แม่จำเป็นต้องรู้ ? เมื่อเราแอบรู้ความลับที่ไม่ดีของพี่ชาย..แต่จะทำยังไง ในเมื่อพี่ชายเป็นความหวังเพียงอย่างเดียวที่แม่มี

ก่อนอื่นเลย ต้องขอบคุณทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาตอบกระทู้เรานะคะ


กระทู้นี้ไม่มีอะไรมากค่ะ เราแค่อยากฟังคำแนะนำจากคนหลายๆคนเพื่อประกอบการตัดสินใจเท่านั้น


ยังไงก็เราอาจจะเขียนยาวหน่อยนะคะ เพราะเราอยากให้ทุกคนเข้าใจสถานการณ์ที่เราเผชิญอยู่ว่ามันเป็นยังไง


โอเค เราขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เราเป็นลูกสาวของบ้านคนจีนบ้านนึงค่ะ ในครอบครัวก็มีเรา พี่ชาย และแม่เรา พ่อเราเสียไปนานแล้ว เพราะงั้นแม่เราก็เลยเลี้ยงเรากับพี่ชายมาเพียงลำพัง เพราะแบบนั้นฐานะทางบ้านก็เลยไม่ได้มั่งมีอะไรเพราะแม่ทำงานคนเดียวเพื่อหาเลี้ยงและส่งลูกๆเรียน


เราอายุ 17 ปีค่ะ อยู่ ม.5 หัวดีนิดนึงไม่ได้ดีหรือโดดเด่นอะไรมาก อยากเรียนพิเศษอะไรก็ไม่เคยได้เรียนนอกเสียจากว่าต้องหางานทำเองและส่งตัวเองเรียนถึงจะได้เรียนเพราะด้วยเรื่องเงินของที่บ้านไม่อำนวยให้สนับสนุนลูกทุกคนได้ แม่จึงเลือกสนับสนุนเพียงคนเดียว นั่นก็คือพี่ชายของเรา


พี่ชายของเราค่อนข้างเป็นคนเงียบเลยทีเดียว ดูเป็นผู้ใหญ่เกินตัวนำอายุไปมาก เป็นพี่ชายที่ดีที่พึ่งพาได้ทุกอย่าง อาจเพราะเป็นผู้ชายคนเดียวในบ้านด้วย อะไรๆก็จะ พี่ พี่ พี่ ตลอด  


เรายอมรับว่ามีบางทีที่เราก็อิจฉาพี่ชายของเราบ้างตามประสาเด็กๆ เพราะแม่เราแบบว่าลำเอียงมากว่าว่ารักพี่เรามากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่บางครั้งเราก็สงสารพี่เราจริงๆ แน่นอนว่าเราอาจจะไม่ได้รับการส่งเสริมเท่าพี่ชาย แต่ในขณะเดียวกัน เราเองก็ไม่ได้รับความกดดันจากแม่เท่าพี่ชายเราเหมือนกัน


และแล้วในที่สุด พี่ชายเราก็ตอบรับความคาดหวังของแม่ได้จริงๆ พี่เราสอบเข้ามหาลัยชื่อดังขอประเทศที่ใครๆก็รู้จัก ตอนนั้นแม่เราดีใจมาก เรายังจำหน้าแม่ตอนนั้นได้ดี แม่เที่ยวไปคุยกับคนนั้นคนนี้ว่าลูกชายเก่งแค่ไหน แม่เก่งแค่ไหนที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาได้ดีขนาดนี้


