รู้ยัง!! กรดไหลย้อนหายได้ ประสบการณ์ตรงจากคนเป็นจริง

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะชาวกรดไหลย้อนทุกคน แค่ได้ยินชื่อโรคก็คงเซ็งไปตามๆกันแล้วมั้ง555 เราเข้าใจจากประสบการณ์ ความทรมานอันยาวนาน จนตอนนี้เรา (คิดว่า) สามารถบอกลาเจ้าอาการแสบร้อน จุกเสียด แน่นท้องแล้วค่ะ
ฟินฟิน

วันนี้เราเลยมาตั้งกระทู้เพราะอยากให้คนอื่นได้เห็นฟ้าหลังฝนเหมือนเรา 5555 การได้นอนยาวๆโดยไม่ต้องตื่นมาเป็นผีตู้เย็นแอบกินกล้วยห่ามกลางดึกนี่มันดีจริงๆค่ะ เจ้าคิกคัก

เริ่มแรกเลยคือเราต้องทำความเข้าใจกับธรรมชาติของโรคก่อนค่ะ
เพราะโรคนี้มันไม่ได้มากันง่ายๆ แต่ต้องสะสมแต้มความเครียด กินอาหารไม่ตรงเวลา ไปจนถึงพฤติกรรมที่เราก็รู้ๆกันอยู่ว่ามันไม่ดี แต่หยุดทำไม่ได้ ยกตัวเองเป็นตัวอย่างเลยคือด้วยหน้าที่การงาน เป็นงานที่ไม่ตรงเวลา ทั้งเวลาเข้า เวลาพักเที่ยง เวลาเลิก ทำให้กินข้าวไม่ตรงเวลาเลยยยยย ส่วนใหญ่มื้อเย็นของเราจะกินตอน 3-4 ทุ่มตอนกลับถึงบ้านแล้วค่ะ
เม่าตาสว่าง

อาการที่ตามมาก็คือ พอถึงเวลาจะได้กินข้าวจริงๆก็กินไม่ได้ จะคลื่นไส้ จะปวดท้องคล้ายๆโรคกระเพาะ จะนอนก็นอนไม่ได้ ต้องเอนหลังบนโซฟา อนาถตัวเองมากๆ อยากจะกินนมเคลือบกระเพาะอย่างคนอื่นเขา กระเพาะก็ดันย่อยนมไม่ได้ ท้องก็จะเสียอีก (แต่ดันย่อยนมฮอกไกโดได้ ดัดจริตจริงๆ5555555)

เราทำมาหมดแล้วค่ะ! ที่เคยแนะนำกันทั้งในและนอกพันทิป ไม่ว่าจะเป็น...
แคปซูลขมิ้นชัน ที่เขาว่าลดกรดตรงจุด แต่ติดตรงที่มันเป็นแคปซูล รู้สึกว่ามันไม่รู้สึกถึงความ “เคลือบ” กระเพาะ แล้วก็ทานแล้วแอบมีอาการท้องเสียด้วย (อันนี้แล้วแต่คน ระบบเราอาจไม่รักดี)

กล้วยห่าม/ กระเจี๊ยบเขียว สองอย่างนี้ตอนเคี้ยวจะมียางเหนียว ๆ ยืดๆ ออกมา คิดเอาเองว่ายางนี่สามารถช่วยเคลือบกระเพาะได้ แต่มันเหมือนเป็นวิธีชั่วคราวสำหรับเรา คืออาการมันจะหายแค่แปปเดียว และบางทีก็หากินไม่ได้ตลอดขนาดนั้น

ยาลดกรด เราลองมาหลายยี่ห้อมากกกกก แต่ตัวที่เราว่าดีจริงๆ จนต้องซื้อมาเก็บไว้ที่บ้านและออฟฟิศอยู่ตลอดคือ เบลสิด ฟอร์ด ยาน้ำขวดสีขาวม่วง เราว่าเพราะมันเป็นยาน้ำ ทานแล้วรู้สึกได้ถึงความเคลือบ ความเจือจางกรด ลดอาการจุก เสียด แน่นท้อง ตอบโจทย์เยียวยาความทรมานได้เป็นอย่างดี แถมเป็นรสมิ้นต์ กินง่ายไม่ยี๊ อีกอย่างคือ มันช่วยรักษาโรคกระเพาะได้ด้วย คนที่เป็นกรดไหลย้อนส่วนใหญ่ (รวมทั้งเรา) มักจะเหมาเป็นมันทั้งสองโรค ตอนนี้คือเราก็จะมีขวดนึงไว้ข้างเตียงกับอีกขวดไว้ในกระเป๋าถือเลย มีอาการปุ๊บกระดกปั๊บ ทำงานต่อสไตล์แรงงานนรกจ้า หึหึหึ

อีกวิธีที่ง่ายที่สุดคือการแก้พฤติกรรมการใช้ชีวิต (บอกว่าง่าย แต่จริง ๆ ยากมาก)

ทุกคนก็น่าจะรู้ว่าสาเหตุของโรคกรดไหลย้อนก็คือ วินัยแย่ๆต่างๆ เกี่ยวกับการกิน ซึ่งวิธีแก้โรคกรดไหลย้อนที่ดีที่สุดคือหาสาเหตุของตนเอง แล้วแก้มันค่ะ!

