาเรี่ยดิน ที่ชอบตีความเพื่อให้ตัวเองนำไปใช้ในการเสียดสีถากถางสร้างเรื่องมาม่าได้
ก็จะตีความแบบ "จุ๊ย"
ถ้อยคำว่าที่ แค่คน ... คนเดียว ทำให้เราแตกแยกกันได้ถึงเพียงนี้...
หล่ออย่างผม อ่านแล้วเข้าใจทันที ว่าไม่ได้ถึง คน ๆ เดียวนั้น ยุแยงตะแคงรั่วให้ใครทะเลาะกับใคร
แต่เป็นนัยยะที่บอกว่า
คนรัก ก็รักแบบสุดชีวิต ปกป้องแบบไม่กลัวเปลืองตัว ใครจะมองยังไงไม่สน
คนเกลียดก็เล่นงานไม่หยุด มีอะไรขุดมาเล่นหมด
คนรัก กับ คนเกลียด เลยปะทะกันทางความคิด และ ความเชื่อ
แบบ ความรัก กับ ความเกลียด ปะทะกัน จนความขัดแย้งลุกลามขยายวง บานปลายจนแตกแยกไปหมด
หาก คนรัก - คนเกลียด มีสติสักนิด
ความขัดแย้งแตกแยกก็จะไม่เกิด คนเกลียด ๆ ไป คนรัก ๆ ไป อย่าให้ความสำคัญเกินเหตุ
ต่างฝ่ายต่างระมัดระวัง ต่างฝ่ายต่างรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน หนักหนาเกินก็เพลา ๆ ลง
เรียกว่า อย่าไปให้ความสำคัญ ความสนใจกับคน ๆ เดียวจนเกินเหตุ
นี่คือ นัยยะ ที่ผมตีความได้ ประสาคนฉลาด รอบรู้ แบบไม่ต้องอาศัยก็อปกูเกิ้ลมาอวดรู้
แต่สำหรับบรรดาสติปัญญาเรี่ย ๆ ดิน จะตีความไปตามอารมณ์ ไม่สบอารมณ์เป็นแสดงพฤติกรรม "จุ๊ย" ทันที
เรื่องทำหน้าที่ตัวเองให้สมบูรณ์
ที่ผมรู้ ตอนนี้คุณป้าสาวเหลือน้อยมีหน้าที่ดูแลคนป่วยในบ้านสองคน
คือสามี และ ลูกสาว
ผมว่าคุณป้าสาวเหลือน้อยทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ครับ ไม่ขาดตกบกพร่อง มีเวลาว่างก็ออกไปสวนเสเฮฮากับเพื่อน ๆ
ไม่ได้หน้าดำคร่ำเครียดกับความเจ็บป่วย ซึ่งคุณป้าสาวเหลือน้อยจะพูดกับผมอยู่เสมอว่า เป็นเรื่องปกติ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
จ้างพยาบาลเดือนละหลายหมื่นช่วยดูแล มีลูกชายช่วยดูแล มีแม่บ้านช่วยงานสารพัด
มีญาติพี่น้อง มีเพื่อน ที่เป็นแพทย์ เป็นหมอ คอยสอดส่องดูแล มีอะไร ๆ ทุกอย่างครบครัน ไม่ขาดตกบกพร่อง
ผมว่า คุณป้าทำหน้าที่ได้สมบูรณ์ครับ
ก็ขนาดคนอย่างผม ที่นอนตามร้านเน็ต นอนตามสถานีขนส่ง วิ่งยืมเงินชาวบ้านซื้อข้าวยาไส้
ผมยังเอาตัวรอดได้ ฉะนั้น ป้าสาวเหลือน้อย ไม่มีปัญหาครับ
แต่บางคน ใครก็ไม่รู้ ไม่เกี่ยวกับประเด็นของกระทู้นี้นะครับ แค่นำมาบอกเล่าให้ฟัง
บางคนนั้น หนีหนี้หัวซุกหัวซุน มีหนี้เกือบร้อยล้านบาท เป็น NPL ระดับชาติ ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
บริษัทเจ๊งยับ ขาดทุน ไม่ส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามาสองปีแล้ว ชอบอวดรวย
ต้องหย่ากับเมีย
ลูก ๆ แต่ละคน ต้องเปลี่ยนนามสกุล ใช้คนละนามสกุล เพื่อตัดความเกี่ยวข้องกัน เหมือนไม่ได้เป็นพ่อ แม่ ลูก พี่ น้อง กันเลย
เพื่อหนีภาระทางหนี้สิน หนีความผูกพันทางหนี้สิน
ณ วันนี้ บริษัทไม่รู้ยังมีตัวตนอยู่ไหม
คนบางคนที่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัท
ต้องย้ายสำมะโนไปอยู่บ้านที่มีแต่ตอในต่างจังหวัด หลบการติดตามทวงหนี้ หนีการบังคับชำระหนี้
แต่เมื่อเช้านี้ ได้ข่าวว่า ได้ย้ายสำมะโนจากบ้านที่มีแต่ตอ ไปอยู่บ้านที่มีหลังคาแล้วเรียบร้อย
ก็ยินดีด้วย จะได้เป็นสัมภเวสีที่มีหลังคาคุ้มหัวกันแดดกันฝน
ระวังไว้เหอะ ไม่มีธุรกิจ ไม่มีรายได้ (เพราะหนีเจ้าหนี้) แต่มีเงินใช้
นั่นก็แปลว่า เงินไม่มีที่ไปที่มา เกิดมีเงินขึ้นมาจากแหล่งที่ไม่อยู่ในระบบการเงิน คนที่รับไปอยู่ในสำมะโน
จะโดนข้อหาฟอกเงินไปด้วย ซวยไม่รู้ตัว
ก็บ่นลมจ้อแล้งไปครับ ว่าคนเรานั้น หน้าที่ที่สมบูรณ์เป็นอย่างไร
คุณป้าสาวเหลือน้อย ครับ
ผมอยากบอกว่า คนบางพวก ช่างไม่รู้จัก "sao..เหลือ..noi" เอาซะเลย
คงนึกว่า ซัดหน่อย ป้าคงยอม คงหงอ ไม่รู้ว่าระดับสาวเหลือน้อยนี่แหละ
จะโค่นตุลาการภิวัตมาแล้ว ประสาอะไรกับเกรียนบอร์ดสั่ว ๆ ไม่กี่คน
จบจุฬาฯ ตั้งแต่ 50 ปีก่อน
สถานะทางสังคมสูงกว่ากาก ๆ ขี้โม้ร้อยเท่า
สถานะทางครอบครัวสมบูรณ์แบบ
สถานะทางการเงิน มีบัตรเครดิตที่ไม่จำกัดวงเงินใช้ ไม่ต้องหนีหนี้หัวซุกหัวซุนขนาดต้องย้ายสำมะโนไปซุกตออยู่
ฯลฯ
อย่าดีแต่กร่าง ดูซะมั่งใครเป็นใคร จะได้ไม่หางจุกตูดซ้ำซาก
ทีหลังอย่าทำ