ทุกอย่างเหมือนกำลังไปได้สวย


จนมาวันนึง เงินแม่เราหายไป แล้วซึ่งในบ้านมีกันอยู่ 3 คน และให้ทายว่าใครคือคนที่แม่สงสัยว่าเอาไปมากสุด ... อืมม เรานี่ไง ผู้ต้องสงสัยที่แม่กล่าวหาแบบไม่มีหลักฐาน อย่างที่คิดค่ะ แม่เราพุ่งเป้ามาที่เราอย่างไม่ลังเลว่าเราเป็นคนขโมย เราเถียงสุดๆว่าเราไม่ได้เอาไป จะให้ไปสาบานที่ไหนก็ได้ แม่เราก็ด่าเราฉอดๆ จนพี่เรามาห้ามบอกว่าช่างมันเถอะ มันหายไปแล้วก็ให้หายไปเถอะ แม่เราก็ตามนั้นค่ะ เชื่อคำพูดพี่เรา หยุดด่าและบอกว่าจะหยุดให้เงินค่าขนมเรา จนกว่าเราจะยอมรับว่าเอาไป เพราะแบบนั้นเราเลยต้องทำงานหลังเลิกเรียนเพราะเราจะไม่ยอมรับเด็ดขาดในเมื่อเราไม่ได้ขโมยไป


หลังจากนั้นพี่เราก็มาคุยกับเรา บอกว่าเงินนั่นแม่อาจจะไปลืมหรือทำหล่นที่ไหนก็ได้ แต่เถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ ช่างเถอะ อย่าโกรธแม่เลยนะ อะไรงี้ เราก็แบบ เออพี่นี่ดีเนอะ แม่ไม่มองว่าคนที่เอาไป อาจจะเป็นพี่เลยสักนิด พี่เราเงียบและถามกลับว่า หนูคิดว่าพี่เอาไปหรอ เราก็บอกว่าเปล่าไม่คิด หนูรู้พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น แล้วเงินตั้งเยอะพี่จะเอาไปทำไม พี่เราก็บอกว่า อืม นั่นล่ะ เงินมันอาจจะหล่นหายจริงๆแต่ว่าแม่คงอยากมีที่ระบาย ให้เราทนๆไปหน่อย


และหลังจากวันนั้นไม่นานค่ะ เงินก็หายไปอีก 2-3 ครั้ง แต่ไม่ได้หายเยอะเหมือนครั้งแรก แล้วแม่ก็โทษเราทุกครั้งบอกว่าเอาไปเลี้ยงเพื่อนบ้าง เอาไปให้ผู้ชายบ้าง เอาไปซื้อของแต่งตัวบ้าง (คิดในใจจะเอาไปซื้อของที่ไหนแต่ง จะเอาไปเลี้ยงเพื่อน เลี้ยงผู้ชายที่ไหน เวลาจะพักผ่อนยังแทบไม่มี) เราก็เบื่อจะเถียงก็เลย อืม อืม ค่ะ ค่ะ ส่วนพี่เราก็เหมือนเดิมคอยห้าม คอยปรามแม่ว่าให้พอได้แล้ว


แล้วในคืนวันเดียวกันค่ะ ดึกมาแล้วประมาณ ตี 3-4 ได้ค่ะ เราปวดท้องประจำเดือนมากนอนไม่หลับก็เลยออกมาหายากิน แล้วเราก็เจอพี่เรานั่งอยู่หน้าห้องน้ำ แบบหมดสภาพ สติไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ที่รอบๆรูจมูกมีผงขาวๆเหมือนแป้งติดอยู่รอบๆ ตอนนั้นเราก็ตกใจที่เห็นพี่เรามานั่งหมดสภาพตรงนี้เหมือนคนเมา เราก็เลยรีบปลุกพี่ พี่ก็เหมือนจะรู้สึกตัวแต่ตาไม่ลืม เราก็บอกว่าเป็นอะไรเนี่ย เมาอะไรมาป้ะแปลกๆนะไม่เหมือนพี่ตามปกติเลย พี่เราก็บอกว่าอย่ายุ่ง ให้ปล่อย และทำมือไล่เรา เราก็ไม่ได้ไป เราก็ยืนดูพี่อยู่ตรงนั้น พี่ก็ค่อยๆยืน แล้วก็เข้าไปห้องน้ำ ตอนนั้นเราได้ยินเสียงพี่สั่งน้ำมูกแบบแรงมาก แบบชนิดที่ว่าจะสั่งให้จมูกหลุดยังไงยังงั้นเลย เราก็ตกใจ ก็เลยเคาะประตู ถามพี่ว่าเป็นไร ให้เรียกแม่มั้ย เท่านั้นแหละพี่เรารีบออกมาจากห้องน้ำและบอกไม่ต้อง พี่ไม่เป็นไร ไม่ต้องๆ พูดไปนี่ตาสลึมสลือ แบบว่าเหมือนคนไม่มีสติ เราก็เลยพยุงพี่เข้าห้องไป