ในเมื่อเราปรับระบบบริษัทไม่ได้ เราก็ปรับพฤติกรรมตัวเองตามนี้เลย
1. แบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อเล็กๆ คือควรหาอะไรเล็กๆ น้อยๆ กินไปก่อนตอนที่ยังออกไปกินข้าวไม่ได้ เช่นเวเฟอร์ กล้วย นม วิธีนี้จะช่วยให้กรดที่ไหลย้อนออกมามีอะไรย่อยไปพลางๆก่อน เราก็จะไม่ปวดท้องหรือแสบอกขนาดนั้น

2. เวลากินข้าวก็เลือกอะไรที่ย่อยง่ายๆ และรสไม่จัด อย่างเราคือทำอาหารไปออฟฟิศเลย พวกสุกี้ หมูห่อผักกาด แกงจืดไข่น้ำ ยิ่งอาหารย่อยง่าย ร่างกายก็ไม่ต้องผลิตกรดออกมาเยอะ(คิดว่านะ55) พวกของแสลงก็เลี่ยงไปเลยยาวๆ ทั้งพวกน้ำอัดลม ของทอด และบุฟเฟ่ต์ ต้องสะกดจิตตัวเองว่า “ถ้าอร่อยมื้อนี้ คืนนี้อดนอนชัวร์”

3. หายาลดกรดติดบ้าน หรือพกติดกระเป๋าไว้ จะได้ไม่ต้องเสี่ยงลุ้นกับกล้วยห่าม อีกอย่างคือมันเป็นยาน้ำ จะทำให้รู้สึกสบายท้องได้เร็วกว่า ทานง่ายกว่า พออาการกำเริบ กรดมาปุ๊บ ก็ยกซดปั๊บ เยียวยาได้ทันที

4. ดีท็อกซ์ลำไส้แบบโง่ๆ ด้วยการดื่มน้ำสะอาดอุณหภูมิห้อง 1 แก้ว ทันทีหลังตื่นนอน อันนี้เรารู้สึกว่ามันเป็นการปรับระบบร่างกายเราให้เป็นปกติ

5. ถ้าเราทานข้าวให้เป็นเวลาไม่ได้ อย่างน้อยก็ต้องนอนให้เป็นเวลา เวลาเรานอนพอแล้วจะรู้สึกได้ถึงความแข็งแรงของกระเพาะที่มีมากขึ้น ออ ลืมบอกไปที่สำคัญคือ ทางเสร็จแล้วห้ามนอนทันทีนะ ต้องรอให้ย่อยสักประมาณ 3 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อยด้วย จะช่วยได้เยอะมาก (หลีกเลี่ยงการทานแล้วนอนเลยเด็ดขาด)

6. อีกอย่าง อาหารรสจัดเช่น เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด ถ้าหลีกเลี่ยงได้แนะนำให้ห่างไว้ค่ะ เพราะมันเป็นตัวกระตุ้นอย่างดีสำหรับโรคกรดไหลย้อนเลย

หลังจากทำตามนี้บวกกับแรงอุปทานแล้ว เรารู้สึกว่าอาการกำเริบห่างขึ้น จนตอนนี้เราไม่เป็นมา 4 เดือนกว่าแล้ว ฟินฟิน
พอระบบร่างกายโอเคขึ้น เลยรู้สึกว่าเครียดน้อยลง ก็เลยทำให้หายขาด ทั้งนี้ทั้งนั้นเราว่าปัจจัยหลักคือการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราเอง มันได้ผลและตรงจุดที่สุดแล้ว ส่วนยาลดกรดเหมือนเป็นตัวช่วยเวลาอาการกำเริบ ตอนกลางคืนหรือตอนทำงาน ค่อยๆหาสาเหตุของตัวเอง แล้วปรับพฤติกรรมอย่างใจเย็น ต้องหายขาดซักวันแน่ๆ จ้าา เป็นกำลังใจให้ทุกคนน้าาา

ชาวกรดไหลย้อนคนไหนให้ได้มากกว่านี้ ทั้งอาการทรมาน หรือจะเป็นวิธีเอาตัวรอดเฉพาะตัว มาช่วยกันแชร์ให้ fellow รุ่นหลังได้หลุดพ้นจากโรคนี้กันค่ะ เม่าฝึกจิตเม่าฝึกจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่