สวัสดีครับ
เกริ่นก่อนเลยครับ
ผมเป็นครู สอนอยู่ที่สวีเดน
วันนี้อยากจะเล่าเรื่องสมาธิสั้นและอาการอื่น ๆ ที่คล้าย ๆ หรือใกล้เคียงกับสมาธิสั้น
ที่สวีเดนเวลาจะเรียนด้านการศึกษาเพื่อจะมาเป็นครู มันจะมีกลุ่มวิชาตัวหนึ่ง
ที่เราต้องเรียน คือการศึกษาพิเศษ กับ จิตวิทยาพัฒนาการ
เพื่อที่เราจะได้เข้าใจเด็กมากขึ้น เพราะเด็กแต่ละคนต่างกัน ไม่ว่าจะเด็กพิเศษ ไม่พิเศษ
ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความรู้และวิธีจัดการที่เพียงพอ และเข้าท่า
เวลาเรียนด้านการศึกษาพิเศษ ก็จะมีเรียนเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ
เช่น สมาธิสั้น adhd add dyslexia autism และอื่น ๆ อีก
เพราะทางสวีเดนจะมุ่งไปที่ว่าอาการต่าง ๆ ส่วนมากเกิดมาจาก
สมองกลีบหน้า (frontal lobe) ทำงานไม่ปกติ
แถมเอางานวิจัยมายันว่า เด็กที่มีอาการเหล่านี้ส่วนมากกลีบสมองจะเล็กกว่าคนทั่วไป
แต่นั่น
ไม่ได้หมายความว่า เด็กพิเศษนั้นต้องฉลาดน้อยกว่าคนอื่น
เพราะตั้งแต่สอนมา ผมเคยเจอเด็ก adhd ที่เก่ง ฉลาด ทำงานเร็วก็มีมากอยู่
ซึ่งกลีบสมองส่วนหน้ามีหน้าที่ดังนี้ (บอกไว้ก่อนนะครับ ผมเรียนมาด้วยภาษาอังกฤษกับสวีเดน การแปลเป็นไทยของผมอาจจะแปลก ๆ)
- การควบคุมตนเอง
- การวางแผน คาดการณ์ อะไร ๆ
- เรียนรู้จากความผิดพลาด
- การเข้าใจหาสาเหตุและเหตุผลด้วยการพูดกับตนเอง verbal reasoning
- working memory ความจำด้านต่างๆ
- การแก้ปัญหา
- การวางแผน
- เวลา
- ความทรหดอดทน
- อารมณ์
อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่เป็นสมาธิสั้นจะบกพร่องเรื่องนี้ไปหมด เราต้องดูเป็นกรณีไปครับ
บางคนมีปัญหาในทุกด้าน บางคนมีปัญหากับบางอย่าง แล้วแต่คน
แต่สิ่งที่ครูควรจะรู้คือ เราต้องรู้ว่าเด็กที่มีอาการเหล่านี้ น่าจะต้องการอะไร น่าจะตอบสนองกับสื่อการเรียนแบบไหนได้ดี
เราต้องรับมือเด็กด้วยความรู้ ความเข้าใจ สวีเดนจะไม่มีการตบตีเด็ก แต่เราจะอธิบาย ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนอะไรกันไป
ที่โรงเรียนผมจะคิดกันก่อนเลยว่า ครูจะต้องหาวิธีที่ทำให้เด็กเรียนรู้ได้
เราจะพยายามให้มากที่สุด จะไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของเด็ก หรือว่าเด็กโง่อะไรแบบนั้น
อย่างที่บอกในกระทู้ก่อนครับ โรงเรียนที่ผมทำอยู่มี concept เป็นของตัวเอง
ที่เราใช้เพื่อรองรับเด็กพิเศษ ซึ่งเมื่อทำมาแล้วมันทำให้เด็กทุกคนเรียนได้ง่ายขึ้น
กระทู้เก่า
เมื่อผมได้มาสอนโรงเรียนที่เป็นแนวหน้าเรื่องการสอนเด็กพิเศษในสวีเดน
https://ppantip.com/topic/37347236
ฝากไลค์ ฝากแชร์เพจที่ผมทำด้วยครับ ทำมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ และเพื่อให้กำลังใจครูที่สอนเด็กพิเศษครับ
https://www.facebook.com/thaiswedishteacher
ขอบคุณครับ
ปล. ภาษาไทย นาน ๆ ผมจะพูดที อาจจะมีพิมพ์ผิดบ้างก็ขออภัยไว้ก่อนนะครับ