พอตอนเช้า พี่เราก็มาคุยกับเราบอกว่า เรื่องนี้ห้ามบอกแม่เด็ดขาด เราก็ถามว่าทำไมถึงห้ามบอก พี่เราก็บอกว่าเพราะถ้ารู้แม่ก็จะไม่สบายใจ เราก็ถามว่าแล้วพี่เป็นอะไรอ่ะ พี่เราก็บอกว่าแค่ปวดหัวไม่สบายแค่นั้นแหละ เราก็ถามอีกว่า ถ้าแค่ไม่สบายแล้วทำไมไม่ให้บอกแม่ พี่ก็บอกว่าเพราะไม่อยากให้แม่เป็นห่วง เรื่องแค่นี้ แม่ไม่ต้องรู้ก็ได้ เราก็รู้สึกแปลกๆละแต่ว่าก็เลือกจะทำตามที่พี่ขอเพราะเชื่อใจพี่


และอีกหลายวันต่อจากวันนั้น อยู่ๆพี่ก็พรวดพราดเข้ามาในห้องนอนเรา (เราไม่ได้ล็อคประตู) และก็ทิ้งตัวลงนอนที่นอนเรา และก็เพ้อๆหลอนๆ เหมือนว่าคิดว่าเป็นห้องนอนตัวเอง เราเรียกยังไงก็ไม่รู้สึกตัว ก็เลยต้องเนรเทศตัวเองออกจากห้องตัวเองไปนอนห้องพี่


จนถึงตอนนั้นเริ่มรู้สึกว่ามันแปลกๆ ก็เลยลองเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาเพื่อนที่น่าจะรู้เรื่องนี้ ก็ได้ความว่าพี่เราน่าจะเมายา เค ตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่อาการของพี่ชัดมาก บวกกับเงินของแม่ที่หายไปพักหลังๆเราคิดว่าน่าจะเป็นฝีมือพี่ และพี่น่าจะเอาเงินไปเสพยา


พอเราเริ่มแน่ใจก็เลยเอาเรื่องนี้ไปถามพี่ พี่เงียบตอนแรกเหมือนจะไม่บอก แต่สุดท้ายพี่ก็ยอมบอก พี่บอกกับเราว่า "มันไม่มีอะไรหรอก มันไม่ได้ร้ายแรงขนาดนั้น มันไม่ใช่ยาเสพติด มันแค่ทำให้มึนเมานิดหน่อย พี่แค่อยากมีความสุขบ้าง มันทำให้พี่มีความสุข ให้พี่มีความสุขบ้างเถอะนะ หนูไม่ต้องห่วงพี่ พี่ไม่ได้ติด เดี๋ยวพี่ก็จะเลิกแล้ว เพราะงั้นให้เก็บเป็นความลับ อย่าเอาไปบอกแม่ เพราะพี่ไม่อยากให้แม่ผิดหวังในตัวพี่"


สรุปเลยก็คือ เรารู้ความลับของพี่ แต่จะปล่อยไว้แล้วเก็บเงียบแบบนี้ มันดีแล้วใช่มั้ย แล้วถ้าวันข้างหน้าพี่ถลำลึกและไม่ยอมเลิก ถ้าเป็นแบบนั้นมันอาจจะสายเกินไปก็ได้ที่จะบอกแม่ ตอนนี้เราไม่รู้ว่าควรทำไง อยากบอกเรื่องนี้ให้แม่รู้แต่ก็กลัวบ้านจะไม่เป็นบ้านอีก อยากจะเชื่อใจพี่ แต่พี่ก็ทำลายความเชื่อใจของเราไปจนหมดตั้งแต่เรื่องขโมยเงินแม่และปล่อยให้แม่โทษเราแล้ว บอกตรงๆตอนนี้เราไม่รู้จะเลือกอะไรดีจริงๆค่ะ


ปล.ขอแท็กห้องบางรักนะคะ เพราะเราเข้าบ่อย


ไม่ว่าจะแนะนำยังไง เราก็ยพร้อมรับฟังความเห็นนะคะ  ขอบคุณค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
สิ่งแรกที่คุณต้องรู้คือ พี่คุณเสพยา และเขาเลิกไม่ได้ง่ายๆอย่างที่ปากพูดหรอกครับ ตอนนี้เขาเริ่มติดยาไปแล้ว และเขาจะมาขโมยเงินแม่ไปเรื่อยๆ และถ้าเขายังหยุดเสพยาไม่ได้ สุดท้ายเขาจะเรียนไม่ไหว และไม่จบ เขาจะเรียนไม่จบแน่นอนครับตราบใดที่ยังเลิกยาไม่ได้ คุณลองนึกถึงวันนั้นวันที่มันเลวร้ายสุดๆดูก็แล้วกัน ถ้าพูดหยาบนิดๆ เค้าเรียกว่าความ"บรรลัย"

รีบบอกแม่ซะตั้งแต่ตอนนี้ แล้วหาทางทำให้เค้าเลิกยาให้ได้ ไม่อย่างงั้นคนที่เสียใจที่สุดคือแม่คุณ และถ้าคุณอุบเงียบเอาไว้แบบนี้ สุดท้ายแม่ก็จะมาให้คุณเป็นแพะเหมือนเดิม ท่านก็จะต่อว่าคุณว่าทำไมถึงไม่ยอมบอกเค้า ทำไมปล่อยให้พี่เป็นแบบนี้ เค้าจะโทษว่าคุณคือคนที่ทำให้พี่ชายกู่ไม่กลับ เรียนไม่จบ ดังนั้นถ้าคุณอยากรักษาครอบครัวไว้ และไม่อยากตกเป็นแพะ คุณต้องบอกแม่เดี๋ยวนี้ ให้ท่านรีบตาสว่างโดยเร็ว อีกทั้งให้พี่ชายสารภาพความจริงกับแม่ด้วยว่าที่ผ่านมาเขาคือคนขโมยเงินไปเอง

ถ้าคุณเชื่อพี่ชายว่าเขาจะเลิกยาได้เอง และไม่ยอมบอกแม่ในสิ่งที่เกิดขึ้น ครอบครัวคุณจะพังพี่ชายไปทาง แม่ไปทาง คุณก็จะไปอีกทาง อย่ารอให้ทุกอย่างมันสายเกินไป ตอนนี้คือโอกาสที่คุณจะทำอะไรได้ ถ้าพี่ชายคุณถลำลึกกับยาไปมากกว่านี้ มันก็อาจจะสายเกินแก้

หรือ จขกท.อาจจะลืมไปว่ายาเสพติดมันคือสิ่งผิดกฎหมาย ถ้าพี่ชายคุณยังไม่เลิกยาแบบนี้ สักวันเขาก็จะโดนตำรวจจับ งามหน้ามั้ย เมื่อนักศึกษามีคดียาเสพติดแบบนี้ มหาลัยก็ต้องไล่ออกสถานเดียว หมดอนาคต แม่คุณก็อับอาย แล้วตัวคุณละจะอยู่กับใคร
ความคิดเห็นที่ 2
ควรบอกครับ  แต่แม่ก็ต่องแกล้งทำเป็นไม่รู้  ให้เราเจอแล้วโทบอกแม่ให้เหมือนว่าแม่มาเจอเอง  และห้ามด่าว่าไม่งั้นจะเลยเถิด  ให้แม่ถามและให้พี่เค้าบอกว่าเพราะอะไรมีอะไรถึงทำแบบนี้  คนมันติดไปแล้วห้ามไม่ฟังหรอกครับ  

ต้องหาทางหยุดไม่ให้ไปไกลกว่านี้  พวกนี้มันจะเล่นเยอะขึ้นๆไปเรื่อยจนยากที่จะเลิก  

รีบบอกแม่แต่ก่อนบอกควรให้แม่อยู่กับเรา2คน  และดูอาการแม่ด้วยเดี๋ยวจะช๊อกเอาครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่