บางทีผมคิดเร็วกว่าที่พิมพ์
ชีวิตครูต่างแดน ตอน เด็กพิเศษ สมาธิสั้นและอาการอื่น ๆ
เกริ่นก่อนเลยครับ
ผมเป็นครู สอนอยู่ที่สวีเดน
วันนี้อยากจะเล่าเรื่องสมาธิสั้นและอาการอื่น ๆ ที่คล้าย ๆ หรือใกล้เคียงกับสมาธิสั้น
ที่สวีเดนเวลาจะเรียนด้านการศึกษาเพื่อจะมาเป็นครู มันจะมีกลุ่มวิชาตัวหนึ่ง
ที่เราต้องเรียน คือการศึกษาพิเศษ กับ จิตวิทยาพัฒนาการ
เพื่อที่เราจะได้เข้าใจเด็กมากขึ้น เพราะเด็กแต่ละคนต่างกัน ไม่ว่าจะเด็กพิเศษ ไม่พิเศษ
ผมเชื่อว่าไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ ถ้าเรามีความรู้และวิธีจัดการที่เพียงพอ และเข้าท่า
เวลาเรียนด้านการศึกษาพิเศษ ก็จะมีเรียนเกี่ยวกับอาการต่าง ๆ
เช่น สมาธิสั้น adhd add dyslexia autism และอื่น ๆ อีก
เพราะทางสวีเดนจะมุ่งไปที่ว่าอาการต่าง ๆ ส่วนมากเกิดมาจาก
สมองกลีบหน้า (frontal lobe) ทำงานไม่ปกติ
แถมเอางานวิจัยมายันว่า เด็กที่มีอาการเหล่านี้ส่วนมากกลีบสมองจะเล็กกว่าคนทั่วไป
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เด็กพิเศษนั้นต้องฉลาดน้อยกว่าคนอื่น
เพราะตั้งแต่สอนมา ผมเคยเจอเด็ก adhd ที่เก่ง ฉลาด ทำงานเร็วก็มีมากอยู่
ซึ่งกลีบสมองส่วนหน้ามีหน้าที่ดังนี้ (บอกไว้ก่อนนะครับ ผมเรียนมาด้วยภาษาอังกฤษกับสวีเดน การแปลเป็นไทยของผมอาจจะแปลก ๆ)
- การควบคุมตนเอง
- การวางแผน คาดการณ์ อะไร ๆ
- เรียนรู้จากความผิดพลาด
- การเข้าใจหาสาเหตุและเหตุผลด้วยการพูดกับตนเอง verbal reasoning
- working memory ความจำด้านต่างๆ
- การแก้ปัญหา
- การวางแผน
- เวลา
- ความทรหดอดทน
- อารมณ์
อันนี้ไม่ได้หมายความว่าเด็กที่เป็นสมาธิสั้นจะบกพร่องเรื่องนี้ไปหมด เราต้องดูเป็นกรณีไปครับ
บางคนมีปัญหาในทุกด้าน บางคนมีปัญหากับบางอย่าง แล้วแต่คน
แต่สิ่งที่ครูควรจะรู้คือ เราต้องรู้ว่าเด็กที่มีอาการเหล่านี้ น่าจะต้องการอะไร น่าจะตอบสนองกับสื่อการเรียนแบบไหนได้ดี
เราต้องรับมือเด็กด้วยความรู้ ความเข้าใจ สวีเดนจะไม่มีการตบตีเด็ก แต่เราจะอธิบาย ปรับเปลี่ยนวิธีการสอนอะไรกันไป
ที่โรงเรียนผมจะคิดกันก่อนเลยว่า ครูจะต้องหาวิธีที่ทำให้เด็กเรียนรู้ได้
เราจะพยายามให้มากที่สุด จะไม่คิดว่ามันเป็นความผิดของเด็ก หรือว่าเด็กโง่อะไรแบบนั้น
อย่างที่บอกในกระทู้ก่อนครับ โรงเรียนที่ผมทำอยู่มี concept เป็นของตัวเอง
ที่เราใช้เพื่อรองรับเด็กพิเศษ ซึ่งเมื่อทำมาแล้วมันทำให้เด็กทุกคนเรียนได้ง่ายขึ้น
กระทู้เก่า
เมื่อผมได้มาสอนโรงเรียนที่เป็นแนวหน้าเรื่องการสอนเด็กพิเศษในสวีเดน
https://ppantip.com/topic/37347236
ฝากไลค์ ฝากแชร์เพจที่ผมทำด้วยครับ ทำมาเพื่อเผยแพร่ความรู้ และเพื่อให้กำลังใจครูที่สอนเด็กพิเศษครับ
https://www.facebook.com/thaiswedishteacher
ขอบคุณครับ
ปล. ภาษาไทย นาน ๆ ผมจะพูดที อาจจะมีพิมพ์ผิดบ้างก็ขออภัยไว้ก่อนนะครับ
บางทีผมคิดเร็วกว่าที่พิมพ์